“แอน จักรพงษ์” ฟาดยับ “เปลี่ยนเพศ เปลี่ยนคำนำหน้า” กว่า 2 ปี ติดขัดเพราะคุยกับไดโนเสาร์ !
“แอน จักรพงษ์” ฟาดยับ เมืองไทยล้าหลัง “เปลี่ยนเพศ เปลี่ยนคำนำหน้า” กว่า 2 ปี ติดขัดเพราะคุยกับไดโนเสาร์ ! จะสู้ไม่ถอยเพื่อลูก ๆ LGBTQ
ออกมาเรียกร้องกว่า 2 ปีแล้ว สำหรับ “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือเจเคเอ็น กับกรณีเปลี่ยนเพศ ต้องเปลี่ยนคำนำหน้าเป็นนางสาว ล่าสุดแอนได้เผยถึงการต่อสู้เรื่องนี้ กลางรายการ “เป็นเรื่องใหญ่” ออนแอร์ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.10-17.55 น. ทางช่อง JKN 18 ดำเนินรายการโดย “อั๋น ภูวนาท คุนผลิน” พร้อมเผยเหตุผลว่าติดขัดอะไร และหลังจากนี้จะเดินหน้าลุยอย่างไรต่อไป
ทำไมมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเราต้องมาเอง?
แอน : “ทำไมไม่เป็นนางสาวสักทีไม่เข้าใจ เราแปลงเพศมาตั้งนานแล้ว และนี่มีลูกมีสามีเรียบร้อยแล้ว ดิฉันอยากจะบอกว่าการเปลี่ยนเพศเปลี่ยนคำนำหน้าหมายความว่าต้องแปลงเพศแล้วไม่ใช่แต่งเป็นผู้หญิงเฉย ๆ ไม่ใช่มีแค่หน้าอก แต่อวัยวะเพศเป็นผู้หญิงแล้วร้อยล้านเปอร์เซ็นต์ เปลี่ยนจากนายเป็นนางสาวเดี๋ยวนี้”
การแปลงเพศในประเทศไทย ณ ปัจจุบันนี้ถูกกฎหมาย?
แอน : “ถูกกฎหมาย”
อนุญาตให้แปลงก็ต้องอนุญาตให้เปลี่ยน มันขัดแย้งกัน?
แอน : “ใช่น่ะสิ นี่เก่งมาก แต่ทำไมรัฐบาลไม่คิดนะ ไม่เข้าใจ พยายามส่งเรื่องมานานแล้ว วันนี้ทำไมแม่ต้องมาคุยเอง เพราะว่าเราคุยมาตั้งแต่ 2019 gender title change with gender change คือการเปลี่ยนเพศเปลี่ยนคำนำหน้า แปลงเพศเสร็จเราต้องมีสิทธิ์เป็นผู้หญิง คือเราจะเดินทางเราจะทำงาน ศักดิ์ศรีของการเป็นผู้หญิงเต็มตัว การมีลูกมีสามี การทำงาน การจดทะเบียนสมรส ตลอดจนเรื่องกฎหมายทุกสิ่ง การหางานก็เป็นเรื่องสำคัญ มันคือ dignity ของมนุษย์ ตื่นเช้ามาคนที่เป็นผู้ชายแล้วได้บัตรประชาชนมาเป็นนางสาวคุณรู้สึกยังไงคะ ผู้หญิงได้บัตรประชาชนรัฐบาลบังคับให้คุณใช้นานคุณรู้สึกยังไงคะ เหมือนกันหมดเลยค่ะ มันไม่ใช่ตัวเราแล้วเรารู้สึกเสียศักดิ์ศรี เราเป็นผู้หญิงเราต้องได้นางสาว แต่สิ่งนึงที่ต้องพูดอยู่เสมอคือต้อง track back ได้ หมายถึงว่า ใบเกิดไม่เปลี่ยน ใบเรียนหนังสือไม่เปลี่ยน ใบทะเบียนบ้านไม่เปลี่ยน จะเปลี่ยนให้ตั้งแต่วันที่คุณแปลงเพศเสร็จ ของเก่าเราจะไม่ปฏิเสธตัวเอง ต้องอยู่กับความจริง แต่พอเราแปลงปุ๊บ ให้เกียรติเราเถอะค่ะ ใครแปลงเป็นผู้ชายก็เปลี่ยนให้เขาเป็นนายเพราะเขามีอวัยวะเพศชายแล้ว”
ในมุมนึงประเทศไทยเหมือนเปิดกว้างเรื่องนี้นะ แต่ในตัวกฎหมายไปไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม?
แอน : “อุ้ยตาย แม้กระทั่ง miss universe เขายังปล่อยให้คนข้ามเพศขึ้นไปประกวดเลย เขาไปไกลกันขนาดนั้น แล้วเมื่อวานก็เจอนะ ท่านทูตอังกฤษ เขาเป็นคู่เกย์มาประเทศไทยก็ยังบอกกับเราเลย ให้เกียรติทาง JKN มาก ว่าประเทศไทยควรให้ทันยุคทันสมัยขนาดอังกฤษเขายังส่งคู่เกย์มาเลย เพื่อให้เขารู้ว่าเขายอมรับกันเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้น LGBTQ เป็นเรื่องปกติธรรมดามาก วันนี้ต้องเปลี่ยนเพศและคำนำหน้า ต้องเดินเรื่องให้จบค่ะ”
ในมุมนึงของการต่อสู้ก็มีเรื่องการประสบความสำเร็จ ล่าสุดนี้เพิ่งได้รางวัลมาอีก คือจาก Bangkok Post เขามีการจัด “women of the year 2022” หรือว่าผู้หญิงแห่งปีของปีนี้ จากหลายภาคส่วน หลายวงการ ผู้ที่ได้รางวันด้านสื่อคือคุณแอน จักรพงษ์ ขอแสดงความยินดีด้วย?
แอน : “ค่ะ ด้านสื่อคือน้องลิซ่า black pink ดิฉันก็คิดว่าต้ายตายยังไม่ได้เสี้ยวความงามของเธอ พระเราลงหน้าหนึ่งพร้อมกันเหมือนแม่ลิซ่า”
ถ้ามองย้อนกลับเราไม่ได้รวยมาตั้งแต่กำเนิด?
แอน : “ไม่อยากให้คนมองว่ารวยแล้วได้ แล้วไม่อยากบอกว่าตัวเองรวยเพราะคนนวยหลายคน อยากให้คนมองคุณค่าของการที่ได้คือความมุ่งมั่นตั้งใจความอดทน การทำมาหากินมากกว่า หลายคนคือตีความตื้นเขินมากว่า ก็รวยไงใครๆ ก็มีแต่คนอวยยกย่อง กว่าจะมาเป็นแอนนั่นคือสาระสำคัญ ไม่อย่างนั้นคนรวยไม่ทำมาหากินได้จากพ่อแม่เขาก็ได้กันหมด มันไม่ใช่ การเป็น women of the year หมายความว่ามันไม่ได้สำคัญที่รางวัล มันสำคัญที่ว่ากว่าจะมาเป็นคนๆ นี้แรงบันดาลใจของเราสามารถมอบให้ผู้หญิงคนอื่นได้อย่างไร ก็ขอขอบคุณ Bangkok Post ค่ะ”
คุณแอนรู้ตัวว่าเหมือนเราเกิดผิดร่างตั้งแต่เมื่อไหร่?
แอน : “5 ขวบ การข้ามเพศต้องก้าวผ่านอุปสรรค และนี่เป็นส่วนหนึ่งของ women of the year เป็นอาตี๋ในร้านวิดีโอ ทุกข์มาก คือเป็นตุ๊ดอยู่ที่บ้านไม่ได้ ต้องเป็นอาตี๋แล้วไปเป็นตุ๊ดที่โรงเรียน คุณพ่อคุณแม่รับไม่ได้”
เรื่อง LGBTQ มันมีรายละเอียดเยอะมากเช่นบางคนอยากเป็นผู้ชายแต่แค่ชอบผู้ชาย แต่ย่าของคุณแอนคือรู้เลย?
แอน : “ไม่อยากอยู่ในร่างของความเป็นผู้ชาย คืออยากได้ผู้ชายหรือเปล่านั่นคืออีกเรื่องนึง แต่ว่าต้องอยู่ในร่างของผู้หญิงนั่นคือ it a must ของเราและเราก็ชอบผู้ชายแท้ด้วย นั่นทำให้รู้เลยว่าเราเป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชายแท้ แต่เราอยู่ผิดร่าง แล้วทำไมฉันอยู่ในร่างนี้ฉันไม่เข้าใจ แล้วคนด่าว่า เป็นตุ๊ด เป็นเกย์ เป็นกะเทย แล้วบอกว่าเป็นตุ๊ดไม่เจริญ จนกลายเป็นว่าเราผลักดันตัวเอง เรียนหนังสือให้เก่ง เป็นกัปตันโต้ว่าที ออกพูบนเวทีต่างๆ เพราะเรามีไมโครโฟนเป็นอาวุธ เราไปเตะต่อยกับใครไม่ได้เวลามีคนเขามาบูลลี่เราก็เลยกลายเป็นว่าเราเป็นกัปตันโรงเรียนเลย”
เคยมีสักครั้งมั้ยที่ที่คิดว่าฉันผิดปกติฉันจะเลิก ฉันจะไม่เป็นแล้ว?
แอน : “มี! เพราะว่ามีแต่คนบอกว่าเลิกเถอะ เราก็คิดว่าเราเหมือนบุหรี่ พยายามทำตัวให้แมนสิ มันทำไม่ได้นะคะคุณผู้ชม มันไม่ใช่ choice นะคะฟังให้ดี ๆ ถ้าคุณมีลูกหลานที่บ้านอย่าทำให้เขารู้สึกแย่ไปกว่านี้ อย่าทำบาปกรรมกับลูกหลาน มัน born to be คือมันเกิดมาเป็น LBGTQ โดยเฉพาะ T คือการที่เราเกิดผิดร่าง คุณให้ร่างเขาเกิดมาแล้ว คุณอย่าไปบังคับสมองบังคับจิตใจเขา คุณคิดดูว่ามันไม่ยุติธรรมกับคนที่เกิดขึ้นมา ดูหนังดูละครแล้วคุณไม่สามารถเลียนแบบกันได้ มันไม่เหมือนเหล้าเหมือนบุหรี่ที่สามารถเลิกได้หยุดได้ แล้ว drink กันใหม่ได้ เรื่องนี้คือเรื่องของ born to be คือเกิดมาเป็น ไม่ใช่ option ค่ะ”
เมื่อก่อนเป็นอาตี๋ก็สู้ฝ่าฟันมาตั้งแต่ตอนเรียน ไปเรียนเมืองนอกกลับมาทำงาน ถ้าพูดว่าจุดเปลี่ยนที่หลายคนน่าจะรู้จักเป็นครั้งแรกตอนนั้นเป็นเรื่องของสารคดีเปิดตัวไดโนเสาร์?
แอน : “ยังเป็นอาตี๋เหมือนเดิม คือกลับมาแล้วอยากจะทำตัวเป็นผู้ชาย ความสำเร็จต้องมาก่อน คือหน้าที่มาก่อนสิทธิ”
แล้วเรานึกไว้ในใจมั้ยว่าฉันจะต้องเป็นผู้หญิงในสักวันหรือไม่แน่ใจ?
แอน : “มีความหวังเสมอ แต่ว่าไม่กล้าบอกคุณพ่อคุณแม่ ทำไมรู้มั้ย จบที่ออสเตรเลีย หิ้วกระเป๋าใบนึงไปเรียนหนังสือคือไม่สามารถยอมรับได้อีกแล้วในประเทศไทย คือโดนด่าโดนบูลลี่ ฉันไปประเทศใหม่ได้มั้ย ฉันไปที่โน่นฉันทำงานปั๊มน้ำมันนะ แล้วเรียนหนังสือไปด้วย ซื้อรถได้คันนึง จนเรียนจบอายุ 20 ก็ยังเป็นผู้ชายเหมือนเดิม ตัดผมสั้นเลยคราวนี้ แล้วคิดว่าลองดูซิ ถ้าเป็นผู้ชายได้ก็จะลองดู เป็นไม่ได้หรอก แล้วก็เริ่มเอา working of dinosaur มาขายได้ 1 ล้านตลับ ก็คือเอามาขายทางทีวี ตอนนั้นก็ tv direct รู้จักกันดีกับโปรเจกต์นี้ แอนเป็นคนไม่ยอมแพ้เรื่องอะไรง่าย ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างคือถ้าไม่ได้ปุ๊บเนี่ยย้ายตลาด แล้วเราก็เริ่มเก็บเงิน กลายเป็นว่าขายคอนเทนต์แทน เพราะ dvd สมัยก่อนผีเต็มไปหมด พอเรารวยจากบางโปรเจกต์ ต้องรู้จักฉลาดในการเก็บตังค์ และคืออย่าไปผลาญกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ก็เลยเปลี่ยนการค้าเป็นค้าคอนเทนต์ ก็คือเข้าไปหาทางอากู๋แกรมมี่ ก็ขายทุกคน อากู๋เป็นเจ้าสุดท้ายที่เข้าไป เพราะพี่บูรณ์บอกว่ามาเปิดบริษัทด้วยกัน ก็เลยเปิดเลย ก็เลยหยุดขายเจ้าอื่น กลายเป็นว่าผลิต cd dvd ยุคสุดท้าย และสุดท้ายมาเปิดช่องด้วยกันชื่อว่า JKN อยู่ในตึกแกรมมี่ เมื่อประมาณ 12 ปีที่แล้ว อยู่กับหลายๆ ช่อง ตอนนี้ไปหมดเหลือแต่ช่องแอน จักรพงษ์ ฆ่าหนังเหนียวไม่ตายอยู่คนเดียวคือ JKN แต่ก่อนเป็น cable satellite ตอนนี้เป็น digital terrestrial tv เป็น JKN18 ค่ะ”
เรื่องของการเปลี่ยนคำนำหน้าสู้มากว่า 2 ปีแล้ว มันติดที่อะไรครับ?
แอน : “คืออย่างนี้ พอเราประสบความสำเร็จ เราเริ่มที่จะไปมีลูก คือเราเก็บสเปิร์มไว้ที่ต่างประเทศยังไม่ได้แปลงเพศนะ แล้วพอมีลูกเสร็จเรียบร้อยแปลงเพศ แล้วก็พบรักกับคุณเบญจมินทร์ ดิฉันสามารถไปจดทะเบียนที่อังกฤษได้นะ แล้วก็เป็นนางสาวนะคะ จบเลย ตัวแม่นี่รอดแล้วนะคะ แต่ที่ทำอยู่คือทำเพื่อรุ่นลูก ๆ ที่อยู่ในประเทศไทยทุกคน passport ของอเมริกันก็เป็น miss เรียบร้อย ประเทศไทยยังเป็น mister ฉันอยากถามว่าฉันรอดแล้วคนอื่น ๆ ลูก ๆ ทุกคนที่เป็นลูกสาวจะเดินทางอย่างไร จะทำมาหากินอย่างไร ก็เลยทำมา 2 ปี ติดอะไรรู้มั้ย เมื่อกี้ working with dinosaurs ใช่มั้ย นี่ talking with dinosaurs ถ้าแปลเป็นไทยคือคุยกับไดโนเสาร์อยู่”
ตอนที่เราเข้าไปคุยกับคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงเขาไม่เข้าใจตรงไหน?
แอน : “หาตัวไม่เจอ คือหมายความว่ามันเป็นกลุ่มไหนทำเรื่องนี้ ส่วนไหนรัฐมนตรีท่านไหนคะ แล้วก็ไม่รู้ว่าเดี๋ยวจะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหรือเปล่า บางคนก็บอกมหาดไทย บางคนก็บอกเป็นสำนักนายก ดิฉันก็เลย งง ก็เลยบอกว่าเอาสตรีข้ามเพศเป็นนายกเลยดีมั้ย จะได้กลายเป็นเปลี่ยนเรื่องสักที นอกเหนือจากรัฐบาลที่เราต้องคิดว่าจะยื่นเรื่องเมื่อไหร่นอกจากจะ talking with dinosaurs ถ้าเขาไม่เข้าใจจริง ๆ เราจะไม่ฝืน แต่เราจะยื่นก็ต่อเมื่อเราได้ครบ 1 หมื่นคน ตอนนี้เรามี 7 พัน ที่ตอนนี้เรามาคุยเนี่ยก็คือว่าเราต้องการแต่ 3 พัน ถ้าส่งไปผิดที่ผิดคนผิดรัฐบาล 1 หมื่นคนดิฉันต้องหาใหม่หมดเลย เพราะฉะนั้นในนี้ 2 step สุดท้ายแล้ว เราต้องได้ เพราะแม่ได้มาหมดแล้ว แม่ห่วงลูกๆ ทุกคน แม่มีทีมกฎหมาย เดี๋ยวมาดูกันว่าฉันจะส่งเมื่อไหร่ ใครเป็นผู้บริหารประเทศช่วงนั้น เพราะฉะนั้นเราอยากจะบอกว่าเราขาดอีกแค่ 3 พัน ทุกคนเขาส่งกันมา 3 หมื่น 4 หมื่น แต่เขาไม่ได้ส่งบัตรประชนเพราะเขากลัวจะไปทำเกี่ยวกับธุรกรรมการเงิน ตอนนี้ไม่ต้องบัตรประชาชนแล้ว แค่เข้าเว็บไซต์ parliament.go.th เราก็แค่เขียนฟอร์มว่าเปลี่ยนเพศเปลี่ยนคำนำหน้า แล้วก็เขียนชื่อ-สกุลคุณ แล้วก็บัตรประชาชน แล้วก็เซ็นกลับมา จบ”
มั่นใจแต่ไหนว่าต้องได้?
แอน : “ต้องสู้ ต้องได้ ถ้าไม่ได้เดี๋ยวฉันไปเป็นนายกเอง ชัดมั้ย ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้สำหรับแอน จักรพงษ์”
มันมีคนบอกว่าคุณแอนทำเพื่อนสนองนี้ดส์ ของตัวเอง?
แอน : “จะสนองทำไมในเมื่อดิฉันก็ได้แล้ว คือพูดจาชัด ๆ เลย สามีเป็นคนอังกฤษ จดทะเบียนก็ได้มาเรียบร้อยว่าเป็นนางสาว เพราะที่โน่นเขารับรอง มีลูกที่อเมริกาโทษทีนะคะใบเกิดของเด็ก 2 คนดิฉันเป็นแม่ เขาเขียนเป็น miss ชัดเจน ดิฉันจะไปอยู่ที่ไหนทั่วโลกคือไปได้หมดนะ ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ ดิฉันรอดแล้ว แต่ ณ วันนี้สิ่งที่เราทนไม่ได้คือ จะดักดานกันไปถึงไหน ฉะนั้นขาดแค่ 3 พันมันนิดเดียวเอง”
ถ้ามันไม่สำเร็จทำยังไง ถ้าได้หมื่นแล้ว?
แอน : “ยังไม่ยื่นถ้ายังไม่มั่นใจว่าคนนั้นคุยรู้เรื่อง ดิฉันมี connection ว่าจะไป talking with dinosaurs”
อยากให้คุณแอนพูดให้คนเข้าใจว่ามันสำคัญอย่างไร?
แอน : “อยู่ไม่ได้ เธอเป็นผู้หญิงแล้วเธอเป็นนาย พูดจริง ๆ นะ ดูไบไม่ให้คุณเข้าประเทศ ดิฉันเดินทางทั่วโลกเอาเงินเข้าประเทศตั้งเท่าไหร่ สตรีข้ามเพศหลาย ๆ คนเก่ง ทำธุรกิจได้ด้วยตัวเอง ต่อไปในอนาคตอาจเก่งกว่าดิฉันด้วย กฎหมายการมีลูก การทำธุรกิจ การสมัครงาน การเดินทาง รับมอบมรดก เราเป็นผู้หญิงไปเขียนคำว่านาย มันขำมั้ย เท่านี้ก็จบพอแล้ว ประเทศทำไมมันล้าหลังขนาดนี้”
ผมเห็นว่าในเพศเดียวกันก็ควรได้รับสิทธิ์เหมือนกัน?
แอน : “ตรงนั้นดิฉันก็สนับสนุน ตอนนี้ลูกดิฉันโตขึ้นเรื่อย ๆ ก็เรียกหม่ามี๊แต่พอเห็นบัตรประชาชนกับ passport ไทยดิฉัน เขาฉลาดพอมั้ยที่จะต้องถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วเขาจะรู้สึกยังไง ต้องเปลี่ยนเดี๋ยวนี้”