“โทนี่ – เฌอปราง” นำทัพนักแสดง จัดงาน “ย่ำค่ำ ลำนำศิลป์ บุษบาลุยไฟ” พร้อมส่งละครลงจอ
วันที่ 27 พฤษภาคม 2566 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส นำโดย รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ร่วมกับ รติวัลคุ์ ธนาธรรมโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ฐิติ สุทธิกุลพานิช กรรมการบริหาร บริษัท จูเวไนล์ จำกัด พร้อมยกทีมผู้กำกับ ผู้ประพันธ์ และนักแสดงจากละครเรื่อง “บุษบาลุยไฟ” นำโดย พ่ออี๊ด-สุประวัติ ปัทมสูต ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ผู้กำกับ ปราณประมูล ผู้ประพันธ์บทละคร พร้อมด้วยคู่พระนาง โทนี่ รากแก่น และ เฌอปราง อารีย์กุล (เฌอปราง BNK48) และทัพนักแสดงอีกคับคั่ง ได้แก่ ลูกหว้า-พิจิกา จิตตะปุตตะ, เอ็กซ์-พรเลิศ พิพัฒน์รุ่งเรือง, บัว-ภัทรสุดา อนุมานราชธน, อ้น-เลอวิทย์ สังข์สิทธิ์, มากิ-มาชิดา สุทธิกุลพานิช, แพรว-หัสสยา อิสริยะเสรีกุล, ภัทร-นัตธนนท์ ปิ่นโรจน์กีรติ, น็อต-ธีร์ อริยฤทธิ์วิกุล, ทอม จักรกฤต โยมพยอม, ริด้า-ฟาริดา วัลเล่อร์, ญาณี-ตราโมท, รัก-ศรัทธา ศรัทธาทิพย์, หยา-จรรยา ธนาสว่างกุล, จ๋า-โมฬีวรรณ พันธรักษ์, พรเพ็ญ ฟ้าอำนวย และ กัญจนปกรณ์ แสดงหาญ ได้ฤกษ์จัดงาน “ย่ำค่ำ ลำนำศิลป์ บุษบาลุยไฟ” ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
เต็มอิ่มกับงานเปิดตัวละคร “บุษบาลุยไฟ” ละครอิงประวัติศาสตร์ สะท้อนคุณค่าของผู้หญิงในแผ่นดินยุคทอง โดยเล่าผ่านเรื่องราวของ “ลำจวน” สตรีผู้มาก่อนกาล ที่ผู้มีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว ต่างจากสตรีร่วมยุคในสมัยนั้น และนอกความบันเทิงในละครแล้ว ผู้ชมจะได้รับสาระความรู้เกี่ยวกับผลงานศิลปะในสมัยรัชกาลที่ 3 ทั้งวรรณกรรม นาฏกรรม และวัฒนธรรมประเพณี ที่ซ่อนอยู่ในละครเรื่องนี้ และเพื่อให้ทุกคนได้ไปสัมผัสกลิ่นไอบรรยากาศสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และเบื้องลึกเบื้องหลังกว่าจะมาเป็นละครบุษบาลุยไฟไปพร้อมกัน
อีกทั้งยังมีการแสดงสุดเซอร์ไพรส์อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นการร้องสด ๆ ในเพลงกว่าดอกไม้จะบาน เพลงประกอบละครบุษบาลุยไฟโดยลูกหว้า พิจิกา การรำละครนอกโดยเอ๊กซ์ พรเลิศ ร่วมกับศิลปินศิลปากร และ การจำลองว่าสักวากันสด ๆ สุดประทับใจโดย เฌอปราง อารีย์กุล , บัว ภัทรสุดา , ทอม จักรกฤต และ กัญจนปกรณ์ ปิดท้ายด้วยการโชว์ลายเส้นแบบวาดสดโดยฝีมือ โทนี่ รากแก่น
รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล เผยว่า “บุษบาลุยไฟ เป็นละครอิงประวัติศาสตร์ในยุคต้นรัตนโกสินทร์ ที่บอกเล่าวิถีชีวิตและคุณค่าทางสังคมที่คนไทยยึดถือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างสรรค์งานกวี งานศิลปะภาพเขียนในโบสถ์ ซึ่งเราต่างทราบกันดีว่าในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้ทรงทำนุบำรุงสร้างวัดวาอารามจำนวนมาก ทำให้เกิดศิลปินทั้งระดับช่างหลวงและช่างพื้นบ้านขึ้นจำนวนไม่น้อย ละครบุษบาลุยไฟตั้งใจจะสืบสานคุณค่าเหล่านี้ด้วยมุมมองจากผู้หญิงที่จะทำให้การเล่าเรื่องต่างออกไปจากขนบเดิม ได้ทั้งความสนุก ความงดงามของศิลปะ และความประทับใจในการแก้ปัญหาชีวิตของตัวละครต่างๆ ไทยพีบีเอสตั้งใจจะยกระดับงานละครนี้ให้เป็น Soft Power เพื่อต่อยอดงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทยต่อไป หวังว่าทุกคนจะชอบและสนับสนุนละครบุษบาลุยไฟนี้”
ฐิติ สุทธิกุลพานิช กล่าวว่า “ในฐานะทีมผู้ผลิต เรารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทางไทยพีบีเอส มีความไว้วางใจให้โอกาสรับหน้าที่ในการผลิตผลงานละครแห่งปีเรื่องบุษบาลุยไฟ ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญมาก ๆ ที่ละครพีเรียดอิงประวัติศาสตร์ ซึ่งมีความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนตั้งแต่เรื่องบทประพันธ์ โดยได้ ปราณประมูล นักเขียนบทโทรทัศน์ชั้นนำของไทยที่มีชื่อเสียงจากการเขียนบทโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมหลายเรื่องมาเป็นผู้ประพันธ์ และยิ่งได้รับเกียรติจากศิลปินแห่งชาติ พ่ออี๊ด สุประวัติ ปัทมสูต ผู้กำกับชั้นครูมากำกับ พร้อมทัพนักแสดงสุดยอดฝีมือชั้นนำของไทยอีกหลายท่าน ที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจและมีความตั้งใจอย่างยิ่ง ในการถ่ายทอดเนื้อหาของละครให้ออกมาสนุกครบทุกอรรถรส หลากหลายมิติ ผสมผสานงานศิลปะด้านจิตรกรรม วรรณกรรม และนาฏศิลป์ของไทย เข้าในเรื่องอย่างลงตัว นอกจากนี้เรายังได้ทุ่มทุนเรื่องของโปรดักชั่นแบบจัดเต็ม ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม สถานที่ เช่นการสร้างโบสถ์ขึ้นมาใหม่เพื่อให้ตรงยุค มีการทำคอมพิวเตอร์กราฟิกและออกแบบเพลงประกอบละครเป็นพิเศษ เพื่อให้ละครเรื่องนี้ออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยความตั้งใจทั้งหมดกว่า 2ปี ของทุกฝ่ายที่ยกตัวอย่างเพียงบางส่วนข้างต้นที่อยากส่งมอบคุณค่าของผลงานละครเรื่องนี้ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะจะถูกอกถูกใจ ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากผู้ชมอย่างที่ได้รับเสมอมา และสนับสนุนกันต่อไปครับ”
เฌอปราง อารีย์กุล เล่าว่า “รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เหมือนกันค่ะ ที่จะได้ชมกันแล้ว เราในฐานนะคนแสดงก็อยากเห็นว่าเมื่อเขาเอาฉากที่เราถ่ายทำกันมามาร้อยเรียงแล้วจะสนุกขนาดไหน เพราะถึงชื่อเรื่องจะบุษบาลุยไฟ แต่หนูว่าจริง ๆ คือลุยทุกอย่าง ทั้งน้ำ โควิด ฝน ร้อน เราลุยกันมาหมด และอยากดูตัวเองว่าว่าสักว่าแล้วจะเป็นยังไง ก็อยากฝากให้ทุกคนร่วมลุ้นไปด้วยกันค่ะ อยากบอกว่าทุกคนตั้งใจมากๆ ฝากละครเรื่องนี้ด้วยนะคะ”
โทนี่ รากแก่น เผยว่า “ถ้าไม่มีบทฮุนในเรื่องนี้ผมคงไม่มีโอกาสได้เล่นละครพีเรียดแน่ ๆ บรรยากาศการทำงานสนุกมาก ได้เรียนรู้อะไรเยอะ ได้เติบโตและพัฒนาไปกับตัวละครจากการได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรดักชั่นที่ยิ่งใหญ่มากๆ สวยงามมากๆ บทประพันธ์ก็คลาสสิคมากแบบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการประพันธ์ขึ้นมาใหม่ ผมภูมิใจมาก จนอยากให้มีภาค2 อยากให้ติดตามชมกันครับ เพราะเรื่องนี้จะเป็นละครพีเรียดอีกเรื่องที่ทุกคนน่าจะประทับใจแน่นอนครับ”
พ่ออี๊ด สุประวัติ ปัทมสูต ปิดว่า “เรื่องนี้การทำงานยากมาก เคยถึงขั้นจะถอดใจ แต่สุดท้ายก็ไปต่อ ขอฝากสั้นๆกับทุกท่านว่าขอให้เชื่อ นักแสดงเวลาแสดงเราเชื่อไหมเวลานักแสดงพูดให้นักแสดงอีกคนฟัง แล้วนักแสดงที่ฟังเชื่อไหมที่อีกคนเขาพูด แล้วเราเชื่อไหมว่าสิ่งที่เราพูดเราเชื่อ กลับไปถึงผู้ชมว่าถ้าพวกเราทีมงานนักแสดงสามารถทำให้ท่านเชื่อได้จากการถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆผ่านละครเรื่องนี้ได้ว่า รักจริงๆนะ ขมขื่นจริงๆนะ เจ็บปวดจริงๆนะ และงดงามจริงๆนะ ถ้ามีความเชื่อเกิดขึ้นอย่างแน่นๆแล้วผู้ชมจะสนุกไปกับละครเรื่องนี้แน่นอนครับ ขอบพระคุณครับ”
เตรียมพบกับความสนุกแฝงความรู้มากมายในละคร “บุษบาลุยไฟ” ตอนแรกวันที่ 23 มิถุนายน นี้ และรับตอนพิเศษ “สรรค์สร้างร่างภาพบุษบาลุยไฟ” วันที่ 18 มิถุนายน นี้ ออกอากาศทุกวันศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3 รับชมอีกครั้งทาง แอปพลิเคชัน VIPA หรือ www.VIPA.me และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.thaipbs.or.th/BudsabaLuiFire หรือรับชมเบื้องหลังกองถ่ายสนุก ๆ ทาง Facebook : ละคร ไทยพีบีเอส และทุกช่องทางออนไลน์ของ JUVE9