เคยสงสัยไหมว่า…ทำไมโดนฝนปรอย ๆ ถึงไข้ขึ้นง่ายกว่าฝนตกหนัก ๆ?

sick

จริงๆ แล้วการที่คนเราเป็นไข้หวัดหลังจากการตากฝน ไม่ได้เกิดจากน้ำฝนโดยตรง แต่เกิดจากหลายปัจจัยประกอบกัน ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าทำไมการโดนฝนปรอย ๆ จึงทำให้ป่วยง่ายกว่าฝนตกหนัก

ปัจจัยที่ทำให้เป็นไข้หวัดจากการตากฝน

การเป็นไข้หวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ร่างกายเราอ่อนแอลงและติดเชื้อได้ง่ายขึ้นเมื่อโดนฝน ได้แก่:

  • อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง เมื่อเสื้อผ้าและร่างกายเราเปียกน้ำฝน น้ำจะดูดความร้อนออกจากร่างกายได้เร็วกว่าอากาศแห้งถึง 25 เท่า ทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการปรับสมดุลอุณหภูมิ เมื่อร่างกายต้องทำงานหนักขึ้น ภูมิคุ้มกันก็จะลดลงชั่วคราว ทำให้ไวรัสที่ลอยอยู่ในอากาศสามารถเข้าสู่ร่างกายและเพิ่มจำนวนได้ง่ายขึ้น
  • เชื้อไวรัสที่ลอยมากับลมและฝน ก่อนฝนตกหรือช่วงที่ฝนกำลังตก มักจะมีลมพัดแรง ซึ่งอาจพัดพาเชื้อไวรัสที่อยู่ในอากาศมาติดกับตัวเราได้ และเมื่อเราหายใจเอาเชื้อเข้าไปก็มีโอกาสป่วยได้
  • เสื้อผ้าที่อับชื้น การที่เสื้อผ้าเปียกชื้นเป็นเวลานานจะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี โดยเฉพาะถ้าเราปล่อยให้ตัวเองเปียกนานๆ และไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าหรืออาบน้ำทันที

ทำไมฝนปรอยๆ ถึงน่ากังวลกว่าฝนหนักๆ?

ถึงแม้ฝนจะหนักหรือเบา ปัจจัยข้างต้นก็ยังคงเกิดขึ้นได้ แต่สาเหตุที่ทำให้หลายคนรู้สึกว่าการโดนฝนปรอยๆ ทำให้ป่วยง่ายกว่า อาจเป็นเพราะ:

  • ความประมาท เมื่อโดนฝนปรอยๆ หลายคนมักจะรู้สึกว่า “แค่นี้เอง” จึงไม่ได้รีบกลับบ้าน หรือไม่ได้รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำทันที ทำให้ร่างกายเปียกชื้นเป็นเวลานาน อุณหภูมิร่างกายจึงลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงกว่าเดิม
  • ฝนหนักทำให้คนระวังตัวมากขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อเจอฝนตกหนักๆ ผู้คนมักจะรีบหาที่หลบฝนและเมื่อถึงบ้านก็จะรีบอาบน้ำสระผมและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ทำให้เชื้อโรคและไวรัสที่ติดมากับฝนถูกชำระล้างออกไปและไม่เปียกชื้นเป็นเวลานาน

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝนปรอยๆ หรือฝนตกหนัก หากโดนฝนแล้วควรรีบกลับบ้าน อาบน้ำสระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แห้งทันที เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นไข้หวัด และในช่วงหน้าฝนควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

About Author