เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำ รับมือพายุ “บัวลอย” ป้องกันน้ำเหนือทะลักพื้นที่เสี่ยง

จากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงพัดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ส่งผลให้ที่ผ่านมาพื้นที่ตอนบน บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสาขามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับพายุไต้ฝุ่น“บัวลอย”ที่คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 29 กันยายนนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ในระยะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด วันที่ 28 ก.ย.68 สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา วันนี้ (28 ก.ย.68) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,443 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่สถานี ct.25 แม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 30 ลบ.ม./วินาที ก่อนจะไหลมาสมทบบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ส่งผลต่อเนื่องให้ที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,100 ลบ.ม./วินาที และมีแนวโน้มเพิ่ม

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนที่ไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่องและฝนที่ตกในระยะนี้ กรมชลประทาน จะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตรา 2,100 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 15.00 น.ของวันนี้(28 ก.ย.68)เป็นต้นไป เป็น 2,200 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 21.00 น. และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกคั้นกันน้ำบริเวณ
- คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง
- วัดไชโย จังหวัดอ่างทอง
- อำเภอป่าโมก จังหวะดอ่างทอง
- คลองบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา
- ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ติดกับแม่น้ำน้อย
- วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
- อำเภอเมืองสิงห์บุรี
- อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
- วัดเสือข้าม อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
- ตำบลโพนางดำ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท

เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และยกของขึ้นที่สูง หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป