“ไชยา มิตรชัย” ควงลูก เล่ามรสุมชีวิตที่ต้องปิดบังพาครอบครัวย้ายบ้านหนี 7 ครั้ง

ไชยา มิตรชัย ยกมาทั้งบ้าน วันนี้ขอควงลูกสาว น้องแป้ง น้องแชมป์ มิตรชัย มาเผยชีวิตต้องปกปิด อยู่บนความหวาดระแวง แม้ลูกป่วยหนักก็ไปเยี่ยมไม่ได้ ต้องย้ายเยอะถึง 7 ครั้ง หนักสุดเคยคิดสั้น เพราะคิดว่าอาชีพลิเกมีครอบครัวไม่ได้ ไม่อยากเชื่อปัจจุบันนี้ได้ใช้ชีวิตเหมือนฝัน ไม่เคยคิดว่าจะได้เปิดตัวลูกเมียแล้วจริง ๆ ผ่านทางรายการคุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ อาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

25 ปีที่เราปิดทุกคนว่าเรามีลูกแล้ว และทุกวันนี้เราเปิดจนทุกคนรู้แล้วว่านี่คือลูกของพี่ เห็นบอกว่าชีวิตเหมือนละคร ยังไง?

เอ : พี่เคยเจอนะ ละครบางเรื่องที่เขียนว่าพ่อหนูเป็นซุปเปอร์สตาร์ แล้วก็พอดูก็เอ๊ะ…มันเรื่องเราหรือเปล่า มันอยู่กับความหวาดระแวง ความหวาดกลัวทุกสิ่ง ทุกอย่างคือต้องอยู่ในกรอบหมด อยู่นอกกรอบไม่ได้เลย มีนเป็นชีวิตที่ทุกคนกำกับแล้วว่าเราต้องไปเส้นทางนี้ แม้กระทั่งครอบครัวของเรา เราก็ต้องตีวง ตีกรอบเอาไว้ว่าเราต้องอยู่กันแบบนี้นะซึ่งครอบครัวเราในตอนนั้นจะไปสู่สาธารณะชนไม่ได้เลย ช่วงนั้นมันเป็นความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสก็ว่าได้

ตอนที่พี่บอกกับลูก ๆ เขาเข้าใจไหม?

เอ : เข้าใจนะครับ อันนี้เป็นความคิดของผม เปิดกันมาขนาดนี้ผมว่าเราเข้าใจส่วนหนึ่ง แต่มีบางส่วนที่เด็กไม่เคยได้พูดแล้วปล่อยมันผ่านไป แต่สำหรับตัวพี่ พี่คิดว่าลูกเข้าใจ เพราะว่าถึงตัวพี่ไม่ค่อยมีโอกาสได้กูแลเขา ต้องยกความดีให้กับภรรยา พี่หนูนาเขาพยายามบอกกับลูกเสมอ พ่ออยู่ใกล้ๆ นะ พ่อฝากของกินไว้ให้ คือจะมีคำว่าพ่ออยู่ในหัวของเด็ก แม้กระทั่งเข้านอน พ่อไม่เคยฝันดีกับลูกเลย แต่แม่จะไปแล้ว พ่อมาบอกว่าฝันดีนะลูก ผมมีความรู้สึกว่าขอบใจเมียและขอบใจลูกที่เข้าใจพ่อในวันนี้ครับ

ตอนเด็กเข้าใจไหม?

แป้ง : ต้องบอกว่าตั้งแต่หนูโตมา หนูไม่ได้อยู่กับพ่อเลย หนูอาจจะชิน จะมีแค่ตอนจำความไม่ได้พ่อยังอยู่กับเราบ้างเพราะหนูเห็นตามวีดิโอที่พ่ออัดเราตอนเด็ก แต่พอเราจำความได้ แม่หนูให้เห็นพ่อตลอด จะเปิดวีดิโอที่เป็นลิเกตลอดหรือว่าช่วงนั้นพ่อเล่นละครเยอะมากก็จะให้ดูตลอด มันเลยไม่ได้รู้สึกว่าขาดอะไรเลย

แชมป์ : ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยครับ เพราะว่าเราโตมาในแบบที่เราเป็นแบบนี้อยู่แล้วเลย เลยไม่รู้สึกว่ามันผิดหรือขาดความอบอุ่น เพราะผมว่าครอบครัวของผมเป็นครอบครัวที่ดีครับ

ทำไมพระเอกลิเกถึงต้องโดนคำสาป?

เอ : เพราะว่าหลายคณะตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย มาเขาจะบอกว่าถ้าเปิดเผยตัวตนเลยตอนนั้นเรากำลังมีชื่อ ถ้าเปิดปั๊บคือตกเลยทันที คือมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันมีให้พี่เห็น พี่ก็เลยต้องเลือกระหว่างครอบครัวเล็กๆ ของพี่ กับอีกหลายครอบครัวของลูกน้องที่มีเป็นร้อยชีวิต เขาฝากไว้กับเรา หัวหน้าคณะที่มีป้ายว่า ไชยา มิตรชัย ถ้าถามว่าตอนนั้นถ้าพี่เปิดตัวไปพี่ลำบากไหม พี่ไม่ลำบากเลยนะ พี่สบายแล้ว ลูก เมียก็สบายแล้ว เพราะญาติทางเมียนี่คือมีกินไม่หมด เขาสบาย แต่เราต้องเลือกว่าเราต้องอยู่แบบนี้ เขาก็เข้าใจ เด็กสมัยนี้อาจจะไม่เข้าใจ เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน แล้วสื่อก็ไม่มีให้เห็นเหมือนเมื่อก่อน พอเป็นข่าวปุ๊บก็จะขึ้นหน้า1 เลยทันที แล้วคนจะเชื่อเลย คือเสียแล้วเสียเลย

ปีหนึ่งเต็ม ๆ ที่ไม่เจอหน้าลูก?

เอ : ถูกต้องครับ ปีที่น้องแป้งเกิด พี่เริ่มทำเพลง กระทงหลงทาง พี่เล่นลิเก 365 วัน แล้วมามีกระทงหลงทาง พอมาตกแพปุ๊บเป็นปีที่แชมป์เกิด ปีนั้นรายการทีวีก็มา แล้วก็ละครก็มี แล้วก็ไหนจะเดินสายลิเกทุกคืน ตอนนั้นค่ายเพลงกับพี่ก็มีปัญหากันแล้ว เนื่องจากว่าพี่จะไม่สามารถเล่นลิเกได้ จะต้องเดินสายวงดนตรี พี่ก็ลงใต้ ไป 1 ปีเต็ม ๆ ไม่ได้เข้าบ้านไม่ได้เจอลูก เจอเมีย แม้กระทั่งโทรศัพท์ผมก็ไม่ได้โทรหาเลย เพราะผู้จัดการก็ไม่รู้ว่าเรามีครอบครัว

จนภรรยาคิดว่าพี่ทิ้งไปแล้ว?

เอ : ใช่ เขาคิดว่าพี่ทิ้งแล้ว อยู่กันตามประสาลูกทั้งสอง ตอนนั้นเริ่มจะมีการย้ายบ้าน จนแม่ยายผมท่านบอกว่ากลับบ้านเราไหม บ้านเราไม่ได้ลำบากนะ หลานยายก็รักมาก เขาบอกว่าไม่เป็นไร หนูเลือกชีวิตนี้แล้ว หนูอยู่กับเขาได้ หนูรอเขาได้ รอแบบลม ๆ แล้ง ๆ ไม่มีความหวังเลย โทรไปกี่ครั้งพี่เอไม่ว่าง ประเด็นคือเราไม่ได้สั่งใครไว้เลย ว่านี่เมียเราผมเพิ่งมารู้ว่าเขากอดกันร้องไห้ เขามาบอกตอนหลังว่าแม่บังคับให้กลับบ้าน แต่เขาไม่กลับเขาอยากอยู่กับพ่อ

การเก็บความลับไว้คนเดียวมันอึดอัดขนาดไหน?

เอ : พี่เข้าใจหัวอกศิลปินหลาย ๆ คน บางทีก็น้อยอก น้อยใจตัวเอง พี่ก็เป็นคนนึงในนั้นเหมือนกัน อย่างที่เคยมีข่าวเมื่อก่อนคิดจบชีวิตเหมือนกัน เพราะว่าสิ่งที่เราได้ตรงนั้น มันอีกหลายสิ่งที่เราขาดในชีวิต เราขาด เราโหยหาความรักจากครอบครัวมันก็เลยกลายเป็นว่าต้องอดทนอยู่ให้ได้ จากวันนั้นถึงวันนี้ผมอยู่มาด้วยความอดทน อยู่กับความทุกข์ระทมมาตลอด ไม่ใช่ว่า มันเหมือนหน้าชื่นอกตรมที่ออกหน้าเวที ไหนเราจะไม่ได้เจอลูก เจอเมียแล้ว เจอกันก็ทักไม่ได้ กลัวลูกจะทักเราอีกต่างหาก เพราะตอนนั้นมีคนในค่ายไปด้วย เขาบินไปหา แล้วเจอกันแบบนั้น มันอยู่กับความหวาดระแวงตลอดเวลาเลย เวลาที่ผมไปบ้าน พอหมาเห่า เราก็ต้องไปดูที่หน้าต่าง ใครมาจอดรถอยู่หน้าบ้าน คือมันมีจริงๆ คือรถนักข่าว รถอะไร คือตามจริงๆ อยากได้ข่าวในตอนนั้น ผมบอกเลยว่ามันมีทั้งความทรมาน ความอดทน ทุกอย่างมันเข้ามา ต้องขอบคุณเวลาจริงๆ นะที่มันสามารถผ่านมาได้ พอผ่านมาแล้วเราถึงได้มีรอยยิ้มได้

ตอนนั้นน้องแป้งเข้าใจไหม?

แป้ง : พูดตรง ๆ ว่าไม่เข้าใจ แต่มันก็เป็นอัติโนมัติ เห็นคนต้องวิ่ง คนอื่นเห็นเราอยู่กับพ่อไม่ได้ หนูกับน้องต้องวิ่งไปหลบ ซึ่งตอนนั้นเราไม่เข้าใจ แต่มันเป็นไปแบบอัตโนมัติ

แชมป์ : ผมเข้าใจครับ เหมือนกับความสนุกอย่างหนึ่ง เราคือสายลับ เราคืออะไรสักอย่างที่แบบต้องปิดบัง แต่พ่อเราคือดารานะเว้ย เราก็บอกตัวเองแบบนี้

เอ : เห็นใจเด็กสองคนนะเวลาผมพาไปเยี่ยมยายที่บ้านอ่างทอง จะมี 2 ชั้น แล้วมีรถลิเกมาจอด คนลงมาเยอะ เด็กสองคนนี้วิ่งแทบตกบันได ผมเห็นลูกวิ่งไปหลบข้างเสา

แล้วเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นในอดีตเห็นว่าทพเอาน้ำตาไหลเลย?

เอ : วันนั้นแป้งโทรไปหาผม แต่ผมกำลังจะเข้ารายการ พ่อจ๋าหนูร้องเพลงพ่อได้แล้ว อย่าเพิ่งวางสายนะ เดี๋ยวหนูร้องให้พ่อฟัง เรารู้เลยเขาพูดคำว่าอย่าเพิ่งวางสายนะ เพราะมันเคยมีเหตุการณ์ว่าแป้งเดี๋ยวพ่อถ่ายรายการ ถ่ายละครนะแล้วจะวาง เขาคงจำไง ร้องเพลงประกอบละครที่ผมเล่น ฟังลูกไป ตรงนั้นไม่ได้พูดอะไรเลยนะ สำเนียงเด็กที่เขายังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม แล้วเขาก็ร้องเพลงให้เราฟัง มันกลายเป็นแบบฟังจนจบแล้วนั่งน้ำคาหยด แต่สุดท้ายก็ต้องปาดน้ำตาแล้วเข้ารายการ

ลึก ๆ แล้วเหมือนกับพี่สอนให้ลูกโกหก?

เอ : ถูก แล้วมันติดใจพี่นะ ตอนที่ยังไม่เปิดตัว ตอนที่ลูกถูกติดต่อมาเล่นหนัง เล่นละคร เชื่อไหมว่ามันเป็นความฝันของเขาเลยว่าเขาอยากเล่น อยากแสดง แต่สุดท้ายพอจะเอาลูกไปเล่น แล้วเราจะบอกยังไง จะต้องโกหกซับซ้อน อีกหน่อยก็จะต้องโดนถามว่าเป็นลูกใคร ตอนนั้นมันคิดไม่ตก มันคิดอยู่หัวอกคนเป็นพ่อมันไม่อยากให้ลูกไปโกหกเหมือนกับที่เราเป็นอยู่ เข้าใจความรู้สึกของเด็กน้อยได้ ไม่อยากให้เขามีมลทินติดตัวไป ขอให้เป็นแค่รุ่นพ่อพอแล้ว แต่สุดท้ายมันก็ติดในใจของเรา เหมือนฟ้ามาโปรดจริงๆ มันเข้ามาจังหวะเหมาะพอดีที่เราได้แกะปมตรงนั้นออกทั้งหมด

อะไรที่ทำให้เราต้องย้ายบ้าน ย้ายโรงเรียนลูกถึง7ครั้ง?

เอ : ตอนนั้นเราอยู่ไม่ได้ เพราะ1.พี่ซื้อบ้านอยู่รั่วรอบขอบชิด ลูกไม่สามารถออกไปเล่นกับเพื่อนล้านได้เลย ผมจะสั่ฃแม่บ้านว่าห้ามออกไปนะลูก มีบริเวณบ้านให้ถีบจักรยาน แต่พอมีเด็กข้างบ้านเข้ามา พอรู้ปั๊บต้องย้ายทั้งบ้าน ทั้งโรงเรียนย้ายไป ย้ายมา จนไปอยู่ตรงคลองสานใกล้ๆ บ้านยายเขา ไปแล้วยามเห็น ยามแซวเล่น ๆ เอง มาหาแฟน มาหาลูกหรือเปล่า เท่านั้นแหละต้องย้ายอีก ย้ายจนเขาเป็นเด็กเรียนไม่ทัน เขาชักดิ้น ชักงอ แล้วไปสะกิดคุณครูว่าหนูลูกไชยามิตรชัย ครูเป็นแฟนคลับ ไชยา มิตรชัย คือชื่อนักแสดง แต่เสมา สมบูรณ์ คือชื่อจริง ครูเขารู้แล้ว แต่เขาไม่พูด ก็เลยมายืนยันด้วยปากเด็ก เขาก็เลยมั่นใจ พอครูรู้เขาก็ต้องแอบคุย แล้วพี่อยู่ใกล้บริเวณนักข่าว อยู่ล้อมตัวเราไปหมด เราก็ต้องย้าย แล้วตอนนั้น นิตยสารพาดหัวเลยไชยามีลูกแล้ว น้องพลอยและน้องเพชร จริง ๆ ลูกสาวพี่ตั้งชื่อตั้งแต่แรกเกิดเลยคือน้องพลอย แต่คนนั้นแชมป์ตั้งแต่เกิด แต่เขียนผิดเป็นเพชรเท่านั้นเอง

เพื่อนถามไหมว่าพ่อเป็นใคร ทำไมไม่มาส่งเลย?

แป้ง : ตอนนั้นบอกว่าพ่อเป็นตำรวจ ตอนนั้นเหมือนโกหกไปก่อน ตอนนั้นก็ยังไม่มีใครที่เป็นเพื่อรสนิทเรา แต่ว่าวันพ่อเขาก็จะมีพ่อไป แต่ของหนูจะเป็นแม่ เพื่อนก็เลยถาม แต่โกหกกันคนละอาชีพ ไม่ได้เตี๊ยมกับน้อง

แชมป์ : ผมโกหกเยอะมาก จำไม่ได้ พอเริ่มม.ต้น เพื่อรู้แล้ว คือทุกคนไม่ได้อะไร เพราะมันเริ่มจากการโกหก เพื่อนก็ไม่มีใครพูดอะไรกัน

เอ : อยู่ม.ต้น เห็นบอกว่าวิ่งไปหลังห้องน้ำแล้วร้องไห้ อันนั้นเป็นโรงเรียนสุดท้ายมั้งที่แป้งบอกว่าพ่อเราคือไชยา มิตรชัย

อยากจะอวดลูกใจจะขาด แต่ทำไม่ได้?

เอ : พี่ก็มีอารมณ์นั้น แต่ทำไม่ได้ ลูกน่ารักมาก ถ่ายรูปลงสื่อก็ไม่ได้ ตอนนั้นเป็นกล้องฟิล์มมันไม่สามารถถ่ายได้ เพราะต้องเอาฟิล์มไปล้างมันต้องเห็นแน่ ๆ  

25 ปีมีรูปถ่ายรูปเดียว?

เอ : จริง ๆ ส่วนแชมป์มีน้อยมาก ตอนแชมป์เกิดมาพี่ถ่ายเอ็มวีแล้วเดินสาย ปีที่แชมป์เกิดไม่ได้เข้าบ้านปีกว่า แชมป์อยู่กับคุณยาย

มันเคยกดดันแล้วแบบไม่เอาอะไรแล้วไหม เบื่อที่ต้องมาโกหกทุกคน?

เอ : เป็น ไม่เอาแล้ว ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เป็นแค่นี้พอแล้ว ปีนั้นพี่ถ่ายละครลูกที่ถูกลืม ตอนนั้นละครออนแอร์ เดินสาย ถ่ายละคร มันไม่ได้เจอลูก  เราเคยกลับบ้านไปอุ้มลูก ถึงจะเหนื่อยจากงานยังไงก็ต้องคว้าลูกเอาไปนอนกอด ลูกก็ไม่ได้เห็น เอาสิ ในเมื่อโชคชะตาแกล้งกันขนาดนี้ ไชยา มิตรชัย เป็นแล้ว เพราะฉะนั้นเป็นเถอะ อย่าอยู่เลย พี่คิดมาหลายปี แล้วก็คิดมาหลายครั้งมากด้วย ตัวพี่มีโอกาสปั๊บพี่ไป พี่คิดตัดช่องน้อยแต่พอตัวตลอดเวลา ว่าไปเถอะ อย่าอยู่เลยชาตินี้

อะไรที่ทำให้พี่หลุดพ้นมันได้?

เอ : มันมีเคสนึงที่พี่ขับรถไปแล้วจะไปเสยกับสิบล้อแล้วไปปะกับเสาไฟขับแบบเหยียบสุดเลย คือทิ้งทุกอย่าง ไม่เอาแล้ว ชาตินี้พอแล้ว จนกระทั่งมีรถคันนึงปาดหน้าพี่ พี่คิดว่าเป็นรถของพ่อกับแม่ เขามาพูด เขารู้ว่าพี่เป็นยังไง แล้วบอกว่าอย่าทำเลย อีกหลายชีวิตรออยู่ สู้กันอีกสักตั้ง

แป้งรู้เรื่องนี้ไหม?

แป้ง : ไม่รู้เลย รู้แค่พ่อเกิดอุบัติเหตุ

เอ : พ่อเข้าโรงพยาบาล ลูก เมีย ไปเยี่ยมไม่ได้ นอนตามยถากรรมไชยา มิตรชัย

ตกใจไหม?

แป้ง : ตกใจมาก หนูฟังมึมดี ๆ ของพ่อจากแม่มาตลอด ไม่เคยคิดว่าพ่อเคยคิดฆ่าตัวตาย

แชมป์ : ตกใจครับ มันก็เป็นเรื่องที่ช็อกสำหรับลูก แต่ผมก็คิดว่าอย่างพ่อยังไงเขาก็ไม่ทำเรื่องแบบนี้

มากกว่าทรัพย์สินที่มี พี่บอกว่าขอรักษาใจและลมหายใจเพื่อครอบครัว?

เอ : ผมขอบคุณกาลเวลา และทุกสิ่งทุกอย่างที่มันได้มาในชีวิต ถ้าวันนั้นเราคิดจะตัดช่องน้อยแต่พอตัว เราก็ไม่ได้มีรอยยิ้มเกิดขึ้นในครอบครัว เพราะเรามีภรรยาที่เขาเสียสละให้กับเรามาทั้งชีวิต เขาพยายามเลี้ยงดูลูกที่ดีให้กับเราเขาพยายามรักษาทุกอย่าง ประคองไว้เพื่อวันนึงเราจะอยู่พร้อมครอบครัว ถ้าผมตัดสินใจทิ้งเขาไป หรือไปมีคนอื่น ผมคงไม่มีความสุขอย่างทุกวันนี้ 

พี่เอทั้ง 2 คนนี้ดูแลคณะลิเกของเรา?

เอ : เป็นเจน 2 แล้วครับ

นี่คือนางเอก แล้วแชมป์เป็นอะไร?

แชมป์ : ผมเป็นตัวเสริมครับ

มีช่วงนึงที่เราไม่ชอบชีวิตลิเก แล้วหนีหายไปพักนึง?

แชมป์ : ใช่ คือผมไม่ใช่เลือดลิเก 100% เพราะว่าผมโตมาไม่ได้อยู่บนคณะหรทอบนเวทีมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยไม่อิน เข้าไม่ถึง เขาไปหัดลิเกกันหมด ผมก็ไม่มีไรทำ ผมก็เข้าไปเล่นก็ได้

ทำไมถึงกลับมา เราไม่ชอบลิเก เราไปทำอาชีพอื่นก็ได้นิ?

แชมป์ : ผมเป็นคนนึงที่หาตัวเองไม่เจอ ไม่รู้ว่าโตมาจะไปทิศทางไหน บวกกับลิเกของพ่อมันถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนถ่ายเจน แล้วผมอยากกลับมาช่วยที่นี่นะ แล้วผมคิดว่ามันต้องไปต่อให้ได้ ผมไม่ยอมให้ลิเกมันมาพังที่รุ่นผมแน่นอน

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.05-14.05 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ เอ ไชยา 

About Author