เข็มเหล็ก เพิ่มวงเงินประกัน Product Liability Insurance ยืนยันความเป็นผู้นำด้าน Green Construction

เข็มเหล็ก เดินหน้าตอกย้ำความมุ่งมั่น เพิ่มวงเงินประกัน Product Liability Insurance เป็น 200 ล้านบาท
ยืนยันความเป็นผู้นำด้าน Green Construction
บริษัท เข็มเหล็ก จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมเสาเข็มเหล็ก ประกาศเพิ่มวงเงินประกันความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ (Product Liability Insurance) จาก 100 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมก่อสร้าง และยืนยันจุดยืนของบริษัทฯ ในการเป็นผู้นำด้าน Green Construction ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความมั่นคง และความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม

ในงานรับมอบกรมธรรม์อย่างเป็นทางการ ซึ่งจัดขึ้น ณ นาทอง เทอเรส บาร์ แอนด์ เรสเตอรองค์ได้รับเกียรติจากผู้บริหาร บริษัทชั้นนำที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์เข็มเหล็ก ผู้ทรงคุณวุฒิจากมหาวิทยาลัย และผู้บริหารจาก Allianz Ayudhya ร่วมเป็นสักขีพยานในการขยายวงเงินประกันครั้งนี้ รวมถึงการเสวนา Panel Talk จากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา อาทิ นักวิชาการด้านต้นไม้ ผู้ใช้งานจริง และตัวแทนจากบริษัทประกันภัย ซึ่งล้วนให้ความสำคัญกับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของงานก่อสร้างสมัยใหม่

คุณประเสริฐ ธรรมมนุญกุล – CEO บริษัท เข็มเหล็ก จำกัด กล่าวว่า “ฐานรากเป็นเพียง 5% ของการก่อสร้างทั้งหมด แต่เป็น 5% ที่สำคัญที่สุด เพราะมันต้องรองรับ 95% ของโครงสร้างที่เหลือ คุณกล้าเสี่ยงใช้ฐานรากที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่? เพราะความแข็งแรงของบ้าน อาคาร หรือโครงการของคุณ ขึ้นอยู่กับสิ่งนี้” และนอกจากนั้น การเพิ่มวงเงินประกันเป็น 200 ล้านบาท ไม่ใช่เพียงแค่การคุ้มครองลูกค้าในทุกต้นของการติดตั้งเข็มเหล็ก แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของเราในฐานะผู้นำ Green Construction ที่มุ่งเน้นทั้งความปลอดภัยและความยั่งยืน เราต้องการให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจว่าการเลือกใช้เข็มเหล็ก คือการเลือกโซลูชันที่ปลอดภัย คุ้มค่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รศ.ดร.พรเทพ เหมือนพงษ์ – นักวิชาการด้านต้นไม้ ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวว่า “พฤติกรรมการปลูกต้นไม้ของคนไทยมักนิยมปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่หรือไม้ล้อม ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าต้นไม้ที่ปลูกจากกล้า เนื่องจากไม้ล้อมไม่มีรากแก้วคอยยึดเกาะกับดิน ต้องอาศัยการค้ำยันเพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับต้นไม้ จากการวิจัยและพัฒนาร่วมกับเข็มเหล็ก เราพบว่าแรงกระทำจากลมและแรงดึงต่อต้นไม้ส่งผลอย่างมากต่อความมั่นคงของต้นไม้ โดยการใช้ระบบค้ำยันที่ถูกต้องสามารถเพิ่มความแข็งแรงและอายุการใช้งานของต้นไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ของเข็มเหล็กยังมาพร้อมกับการรับประกันการใช้งาน ที่มีการเพิ่มวงเงินคุ้มครองจาก 100 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท ซึ่งช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน และจากประสบการณ์ของผม แม้แต่ในต่างประเทศก็ยังไม่มีบริษัทใดที่ให้การรับประกันสินค้าในลักษณะนี้”
คุณนนท์วริศ สมฤทธิ์ฐิติกุล – ตัวแทนจาก Allianz Ayudhya กล่าวว่า “การให้ประกันความรับผิดชอบผลิตภัณฑ์ (Product Liability Insurance) ไม่ได้เป็นสิ่งที่ Allianz Ayudhya จะมอบให้กับทุกบริษัทฯ แต่เป็นผลจากการตรวจสอบอย่างเข้มข้นและละเอียดถี่ถ้วน เราพบว่าเข็มเหล็กมีคุณสมบัติที่ผ่านมาตรฐานทุกประการ ตั้งแต่ความเป็นนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ไปจนถึงความสามารถในการบริหารจัดการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า อีกทั้งในปีที่ผ่านมา เรายังพบว่า ไม่มีกรณีเคลมประกันจากลูกค้าของเข็มเหล็กเลย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานที่สูงของผลิตภัณฑ์ การติดตั้ง และการบริการ นี่คือเหตุผลสำคัญที่เราตัดสินใจเพิ่มวงเงินประกันจาก 100 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท นอกจากนี้ การที่เข็มเหล็กได้รับ ใบรับรองมาตรฐานจากสถาบันชั้นนำด้าน ESG และ Green Construction ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่านี่ คือแบรนด์ที่เหมาะสมกับการได้รับการคุ้มครองในระดับนี้”
คุณทรงยศ ปีเจริญ เจ้าของบริษัท Tree Keeper Thai (ผู้ใช้งานจริงของ Flexi Tree) กล่าวว่า “ธุรกิจของเรามีความเกี่ยวข้องกับการดูแลต้นไม้ในพื้นที่เมือง ซึ่งความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราเลือกใช้ Flexi Tree จาก KEMREX เพราะมั่นใจในนวัตกรรมและหลักวิศวกรรมของผลิตภัณฑ์ และการที่ KEMREX มี Product Liability Insurance ยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เรามากขึ้น ไม่เพียงแต่ในการใช้งานเอง แต่ยังช่วยให้เราสามารถแนะนำให้ลูกค้าของเราใช้ผลิตภัณฑ์นี้ได้อย่างมั่นใจมากขึ้นด้วย ซึ่งถือเป็นหลักประกันที่หาได้ยากในอุตสาหกรรมนี้”
นอกจากการรับประกันความมั่นคงของผลิตภัณฑ์แล้ว เข็มเหล็กยังมุ่งมั่นสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยผู้นำด้านนวัตกรรมเสาเข็มเหล็กที่ลดการขุดดิน ลดของเสียจากการก่อสร้าง และช่วยลดการปล่อยคาร์บอน เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้โครงการก่อสร้างแข็งแรงและปลอดภัย แต่ยังเป็นก้าวสำคัญสู่ การก่อสร้างที่ยั่งยืนในอนาคต
การเพิ่มวงเงินประกันครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักพัฒนาโครงการ วิศวกร ผู้ออกแบบ และผู้รับเหมา ว่าเข็มเหล็กไม่เพียงเป็นตัวเลือกที่มั่นคง ปลอดภัย แต่ยังเป็นโซลูชันที่รับผิดชอบต่อโลกใบนี้อย่างแท้จริง