รู้หรือไม่!? 4 มีนาคม เป็น “วันอ้วนโลก”  ลดพุงลดโรค

วันที่ 4 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันอ้วนโลก (World Obesity Day) ซึ่งในแต่ละปีมีผู้ป่วยจาก “โรคอ้วน” เพิ่มสูงขึ้นทุกเพศทุกวัย จนกลายเป็นโรคฮิต โดยเฉพาะวัยทำงาน ชาวออฟฟิศที่ใช้พลังงานในแต่ละวันน้อย ขาดการออกกำลังกาย และรับประทานอาหารสำเร็จรูปที่มักจะประกอบไปด้วยแป้งและไขมัน เนื่องจากต้องการความรวดเร็ว สะดวกสบาย รวมถึงอาจมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารหนักๆ ในมื้อเย็น หรือมื้อดึก ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุที่ส่งเสริมให้เป็นโรคอ้วนมากขึ้น

โดยในปี 2566 สหพันธ์โรคอ้วนโลก (World Obesity Federation) ได้กำหนดประเด็นรณรงค์ คือ “Changing perspectives: Let’s talk about obesity: ปรับเปลี่ยนมุมมอง โรคอ้วนคุยกันได้” เพื่อมุ่งเน้นการเสริมสร้างความตระหนักรู้ และการสื่อสารเกี่ยวกับโรคอ้วน การป้องกันและการจัดการโรคอ้วนในสังคมไทย เนื่องจากพบว่าประชากรทั่วโลกกว่า 4 ล้านคน เสียชีวิตจากการที่มีภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน 

อดอาหารเช้าไม่ได้ทำให้ผอม!

อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด สำหรับการให้พลังงาน การงดรับประทานอาหารมื้อเช้า  ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และอาหารเช้าช่วยควบคุมน้ำหนักได้เพราะว่าจากมื้อเย็นจนถึงเช้าวันใหม่  เราอดอาหารมานานเกือบ  12  ชั่วโมง  และหากเรายิ่งไม่กินอาหารเช้า  ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง  ร่างกายยังรู้สึกหิวตลอดเวลา  ทำให้บริโภคอาหารมื้อถัดไปมากขึ้น  และต้องการกินอาหารจุบจิบ ที่สำคัยยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดสมองและโรคหัวใจจะช่วยให้ระดับความเข้มข้นในเลือดเจือจางลงลดโอกาสเกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดีที่สำคัญอาหารเช้าช่วยกระตุ้นพลังสมองด้วย

  • ผู้หญิงวัยทำงาน และวัยผู้ใหญ่ ควรกินอาหารให้ได้พลังงานเฉลี่ยวันละ 1,200-1,600 กิโลแคลอรี ขึ้นอยู่กับความหนักเบาของกิจกรรมในการทำงาน โดยเป็นกลุ่มข้าวและแป้ง ประมาณ 6-8 ทัพพีต่อวัน
  • วัยรุ่นทั้งชายหญิง และชายวัยทำงาน ต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 1,800-2,000 กิโลแคลอรี โดยควรรับประทานอาหารในกลุ่มข้าวและแป้งวันละ 10 ทัพพี
  • สำหรับผู้ใช้พลังงานมาก เช่น นักกีฬา เกษตรกรและผู้ใช้แรงงาน ต้องการพลังงานวันละ 2,400 กิโลแคลอรี ทานข้าวและแป้งได้ถึงวันละ 12 ทัพพีต่อวัน ในกลุ่มเนื้อสัตว์กินวันละ 6-12 ช้อนกินข้าวต่อวัน

นอกเหนือจากอาหารที่กล่าวถึงไปแล้ว เรายังสามารถเลือกอาหารเช้าจำพวกซีเรียลใส่นมและผลไม้ โยเกิร์ตใส่ผลไม้ สลัดผักสำเร็จรูป กาแฟดำ เครื่องดื่มหรือน้ำผักผลไม้หวานน้อย เครื่องดื่มชาเขียว เสริมเข้าไปได้อีกด้วยจะเห็นว่า มื้อเช้านั้นหากเราใส่ใจ เราจะพบ อาหารที่ดี ราคาไม่แพงและเป็นประโยชน์ให้เราได้รองท้อง ในเวลาที่เร่งรีบ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เราควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อสุขภาพที่ดีตั้งแต่เช้า – เย็น

ข้อมูลดี ๆ จาก : คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

About Author