กรมชลฯ เร่งระบายน้ำลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง รับมือพายุ “คัลแมกี” ตามข้อสั่งการนายกฯ
กรมชลประทาน ระดมกำลังร่วมหลายหน่วยงาน เร่งระบายน้ำลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง หลังนายกฯ สั่งการด่วน รับมือฝนหนัก-น้ำทะเลหนุนจากพายุคัลแมกี
วันที่ 9 พ.ย.68 ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา พร้อมด้วยนายชุติมันต์ สกุลพราหมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 11 และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมคณะนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มนเจ้าพระยาตอนล่างฝั่งตะวันออก และแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ “คัลแมกี” พร้อมให้ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ วัดสุทธาวาส ตำบลคลองหลวงแพ่ง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา

การลงพื้นที่ครั้งนี้สืบเนื่องจาก ข้อสั่งการของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบกับสถานการณ์เร่งด่วนจากอิทธิพลของพายุคัลแมกี ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 คาดว่าจะส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ที่มีการท่วมขังอยู่เดิมประกอบกับเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ระหว่างวันที่ 6 – 10 พฤศจิกายน 2568 ส่งผลให้การระบายน้ำในลำน้ำสายหลักทำได้ช้ากว่าปกติ

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอู่ทหารเรือ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ได้ร่วมกันสำรวจและกำหนดจุดติดตั้งเรือผลักดันน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกไว้แล้วจำนวน 10 จุด บริเวณปากแม่น้ำและคลองสาขาสำคัญ เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลโดยเร็ว

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงเดินหน้าเร่งระบายน้ำผ่านสถานีสูบน้ำตามแนวคลองชายทะเลออกสู่ทะเลอ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดระดับน้ำในพื้นที่ เน้นการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มสถานการณ์ในอนาคต พร้อมปรับแผนการระบายน้ำรายวันให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำฝน-น้ำท่า เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด
