กัสเบลออกจากวงการไปอยู่ต่างประเทศ และล่าสุดหลายคนช็อก เพราะเขาแต่งงาน และแต่งงานกับมหาเศรษฐีชาวอิตาลี อายุห่างกัน 20 ปี ตอนนี้แต่งมากี่ปีแล้ว?
กัสเบล : ตั้งแต่เริ่มเดท แต่งงาน ทั้งหมดรวม ๆ 3 ปีแล้ว ช่วงก่อนโควิด แล้วแต่งงานช่วงระหว่างโควิด
มีการขอแต่งงานถึง 2 ครั้ง?
กัสเบล : ครับผม คือครั้งแรกผมเขินมาก เราไปโรงแรมอยู่กลางภูเขา ที่นิวยอร์ก ก็เหมือนภาคเหนือของเรา แล้วมีร้านอาหาร คือเรารู้อยู่แล้วว่าเราต้องโดนขอแต่งงาน แต่เราไม่รู้ว่าวันไหน เพราะเราไปลองแหวนมาแล้ว พอไปเสร็จปุ๊บช่วงนั้นโควิดเขาไม่ค่อยให้นั่งกันเยอะ แต่ก็มีคนเต็ม เขาก็คุกเข่าขอแต่งงานตรงนั้น เราก็ตกใจเพราะเราไม่ได้เตรียมตัวเลย แล้วทุกคนแบบ เซเยสๆ มันยิ่งทำให้ผมตื่นเต้น แต่ก็เซเยสไปตั้งแต่รอบแรก แล้วเหมือนรูปมันไม่ค่อยสวย เราอยากได้รูปสวย ๆ เขาขออีกครั้ง ครั้งที่สองเกิดขึ้นบนเครื่องบินส่วนตัวของเขา
บนเครื่องบินครั้งที่สองไม่มีคนเลย?
กัสเบล : ไม่มีคนเลย เราเลยไม่รู้สึกตื่นเต้นมากเท่าไหร่ เลยแลกแหวนกันบนเครื่อง ลงมาถ่ายรูปกันหน้าเครื่องบิน
จุดเริ่มต้นไปเจอกันได้ยังไง?
กัสเบล : ตอนนั้นผมไปอยู่นิวยอร์ก ไปเรียนแล้วเราก็ต้องทำงานด้วยเพราะเราไม่อยากใช้เงินเก่าของเรา แล้วค่าใช้จ่ายที่นั่นมันสูงมาก ก็เลยไปทำร้านอาหารไทย เขาก็เหมือนเป็นลูกค้า แรก ๆ เราก็เทคแคร์เขา เหมือนเขาเริ่มมาบ่อยขึ้น ทุกอาทิตย์ แล้วกินเมนูเดิม ๆ
เขามีทีท่าว่าเขาจีบไหม?
กัสเบล : ก็มีครับ เขาถามว่าวันนี้เป็นยังไง เหนื่อยไหม แต่ฝรั่งสไตล์เขาจะเป็นคนกินอาหารเดิม ๆ พอเขามาเราก็รู้แล้วว่าเขาจะกินอะไร เหมือนเขาชอบในความที่เราจำเขาได้ด้วย
เราจะรู้ว่าเขาชอบไหมจะดูที่การวางทิป?
กัสเบล : สมมติอาหาร 100 เขาก็วาง 100% เลยครับทุกครั้งเลย ครั้งแรกคิดว่าเขาคงเอาเงินทอน หรือขอแลกแบงค์ก็เอาแบงค์ไปให้เขา เขาบอกเอาไปเลย
ตอนนั้นรู้จักเขาไหม หรือรู้จักเขาแค่ลูกค้าในร้านอาหารของเรา?
กัสเบล : แรก ๆ รู้จักเพราะลูกค้า หลัง ๆ เริ่มแลกเบอร์กัน
ทำยังไงถึงได้ไปออกเดทกัน?
กัสเบล : ช่วงนั้นกัสกลับมาที่ไทย แล้วพอดีเขาต้องมาภูเก็ตเหมือนกัน แต่เขาปวดหลังหรือปวดขาสักอย่างก็เลยไม่ได้มา ก็เลยบอกว่า เดี๋ยวยูมานะ ฉันจะพายูไปภาคเหนือของนิวยอร์ก ไปอัพสเตทอีกรอบ คือเราบินถึงนิวยอร์ก 2-3 วันเขาก็มารับไปเที่ยว
ไม่ลังเลเลยเหรอ?
กัสเบล : ไม่ลังเลครับ
ก่อนหน้านั้นมีเดทก่อนไหม?
กัสเบล : ไม่มีครับ คนนี้คือคนแรกที่เราคุยแบบจริงจัง แต่คนอื่นก็มีเข้ามา แต่เรารู้สึกว่ามันเฟคกี้อเมริกันสไตล์
เป็นไง?
กัสเบล : ตื่นเต้น ตื่นเต้นเพราะเขาด้วย เพราะสถานที่ด้วย เหมือนเราอยู่นิวยอร์ก เราไม่ค่อยได้ออกไปภูเขา ไปอะไรแบบนี้ เหมือนเขาพาเราไปเปิดโลก เรารู้สึกว่าไม่ได้ไปถ้าไม่มีรถขับออกไปหรือนั่งรถไฟออกไป
เวลาไปออกเดทกันรู้สึกไหมว่าคนนี้ตรงใจมาก ๆ เลย?
กัสเบล : ก็ตรงใจครับ เพราะว่าความเป็นอิสตาเลียนเขาจะมีความโรแมนติกสูงมาก เขาจะมีดอกไม้ มีของที่ทำให้เรารู้สึกว่าว้าว
การที่เขาอายุห่างจากเรา 20 ปี มีผลไหม?
กัสเบล : ปกติกัสเป็นคนชอบคนอายุเยอะ ชอบมีเพื่อนอายุมากกว่า เหมือนเราอยากจะโต อยากจะมีมุมมองที่มันเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เราเลยรู้สึกว่าง่ายกับการที่จะเปิดใจกับเขา
พอเริ่มคบกันก็เริ่มเปิดตัว มีการโพสต์ภาพในอินสตาแกรม พอเปิดแล้วกระแสเป็นไงบ้าง?
กัสเบล : ทุกคนก็ช็อก แล้วก็เริ่มเปิดตัวจริง ๆ กัสเริ่มเปิดตัว 14 กุมภาพันธ์ เพราะเรารู้สึกว่าเขาให้เราคุยกับพี่เขา น้องเขา เขาพาเราไปรู้จักกับเพื่อนเขา ลงเราในโซเชียล สไตล์อเมริกันคือถ้าเขาคิดว่าคนนี้ใช่ เขาจะเริ่มเปิดตัวเรามากขึ้นก็เลยรู้สึกว่าแยากให้เกียรติเขาเหมือนกัน เราเลยโพสต์ช่วงวาเลนไทน์
ฟีดแบดจากฝั่งครอบครัวเขาเป็นยังไง?
กัสเบล : เขาก็แฮปปี้ครับ เพราะว่าทุกคนอยากให้เขามีใครสักคน เพราะเขาก็อายุเยอะในระดับหนึ่ง
แล้วฝั่งเราละ ทั้งแฟนคลับ ครอบครัว กระแสเป็นยังไงบ้าง เอาแฟนคลับก่อน?
กัสเบล : รูปที่กัสลง ทุกคนก็เข้ามาแสดงความยินดีเป็นในทางบวกประมาณ 90% น้อยมากที่มีแบบไม่ดี เพราะช่วงนั้นกัสรู้สึกว่า LGBTQ ในเมืองไทยมันเริ่มโอเพ่นขึ้นเยอะ
แต่พ่อไม่แฮปปี้?
กัสเบล : พ่อไม่แฮปปี้ครับ เหมือนเขาก็รู้แหละว่ากัสเป็นอะไร เพราะเขาเลี้ยงเรามา
แต่พอเปิดแบบนี้เขาไม่แฮปปี้?
กัสเบล : เพราะเราไม่ได้บอกเขาเลยว่าเราจะเปิด แต่คือเขาไม่เคยคุยกับแฟนกัสด้วย
เขาไม่แฮปปี้เพราะเราเปิดแบบนี้หรือเขาไม่แฮปปี้เพราะเราไม่มีโอกาสพาแฟนเรามาเจอพ่อ?
กัสเบล : กัสว่าเขาไม่แฮปปี้เพราะด้วยเพื่อนร่วมงานสมัยนั้นของเขาเข้ามาถาม เป็นอารมณ์สังคมคนไทยที่แบบเห้ย…ลูกเป็นเกย์เหรอ ลูกคบผู้ชายเหรอ มันทำให้เขาตั้งรับไม่ทันกับการที่จะต้องตอบคำถาม ทั้งไ ที่ตัวเองเขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นยังไง
สุดท้ายพ่อเข้าใจไหม?
กัสเบล : เข้าใจครับ เพราะว่าเหมือนกัสพยายามทักหาเขา ไม่รับโทรศัพท์ ไม่ตอบแชท กัสแบบเอาแล้ว โกรธกัสแน่ๆเลย กัสเลยพิมพ์ความรู้สึกไปเลย ถ้าเกิดกัสทำอะไรให้ไม่สบายใจ หรือสิ่งที่กัสเป็นมันทำให้ลำบากใจ กัสอยากจะบอกว่าสิ่งที่กัสทำ กัสตัดสินใจดีแล้ว แล้วกัสก็ทำทุกอย่างดีหมดแล้ว
อะไรทำให้เขาเปลี่ยนใจรับโทรศัพท์?
กัสเบล : ก็น่าจะข้อความอันนั้น เขาก็โทรมาบอกไม่เป็นไร เพราะเขารู้ว่าเราเหนื่อยมามาก เขาแค่ตั้งตัวไม่ทัน
กัสเป็นคนที่รักพ่อมาก?
กัสเบล : รักครอบครัวมากครับ เราไม่ได้ต้องการให้คนรอบข้าง หรือคนทั้งหมดบนโลกเข้าใจเราในสิ่งที่เราเป็น แต่เราแค่ต้องการคนที่เขารักเรา เรารักเขา เขาเข้าใจเราในสิ่งที่เราเป็นไม่ว่าเราจะเป็นอะไร กัสรู้สึกว่ามันโคตรมีความสุข
สมมติถ้าพ่อดูอยู่อยากบอกอะไรกับพ่อ?
กัสเบล : รักพ่อมากนะครับ อยากให้พ่อดูแลตัวเองดี ๆ อยากให้ไปเที่ยว เขาไม่ยอมไปเที่ยวที่นิวยอร์ก เพราะเขาไม่อยากนั่งเครื่องบินนานๆ แต่วันนี้กัสอยู่นี่แล้ว เดี๋ยวจะดูแลทุกอย่างเองครับ
ตอนนี้คุณแม่ไม่อยู่แล้ว ถ้าคุณแม่ดูอยู่อยากบอกอะไรคุณแม่บ้าง?
กัสเบล : กัสว่าสิ่งที่กัสทำให้เขา ทุกคนเห็นว่ากัสดูแลแม่ดีขนาดไหน กัสว่าเขาน่าจะสัมผัสได้ว่ากัสรักเขามาก
กัสกับแฟนห่างกัน 20 ปี มันมีปัญหาเรื่องสวีท เรื่องบนเตียงไหม?
กัสเบล : ก็มีคนถาม ต้องบอกก่อนเราห่างกันมาก ด้วยวัฒนธรรมด้วย อายุด้วย ออริจินัลเขาเป็นอิตาเลียนแล้วมาอยู่อเมริกา แล้วเราเป็นไทย ความหลากหลายทางวัฒนธรรมมันเยอะมาก แรก ๆ ก็ลำบาก ด้วยความที่คนไทยมีความขี้งอน เอาแต่ใจเขาจะไม่เก็ทตรงนี้ แต่พอถามเรื่องเซ็กส์บนเตียงเป็นยังไง เราจะบอกได้เลยว่า แซ่บมาก ไม่งั้นกัสไม่เลือกคนนี้นะ
เห็นบอกมีความตื่นเต้นและแอดเวนเจอร์มาก ๆ ?
กัสเบล : ใช่ครับ มีสตอรี่ บางทีรู้หน้าไม่รู้ใจ บางทีก็จะมีอุปกรณ์บ้าง แบบสร้างสตอรี่ขึ้นมา
ต้องมีการละครไหม?
กัสเบล : ใช่ต้องมีการละคร เพราะเขารู้ว่าเราคือนักแสดง เขาก็ยิ่งชอบ คือมันไม่ถึงกับห้องเชือด ทันคือห้องนอนนั่นแหละครับ เขาก็จะมีกุญแจมือ แต่ไม่ถึงกับแซ่นะ แต่ก็สไตล์นั้น แต่หลัง ๆ ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว เหมือนต่างคนต่างยุ่ง
ตอนที่เขามากินข้าวที่ร้านเรารู้ไหมว่าเขาคือมหาเศรษฐี?
กัสเบล : ไม่รู้ครับ ส่วนใหญ่เขาจะกินผัดไท ปอเปี๊ยะ หมูสะเต๊ะ แค่นั้น
แล้วเรามารู้ตอนไหนว่านี่คืออภิมหาเศรษฐี?
กัสเบล : รู้ตอนเคาท์ดาวน์ เขาพาไปที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง เราเดินตามเขาไป ทุกคนทักเขาเหมือนเขาคือเซเลปคนหนึ่ง
เหมือนเจ้าของร้าน?
กัสเบล : ตอนแรกเราไม่คิดว่าเป็นเจ้าของร้าน คิดว่าเขามาบ่อย แล้วเขาก็มีที่ของเขา คือปีใหม่ที่นั่นทุกร้านอาหารต้องจอง ถ้าไม่จองคือไม่ได้เข้า เพราะมันเต็มหมด เขาก็พาไปกินข้าว ร้านอยู่ที่ไทม์สแควร์ แล้วบอกว่าร้านฉัน แต่ไม่ใช่ที่เขา เขาเช่าเอา แล้วปกติไทม์สแควร์ต้องไปรอตั้งแต่ 11 โมงเช้าไรอย่างนี้ แต่เขามีตำรวจพาไปเลยตอนประมาณ 5 ทุ่ม45 แล้วเราก็เดินไปอยู่ตรงไทม์สแควร์เลยแบบแอคคูซีฟมาก ๆ มันทำให้เรารู้สึกว่าตื่นเต้นมาก ๆ ทุกอย่างที่เขาเซอร์ไพรส์เรามันทำให้เรารู้สึกโห
อย่างนี้เราชอบไหม?
กัสเบล : เราชอบเขาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะว่าด้วยการเทคแคร์เขาหลายๆ อย่าง มันทำให้เรารู้สึกว่าคนนี้น่ารักดี ไปรับไปส่ง ตลอด โดยที่เราไม่รู้อดีตเขามาก่อน
พอมารู้ก็ยิ่งบวก ๆ เข้าไปใหญ่เลย?
กัสเบล : ก็ยิ่งบวก เลเวลอัพเลย
เขาเปย์หนักมาก?
กัสเบล : ก็ให้ของขวัญวันสำคัญ ให้ดอกไม้ตลอดเวลา
แฟนห่างกัน 20 ปีแล้วเขารวยมาก คนคิดว่าเพราะเงินหรือเปล่า รักเงินหรือรักคน?
กัสเบล : จริง ๆ รักคนมากกว่า เพราะเหมือนก่อนที่เราจะเจอเขา พอเราไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเราก็ต้องทำงาน คนที่นั่นเขาไม่ชอบอยู่บ้าน ทุกคนออกไปทำงาน แต่อาจจะทำน้อยวันหน่อย
เอาเป็นว่าทุกวันนี้แฮปปี้แล้ว?
กัสเบล : แฮปปี้มากครับ
จริงไหมที่ชีวิตเราลงตัวมากจนแบบหันหลังให้วงการบันเทิง ฉีกสัญญาเลยไหม?
กัสเบล : ไม่เชิงฉีกสัญญาครับ พอกัสไปอยู่นั่นสัญญาก็ยังคอนตินิวอยู่จนมันหมดไปเอง
แต่เราก็ไม่ต่อ?
กัสเบล : ไม่ได้ต่อครับ
จากนี้เป็นต้นไปจะเป็นนิวยอร์กเกอร์แล้ว?
กัสเบล : ก็คงจะเป็นนิวยอร์กเกอร์ครับ คือชีวิตที่วางแพลนกับเขาไว้คือเราอยากอยู่ที่นี่ 6 เดือน ที่นั่น 6 เดือน เพราะเขาก็ต้องดูธุรกิจเขา แล้วเราก็อยากทำธุรกิจที่ไทยด้วย
เวลามาเมืองไทยอยู่ไหน?
กัสเบล : ส่วนใหญ่อย่างที่กัสกลับมา กัสจะอยู่บ้านที่กรุงเทพ แล้วจะกลับไปหาพ่อที่ต่างจังหวัด แต่พอเขามาจะพาเขาไปหัวหิน
ตกลงพ่อได้เจอหรือยัง?
กัสเบล : เดี๋ยวเจอคืนนี้ครับครั้งแรก แต่วีดิโอคอลคุยกันตลอด
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ กัสเบล พีรกร