“ทนายเอ็ม” แจ้งความ “กนก-ธีระ” และ “ท็อปนิวส์” ใช้รูปโยงเป็นกุนซือแก๊งสปีดโบ๊ต
เครียดหวั่นจบอาชีพ “สันธนะ – เดชา” ฟาดปากกันเดือด ไม่กลัวฟ้อง เย้ยทำคดีอะไรก็แพ้
กรณีที่มีการเอ่ยชื่อถึง “ทนายเอ็ม” โดยมีการอ้างว่าคนนี้เป็นกุนซือ ให้คำปรึกษา “แก๊งสปีดโบ๊ต” ในคดี “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ตกเรือจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต พร้อมกับที่รายการช่องท็อปนิวส์ มีการนำภาพหน้าของ “นายรพิพงศ์ ปุณยจารุศิริ” หรือ “ทนายเอ็ม” มาโยงว่าเป็นบุคคลในข่าว
รายการเป็นเรื่องใหญ่ ออนแอร์ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.10 – 17.55 น. ทางช่อง JKN18 ดำเนินรายการโดย “เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ” ได้สัมภาษณ์ ทนายเอ็ม รพิพงศ์ กับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” อยู่ในสาย พรุ่งนี้จะเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีเ?
เดชา : พรุ่งนี้จะพาคุณแม่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับคนทำให้เกิดความเสียหายกับแตงโมเพิ่มเติม เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา หมิ่นประมาทผู้ตายโดยการโฆษณา คนเป็นมารดาก็เป็นผู้เสียหายร้องทุกข์ได้
ทำไมอยู่ ๆ ถึงมาดำเนินคดี?
เดชา : ต้องให้เขาต่อว่าก่อน เขายังไม่ว่าจะดำเนินคดีไม่ได้ พรุ่งนี้แจ้งความ 1 รายก่อน ทยอยเอาทีละคน เพราะพนักงานสอบสวนโทรมาว่ามีพยานหลักฐานแน่นหนาพอสมควร ว่ามีผู้กระทำความผิด หมิ่นประมาทผู้ตาย นั่นคือน้องแตงโม
รายแรกที่จะถูกจัดการ เป็นคนรู้จักหรือไม่รู้จัก?
เดชา : เป็นคนดังครับ เป็นอดีตคนมีสี คุณเพชรก็รู้จักดี ต้องเป็นคนดัง ไม่ดังเราไม่แจ้งความหรอกครับ
เชือดไก่ให้ลิงดู หรือแค้นส่วนตัว?
เดชา : เป็นการดำเนินการตามพยานหลักฐานที่ปรากฏครับ พยานปรากฏแค่ไหนก็ดำเนินคดีแค่นั้นครับ
บอกชื่อได้มั้ย?
เดชา : ตัวย่อไม่ต้องบอก เป็นคนที่ชอบให้สัมภาษณ์ว่าแตงโมเป็นเด็กเอ็น และแตงโมมีคนรออยู่โรงแรม ไม่ได้เอ่ยชื่อนะครับ คุณเพชรคิดเห็นตามสบาย ผมไม่เกี่ยวนะ ยังไงเดี๋ยวผมไปเยี่ยม
เขามาเคลียร์มั้ย?
เดชา : ไม่มีครับ เราว่ากันตามพยานหลักฐาน หลักฐานไปถึงใครก็ตามนั้นครับ
ไปแจ้งความแล้วเขาขอโทษหรือประนีประนอม คุณแม่หรือทนายจะยอมมั้ย?
เดชา : ก็แล้วแต่คุณแม่ครับ ผมไม่ใช่ผู้เสียหาย เป็นแค่ทนายความ
ถ้าขึ้นศาล สิ้นสุดแล้วผิดจริง จะโดนลงโทษกี่ปี?
เดชา : ติดคุกไม่มากแค่ 2 ปีสูงสุด ปรับก็ไม่เกิน 2 แสนเท่านั้นเอง สองปีเอง ก็ไม่นาน
รับกระเช้าแทนมั้ย?
เดชา : แล้วแต่คุณแม่ครับ ผมแค่ทนายความ เป็นตัวแทน พนักงานสอบสวนบอกว่าพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา เพราะการให้สัมภาษณ์ต่าง ๆ ทำให้เสียรูปคดีนี้ หลาย ๆ เรื่อง ทำให้เกิดความไขว้เขวต่างๆ เช่น ตายบนบก ตายบนเรือ มีแรงจูงใจต่าง ๆ ทำให้มันไขว่เขว พนักงานสอบสวนบอกแบบนั้นนะ
ถ้าเขาบอกว่าเขาบริสุทธิ์ใจหาความจริงให้แตงโม เขาผิดด้วยเหรอ?
เดชา : ก็ไม่เป็นไร ไปชี้แจงที่ศาล ไปบอกศาลนะ ไม่ต้องมาบอกผม ถ้ามั่นใจว่าไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัว ถ้าเป็นคนดีอย่ากลัวครับ
นอกจากคนนี้ คนอื่น ๆ ที่เข้ามาต่อว่าจะฟ้องมั้ย?
เดชา : แล้วแต่คุณแม่ คงต้องทยอยรอให้สำนวนส่งไปก่อนรอไปเรื่อยๆ ให้เขาด่าไปทุกวัน ๆ เราก็ทยอยดำเนินการตามกฎหมาย ณ วันนี้เรียนคุณเพชรและสื่อมวลชนว่าผมคงไม่ตอบโต้อะไรใครแล้ว จะใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเดียว
ถ้าใครด่าพร้อมฟ้อง?
เดชา : ทุกคนมีสิทธิ์ตามกฎหมาย คงไม่ตอบโต้ใครแล้ว ด่ามาเดือนกว่าน่าจะพอแล้วมั้ง
แบบนี้ไม่เกิดกระแสเหรอ ว่าหากินกับคนมาด่า ห้ามแสดงความคิดเห็นอะไรเลย?
เดชา : เราไม่รับเงิน เราเอาติดคุกอย่างเดียว เราก็ไม่ได้หากินสิครับ
นอกจากไปฟ้องคนนี้ เห็นบอกว่าพรุ่งนี้มีคนอยากฟ้องกลับพี่เดชาเหมือนกัน?
เดชา : ด้วยความยินดีมาก
เขาบอกจะฟ้องพี่ 7 ข้อหา?
เดชา : ยินดีมากครับ ขอให้ฟ้องมา ทุกคนต่างมีสิทธิ์ ยินดีครับ ก็ไม่ทราบว่าใครจะฟ้องผม
เป็นคน ๆ นึงที่ชอบออกมาช่วยเหลือผู้คน ถ้าเขาฟ้องจะโกรธมั้ย?
เดชา : ไม่โกรธหรอก ต่างคนต่างใช้สิทธิ์กันไป ผมมีสิทธิ์อะไรผมก็ทำ ต่างคนต่างทำกันไป ไม่ต้องตอบโต้กันทางโซเชียลแล้ว ผมไม่ตอบโต้แล้ววันนี้ ไปพิจารณากันที่ศาล มีแค่โจทก์กับจำเลย ไม่ต้องตอบโต้กันแล้ว
เขาบอกพี่เดชาไม่กลัวใครเพราะรู้จักตร.?
เดชา : ทุกคนก็รู้จัก คนเราเกิดมาก็เป็นธรรมดา มีเพื่อนฝูงเป็นตร. บ้าง มีเพื่อนเป็นตร.ผิดด้วยหรือ ผมไม่ได้มีเพื่อนเป็นโจร
ถ้าเราทำงานของเราไป แล้วมีคนมาต่อว่าเรา เราไปฟ้องเขา เขาฟ้องแย้งเหมือนให้มาประนีประนอม อย่างนี้จะทำยังไง?
เดชา : ไม่เป็นไรก็สู้กันไป ใครพลาดก็ได้รับโทษตามกฎหมายกำหนด ถ้าไม่ได้ทำผิดก็ยกฟ้องแค่นั้น
เขาพูดว่าเขาไม่กลัวพี่เดชา เพราะพี่เดชาทำคดีอะไรก็แพ้?
เดชา : ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ ลองดูสิครับ ลองฟ้องดู จะได้รู้ว่าแพ้หรือชนะ พิสูจน์เลย ไหนๆ พูดแล้วก็ต้องพิสูจน์
ไม่ยอมความ ไม่รับกระเช้า?
เดชา : ไม่เป็นไร ปล่อยครับ ใครอยากทำอะไรทำ ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ทำเต็มที่เลย พูดแล้วต้องทำนะ
ถ้าเขามาขอโทษจะคืนดีมั้ย?
เดชา : ผมไม่โกรธใคร แต่ใครโกรธผมหรือไม่ผมไม่ทราบ ไม่เคยโกรธเพื่อนฝูง ขนาดทนายษิทราทะเลาะกันสองปี ต่างคนต่างขอโทษกันได้เลย ยังเป็นเพื่อนกันได้เลย
ต่อสายหา “รองต่อ สันธนะ ประยูรรัตน์” รู้ตัวหรือยัง พรุ่งนี้อาจกลายเป็นผู้ต้องหา?
สันธนะ : ไม่ทราบครับ
เหมือนว่าจะมีการดำเนินคดีที่ปล่อยข้อมูลเรื่องน้องแตงโมรับงานเอ็น?
สันธนะ : ถ้าเป็นคดีแตงโม ผมเป็นพยานในคดีในสำนวนการสอบสวน ผมได้เข้าไปให้การสอบสวนเจ้าของคดีที่สภ.เมืองนนทบุรี 3 ครั้งแล้ว ขณะเดียวกัน ณ วันนี้ก็ยังมีเหตุซึ่งพนักงานสอบสวนต้องดำเนินการตามคำให้การของผมที่ปรากฏในสำนวน
การให้ปากคำแบบนี้ ถ้าไม่ตรงกับพยานท่านอื่น ถือว่าให้การเท็จมั้ย?
สันธนะ : การสอบสวนและสืบสวนคดี คดีนี้เป็นคดีอาญา ณ ขณะนี้พนักงานสอบสวนมีความเห็นว่ามีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือยัง ยังไม่ได้มีการสรุปความเห็น แล้วในการสืบสวนคดีจะตัดประเด็นใดทิ้งยังไม่ได้ ผมมีคำถามมากมาย ผมถามเอาประเด็นหลักๆ เลย ถ้าจะสรุปว่าเป็นคดีอุบัติเหตุ คุณก็ต้องตอบได้ในสำนวนเรื่องบาดแผลผู้เสียชีวิต
เรื่องในสำนวน ไม่สามารถเอามาบอกสาธารณะได้?
สันธนะ : ตัวผมบอกเองไม่ได้ แต่ส่วนผู้รับผิดชอบคดี ตอบได้ พูดได้ การบอกให้สังคมรับทราบ ก็บอกประเด็นไหน หรือส่วนไหนที่เกี่ยวข้องกับคดี คำให้การผม ผมระบุว่าผมมีพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าคดีนี้ผู้เสียชีวิตถูกฆาตกรรม อันนี้ไม่ใช่ความเชื่อ การให้การ ผมระบุถึงพยานหลักฐานด้วย เรื่องใครมากล่าวหา คนพูดพาดพิงถึงผมโดยไม่ทราบข้อเท็จจริงในสำนวน พูดไป คนที่พูดเหล่านี้ ผมดำเนินคดีไปแล้ว ไม่อยากให้เป็นข่าว ก็ดำเนินคดีเขาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ผู้ใดคิดว่าสิ่งที่ผมกำลังดำเนินการอยู่ทุกวันนี้ ผมไม่ได้ทำโดยพลการ ล้วนแล้วมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เพียงแต่อาจไม่เร่งรัด เพราะแนวทางประเด็นของผม อาจมีการสั่งการภายใน
ถ้าทนายเดชาฟ้องพี่จริง ๆ จะหยุดพูดเรื่องนี้มั้ย?
สันธนะ : ไม่มีผลนะ ก็อยากให้เขารีบดำเนินการแจ้งความคดีผม เขาแจ้งปั๊บก็เป็นสิทธิ์ของผมที่จะได้ใช้สิทธิ์ในการต่อสู้ มันจะมีพยานหลักฐานอีกมากด้วย ซึ่งผมสามารถเรียกในสำนวนเป็นผลดีทั้งสิ้น การที่ผมตกเป็นผู้ต้องหา ต้องเรียนสังคม เรียนทุกท่านเลย อย่ากังวล ชีวิตผมเป็นผู้ต้องหา เป็นจำเลยมาหลายคดี แล้วคดีใหญ่ๆ ทั้งสิ้น ผลแห่งคดีสุดท้ายทุกคนก็ทราบ ผมไม่ได้กังวล ผมพร้อมเลย บอกว่าช่วย ๆ รีบไปแจ้งหน่อย ใครที่พูดถึงผม แล้วบอกว่าผมทำให้คดีเขาเสียหาย เขาเสียหายยังไง ยิ่งทำให้ข้อเท็จจริงยิ่งชัดเจนมากขึ้น เหมือนที่ทุกคนอยากทราบ
อยากฝากอะไรถึงทนายเดชา?
สันธนะ : คุณเดชาอาจเคยรู้จักผมบ้าง แต่ไม่ได้มักคุ้นกันส่วนตัว เพราะผมเชื่อถือทนายนะ ผมศรัทธาสำหรับทนายคนที่บอกว่ามีความรู้ความสามารถ ผมเห็นแต่ในศาล ต่อหน้าบัลลังก์ ในระหว่างการพิจารณาคดี ทนายที่ออกมาแล้วพูดๆ ตรงนี้ผมยังไม่เคยเห็นนะ เขาทำคดีในศาลแล้วมาสืบพยาน ถามค้านถามติงให้เป็นประเด็น ฟันธงให้มันชัด ถ้าในบัลลังก์ศาลจะยอมรับ แต่ทนายเหล่านี้ ผมพูดได้นะ คุณก็พูดไปแล้วกัน คุณไปเก่งในบัลลังก์ที่ศาลดีกว่า นั่นคืออาชีพคุณโดยตรง
ถ้าฟ้องมาก็พร้อมดำเนินคดีกลับ และไม่หยุดในการค้นหาความจริง?
สันธนะ : ขณะนี้การที่ผมได้พูดข้อมูลไปแล้ว พนักงานสอบสวนดำเนินการให้ผมหรือยัง แล้วข้อมูลที่ให้เต็มเป๊ะทุกเรื่อง ไม่ได้ไปพูดลอย ๆ หรือคิดไปเอง ไม่ใช่นะ
ทนายเอ็มที่เคยเห็น ไม่ใช่พี่เอ็มคนนี้ ตกลงยังไง?
ทนายเอ็ม : ตามข่าวบอกว่ามีทนายเอ็ม บางช่องบอกมีเอ็ม 1 เอ็ม 2 สำหรับผมคือทนายเอ็ม รพิพงศ์ ปุณยจารุศิริ เป็นทนายจริง ๆ มีตัวตน ประกอบอาชีพทนายความ ปัจจุบันอยู่ที่อุดรธานี วันนี้มาเพื่อรายการนี้โดยเฉพาะ เพราะว่าคดีนี้มันดังมันใหญ่มาก ทุกคนอยากรู้ว่าทนายเอ็มคือใคร มาจากไหนมีตัวตนจริงมั้ย
มีตั๋วเป็นทนายมากี่ปีแล้ว?
ทนายเอ็ม : ผมเป็นทนายมาปีนี้ 24 ปีแล้ว
ทำไมมาอยู่ ่ในข่าวได้?
ทนายเอ็ม : ช่วงนั้นมาจากทนายในคดีมีการพูดถึงว่ามีตัวละครโผล่มาอีกแล้ว มีทนายเอ็ม ทุกคนก็อยากรู้ว่าทนายไหน จริงมั้ย
ทนายเอ็มไปเกี่ยวข้องกับ 5 คนบนเรือด้วยหรือเปล่า?
ทนายเอ็ม : ยืนยันว่าคดีน้องแตงโม ผมไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ได้เป็นกุนซือของทั้ง 5 คน ผมไม่มีความคุ้นเคยรู้จักกันมาก่อนหน้านั้นเลย
รู้จักเพื่อนหรือญาติของทั้ง 5 คนมั้ย?
ทนายเอ็ม : ไม่รู้จักเลย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยครับ
ถ้าไม่รู้จัก ทำไมหน้าและชื่อทนายเอ็มถึงไปอยู่ในข่าว?
ทนายเอ็ม : ตอนนั้นข่าวกำลังโด่งดัง หลายช่องบอกว่าทนายเอ็ม ทุกคนกล่าวแต่ชื่อเล่น แต่ไม่รู้เอ็มไหน สื่อทุกสำนักพยายามค้นคว้าหาว่าทนายเอ็มมีตัวตนจริงมั้ย จนบังเอิญว่ามีช่องนึงเขาก็ไปเจอภาพของผม จากเพจทนายเอ็ม ซึ่งเป็นเพจของผมเอง แล้วปรากฏว่าเขาเอาภาพนี้ขึ้นประกอบ แล้วทุกคนในสังคมจากที่ดูข่าวและเห็นภาพปรากฏมันคือตัวผมชัดเจน ทำให้ทุกคนพิพากษาไปแล้ว
ก่อนเขาไปเสนอข่าว เขามีการติดต่อเรามั้ย?
ทนายเอ็ม : ไม่มีเลยทั้งที่ในเพจผมมีทั้งเบอร์โทร มีทั้งไลน์ ก็ไม่มีสำนักข่าวไหนโทรมา มารู้ก็ตอนเป็นข่าวไปแล้ว วันนั้นวันที่ 6 เม.ย. ที่รู้เพราะมีคนรู้จัก เพื่อนผม ซึ่งเป็นอัยการ เขาส่งลิงค์มาถามว่า อ้าว ทนายเอ็มดอดไปพบตร.จริงมั้ย ก็คาใจสงสัย เขาบอกว่ามีภาพเอ็งปรากฏชัดเจนเลยนะในหน้าจอทีวี ว่าดอดไปพบตร.ให้การในข้อหาให้การเท็จโดยการเสี้ยมทำลายพยานหลักฐาน
สำนักข่าวเขารายงานข่าวยังไง?
ทนายเอ็ม : เขารายงานว่าทนายเอ็มดอดพบตร.แล้ว ไปให้การ ซึ่งโดนข้อหาหนัก ทำลายพยานหลักฐานเป็นเท็จ ยุยงส่งเสริม หลังเป็นข่าว วันนั้นผมก็โดนทัวร์ลง ไม่ได้ลงในทางที่ดี ลงในทางที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงในอาชีพทนายผม ว่าผมเป็นทนาย ไปทำแบบนั้นได้ไง ไปช่วยคนผิดให้เป็นคนถูก โดนยำใหญ่ ด่าเละ ทั้งในเพจ และในคอมเมนต์ช่องทางรายการ
มีคนบอกว่าควรโดนถอนใบอนุญาตทนายความ?
ทนายเอ็ม : เหมือนโดนพิพากษาไปแล้ว
มีคนเลิกจ้างเราเลยมั้ย?
ทนายเอ็ม : มีการต่อว่า ผมดังชั่วข้ามคืน แต่ดังแล้วผมจะดับมั้ย มันดังในทางไม่ดี หลังดังชั่วข้ามคืน ต่อไปถ้าดังแล้วดับในอาชีพทนายความจะเยียวยาผมยังไง
เครียดมั้ย?
ทนายเอ็ม : เครียด ลูกความที่รู้จักก็สอบถามมาเยอะ ผมเป็นทนายความมา 24 ปี มีลูกความพอสมควร โดนกระหน่ำทัวร์ลงแบบนี้
พอรู้เรื่องได้ติดต่อไปสำนักข่าวมั้ย?
ทนายเอ็ม : ผมไม่ได้ติดต่อ และสำนักข่าวก็ไม่ได้ติดต่อผมมาเลย ผมร้องผู้สื่อข่าววันต่อมา ที่จ.นครพนม ตอนนั้นผมไปทำคดีพิพาทที่ดิน ที่นครพนม มันก็เลยได้ขอความเป็นธรรมจากสื่อ มีการเผยแพร่ว่าทนายเอ็มที่ปรากฏไม่ใช่ผม และช่อง 18 ก็ได้สัมภาษณ์ผมทางโทรศัพท์อีกช่วงนึงช่วงข่าว
หลังจากนี้จะดำเนินการยังไงต่อ?
ทนายเอ็ม : คือมันกระทบกับวิชาชีพผม ยังไงก็ต้องใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ผมอาจฟ้องร้องดำเนินคดี เรียกค่าเสียหายทางแพ่ง แต่ตอนนี้ผมได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว ที่สภ.เมืองนครพนม พนักงานสอบสวนรับเป็นคดีไว้เรียบร้อยแล้ว
แจ้งใครบ้าง?
ทนายเอ็ม : ช่องท็อปนิวส์และ 2 พิธีกรดัง คุณกนกและคุณธีระ ระบุชื่อได้เลยครับ ผมรู้ดีว่าเขาเป็นพิธีกรดัง ช่องก็ไม่ธรรมดา ผมไม่กลัวครับ ตราบใดที่เราดำเนินการตามกฎหมาย ผมเป็นทนายความ หนักกว่านี้ก็โดนมาแล้ว เราใช้สิทธิ์ตามกฎหมายและด้วยความชอบธรรม ด้วยวิชาชีพเป็นทนายความเราไม่ต้องกลัวครับ ผมแจ้งความวันที่ 8 เม.ย. ตร.อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเข้าข่ายยังไงเขาจะเรียกผู้ต้องหาไปสอบสวนให้การ ผมมีหลักฐานชัดเจน คลิปวิดีโอ ผมเซฟไว้หมดแล้ว
ถ้าเขาขอโทษ?
ทนายเอ็ม : ก็เป็นขั้นตอนต่อไป ว่าผมจะดับหรือรุ่งก็อยู่ตรงนี้ด้วย