“ทนายเกิดผล” ถอนคดีวัดพระบาทน้ำพุ หลังจุกโดนสองดอก

“ทนายเกิดผล” เผยสาเหตุถอนตัวทำคดีวัดพระบาทน้ำพุ จุกโดนไปสองดอก “จตุรงค์” เล่านิทาน “เสี่ยอู๊ด” เตือน “หมอบี”
รายการ โหนกระแส วันที่ 14 ส.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 ยังเกาะติดเหตุการณ์ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” กรณีโดนจับตาว่ายักยอกเงินวัดพระบาทน้ำพุ เป็นประเด็นบานปลายไปถึง “หลวงพ่ออลงกต” เพราะโดนขุดนำเงินบริจาคไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ หลังมีสารพัดข่าวลือ ทั้งซื้อที่ดิน 2 พันไร่ ซื้อโรงแรม , โรงเรียน สร้างสนามฟุตบอล
วันนี้สัมภาษณ์ ทนายเกิดผล แก้วเกิด อดีตที่ปรึกษาวัดพระบาทน้ำพุ, จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา และ ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“หมอบี” แจงปมไม่โอนเงินให้หลวงพ่ออลงกต ปัดยักยอก เคลียร์เหตุใช้เงินสด
หลักฐานมัด! ที่ดิน 2,300 ไร่ “หลวงพ่ออลงกต” ทายาทอดีตไวยาวัจกรแจงยิบ
แฉเดือด! อดีตทีมงานแฉ “หมอบี” ไม่มีญาณจับผี รวยผิดปกติ-หลักฐานเพียบ

เมื่อวานแก้วโพสต์ไปเยอะแยะ?
ทนายแก้ว : หมั่นเขี้ยว ใบอนุโมทนาต้องให้วัดเป็นคนออก หรือรับของโจรต้องมีเจตนา ต้องชัด ๆ แบบนั้น ปลายน้ำปลายทางอะไรก็ไม่ใช่หรอก มันต้องดูหลักการ
เขาบอกเป็นแทงก์น้ำ เงินไปอยู่ในนั้น ดูอยู่ใช่มั้ย งงมั้ย?
ทนายเกิดผล : งง
วันนี้สีหน้าพี่เกิดแจ่มใสขึ้นเยอะ?
ทนายเกิดผล : ไปฟอกไตมาเมื่อวันก่อนครับ
พี่มาวันก่อน เอาตรง ๆ ผมตกใจเลย สีหน้าพี่ซีด คล้ำ จนคิดว่าพี่ไม่สบายมากหรือเปล่า?
ทนายเกิดผล : วันนั้นผมไม่ได้นอน สองผมไม่ได้กินยา (หัวเราะ) รีบเกินไปก็เลยลืมทานยา แล้วมาโดนเชือดที่นี่ ไปไม่ถูกเลย
จตุรงค์ : (หัวเราะ) เอ็นดู
ถอนตัวเพราะอะไร?
ทนายเกิดผล : วันนั้นวันหยุดไปอยู่ปราจีนฯ แล้วมีทางคุณปู เลขาฯ โทรมาบอกตั้งแต่วันเสาร์ เขาบอกว่าจะมีคณะทนายความของสภาทนายความจะมาพบหลวงพ่อเพื่อปรึกษาหารือ และอาจเข้ามาเป็นทนายความ เขาก็เชิญผมเข้าร่วมประชุม แต่ผมไปไม่ได้ ผมไปพักผ่อนที่ปราจีนฯ จนกระทั่งเย็นวันอาทิตย์ พี่ปูโทรมา ให้หลวงพ่อคุยกับผมเอง ท่านบอกผมว่าเป็นทนายความจากท่านนายกวิเชียร เป็นลูกศิษย์ท่าน เป็นห่วง เลยส่งคณะทำงานมา ผมก็เข้าใจว่าคณะทำงานที่มาจากนายกหรือคุณปูบอกผมว่าเป็นทนายความจากสภาทนายความ ผมก็เลยเข้าใจว่าเป็นคณะทำงานจากสภาทนายความ เพราะจากการสนทนามันเป็นอย่างนั้น เมื่อมีทนายจากสภาทนายความ ผมก็โอเคแหละ ทุกท่านมีความสามารถอยู่แล้ว ผมก็ไม่ได้กังวลใจ ผมก็เลยบอกหลวงพ่อว่างั้นโดยมรรยาทแล้ว ผมต้องถอนตัวนะครับ เพราะมีทนายความใหม่แล้ว จะได้ทำงานได้เต็มที่ ประกอบกับผมไม่สบาย ผมไม่อยากให้ใครว่าผมได้ว่า คนอื่นทำงาน แต่เราไปหาหมอ ไปฟอกไต ไม่อยากให้ใครมองผมเป็นตัวถ่วงหรือตำหนิผม ผมเลยบอกหลวงพ่อว่าขออนุญาตถอนทนายนะ หลวงพ่อก็อนุญาต ผมก็ขออนุญาตหลวงพ่อแจ้งสื่อมวลชนเพราะถ้าใครมีอะไรจะได้สอบถามทนายชุดใหม่หรือทางวัดโดยตรง ผมก็โพสต์ไปตามที่ได้รับข้อมูลตรงนั้น
จบกันด้วยดี?
ทนายเกิดผล : จบด้วยดี ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ
ที่พี่โพสต์ยืนงงในดงลิงคืออะไร?
ทนายเกิดผล : เกิดจากการสื่อสารแล้วไม่เป็นอย่างที่ผมโพสต์ ประการแรกมีสองเรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องที่ผมให้สัมภาษณ์สื่อว่าไปฟ้องเอา

เรื่องฟ้องเอา เกิดจากที่ดิน 2 พันกว่าไร่ที่ถูกขุดมา หนึ่งในผู้ถือครองคือคุณธนชัย ถือไว้ 700-900 ไร่ ปรากฏว่าแกตาย แกเป็นไวยาวัจกรคนเก่า พอตายวัดก็ทวงถาม ทายาทคืนไปแล้ว 300 กว่าไร่ หลังผู้วายชนม์ตายไม่กี่เดือน มีเงินสดอีก 2.7 ล้าน ประเด็นถัดมาคือที่ดินยังขาดอยู่ ต้องเอามาคืนที่วัด ที่วัดทวงแล้ว ครั้งแรกบอกจะคืน ครั้งที่สองพี่เกิดบอกเขาอิดออด ครั้งที่สามเขาบอกไปฟ้องเอา พี่เกิดบอกว่าทั้งหมดทายาทแจ้งวัดมา และวัดถ่ายทอดพี่เกิดผลแบบนี้ ขณะเดียวกันพอพี่เกิดผลแถลงข่าวหรือพูดแบบนี้ออกมา กลายเป็นว่าทางวัดบอกว่าฝั่งทายาทไม่เคยพูด ทายาทก็บอกว่าไม่เคยพูด พี่เกิดก็เสียคน?
ทนายเกิดผล : ใช่ พอผมเข้าไปเป็นทนายของวัด ต้นปี 68 เอาเรื่องนี้มาปรึกษาผม บอกว่ามีที่ดินแปลงนึง ไม่ได้บอกจำนวนนะ ที่ท่านไวยาวัจกรคนเก่าถือครองไว้แต่เสียชีวิต ยังอยู่กับทายาท ไม่ได้คืนให้วัด ผมก็แจ้งให้ไปทวง ครั้งแรกคนไปทวงบอกว่าเขาอิดออด บอกว่าไม่สะดวก ยังไม่ว่าง ผมก็เลยบอกว่าคุณต้องคุยเป็นทางการแล้ว หลวงพ่อยังบอกว่างั้นเรียกประชุมกัน แต่เขาไม่มา เขาปฏิเสธ พอมีการประชุมครั้งที่สอง คนที่พูดจำได้ว่าเป็นสมพร ไวยาวัจกรพูดในที่ประชุม มีหลวงพ่อนั่งเป็นประธาน และอีกหลายคนเป็นคณะกรรมการร่วมฟังอยู่ พี่ไวยาวัจกรคนนี้บอกว่าเขาไม่คืน อยากได้ไปฟ้องเอา ทุกคนในที่ประชุมยังร้องเห้ยเลย หลวงพ่อบอกว่าเขาคงไม่เนรคุณขนาดนั้นมั้ง เดี๋ยวต้องเรียกคุย ซึ่งประโยคนี้ผมพูดจากสิ่งที่ได้ยินมา ผมไม่ได้ยินจากปากทายาทเขา ผมได้ยินไวยาฯ คนปัจจุบันพูด หลังผมพูด แพรรี่ก็โพสต์ว่าทายาทติดต่อมาไม่เป็นความจริงอย่างนั้นอย่างนี้ ด้วยความไม่สบายใจ ทำไมกลับกันแบบนี้ ผมก็โทรหาหลวงพ่ออีกครั้งนึง หลวงพ่อยืนยันว่าหลวงพ่อก็ได้ยิน ผมก็ถามกรรมการอีกท่านในที่ประชุม ทุกคนก็ยืนยันว่าได้ยิน และก็บอกว่าผมเป็นพยานให้ ผมถึงบอกว่าผมไม่ได้พูดขึ้นมาเอง แต่พอผมพูด ไวยาฯ พูดอีกแบบนึง สถานการณ์ตอนนั้นผมเลยโดนโจมตี โดนตำหนิว่าผมพูดเอง อ้าว แล้วผมเป็นอะไรเนี่ย ผมเป็นเหยื่อหรือเป็นทนาย ผมก็งง พอเหตุการณ์ครั้งที่สอง ผมก็ฟังข้อเท็จจริงจากพี่ปูว่าสภาทนายความส่งคนลงไปช่วย อยู่ ๆ สภาทนายความประกาศโป้งว่าไม่ได้มีหน้าที่ ไม่มีเงื่อนไข อ้าว ผมก็ไปไม่ถูกเลยทีนี้
โดนไปดอก2?
ทนายเกิดผล : ผมงงมากว่าผมโดนอะไรเข้าไป ผมโดนหมัดซ้ายหรือหมัดขวา โชคดีสิ่งที่ผมพูดทั้งหมดผมมีหลักฐาน ถ้าไม่มีหลักฐาน ผมคงไม่กล้ายืนยันถึงวันนี้เลย ถ้ามีปัญหาผมพร้อมเอาหลักฐานมาพิสูจน์เลย
ทนายแก้ว : ตอนประชุมไวยาฯ ไม่ได้ทำรายงานการประชุมไว้เลย
ทนายเกิดผล : คงมีแหละ เพราะเขาทำเทปไว้อยู่ แต่ผมไม่ได้อยู่ในห้องประชุมตลอดเวลาไง พอเสร็จประเด็นของผม เขาก็ประชุมเรื่องอื่นต่อ ผมก็กลับก่อน
วันนี้พี่ขาดเลยมั้ย หรือไปทำอย่างอื่นอีกมั้ยของวัด?
ทนายเกิดผล : เรื่องหน้าที่การเป็นทนายความของวัดในส่วนคดีนี้รวมทั้งคดีเกี่ยวเนื่องทั้งหมด ผมไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่เนื่องจากว่าทางวัดมีคำสั่งแต่งตั้งผมเป็นทางการ เป็นหนังสือ ตั้งแต่ 4-5 ปีที่แล้ว ว่าแต่งตั้งผมเป็นที่ทนายที่ปรึกษาของวัด ซึ่งหลวงพ่อยังไม่มีคำสั่งยกเลิก หรือคำสั่งเพิกถอน โดยมรรยาทผมถือว่ายังเป็นอยู่และผมไม่ได้ลาออกไงครับ
ถือโอกาสลาตรงนี้เลยมั้ยล่ะ?
ทนายเกิดผล : ผมต้องไปกราบลาท่านโดยตรงสิ มรรยาทผมก็ต้องมีเหมือนกัน (หัวเราะ) ถ้าผมจะลา ผมก็ต้องเข้าไปกราบลาท่านสิครับ ท่านจะว่ายังไง จะอบรมตักเตือนก็อีกเรื่องนึง
ใบอนุโมทนาบัตรของวัดออกมาได้ยังไง?
ทนายเกิดผล : ผมไม่รู้จริง ๆ ทุกอย่างที่นักข่าวถาม ผมไม่รู้เลย ผมก็ถามทางวัดเหมือนกัน วัดตอบทีก็มาอธิบายให้นักข่าวฟังที มีครั้งนึงหลวงพ่ออธิบายให้ผมฟังแล้วผมจำไม่ได้ เพราะรายละเอียดมันเยอะ ผมเลยขออนุญาตบันทึกเสียง นักข่าวมาถาม ผมก็บอกงั้นฟังเองก็แล้วกัน (หัวเราะ) ผมจำไม่ได้ รายละเอียดเยอะ นักข่าวตามผมไปที่บ้าน เป็นเสียงหลวงพ่อที่เล่าเหตุการณ์ทุกอย่าง แต่ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียด เพราะไม่ได้เป็นทนายแล้ว
แต่เป็นที่ปรึกษากฎหมายไง?
ทนายเกิดผล : เขาไม่ได้ปรึกษาตอนนี้ (หัวเราะ) ไม่ได้ปรึกษาเรื่องนี้
ใบอนุโมทนาบัตรคุณสุรีย์ เขาบริจาคเพื่อไถ่วัวนม ในราคา 2.5 หมื่น แต่กลายเป็นมีตราปั๊มวัด สงเคราะห์ผู้ป่วยโรคเอดส์และเด็กกำพร้า อันนี้ถือว่าผิดวัตถุประสงค์มั้ย สองใบอนุโมนาบัตร หมอบีเอามาให้ได้หรือไม่ สามถ้าหมอบีเอาเงินอันนี้ให้พระ แล้วพระใช้อย่างอื่น ไม่ใช่วัตถุประสงค์เพื่อไถ่โคนม มันได้หรือเปล่า?
ทนายเกิดผล : ผมไม่พูดในฐานะทนายของวัด ผมพูดกลาง ๆ ถ้าเอากลางแบบของเมื่อวานไม่เอานะ (หัวเราะ)
กลางแบบนิ้วเหรอ?
ทนายเกิดผล : อย่าเพิ่งเชือด ให้ผมตั้งสติก่อน (หัวเราะ) ถ้าดูว่าผิดวัตถุประสงค์มั้ย ก็ดูวัตถุประสงค์ของผู้ให้ว่ารับสารมายังไง เอาไปเพื่ออะไร เพื่อการใด ถ้าเอาไปเพื่อไถ่โคนม ก็ต้องเอาไปไถ่โคนม ถ้าเอาไปวัตถุประสงค์อื่นก็ถือว่าผิดวัตถุประสงค์ สองใบอนุโมทนาบัตร ถ้าวัดได้รับโดยตรง วัดก็ออกใบอนุโมทนาบัตรให้ ก็เป็นเรื่องปกติ ส่วนใครถือไป ผมว่าไม่แปลก ใครฝากทำบุญผมก็เอาถวายวัด วัดก็ออกใบอนุโมทนาบัตรให้ ผมก็เอากลับไปให้เพื่อน แบบนี้ก็ได้ แต่จะทำถูกต้องขั้นตอนหรือเปล่าไม่รู้
มีอยู่จังหวะนึงที่ถามเงินบริจาคมาในชื่อหมอบี หมอบีเอาใบอนุโมทนาบัตรของวัด มีตราประทับของวัดปั้ง ให้คนบริจาคไป วัตถุประสงค์ผิดอยู่แล้ว สองใบอนุโมทนาบัตรของวัดมาอยู่กับหมอบีเป็นเล่ม ๆ ได้ไง มันไม่น่าจะได้ สามในเมื่อเงินออกจากชาวบ้านที่ต้องการบริจาคไถ่วัว แต่สุดท้ายเอาเงินไปถวายหลวงพ่อเป็นเงินสด แล้วบอกให้หลวงพ่อ ไม่ได้ให้วัด แต่ปลายทางหลวงพ่อจะเอาไปใช้อะไรก็เป็นสิทธิ์ของหลวงพ่อ อยู่ที่เจตนา แต่ใบถูกออกจากวัด ตราปั๊มเป็นของวัด หลวงพ่อจะเป็นคนถือครองได้ไง ต้องเอาเข้าวัดหรือไม่?
ทนายเกิดผล : ถ้าตามหลักฐานเมื่อใบอนุโททนาบัตรออกจากวัด แสดงว่าเงินบนริจาคต้องเข้าวัดจะเป็นอื่นไม่ได้
แต่ทนายเขาบอกว่าไม่เป็นไร ปลายทางอยู่ที่หลวงพ่อเอาไปทำอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องบุญหรือเปล่า?
ทนายเกิดผล : ความเห็นผมกับทนายหมอบี อาจไม่ตรงกัน ไม่เกี่ยวทนายฝั่งตรงข้ามนะ เราต้องคุยกันบนหลักการก่อน ถ้าคุณจะบอกว่าวัตถุประสงค์ยังไงก็ได้ ขอให้เป็นวัตถุประสงค์ที่ถูกต้อง ต้นทางก็ไม่ผิด ต้องเข้าใจทฤษฏีก่อนว่าผลไม้พิษของต้นไม้มีพิษ ถ้าเริ่มต้นผิดก็ผิดอยู่วันยังค่ำ คุณไปปล้นคนอื่นมาแล้วเอาให้คนอื่น มันก็เป็นความผิดอยู่ดี คุณหลอกคนมา เอาไปให้คนอื่น คุณก็ผิดอยู่ดี คำถามคือต้นมันผิด เป็นผลไม้มีพิษ ลูกก็ต้องเป็นพิษเหมือนกัน อะไรก็ผิดหมด ผมไม่เห็นด้วยเรื่องนี้
ความหมายเขาบอกว่าไม่เป็นไร ใบอนุโมทนาบัตรออกจากวัด แต่เงินให้หลวงพ่อ หลวงพ่อก็เอาไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของหลวงพ่อ ปลายทางดีถือว่าดี?
ทนายแก้ว : ไม่ได้ครับ (หัวเราะ)
จตุรงค์ : ถ้าคิดอย่างนี้ตาย คสช.ไปบุกวัดธรรมกายมาจบ ทนายพูดอย่างนี้ทนายไม่รู้ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับอนุโมทนาบัตรเลยว่าความฉิบหายของอนุโมทนาบัตร มีมาตั้งแต่ชั่วกัปชั่วกัลป์แล้ว คดีเครื่องราชย์สมัยก่อนก็โดนจับกันทั่วหน้า เอาใบอนุโมทนาบัตรไปใช้ฟอกเงินกัน ไม่พอสมัยวัดพระธรรมกายเอง จัดระเบียบอนุโมทนาบัตรดีที่สุดก็ยังโดน คุณเอาอะไรมาพูด คุณเคยทำคดีฟอกเงินหรือเปล่า เคยทำคดีเส้นทางการเงินสำคัญ ๆ คุณเคยดีลกับธนาคารแห่งประเทศไทยมั้ย คุณเอาอะไรมาพูด จะบอกเลยเป็นไปไม่ได้ อย่างพี่เกิดผล ยกตัวอย่างธรรมกาย สมมติจะทำบุญ ทำหลังคาสภาธรรมกายสากล 1 พันบาท ก็จะออกอนุโมทนาบัตรเป็นสภาธรรมกาย 1 พันบาท ถ้าทำบุญเศรษฐีถาวร อนุโมทนาบัตรต้องออกมาเป็นเศรษฐีถาวร ถ้าสร้างองค์พระ ที่เจดีย์ ก็จะได้อนุโมนาบัตรเป็นองค์พระที่เจดีย์ มันต้องเป็นแบบนั้นนะครับ จะบอกว่าฉันปล่อยวัว 1 ตัว ได้ดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ ไม่ได้ครับ ถามว่าคนเป็นเจ้าของเงิน พ่อแม่ของเขาที่ต้องการอยากไถ่โคกระบือ เขาหยิบขึ้นมาอ่านแล้วจะรู้สึกยังไง มันไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของเขา ถ้าคุณพูดแบบนี้คุณตาย ไปปิดวัดธรรมกายเขาทำไม ฉิxหายแล้ว

แนวทางออกใบอนุโมทนาบัตร เคยมีปัญหาไม่ใช่ครั้งแรก บางครั้งออกโดยมิชอบ ออกไปแล้วมีการซื้อขายกันเพื่อลดหย่อนภาษี?
จตุรงค์ : ขอเครื่องราชย์ อย่างสมัยปี 2528 คดีเรื่องราชย์ก็อนุโมทนาบัตร ธรรมกายก็โดนอนุโมทนาบัตร โดนกันเยอะ เจ้าคุณสมเด็จชินก็เลยวางนโยบายใหม่ อีโดเนชั่น ลิงก์ปุ๊บ ทำงานปุ๊บ ลิงก์ไปสรรพากรปั๊บ คุณจะขอเครื่องราชย์ ลดหย่อนภาษีก็ได้ ดังนั้นระบบวัดที่มีอีโดเนชั่น นาทีนี้คือสิ่งที่ปลอดภัยที่สุด แต่ผมเข้าใจได้นะ ถ้าจะให้เข้าข้างหมอบีและหลวงพ่อ ผมก็จะบอกว่าสมัยก่อนเราออกสายผ้าป่า สายกฐิน เราก็ให้มัดอนุโมทนาบัตรไปก่อน ใครใส่เท่าไหร่เราค่อยมาหักย้อนหลัง แต่ประกาศปี 63 ทำไม่ได้แล้ว
ย้อนกลับไปบัญชีหมอบีเปิดปี 62 คุณจะออกอะไรก็แล้วแต่ แต่เข้าปี 63 มีคำสั่งออกมาแล้ว อันนี้คือตัวชี้ผิดชี้ถูกเลย ทนายความจะอ้างคงไม่ได้?
ทนายแก้ว : จะออกตามอำเภอใจไม่ได้
แก้วคัดมาให้แล้ว ที่มีใบนี้ออกมาเพราะเคยมีประเด็นวัดนึงในอดีต มีการถกเถียงเรื่องเจ้าอาวาส บางทีมีลายเซ็นเจ้าอาวาส แต่ไม่มีตราปั๊ม บางที่มีตราปั๊มไม่มีลายเซ็นเจ้าอาวาส ก็เลยให้คนอื่นเซ็น มันเลยกลายเป็นวุ่นวายไปหมดเลย เขาเลยออกแนวทางมาแบบนี้?
ทนายแก้ว : เมื่อเกิดปัญหา มติเถรสมาคม มีมติที่ 503/2563 ในกรณีการออกระเบียบเพื่อให้เป็นแนวปฏิบัติเดียวกัน คือว่าใบอนุโมทนาบัตรต้องมีองค์ประกอบทั้งหมด 8 องค์ประกอบ หนึ่งต้องมีเลขที่ เล่มที่ วันเดือนปีที่บริจาค สองต้องระบุชื่อบริจาค ทั้งบุคคลทั่วไปหรือบริษัทห้างร้านให้ถูกต้อง สามต้องระบุจำนวนเงินที่ได้รับบริจาค ทั้งที่เป็นตัวเลขและตัวอักษร ตามที่ได้รับบริจาคจริง อันที่สี่ต้องระบุวัตถุประสงค์การบริจาคให้ชัดเจนว่าบริจาคเพื่อการใด ข้อที่ห้าต้องระบุชื่อวัดและสถานที่ของวัดให้ชัดเจน (อำเภอ/ตำบล/จังหวัด) หกต้องลงลายมือชื่อผู้รับเงิน ตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายจากวัด เจ็ด ผุ้มีอำนาจลงใบอนุโมทนาบัตรต้องมีรายชื่อพร้อม ชื่อเต็มและตำแหน่ง ประทับตราวัดนั้น ๆ ที่ออกใบอนุโมทนาบัตร ข้อที่แปดใส่หมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมล นี่คือเงื่อนไขครับ
สุดท้ายอ้างนอกเหนือแนวทางนี้ไม่น่าจะได้ พอมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแล้ว วัดต้องถูกตรวจสอบด้วย หลวงพ่อต้องถูกตรวจสอบด้วย ถูกต้องมั้ย?
ทนายเกิดผล : ใช่ครับ ผมขี้แจงทางวัดเรียบร้อยแล้วนะครับ ว่าเคสหมอบีแค่สารตั้งต้น หลังจากนั้นจะไปสู่กระบวนการตรวจสอบทรัพย์สินของวัด ผมถึงได้กราบเรียนทาววัดทางหลวงพ่อว่าต้องเตรียมข้อมูล พยานหลักฐานตรวจสอบชี้แจงให้ครบถ้วน บอกไปแล้วครับ
อีกอัน มีประเด็นนึง ช่วงเช้าสำนักพุทธจังหวัดลงพื้นที่ ตัวสำนักพุทธจังหวัด คุณวีระ จำลอง เขาลงพื้นที่ไปวัดพระบาทน้ำพุ ขอทราบข้อมูลบัญชีรายรับรายจ่ายของวัด เบื้องต้นคุยกับคุณสมพร ไวยาฯ วัด มีการนำข้อมูลจากบัญชีมาแสดงให้สำนักพุทธจังหวัดได้ดู ทั้งหมดมี 8 บัญชี บัญชีหลักเข้าระบบสรรพากร ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าตั้งแต่ต.ค.67 ถึงปัจจุบัน มีเงินหมุนเวียนแค่บัญชีละหลักล้านต้น ๆ บางบัญชีมีเงินเหลือในบัญชีหลักหมื่น หลักพัน มันเลยกลายเป็นคำถามของชาวบ้านชาวช่องว่า วันก่อนพี่อเนกมานั่งพี่เอนกบอกว่าตรวจสอบย้อนหลัง 2-3 ปี มัน 200 กว่าล้านที่มีการถอนออกไปให้พระ แต่ทำไมไฉนเลย อันนี้ถึงมีแค่หลักพันหลักหมื่น?
จตุรงค์ : เขาอาจเอาไปใช้ผลิตยาสีฟันก็ได้ครับ มีบางเว็บเพจโพสต์รูปยาสีฟันบริษัทใจฟ้า ซึ่งผมไม่ทราบจริง ๆ ว่าบริษัทใจฟ้าเกี่ยวข้องอะไรกับวัดพระบาทน้ำพุหรือเปล่า แต่เขาขายสโกแกนว่า ซื้ของฉันก็เหมือนทำบุญวัดพระบาทน้ำพุ ยังไงถ้าวัดออกมาชี้แจงได้ก็ออกมาชี้แจงนะครับ ของต่าง ๆ ที่ใจฟ้าผลิตมาเกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุหรือเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะผลิตทำไมของบริจาคท่านก็กองพะเนินอยู่ในวัด แต่ก็เอาครับ เพื่อความสบายใจ
204 ล้านบาท ถ้าหมอบีบอกว่ามีการนำไปใช้ในโครงการจริง ๆ แต่เงินกับหลวงพ่ออาจเป็นอีกส่วนนึงต่าง ๆ นานา แต่เขาบอกว่าเขาให้ร้อยเปอร์เซ็นต์นะ เมื่อวานใบเอกสารที่เขาให้ดู เป็นแค่ค่าวัวนม 100 กว่าล้าน ประเด็นคือตัวเลขแปกล ๆ มั้ย?
ทนายแก้ว : ความผิดปกติมีอยู่แล้ว เนื่องจากเงินชาวบ้านบริจาคเข้ามา เข้าใจว่าบริจาคเข้าวัด แต่ปรากฏเงินไม่ได้เข้าวัดก่อน ผมก็งงแล้ววัดใช้จ่ายเอาเงินตรงไหนมาใช้ พระหรือหมอบี มีการจ่ายแทนวัดไปหรือเปล่า นี่คือเรื่องผิดปกติครับ ตามปกติการตั้งโครงการ ต้องมีระยะเวลากำหนดไว้ สามเดือน เพื่อไม่ให้เงินปนกัน แต่กรณี้ไม่ทราบว่าสุจริตหรือไม่สุจริตก่อน พูดให้ชวนคิดก่อนว่าปกติทั่ว ๆ ไปการตั้งโครงการต้องมีเว้นหน้าเว้นหลังเพื่อให้เงินเคลียร์เป็นโครงการ สมมติโครงการแรกโอนเข้ามา 1 หมื่น ถอนก็ 1 หมื่น อาจจะมีดอกเบี้ย แต่ระยะเวลายังไม่ได้ปิดโครงการ เงินก็จะไขว้กันหมดครับ
เขาบอกเขาทำแบบบ้าน ๆ ?
ทนายแก้ว : ไม่ได้ครับ วัดหรือเจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงาน ต้องมีแบบ หลักบัญชีเอกสารถูกต้องชัดเจน เงินจำนวนหลัก 10-20 ล้าน จะมีคนถอนเข้าถอนออกเพียงคนเดียวไม่ถูกต้อง วัดเองก็ต้องมีคณะกรรมการที่เป็นไวยาวัจกรสองท่านสามท่าน แต่กรณีนี้ผมถือว่ามันผิดปกติครับ
ล่าสุดมีประเด็นโผล่มาอีก แชร์คำสัมภาษณ์เก่าพยาบาลคนนึง เขาบอกว่าพยาบาลคนนี้เคยเสนอเรื่องยาบางตัว สามารถต้านไวรัสเอชไอวีได้ ทำให้ผู้ป่วยมีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่วัดบอกไม่เอา เดี๋ยวมีปัญหา ถึงขั้นขู่ฆ่ากันเลย คนพาดพิงวัดพระบาทน้ำพุ เรื่องการขู่ฆ่าเยอะมากเลยนะ พี่ได้ยินข่าวมั้ย?
ทนายเกิดผล : เคยได้ยินครับ
จตุรงค์ : ผมไม่เคยได้ยินเรื่องการขู่ฆ่าแต่เคยได้ยินเรื่องการทะเลาะกันในที่ประชุมเอดส์โลก ปี 2004
ทนายแก้ว : ผมเคยได้ยินครับ
ตัวแทนวัดพระบาทน้ำพุดูอยู่อย่าโกรธแค้นผมนะ ถ้ามีอะไรโน่นเลย พุทธอภิวรรณก่อน?
จตุรงค์ : อ้าว ทำไมโยนให้เขาล่ะ
ผ่านพุทธก่อน มีพุทธ อุ๋ย ภาคภูมิ พี่สรยุทธ ผมหลัง ๆ ล่าสุดทนายเดชาหรือทนายจุ๊กกรู แกลงข้อความเอาไว้ค่อนข้างชัดเจน แฮชแท็กเจ้าอาวาสบางวัดแยกไม่ออก ระหว่างเงินวัดกับเงินหลวงพ่อเอง แกโพสต์ต่อว่าการเอาใบอนุโมทนาบัตรซึ่งเป็นเอกสารของวัดเอาไปใช้ส่วนตัว แต่ไม่ได้มีการเอาเงินเข้าวัด เปรียบเหมือนการออกใบกำกับภาษี ซึ่งไม่มีการซื้อขายจริง เท่ากับว่าเป็นใบกำกับภาษีปลอม คดีนี้สุดท้ายแล้วเชื่อว่าน่าจะมีคนถูกดำเนินคดีตามมาตรา 147 และมาตรา 157?
จตุรงค์ : น่าเป็นห่วงจริง ๆ นะ เพราะถ้าคนที่เขาทำบุญไป เอาไปลดหย่อนภาษี แล้วสรรพากรตีกลับขึ้นมา อะไรจะเกิดขึ้น แล้วถ้าคนเหล่านั้นรวมตัวแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่กองปราบปรามอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเขาทำคนละ 2.5 หมื่น แล้วใช้ไม่ได้ขึ้นมา เขาก็แจ้งความได้นะ ตั้งแต่เอกสารเท็จเลย
ทนายแก้ว : ส่วนนี้จริง ๆ สิทธิ์ขาดอยู่ที่หลวงพ่อกับกรรมการวัด ถ้าเกิดหลวงพ่อสมมติรู้เห็นเป็นใจหรือเปล่า ตรงนี้สำคัญ ถ้าไม่รู้เห็นพลั้งเผลออีกเรื่องนึง แต่กรณีตัวเองรู้หรืออาจมีซัมติงรอง ผมว่าอาจจะโดนตั้งข้อหาได้
เอกสารถือเป็นใบกำกับภาษีเหมือนกัน?
ทนายแก้ว : ใช่ครับ เงินมา ใบนี้ไป เงินเข้าวัด ใบนี้ออก มันต้องชนกันได้ครับ
ใบอนุโมทนาบัตร ถ้าทำบุญกับบี แล้วบีเอาให้พระ พระเอาไปใช้โดยไม่เข้าวัด ใครผิด?
ทนายเกิดผล : ถือว่าร่วมกัน ผิดทั้งคู่ ตัวพระอาจโดน 157 ตัวโยมผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดได้
ทนายแก้ว : กรณีวัดเองเพิกเฉย รู้ทั้งรู้ว่าเอกชนเอาตราเอาอะไรไปใช้ อาจเป็นตัวการร่วมก็ได้ กรณีที่พี่พูด ถามว่าผิดมั้ย ความเห็นผม เขาเรียกว่าผิดครับ
ไม่ได้กล่าวหา พูดตามเนื้อผ้า ถ้าเป็นกรณีแบบนี้ไม่ถูกต้อง?
ทนายเกิดผล : พูดตามหลักข้อกฎหมายครับ
ทนายแก้ว : ประชาชนที่มาบริจาคเข้าใจว่าเป็นโครงการของวัด แต่เงินเข้าบัญชีส่วนตัวของนายคนนึง แล้วปรากฏเอาใบอนุโมทนาบัตรของวัดมาให้ประชาชนที่บริจาค ถือเสมือนว่าเงินต้องเข้าบัญชีวัดเต็ม ๆ เหมือนมีนิติกรรมอำพรางบางอย่างเท่านั้นเองครับ
เขาบอกทางวัดเองให้คนอื่นถือครองเอาไว้ ที่ดิน 2 พันกว่าไร่ ไวยาฯ พี่สมพรบอกว่าไม่มีอยู่จริง 2 พันกว่าไร่เป็นชื่อที่เรียกเฉย ๆ เป็นชื่อโครงการ คล้าย ๆ 3 พันโบก แต่รู้มั้ย คุณธนชัย ไวยาฯ คนเก่า ถือครอง 906 ไร่ 2 งาน 38 วา มีบริษัทนึง บริษัท เอ ..ทาวเวอร์จำกัด ถือครองอยู่ 843 ไร่ 2 งาน 20 วา นายวิชัย 416 ไร่ 2 งาน 70 วา นายศิริชัย ถืออยู่ 16 ไร่ 3 งาน 33 วา น.ส.วรสุดา ถือครอง 25 ไร่ 2 งาน 61 วา มีวัดพระบาทน้ำพุ ถืออยู่ 6 ไร่ กับ 60 วา มีคุณจตุรงค์ ถือครอง 5 ไร่ 2 งาน 42 วา มูลนิธิพระธรรมรักษ์ ถืออยู่ 105 ไร่ 2 งาน กับ 3 วา รวมทั้งสิ้น 2,326 ไร่ กับ 2 งาน 27 วา หนึ่งในผู้ถือครอง เป็นอดีตผอ.สำนักพุทธจังหวัด เคยถือครองที่ดินของวัดเอาไว้?
จตุรงค์ : ห๊ะ! 157 นะครับ หาเรื่องแล้วพี่
พี่เคยรู้เรื่องพวกนี้มั้ย?
ทนายเกิดผล : ไม่เคยครับ ทุกอย่างที่ถามมา ผมไม่รู้เรื่องสักอย่าง ผมก็งง ๆ อยู่ (หัวเราะ)
ทั้งหมดทั้งมวล ต้องรอวัดออกมาชี้แจง ถ้าไม่จริงก็ต้องออกมาชี้แจง?
จตุรงค์ : หลวงพ่อเปิดวาจาหรือยัง
น่าจะเปิด ๆ ปิด ๆ พอมีคนไปสัมภาษณ์ก็จะเปิดหน่อยนึง แล้วจะปิดหน่อย แล้วมีคนกล่าวหาว่าทางวัดเองไปครอง อย่างเช่นไปเทคมา มีโรงแรมลพบุรีอินน์ 35 ล้านบาท พี่เคยได้ยินมั้ย?
ทนายเกิดผล : เคยได้ยินจากเพจต่าง ๆ ที่มีการโจมตกัน
โรงเรียนกำจรวิทย์ ราคา 60 ล้าน มีเดอะรีเจนท์ หมู่ 5 ท่าศาลา 66 ล้าน ที่ดินตรงข้ามเดอะรีเจนท์ ทำเป็นโกดังเก็บของบริจาคไว้จำหน่าย มีไร่ใจฟ้า 100 กว่าไร่ มีสนามฟุตบอล 6-9 สนาม มีที่ดินอ.หนองม่วง และอ.โคกเจริญรวมๆ 2 พันกว่าไร พี่เคยได้ยินเหล่านี้มั้ย?
ทนายเกิดเผล : เฉพาะใจฟ้า อะคาเดมี่ และใจฟ้าฟาร์ม เคยเห็นและเคยไปดู แต่อันนั้นเข้าใจว่าเป็นเรื่องมูลนิธิใจฟ้าหรือนาถะเขา ไม่แน่ใจ เพราะแยกเป็นนิติบุคคลต่างหาก ไม่ค่อยเข้าใจรายละเอียด แต่ของใจฟ้า สนามฟุตบอล ส่วนตัวผมเองนะ หลวงพ่อเคยให้ผมไปดู มีเด็กนักเรียนที่อยู่ประจำ ที่เป็นนักเรียนฟุตบอลอยู่ประจำ ให้ทนายจุ๋ม ภรรยาผมไปสอนทำขนม พวกผมก็ไปสอนทำขนมฟรีนะ สอนวิชาชีพเด็ก มีเด็กอยู่จริง รายละเอียดอื่นไม่ค่อยรู้ครับ
พี่คลุกคลีกับวัดมานาน พี่พอจะรู้มั้ย มีวงดนตรีวงใหญ่ ๆ มีชื่อเสียงโด่งดัง หรือมีนักแสดงบางคนมักไปนำเสนอว่าเดี๋ยวจัดคอนเสิร์ตที่วัดพระบาทน้ำพุ สมมติมีบัตรพันใบ ไม่ได้เอาไปขายนะ พันใบให้หลวงพ่อแล้วเอาเงินมาล้านนึง ให้หลวงพ่อไปขายเอง พี่รู้มั้ย?
จตุรงค์ : เพื่อ!
มีนักแสดงบางคนไปขายงานเสร็จ เอาเงินมา วัดก็เหมือนโดนเอาเปรียบมุมนี้เหมือนกันนะ?
ทนายเกิดผล : เคยได้ยินครับ
ขั้นตอนต่อไปหลวงพ่อต้องทำยังไง ในฐานะพี่เป็นที่ปรึกษา แม้ไม่ได้เป็นทนาย ถ้าเป็นพี่ พี่ทำยังไง?
ทนายเกิดผล : ผมอยากให้หลวงพ่อและลูกศิษย์แสดงสปิริตให้มันชัดเจน เอาหลักฐานออกมา มีอะไรที่เขากล่าวหาเรา เอามาแสดงให้มันถูกต้อง บัญชีรับจ่าย เอกสารทุกอย่างที่เอามาแสดง ข้อมูลทั้งหมดที่มีคำถามต้องตอบได้พร้อมหลักฐานนะ ไม่ใช่พูดลอย ๆ สิ่งเหล่านี้ ถ้าพูดแล้วไม่มีหลักฐานเขาก็ไม่เชื่อ ถ้ามีหลักฐาน มันอาจเกิดความผิดพลาด ความบกพร่องก็เกิดขึ้นได้ ก็อาจมีคนรับผิดก็ได้ แต่ต้องให้เป็นไปโดยถูกต้องไง ผิดคือผิด แต่จะเกิดจากเจตนาหรือไม่เจตนาก็ค่อยว่ากัน แต่ถ้าจะเคลียร์ทุกอย่าง ต้องแสดงทุกอย่างที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ตัวเองออกมา ถ้าบริสุทธิ์ก็คือบริสุทธิ์ ถ้าจะผิดมันก็ผิด แต่อย่างน้อยได้แสดงเจตนา ดีกว่าไม่ทำอะไร
ทนายแก้ว : สิ่งที่เป็นเรื่องเร่งด่วนต้องเคลียร์ คือเงินบัญชีวัดและบัญชีหลวงพ่อ เงินประชาชนที่บริจาค ต้องเข้าวัด 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าใครก็ตาม เบิก เบียดบัง ถือว่ายักยอก กรณีนี้ต้องดูว่าเงินในบัญชีหลวงพ่อเท่าไหร่ เงินในบัญชีวัดเท่าไหร่ เอามาชนกันก่อน เพื่อทำลายคำว่าทุจริต คดี 341 343 มันขึ้นต้นด้วยผู้ใดทุจริต เพื่อให้หลวงพ่อหลุดพ้น คือเอาเงินทั้งหมดจากบัญชีส่วนตัวและบัญชีวัด เอามาชนกัน และดีแคร์ว่ายอดไปกันได้มั้ย เพื่อให้หลวงพ่อพ้นคำว่าโดยทุจริต อาจไม่ผิดกฎหมายเพราะเงินเข้าออกเท่ากัน แต่ที่ห่วงคือเงินเข้ามีดอกผล เวลาออกก็ต้องมีดอกผล แต่โครงการของหมอบีทับซ้อนกันจนไม่รู้ว่าอะไรคือจุดเริ่มต้นของโครงการต่อ ๆ ไป มันเลยทำให้เงินคา ๆ ๆ กันอยู่ครับ
เมื่อวานเอาตรง ๆ ก็เสียใจเรื่องนึงเหมือนกัน ลืมถามคำถามนึงกับหมอบี เรื่องบัญชี เขาปิดบัญชีไปแล้วใช่มั้ย พอปิดบัญชีไป เรื่องดอกเบี้ยจะยังไง เพราะมีดอก ตรงนี้จะเอาไปถวายพระมั้ย หรือจะทำยังไงกันต่อไป เงินกระทบยอดแล้วเหลือเท่าไหร่ เอาไปให้พระหรือยัง เพราะตอนนี้โอนเงินไปไม่ได้แล้ว?
ทนายแก้ว : ต้องเข้าวัดทั้งหมด จะถือครองไม่ได้
ผมโคตรรอยากถาม แต่ลืม ออกจากหัวไปเลย?
จตุรงค์ : ขยับนิ้วหรือเปล่า
เรื่องขยับนิ้วไม่ได้อะไรนะ มันบังเอิญ ผมเปลี่ยนนิ้วเพราะผมเมื่อย?
จตุรงค์ : ชัวร์นะ ไม่ได้มีเจตนาอื่น คนเอาไปขยี้เยอะมากเลยนะ
ไม่ใช่ ผมเมื่อยก็เลยนั่งอย่างนี้ เอามาชันคางไว้ ผมพักคอไง ไม่มี ว กับ ย นะ คออย่างเดียว เสร็จปุ๊บหาว่าผมให้นิ้วกลาง ไม่ใช่นะ ขอแก้ข่าวหน่อย อาจารย์เห็นบทสัมภาษณ์พยาบาลหรือยัง?
จตุรงค์ : เห็นแล้วครับ เข้าใจในสิ่งที่น้องเขียน แกเป็นคนสัมภาษณ์และเป็นคนเขียน ก่อนมาอยู่บีบีซี แกเป็นเอ็นจีโอแล้ว สมัยก่อนคนที่เขียนอยู่บางกอกโพสต์ เคยทำงานร่วมกันอยู่ พยาบาลคนนั้นต้องเท้าความ จุดตัดคือปี 2004 เราเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอดส์โลก พอจัดปุ๊บ ในที่ประชุมมีคนอยู่สองฝั่ง ฝั่งนึงด่าวัดพระบาทน้ำพุ สาดเสียเทเสียว่าทำไมต้องแยกผู้ป่วย เหมือนที่พยาบาลพูดนั่นแหละ ทำไมต้องแยกผู้ป่วยออกจากครอบครัว ทำไมไม่ให้เขาอยู่ในสังคม แต่ก็มีคนไทยหลาย ๆ คน หลาย ๆ องค์กร หนึ่งในนั้นคือบางกอกเรนโบว์ที่ไปสวนเขาว่าแต่เมืองไทยมันจำเป็นนะ เพราะเราไม่มีโนฮาวไง ไม่มีเทคโนโลยี เราไม่รู้จะดูแลตัวเองยังไง ตอนนั้นกินน้ำแก้วเดียวกันยังกลัวเลย ดังนั้นการใช้ช้อน ใช้อุปกรณ์เดียวกัน ยุงกัดจะติดมั้ย เป็นความหวาดกลัวล้านแปด ดังนั้น LGBT และผู้ป่วยโรคเอดส์ ณ วันนั้น วัดพระบาทน้ำพุคือที่พึ่งสุดท้าย ณ เวลานั้นเราไม่เถียงจริง ๆ แต่เรื่องที่พยาบาลพูด ผมเข้าใจได้ พยาบาลวิชาชีพเขาอาจผ่านยามากว่า 5 ปี เขามีประสบการณ์เรื่องยา แต่วัด ณ วันนั้นไม่มีประสบการณ์เรื่องยา ยาตัวแรกคือที่ใช้กันคือ AZT ซึ่งมันมีปัญหาเยอะ คือหนึ่งไขมันในเลือดอาจสูงได้ หลอน อาเจียน เวียนศีรษะ เท้าลอย ฝันร้าย มันมีเอฟเฟกต์เยอะ ดังนั้นผู้ป่วยมีสิทธิ์รับหรือไม่รับก็ได้ เพราะ ณ วันนั้นเรามียาแค่ตัวเดียว ผมไม่รู้จริง ๆ ผู้บริหารวัดพระบาทน้ำพุเขาคิดยังไงกับพยาบาล แต่ถึงขนาดไปแทงยางรถพยาบาลก็เกินเบอร์ไปหน่อยนึง สำหรับผมมันคุยกันได้ ถ้าวัดพระบาทน้ำพุบริสุทธิ์ใจ ควรเปิดตัวเองเป็นศูนย์วิจัยโรคเอดส์ หรือเปิดตัวเองเป็นรพ.อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ ซึ่งอันนี้น่าจะดีกว่าให้ความร่วมมือกับทางแพทย์ แต่ที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้เห็นภาพนั้น ทุกวันนี้ก็ไม่เห็นภาพนั้น เห็นแต่กองขยะที่เป็นอุปกรณ์การแพทย์เป็นกองพะเนิน ผมก็กังวลอยู่เหมือนกัน ก็ฝากหลวงพ่ออลงกต มีหลายมูลนิธิอยากได้ของที่หลวงพ่อกองไว้เกะ ๆ กะ ๆ มูลนิธิอุดมประชาทรที่เชียงใหม่ก็ดี เขาอยากได้ไม้วอล์กเกอร์หลวงพ่อมาก แม้แต่มูลนิธิเอชไอวีฯ ก็ดี ก็อยากได้นะครับ ถ้าหลวงพ่อคิดว่าไม่สะดวกจะใช้ เทวสถานพระพิฆเนศเชียงใหม่เขาก็อยากได้ ถ้าหลวงพ่อจะกรุณาให้เราไปรับแล้วเอามาแจกจ่ายคนยากไร้ เราขอนะครับ
มีการแชร์บทสัมภาษณ์พยาบาลอาสาที่วัดพระบาทน้ำพุ โดยอดีตนักข่าวบางกอกโพสต์ท่านนึงโพสต์ลงข้อความในหนังสือของบางกอกโพสต์ บอกว่าช่วงนี้วัดพระบาทน้ำพุกลับมาเป็นประเด็นอีกรอบ อยากแชร์บางส่วนบางตอน ชื่อ วัดเอดส์ที่ถูกจับตาอีกครั้ง เขียนเมื่อปี 57 บทสัมภาษณ์พยาบาลที่เคยทำงานดูแลคนไข้โรคเอดส์ระยะสุดท้าย แต่ผู้วิจารณ์กล่าวว่าวัดกำลังหากำไรจากผู้ป่วย ซึ่งสามารถเข้ารับการรักษาในระบบสาธารณสุขด้วยยาที่ช่วยยืดอายุได้ พยาบาลเดินทางไปวัดพระบาทน้ำพุครั้งแรกปลายปี 46 เป็นพยาบาลชาวสวิสฯ สิ่งของจำเป็นหลายอย่างขาดแคลนอยู่เสมอ อาสาสมัครต้องควักเงินส่วนตัวซื้อผ้าปูที่นอน อุปกรณ์การแพทย์ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และอาหารให้ผู้ป่วยเอง ครั้งนึงเลสลีย์ (นามสมมติ) และอาสาสมัครคนอื่น ๆ รวมถึงพญ.สามารถจัดหายาต้านไวรัสเอชไอวีให้ผู้ป่วยได้ถึง 53 ราย จากนั้นสถานการณ์เริ่มยากลำบาก พวกเขาไม่อนุญาตให้ตรวจเลือด หรือเปิดดูแฟ้มเวชระเบียนผู้ป่วย จากนั้นยาต้านก็หายไป เลสลีย์ถูกข่มขู่ ให้หยุดจ่ายยาต้านและออกไปจากที่นี่ซะ ไม่งั้นจะถูกฆ่า วันนึงยางรถจักรยานยนต์ของเธอถูกกรีดจนแบน ในที่สุดเธอก็ออกจากวัดไปในเดือนพ.ย.ปี 47 นับจากนั้นมา ก็ไม่มีแพทย์และพยาบาลทำงานที่วัดอีกเลย ย้ำคำนี้นะ ช่วงวันท้าย ๆ เลสลีย์และอาสาสมัครคนอื่น พยายามช่วยให้ผู้ป่วยออกจากวัด เพื่อกลับไปใช้ชีวิตข้างนอก หรือหากร่างกายอ่อนแอก็จะได้กลับไปรักษาตัวในรพ. จากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่วัดหลายคน พบว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่วัดพระบาทน้ำพุ ถูกญาตินำมาทิ้งเอาไว้ ขณะที่มีเพียงราว 5 เปอร์เซ็นต์ที่มีญาติไปเยี่ยม ผู้ป่วยถูกปลดข้าวของส่วนตัวชิ้นสุดท้าย ไม่ว่ารองเท้าหรือแหวนและถูกปล่อยให้ตายให้เร็วที่สุดเพื่อให้ความอับอายหายไปจากวงศ์ตระกูล นั่นคือยุคนั้น เลสลีย์ที่ปัจจุบันอายุ 50 ปีแล้ว บอกว่าบางคนถูกพามาในสภาพน่าเวทนา เล็บยาว ไม่เคยอาบน้ำ ใกล้ตายหรือเสียชีวิตแล้ว บางครอบครัวไม่รู้ว่ายาต้านมีให้ฟรีและเข้าถึงทุกคนในรพ. แต่พวกเขารู้จากทีวีว่ามีวัดเอดส์อยู่ที่จ.ลพบุรี เธอกล่าวว่าตราบใดที่ยังมีสถานที่แบบนี้อยู่ บางคนจะปล่อยให้ญาติตนเองตายโดยไม่มีโอกาสได้รับยาต้าน มันไม่เกี่ยวกับศาสนาอย่างที่ชาวตะวันตกหลายคนคิด แต่เกี่ยวกับตราบาปทางสังคม วัดนี้เป็นช่องโหว่ที่สมบูรณ์แบบ ทุกวันนี้เลสลีย์ก็ไม่แน่ใจว่าทำไมเธอถึงถูกขอให้ออกจากวัด เธอสันนิษฐานว่าผู้ป่วยดูมีสุขภาพดีเกินไปเมื่อได้รับยาต้าน ซึ่งอาจทำให้เงินบริจาคลดลง?
จตุรงค์ : ช่องโหว่ที่เธอพูด ทุกวันนี้ก็ล่มสลายแล้วไงครับ ผ้าอ้อมถูกทิ้ง แมสก์ถูกทิ้ง แอลกอฮอล์เช็ดล้างถูกทิ้งกองพะเนิน ยาที่ฝรั่งพูดเป็นเรื่องจริง มันรักษาได้ วันนั้นมียาตัวเดียว แต่ตอนนี้พัฒนาขึ้นแล้ว มียาให้เลือกสัก 20 กว่าตัว เรื่องการรักษาโรคเป็นวินัยผู้ป่วยอย่างเดียว เอายาเข้าปากให้ตรงเวลา ยามีสองแบบ กิน 9 โมงกับ 3 ทุ่ม กับอีกแบบ กินครั้งเดียวเลย แต่ขอให้ 9 โมงก็ 9 โมงทั้งชีวิตตลอด เหลื่อมได้ไม่เกินครึ่งชม. แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง มูลนิธิเชียงใหม่ติดต่อผมมาเลยว่าขอได้มั้ย มีประโยชน์กับพวกเขา เอามาทิ้งแบบนี้ทำไม เทวสถานพระพิฆเนศเชียงใหม่ก็ขอได้มั้ย พระเครื่องเอาไปใช้ได้มั้ย ทิ้งทำไม ก็ไม่เข้าใจว่าวัดเกิดอะไรขึ้น ทิ้งทำไม แสดงว่าเราไม่มีผู้ป่วยจริง ๆ แล้วเหรอ เรามีผู้ป่วย 140 เตียงแล้วไม่ใช้แล้วเหรอ ก็เพราะยานั่นแหละคือคำตอบ การรักษามันเปลี่ยนไปแล้ว ความหวาดกลัวในสังคมไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
จะบอกว่าจริง ๆ ไม่ต้องอยู่ที่นี่ก็ได้?
จตุรงค์ : ใช่ครับ แล้วเดี๋ยวนี้โลกเจริญกว่านั้นอีก พอกะเทยโดนปฏิเสธไม่ให้เข้า หรือผู้ป่วยโดนปฏิเสธบ่อย ๆ วัดพระบาทน้ำพุช่วง 10 ปีหลังมีปัญหาเรื่องปฏิเสธผู้ป่วย เดี๋ยวนี้มีคนมาดักเปิดเลย ไม่ต้องเสียเงิน กะเทยพัทยาเดี๋ยวนี้ก็เลิกง้อวัดพระบาทน้ำพุ ทอดผ้าป่ามาเพียบ ถึงเวลาป่วยไม่รักษา เขาไปมูลนิธิที่พัทยา
ที่นี่ไม่รับ LGBTQ เหรอ?
จตุรงค์ : เขาไม่รับผู้ป่วยอะไรเลยมาพักใหญ่แล้ว
แล้วเงินบริจาคล่ะ?
จตุรงค์ : นั่นไง อย่างมูลนิธิเอชไอวี ถามว่ามูลนิธิผม รวมถึงบางกอกเรนโบว์ ทำไมงอนวัดพระบาทน้ำพุ เหตุผลเดียวเลย เราเคยมีการส่งผู้ป่วยไปโดยญาติดูแลไม่ได้ติดงานประจำให้มูลนิธิเราประสานวัดพระบาทน้ำพุให้หน่อยได้มั้ย โดยให้วงเงินแรกเข้าขอทำบุญกับหลวงพ่อ 2.5 หมื่น พี่คิดว่ารับมั้ย
รับ?
จตุรงค์ : ไม่รับ แล้วหลวงพ่อไปบิณฑบาตงก ๆ ทำไมวะ พอมีผู้ป่วยมาให้พร้อมเงินสด 2.5 หมื่นแล้วไม่รับ
ทนายแก้ว : ทำไมถึงไม่รับ
จตุรงค์ : ไม่มีคำตอบจากสวรรค์ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 5-6 ปีแล้วนะ เราเลยส่งไปคลองแปด คุณแม่ไพรัตน์แทน

อยู่ในสายกับ “นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์” ที่ปรึกษา-อดีตนายกสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย อาจารย์แชร์บทความพยาบาล ข้อเท็จจริงเป็นแบบนั้นจริงเหรอ?
นพ.มนูญ : จริงครับ หลังพยาบาลชาวสวิสฯ ถูกไล่ออกจากวัดพระบาทน้ำพุ เขาก็มาหาผม ผมก็ทำงานสมาคมโรคเอดส์ด้วย ช่วงนั้นผมทำอะไรไม่ได้ ซันเดย์ไทม์เขาก็เงียบข่าวในแง่ลบของวัดพระบาทน้ำพุ บางกอกโพสต์ก็เขียนข่าวแง่ลบเหมือนกัน แต่ไม่มีใครอ่านเพราะเป็นภาษาอังกฤษ พอช่วงนี้มีประเด็นร้อน ก็เลยติดต่อคุณหวาน นักข่าวที่เขียนบางกอกโพสต์ให้เขาช่วยแปลเป็นภาษาไทยแล้วลงเฟซบุ๊ก ที่เมื่อกี้คุณหนุ่มอ่าน ผมก็ช่วยแชร์ ทำให้คนรู้ความจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น
นอกเหนือจากเลสลีย์ ยังมีบุคลากรทางการแพทย์คนอื่นโดนด้วย ข้อเท็จจริงเป็นยังไง?
นพ.มนูญ : จริงครับ ทุกคนถูกไล่ออกหมดครับ ไม่ใช่มีแต่พยาบาลคนนี้คนเดียว มีหมอ อาสาสมัครคนอื่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตก และคนไทยด้วย ทุกคนถูกไล่ออกหมด เพราะต้องการให้คนไข้กลับไป ไม่กินยาเหมือนเดิมครับ
เหตุผลที่แจ้งอาจารย์คร่าว ทำไมถึงถูกไล่ออกครับ?
นพ.มนูญ : ช่วงนั้นก่อนหน้าสักปี ไม่มียารักษา รักษาตามอาการ พอมียารักษา ไม่ใช่ AZT ตัวเดียวนะ เป็นยาสามขนานเลยพร้อม ๆ กันเลย กินเข้าไปไม่กี่เดือนคนไข้ก็ดีขึ้น พอดีขึ้นคนเสียชีวิตก็น้อยลง ก็เป็นที่มาว่าเขาไม่อยากให้คนไข้ดีเหมือนเดิม เขาเลยไล่ออกหมดทุกคน
ไม่กังวลเหรอ เดี๋ยวเขาจะหาว่าไปกล่าวหาเขา?
นพ.มนูญ : พยาบาลเป็นคนให้ข่าว ผมเล่าให้ฟังแค่นั้นเอง ผมไม่ได้ทำงานที่นั่น แต่ผมได้ฟังข่าวจากพยาบาลครับ
ถ้ารักษาผู้ป่วยได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ การบริจาคจะลดน้อยลง?
นพ.มนูญ : เขากลัวเช่นนั้น ผมเชื่ออย่างนั้นนะ เพราะแต่ก่อนหน้านั้นเสียชีวิตหมด พอกินยาคนเสียชีวิตลดน้อยลงเยอะเลย คนไข้กลับแข็งแรงขึ้น
มีหลายคนทราบเรื่องนี้?
นพ.มนูญ : หลายคน ไม่ใช่ผมคนเดียวนะ มีคุณหมอที่ทำงานที่นั่นด้วย หลายคน นักวิทยาศาสตร์หลายคน พวกนี้เขาไม่กล้าพูดครับ
กังวลใจอะไรมั้ย?
นพ.มนูญ : มันเป็นความจริง ในที่สุดความจริงก็เปิดเผย ผมเชื่ออย่างนั้น
ยังติดต่อบุคคลเหล่านี้อยู่มั้ย?
นพ.มนูญ : ติดต่ออยู่ครับ คิดว่าไม่กี่วันเขาจะออกมาพูดให้ฟังมากกว่านี้ เพราะเขาอยู่ในเหตุการณ์
จตุรงค์ : ควรพูดนะ ยิ่งบอกว่ามียาสามตัว ยิ่งตกใจเข้าไปอี คุณกำลังปิดกั้นโอกาสเพราะผมข้างเคียงน้อยมาก วัดโคตรปิดโอกาสคนมากเลย เรามีโอกาสรอดชีวิต แต่วัดกลับปล่อยให้เราจากไป ผมว่าไม่แฟร์
นพ.มนูญ : อันนั้นถูกต้องครับ
กรณีที่อาจารย์บอกแบบนี้ ตอนนี้ทางวัดเองก็มีการรักษา?
นพ.มนูญ : ผมไม่ทราบ แต่เชื่อว่าคนไข้น้อยมาก เพราะคนไข้ส่วนใหญ่สามารถไปรับยาได้ฟรีตามรพ.ต่าง ๆ
จตุรงค์ : เดี๋ยวนี้เข้าถึงยาแล้ว แม้แต่คนไม่มีสิทธิ์อะไรเลย มามูลนิธิเอชไอวีก็แจกยาไม่อั้นเหมือนกัน
คำถามคือแล้วทำไมมีใบอนุโมนาบัตร เรี่ยไรเงินช่วยผู้ป่วยโรคเอดส์ มันยังใช้ได้อยู่เหรอ?
ทนายแก้ว : เหมือนยังเป็นจุดขายอยู่หรือเปล่า
จตุรงค์ : วัดอาจต้องแสดงใบซื้อยา เพราะอาจเป็นไปได้ว่าวัดซื้อยาจากสภากาชาดไทย เพราะสภากาชาดไทยมีการขายยาราคาทุนให้ อาจมีผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยา ใช้ยาราคาแพงมาก ถ้าวัดสามารถเปิดบัญชีในการซื้อยาสภากาชาดไทยได้ ผมก็ยกประโยชน์ให้จำเลยนะครับ แต่ถ้าวัดไม่มีการซื้อยาแบบรุนแรง ผู้ติดเชื้อดื้อยา ผมว่าวัดก็น่าจะเหนื่อย
มีคนบอกว่ายังมีคนอยู่?
ทนายเกิดผล : ไม่ได้แก้ตัวแทนวัด แต่สิ่งที่ผมเห็น ผมทำขนมไปแจกผู้ป่วย มีคนอยู่ เอาหนังสือสวดมนต์ไปแจกผู้ป่วย เอาขนมไปแจกผู้ป่วยสองสามครั้ง ผู้ป่วยเต็มทั้งสองชั้นนะ ร้อยกว่าเตียง ผมไม่รู้เรื่องยา แต่ที่สอบถาม เขาไม่มีญาติ ไม่มีบ้าน ไม่มีคนต้อนรับเขา เขาอยู่ตรงนี้จนวันตาย ทีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องยาไง กินอยู่ เสื้อผ้า
ทนายแก้ว : วัดมีภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้
ทนายเกิดผล : ไม่ได้แก้ตัวแทนวัด ผมเจอกับตัวเอง ถามกับตัวเอง เอาขนมนมเนยไปแจกเอง
แล้ววัดเอาเงินที่ไหนใช้จ่าย ในเมื่อวัดมีหลักพัน?
จตุรงค์ : ถ้าคนป่วยอาการหนัก เรามักแนะนำเสมอว่าไปซื้อยาสภากาชาดไทยทำไม ไม่ใช่เขาขายยาราคาแพงนะ เขาขายราคาทุนอยู่แล้ว ในเมื่อคุณสามารถซื้อยาสำหรับเชื้อดื้อยาได้ โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาท ผ่านระบบสวัสดิการของรัฐ ไม่ว่า 30 บาท หรือกระทั่งประกันสังคมไม่ต้องอยู่วัดพระบาทน้ำพุ เท่าที่ทราบ ต่อให้อยู่ที่ไหน คุณก็ต้องกลับมาเอายาต้นสังกัดอยู่ดี เพราะมันไม่เสียเงินไง
ทนายเกิดผล : เท่าที่สอบถาม บางคนไม่มีญาติ มีเจ้าหน้าที่ดูแล แต่ค่ารักษาผมไม่รู้เรื่องหรอก
อยากฝากอะไรมั้ย?
นพ.มนูญ : ติดตามข่าวเรื่องนี้ต่อไปจากคุณหนุ่มนะครับ (หัวเราะ)
ยินดีให้วัดชี้แจง หรือจะชี้แจงทางไหนก็ได้ เป็นคำถามส่วนนึงที่สังคมอยากรู้คุณฝรั่งคนนี้เขามาพูด อาจไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็ได้ ก็บอกมา?
จตุรงค์ : 140 เตียงกับที่คุณพ่อเดินบิณฑบาต มันจะสมเหตุสมผลมั้ย ผมเป็นห่วงมาก ๆ เลยนะ เราต้องมาดูกันว่าวิกฤตกี่เตียง ระดับกลางกี่เตียง ช่วยเหลือตัวเองได้กี่เตียง วัดอยู่ในสถานะดูแลผู้ป่วยวิกฤตได้จริงหรือเปล่า ในเมื่อสถานพยาบาลของรัฐเขาพร้อมดูแลทุกอย่าง มันเลยเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงสำหรับผม ยังไงก็ตามขอบคุณที่มีการเขียนบทความนี้ขึ้นมา ทำให้คนตาบอดแบบผม ตาสว่างขึ้นมาบ้าง ขอบพระคุณครับ
จริง ๆ ทีมงานเราได้พูดคุยกับตัวคุณนักข่าวท่านนี้ ทีมเราถามว่าไม่กลัวเหรอมีการโพสต์แบบนี้แกบอกว่าบรรณาธิการข่าวเป็นชาวต่างชาติ เลยไม่ได้กลัว ไม่ได้สนใจอิทธิพลใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นคำพูดสมัยก่อน ถ้าไม่ใช่ข้อเท็จจริงวัดสามารถชี้แจงได้ มีข่าวออกมาเยอะมาก อาจารย์มนูญก็แชร์?
จตุรงค์ : ตอนนั้นถ้าจ่าย 3 ตัว คุณตัดโอกาสคนป่วยอย่างรุนแรงมาก ถ้าเป็นอย่างที่อ.มนูญว่าจริง ๆ ณ ปี 47 จ่ายได้3 ตัว ผมยังคิดว่าจ่ายได้แค่ตัวเดียวอยู่ เพราะเมืองไทยเราโลว์เทค แต่ถ้าพยาบาลสวิสฯ หอบมาให้อีก 3 ตัวนี่เป็นโอกาสที่เราควรคว้าเอาไว้ เราไม่ควรปฏิเสธโอกาสเลย เพราะเราจะรักษาคนได้อีกเยอะมาก
เรื่องนี้มองว่าจะไปถึงขั้นไหน?
ทนายแก้ว : ผมว่าพระหรือเจ้าอาวาส หลวงพ่อเองถือเป็นเจ้าพนักงาน กรณีนี้ถ้าเจ้าพนักงานอาจเข้าข่ายกรณีความผิดฐานยักยอกได้หรือเป็นเจ้าพนักงานเอาเงินไปใช้ผิดวิธีก็อีกเรื่องนึง ตรงนี้มีความเสี่ยง ส่วนจะไปออกใบอนุโมทนาบัตร โดยมีส่วนร่วมกับหมอบี ใช้เงินผิดประเภทต้องรอพนักงานสอบสวนขยายผลก่อน
มีประเด็นนักร้อง วงดนตรี นักแสดง ไปหาผลประโยชน์จากวัดด้วยเหมือนกัน?
ทนายเกิดผล : ทุก ๆ อาทิตย์จะมีกิจกรรมการทำบุญ จะมีนักร้องหน้าเดิม ๆ ซ้ำ ๆ มาร้องเพลงทุกวันอาทิตย์ช่วงบ่าย มีข่าวเล่าลือว่านักร้องกลุ่มนี้ได้มาขอความช่วยเหลือจากหลวงพ่อ จนเป็นข่าวนะ ผมได้คุยกับลูกศิษย์ลูกหาหลวงพ่อว่ามีจริง แต่เกิดจากความเมตตาของหลวงพ่อนั่นแหละ มีคนเอารูปผู้ป่วยซึ่งเป็นนักร้องในอดีตที่เขาป่วยติดเตียง เอามาให้หลวงพ่อ แล้วพาหลวงพ่อไปเยี่ยม หลวงพ่อเกิดความสงสาร ก็เกิดปรารถว่าหลวงพ่ออยากช่วยเหลือนักร้องที่ตกทุกข์ได้ยาก ก็ปรากฏว่ามีโครงการต่าง ๆ ผุดขึ้นมาของนักร้องว่าจะช่วยวัดช่วยวา แต่ไม่รู้เขาเบิกเงินวัดยังไง ไม่รู้รายละเอียด แต่เห็นนักร้องกลุ่มนี้จริง ส่วนรายได้เพิ่งทราบจากข่าวนี่แหละ ข้อมูลอย่างอื่นผมไม่ทราบเลย
รอหลวงพ่อชี้แจงอีกที เพราะประเด็นนี้ก็มีคนจับตามองอยู่ เปิดคลิปทนายหมอบีพูดเมื่อวาน?
ทนายแก้ว : การประจบสอพลอเลียนายคนละเรื่องกัน การเป็นจิตอาสาช่วยชาวบ้าน คงไม่ต้องมาเลียนาย น่าจะอยู่คนละบริบท ส่วนทำนองไม่แคร์ว่ามายังไง แต่ให้ดูปลายทาง เหมือนผมเป็นโจรปล้นเขา แล้วเอาทรัพย์สินไปช่วยเหลือพี่เกิด แบบนี้ก็ผิดสิครับ ถ้าจะถูกก็ถูกตั้งแต่ต้น เงินเข้าเท่าไหร่ ออกก็เท่านั้น ไม่ต้องอธิบายโดยใช้สำนวนโวหาร อธิบายบ้าน ๆ ก็ได้ คุณทำบุญโครงการกฐิน เอาเงินเข้ากฐินเท่าไหร่ ตอบง่าย ไม่ต้องอธิบายเยอะ
ทางทนายพยายามบอกว่าเงินเอาเข้ามาไม่ว่าจะบริจาคอะไรก็แล้วแต่ เมื่ออยู่ในแทงก์แล้ว สุดท้ายบีเอาเงินจากแทงก์ไปถวายหลวงพ่อ หลวงพ่อเอาไปสร้างโรงเรียน ปลายทางเขาก็ถือว่าถูกต้อง?
จตุรงค์ : จะพูดอย่างนั้นไม่ได้นะ เหมือนพี่เกิดพูดตอนต้น ผลไม้พิษ ต้นผิด ปลายยังไงก็ผิด
ทนายเกิดผล : พูดในฐานะนักกฎหมายด้วยกัน ผมเข้าใจว่าทนายพยายามทำให้สังคมเห็นว่ามันขาดเจตนาทุจริต คิดแต่ผลประโยชน์สังคม แต่เราพูดอย่างนั้นไม่ได้ เริ่มต้นยังไงมา ก็ต้องทำให้สุจริตตั้งแต่เริ่มต้น จะแปรรูประหว่างทางไม่ให้ผิดมันก็ฟังยาก เราไม่ดูคำพูดสวยหรู แต่เราดูจากพยานหลักฐาน จะพูดยังไงก็ได้ จะพูดให้ดูดีแค่ไหนก็ได้ จะพูดให้เป็นพระเอกก็ได้ แต่สิ่งที่ทำเขาเรียกว่าวิญญูชน ไม่งั้นจะมีกฎหมายฉ้อโกงโดยปิดบังข้อเท็จจริงที่ควรบอกให้แจ้งเหรอ ยกตัวอย่างง่าย ๆ คุณบอกเลขบัญชีบอกหมดมั้ย บอกมั้ยว่าเป็นบัญชีส่วนตัวหรือบัญชีวัด
ผมถาม เขาบอกว่าทุกคนรู้อยู่แล้ว?
ทนายเกิดผล : รู้ได้ไง อาทรประชานาถคือชื่อหลวงพ่อ เข้าใจว่าเป็นบัญชีวัด เป็นข้อเท็จจริงที่ปกปิดมั้ย อย่าให้ล้วงลูกเลยจะเสียมรรยาท สมมติผมเอาเงินจากชาวบ้านบอกจะเอาไปให้พี่จตุรงค์รักษาตัว แต่กลับเอาเงินไปเข้าผับเข้าบาร์ เข้าอาบอบนวดมันตรงกันมั้ยล่ะ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ผมบอกเมียจะเอาเงินไปนวด แต่ผมเอาไปนาบ ผิดวัตถุประสงค์มั้ย
จตุรงค์ : ผิดวัตถุประสงค์พี่จุ๋ม (หัวเราะ)
ทนายเกิดผล : สิ่งที่ทนายหมอบีพูดมา นักกฎหมายอ่านออกหมดแหละ วิญญูชนก็อ่านออกว่าเขาเจตนาสื่อสารเพื่ออะไร ถึงบอกว่ามันอยู่ที่การกระทำ ไม่ได้อยู่ที่คำพูด ตอนแรกถ้าพี่หนุ่มไม่สรุปก็งงอยู่นะ
เขาแค่ต้องการบอกว่าไม่เป็นไร ถ้าวัตถุประสงค์แค่กระทบยอดวันนั้นเอง ว่าเราบริจาคเรื่องวัวไป ก็มีการซื้อวัวในช่วงนี้ ก็เห็นไทม์ไลน์อยู่แล้ว?
ทนายแก้ว : ต้องดูเจตนาว่าเจ้าของเพจได้โพสต์ได้แจ้งในเพจหรือเปล่า ว่าจะโยกเงินส่วนที่เหลือไปใช้กับโครงการ เอ บี ซี
เรื่องรถ ถ้าตอนแรกผู้หญิงไม่รู้ เขาซื้อมาให้ใช้เองไม่ผิดแต่ถ้าผู้หญิงรู้ว่าเอาเงินมาจากวัด แล้วมาซื้อให้ฉัน ฉันเอามาใช้ อันนี้ผิด?
ทนายเกิดผล : ผิดครับ
วันนั้นไม่รู้ไม่ผิด แต่วันนี้รู้แล้วว่ามีเรื่องเกิดขึ้น ยังใช้อยู่?
ทนายแก้ว : เรียกว่าเข้าข่าย ศาลยังไม่ได้พิพากษาว่าเงินส่วนนี้เป็นเงินผิดหรือไม่ผิด แต่อาจจะคลับคล้ายคลับคลาว่ารถมีส่วน ถ้าเซฟตัวเอง เอารถไปคืนดีที่สุด เรื่องใบอนุโมทนาบัตรทุกใบ หลวงพ่อเซ็นเองมั้ย
ทนายเกิดผล : ผมไม่เคยเห็นหลวงพ่อเซ็น เพราะผมไม่ได้บริจาคในส่วนวัด ผมบริจาคในส่วนมูลนิธิเลย แบบหมอบีผมไม่เคยเห็น
จตุรงค์ : มีนิทานอยากเล่า นิทานเรื่องเสี่ยอู๊ดไปเบิกความในศาล กรณีสมเด็จเหนือหัวเบิกความเชื่อทนาย นิทานนี้ไม่มีชื่อนักร้องนะ เสี่ยอู๊ดเบิกความอย่างดี เชื่อทนายเต็มที่ ปกป้องพระที่ให้จีวรเขา ให้ดอกไม้เขา เขาปกป้องเต็มที่แต่พอวันสืบตัวหลวงพ่อสมเด็จ โอ้โห หลวงพ่อสมเด็จเบิกความแต่ละอย่างเหมือนส่งอู๊ดเข้าเรือนจำ เหมือนส่งอู๊ดไปตาย นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าหมอบีควรกูเกิ้ลดูเยอะ ๆ นิทานเสี่ยอู๊ดสามารถหาดูได้ในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย เพราะตัวเสี่ยอู๊ดมาเล่าให้ฟังเป็นฉาก ๆ ไปหาดูในยูทูปน่าจะหลงเหลืออยู่ จะได้เข้าใจว่า แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด ใส่จีวรเหมือนเป็นนักพรต แต่ก็ไม่สามารถไว้ใจอะไรได้ ผมก็เตือนหมอบีแค่นี้ ถ้าหมอบียังมั่นใจกับทนายหมอบีก็แล้วไป ยังเชื่อว่าโทรหาหลวงพ่อได้ หลวงพ่อรับสายก็แล้วไป แต่เวลาเบิกความในศาลตัวใครตัวมันนะครับ ถึงเวลาหลวงพ่อไม่ได้ติดคุกไปกับคุณ เพราะเสี่ยอู๊ดติดคุกคนเดียว ฝากไว้แค่นี้ นิทานของผม






