ปทุมธานีเปิดเวทีฟังเสียงประชาชน เดินหน้าโครงการทางหลวงแนวใหม่เชื่อมวงแหวนฯ - สาย 352

ปทุมธานีเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายทางหลวง เปิดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็น โครงการ “ทางหลวงแนวใหม่” เชื่อมถนนวงแหวนตะวันออก – ทางหลวงหมายเลข 352

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ คลับ & โฮเทล อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานเปิดการประชุมหารือแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการก่อสร้าง “ทางหลวงแนวใหม่” เชื่อมถนนวงแหวนตะวันออกกับทางหลวงหมายเลข 352 ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่และเสริมศักยภาพการคมนาคมของจังหวัด

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นในบรรยากาศที่อบอุ่นและมีส่วนร่วม โดยมีนายอำเภอคลองหลวง หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นอย่างคึกคัก โครงการนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง รองรับการเดินทางในแนวตะวันออก – ตะวันตก โดยจะเชื่อมต่อเส้นทางจากทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (วงแหวนตะวันออก) ไปยังทางหลวงหมายเลข 352 ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

โครงการดังกล่าวไม่เพียงช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ แต่ยังเปิดโอกาสในการขยายตัวของเมืองและการพัฒนาเศรษฐกิจในจังหวัดปทุมธานีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเดินทางของประชาชน และส่งเสริมความเชื่อมโยงของระบบโครงข่ายทางหลวงให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

กรมทางหลวงได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงได้นำผู้เชี่ยวชาญอย่าง บริษัท ธรรมชาติ คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท ซิตี้ แพลน โปรเฟสชันนอล จำกัด ดำเนินการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อให้ทุกเสียงจากชุมชนมีบทบาทร่วมในการออกแบบและพัฒนาโครงการอย่างเหมาะสม

แม้พื้นที่โครงการจะมีแหล่งโบราณสถานสำคัญ เช่น คลองรังสิตประยูรศักดิ์ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกาญจนาภิเษก แต่การดำเนินโครงการจะคำนึงถึงการอนุรักษ์และเคารพต่อคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างรอบคอบ ภายใต้กระบวนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างรัดกุม

โดยโครงการ “ทางหลวงแนวใหม่” นี้จึงเป็นอีกหนึ่งความหวังของชาวปทุมธานี ที่จะได้เห็นการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มความสะดวกในการเดินทาง และเสริมสร้างเศรษฐกิจในท้องถิ่นให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงต่อไป