"แพร์ พิชชาภา" ย้อนเล่าชีวิต 10 ปีในวงการ กว่าจะมีวันนี้เปลี่ยนชื่อมาแล้ว 3 ครั้ง

นางร้ายหน้าสวย แพร์ พิชชาภา เจ้าของตำนาน พิไลเฝ้าเก๊ะ ที่วันนี้จะมาเปิดใจครั้งแรก หลังซีรีส์เรื่องใหม่ อย่ากลับบ้าน ปังมาก เป็นกระแสไปทั่วโลกโซเชียล ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเผยเส้นทางในวงการบันเทิงกว่า 10 ปี อีกทั้งยังเปิดเรื่องหวานใจนอกวงการที่แรก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา, ดีเจพุฒ พุฒิชัย และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ตอนนี้ซีรีส์เรื่อง อย่ากลับบ้าน กำลังดังมาก ใน Netflix อยู่อันดับ3 ของไทย แต่ผู้ชมทั่วโลกขึ้นอันดับ1 ?

แพร์ : ใช่ค่ะ

พอซีรีส์ออกไปแล้วคนชื่นชอบเรา ความรู้สึกความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง ?

แพร์ : ตอนนี้ตื่นเต้น ต้องบอกก่อนว่าแพร์ไม่ได้ติดตามฟีดแบคขนาดนั้น แต่ว่ามีคนส่งมาให้หรือมีคนมาคอมเมนต์ แรกๆ ไม่ค่อยมีคนต่างชาติมาคอมเมนต์ เพราะแพร์ไม่ค่อยเล่นไอจี เขาจะมาบอกว่าเขาดูซีรีส์ของเรา แล้วจะไปตามดูหลังจากนี้

ใจฟูไหม?

แพร์ : หนูดีใจแทนพี่ๆ ในทีมทุกคน ไม่ใช่แค่หนูคนเดียว เพราะซีรีส์เรื่องนี้ทุกฝ่ายตั้งใจมาก ๆ ทุกคนเหนื่อยตอนถ่ายทำมากๆ ตัวหนูเองก็ดีใจกับพี่ ๆ เขาด้วย สิ่งที่เขาตั้งใจทำ รวมถึงหนู นี่คือความฝันที่จะได้เล่นซีรีส์ แล้วมันสำเร็จ แล้วคนก็ชื่นชอบ

ทำไมถึงได้มาเล่นซีรีส์เรื่องนี้?

แพร์ : ได้รับการติดต่อจากผู้จัดการว่าจะมีซีรีส์ของ Netflix แล้วจริงๆ หนูดูแพลตฟอร์มนี้อยู่แล้ว ก็แอบคิดในใจว่าอยากเล่นบ้าง ทุกปีหนูจะไปเรียนแอ็คติ้งกับครูเงาะ แล้วจะได้เจอพี่ลูกแก้ว ก็เล่าให้เขาฟังว่าอยากเล่น Netflix แต่เราไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหรือเปล่า พอเขาให้ไปแคส เราก็อยากแคสมากๆ ได้ไม่ได้ว่ากันอีกที แต่อยากมีโอกาสสักนิดที่ไปอยู่ตรงนั้น

พอแคสเสร็จกลับบ้าน เรามีคิดในใจไหมว่าจะได้หรือเปล่า ?

แพร์ : ตั้งแต่ตอนไปแคสหนูก็ไม่มั่นใจอยู่แล้ว เราไม่รู้หรอกว่ามันจะได้หรือไม่ได้ แต่ก็ทำตรงนั้นให้ดีที่สุดก็พอแล้ว ผลจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ ก็ปล่อยจอย

แล้วเขาทิ้งช่วงนานไหมกว่าจะบอกว่าได้นะ?

แพร์ : ก็พักนึงเลย ตอนนั้นหนูไม่ได้คิดว่าจะได้หรือไม่ได้ ได้ไปแคสก็โอกาสแล้ว

ตอนรู้ว่าได้กรี๊ดขนาดไหน?

แพร์ : กรี๊ดเลย รู้สึกว่า จริงปะเนี่ย เราดูหนังในแพลตฟอร์มนี้ แต่เราไม่คิดว่าจะได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ ปกติหนูทำงาน เล่นละคร หนูก็ไม่ได้มีกระแสเยอะ ก็เลยไม่คาดคิดว่าเป็นเรา

ที่ดีใจกว่าที่จะได้เล่น คือรู้ว่าเล่นกับพี่นุ่น วรนุช?

แพร์ : ใช่ คือไม่มีใครโตมาโดยไม่ดูละครของพี่นุ่น วรนุช หนูดูตั้งแต่ เปรตวัดสุทัศน์ แล้วเราก็ติดตามไอจีของเขามาอยู่แล้ว แล้วพี่นุ่นเป็นเพื่อนสนิทกับเพื่อนหนู เราก็จะเห็นเค้าลงคลิปด้วยกัน ก็จะเข้าไปดู เข้าไปกดไลก์ แต่ไม่เคยเห็นตัวจริง ตอนหลังพอรู้ว่าพี่นุ่นเล่น แอบถามพี่ในทีม หนูจะได้เข้าซีนด้วยไหม อยากมีมีบุญได้เข้าฉากกับเขาบ้าง

แล้วเป็นยังไงพอได้ร่วมงานกับพี่นุ่น เป็นเหมือนที่คิดไว้ไหม?

แพร์ : ไม่เหมือน ตอนแรกหนูคิดว่าพี่นุ่นทำงานมาแบบโปรแล้วคงนิ่ง ๆ คุยยาก คูล ๆ เข้าถึงยาก แต่จริง ๆ พี่นุ่นเหมือนพี่สาวเลย พี่เขาวัยรุ่นมาก เล่นมุก ชอบแกล้งคนในกอง เหมือนเป็นหัวหน้าแก๊ง หนูก็เลยแบบ นี่คือพี่นุ่นตัวจริงเหรอ น่ารัก

เมื่อกี้แพร์บอกว่าพี่นุ่น วรนุช ขี้แกล้ง มีอะไรจะแก้ตัวไหม?

นุ่น : อันนี้แพร์ใส่ร้ายเกินไป ไม่หรอกค่ะ จริง ๆ คนจะชอบคิดว่านุ่นเป็นคนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่จริง ๆ ตรงข้ามกับภาพที่ทุกคนมอง จะชอบสนุก อยู่กับเพื่อน อยู่กับทีมงาน ก็สนุกดี

ตอนแรกเขาเป็นแฟนคลับเรา สักพักเขามาดูดวิชา?

นุ่น : เขาเก่งอยู่แล้ว นุ่นอะต้องดูดวิชาจากเขา

แพร์ : แม่ก็ถ่อมตัว

พี่นุ่นพอรู้ว่าได้เล่นกับน้องแพร์รู้สึกยังไงบ้าง?

นุ่น : ดีใจค่ะ เคยติดตามผลงาน น้องแพร์มาด้วย ได้เห็นเขาเล่น ก็ชื่นชมในการทำงานของเขา พอมาเล่นด้วยกันดีค่ะ อยากให้มีอีก

พอได้มาเข้าฉากด้วยกันวันแรกเป็นย้งไงบ้าง?

นุ่น : ที่เราทำงาน ที่ได้เป็นพาร์ทเนอร์กัน แพร์เขาทำหน้าที่ของเขาได้ดีมากๆ ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ค่อนข้างดีมากๆ มันเลยทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่าย

ตอนนี้เป็นพี่นุ่น หรือเจ๊นุ่น ?

แพร์ : เจ๊ของหนู

นุ่น : ก็เหมือนพี่สาวนั่นแหละ

กระแสเรื่องนี้ดีมากเลย พี่นุ่นรู้สึกยังไงบ้าง?

นุ่น : ดีใจและภูมิใจเหมือนกัน เป็นโปรเจ็กต์แรกที่หลายคนได้ร่วมงานกัน คือไม่ผิดหวังเลย มันเป็นโปรเจ็กต์ที่ทุกอย่างมันพร้อม สำหรับนักแสดงทุกคนเวลาเราดูซีรีส์ต่างประเทศ เราก็ต้องอยากได้โปรดักชั่นที่ดีๆ เหมือนทุกอย่างมันดี บางทีเราไม่ต้องทำอะไรมากเลย แค่ฉากดี ๆ สวย ๆ ก็ทำให้เราเป็นตัวละครในบ้านหลังนั้นแล้ว หรือในทุก ๆ ที่ที่เราไป เหมือนเขาเตรียมพร้อมให้เรา ต้องยกความดีให้กับเจ้าของโปรเจ็กต์ด้วย ขอบคุณทุกคนที่ทำให้เรามีภาพใหม่อีกภาพนึงเลย

มีอะไรอยากจะบอกกับเจ๊คนนี้ไหม?

แพร์ : ตื่นเต้นมากแล้วก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกัน อยากทำงานกับพี่นุ่นอีกถ้ามีโอกาส

เรื่องกรงกรรม ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น?

แพร์ : ก็เหมือนเรื่องอยากกลับบ้านเลย ไม่คาดคิดเหมือนกัน แต่เรารู้แต่วันแรกแล้ว ตั้งแต่วันที่เราเข้าไปแคส หนูมาแคสเรื่องนี้ด้วยความบังเอิญ คือมีคนมาแคสเยอะมาก แต่หนูแค่เข้าไปสวัสดีพี่ที่ทำงาน เขาก็ถามว่ามาแคสไหม หนูก็แบบกำลังว่างอยู่ แคสดีกว่า แต่อ่านบทแล้วรู้ว่าเป็นค่ายของ พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ และพี่แดง หนูรู้เลยใครเล่นก็ดัง แค่อ่านบทมันสนุก พอเล่นออกไปคนก็ไม่ได้ด่าหนูอะไรขนาดนั้น ส่วนใหญ่จะชื่นชม

ตอนนั้นกวาดรางวัลไปหลายสถาบันมาก ได้ไปกี่รางวัลจากเรื่องนี้?

แพร์ : จำไม่ได้ น่าจะ 4-5 รางวัล

หลังจากนั้นงานมาไม่หยุดเลย ?

แพร์ : เรื่อย ๆ มากกว่าค่ะ แต่ก็มีช่วงโควิดที่จะหายไปเหมือนกัน

10 กว่าปีที่อยู่ในวงการมา หนึ่งในเรื่องที่เคยเล่นก็คือเล่นกับคุณพุฒ?

แพร์ : ใช่ ไปออเซาะเขา แต่ในเรื่องเขาไม่สนใจ ตอนนั้นร่วมงานกับพี่พุฒตื่นเต้น เพราะส่วนมากหนูจะได้ร่วมงานกับพระเอกที่คุ้นเคยในช่อง แต่พี่พุฒ เขาเคยเล่น รักนะเป็ดโง่ เราก็เลยแบบ พี่พุฒตัวจริงหล่อมาก ผอมมาก แล้วแฟนเขาก็กำลังท้อง แล้วเขาจะหึงหนูไหม แต่หนูก็รู้ว่าพี่พุฒ พี่จุ๋ย เขาเป็นเพอฟอชั่นแนลอยู่แล้ว แต่เราแค่ตื่นเต้นของเราไปเอง

ดีเจพุฒ : พี่แพร์เป็นคนที่ทำงานด้วยแล้วเก่งมากๆ เวลาเข้าฉากด้วยกันเรารู้สึกว่าต้องมีอะไรพัฒนาตัวเองอีกเยอะ แล้วเขาส่งอารมณ์ได้ดีมาก

ถ้าย้อนไปก่อนหน้านั้นไม่ได้อยากเข้าวงการบันเทิง ?

แพร์ : ไม่ได้ไม่อยากแบบไม่เอา แต่เราไม่ได้คิดถึงตรงนี้ มันห่างไกลจากชีวิตเรามาก หนูเลยไม่ได้คาดคิดอะไรตรงนั้น

ตอนเข้ามาคือช่วงม.ปลาย ?

แพร์ : ม.6 ปลายๆ กำลังจะไปมหาลัย

ถ้าสมมติเราไม่ได้วงการบันเทิง เราจะไปทางไหน?

แพร์ : อยากเป็นครู เพราะว่าคุณแม่เป็นครู เห็นคุณแม่ตั้งใจทำงาน ได้เป็นครูดีเด่นประจำปี แล้วเรารู้สึกว่านั่นคือไอดอลของเราในตอนนั้น แต่จริงๆ ก่อนที่อยากเป็นครู อยากไปบวช แต่แม่ไม่ให้ไป คือคนที่เขาเป็นศาสนาคริสต์ในโรงเรียน คนคริสต์เขาจะต้องเรียนคำสอนตอนเช้า แล้วทุกปีเขาจะไปทัศนศึกษาแบบวัด หนูก็ไป แล้วหนูเคยเข้าอารามลับ ที่เขาโพกหัวเป็นซิสเตอร์สีดำ แล้วเขาก็จะไม่ออกมาเลย จริง ๆ หนูค่อนข้างอินโทรเวิร์ต เอออยู่แบบนี้ก็ดีนะ ตื่นเช้ามาสวดมนต์ กินข้าว แล้วก็หลับไป

แล้วสรุปเข้าวงการบันเทิงได้ยังไง ?

แพร์ : ตอนนั้นมีโมเดลลิ่งติดต่อมา เหมือนเขาเป็นญาติของเพื่อนสมัยเรียนมัธยม แล้วเขาเหมือนจะเข้ามาทำงานในโมเดลลิ่ง เพื่อนก็เลยแนะนำไป เขากำลังอยู่ในช่วงหาเด็กเข้าในโมเดลลิ่ง เขาก็โทรติดต่อมา หนูก็แบบใครโทรมา แต่เป็นฟิวเราอยากหางานทำอยู่แล้ว เป็นช่วงแบบเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นพาร์ทมหาลัย ดูหนังฝรั่งเยอะ หนูกำลังจะไปสมัครขายป๊อบคอร์นในโรงหนัง แล้วเขาก็ติดต่อมา แต่ตอนนั้นมีข่าวโมเดลลิ่งล่อลวงเด็กไปทำไม่ดีเยอะ หนูก็แบบกลัวจะถูกหลอกไหม หนูก็สองจิตสองใจ รู้สึกว่าถ้าไปได้เงิน หนูไม่อยากขอเงินแม่แล้ว ก็เลยเสิร์ชดู เป็นโมเดลลิ่งของพี่ พอลล่า เทเลอร์ ของจริง

พอได้เข้าวงการอีกหนึ่งสาเหตุที่มีชื่อเสียงเป็นเพราะเปลี่ยนชื่อด้วยหรือเปล่า?

แพร์ : เคยเปลี่ยนชื่อมา 2 รอบแล้วค่ะ ตั้งแต่เกิด หนูมีชื่อว่า อลิสา ชื่อที่2 ณัฐฐิดา

ตอนเปลี่ยนชื่ออายุเท่าไหร่?

แพร์ : ตอนเปลี่ยนหนูยังจำความไม่ได้ แต่คุณแม่บอกว่า ตัว อ. ลิ มันไม่มีสระตรงตัว อ. มันเป็นกาลกิณีกับคนเกิดวันอาทิตย์ เขาเลยไปให้พระเปลี่ยน

แล้วนี่คือชื่อที่3?

แพร์ : ใช่ค่ะ พิชชาภา เป็นชื่อที่3 หนูเปลี่ยนชื่อตอนขึ้น ม.4 หนูเปลี่ยนด้วยตัวเอง เพราะรู้สึกว่าเขียนชื่อที่2 แล้วมันไม่ถูกโฉลกกับใจหนู หนูอยากได้อะไรที่มันฟังง่าย ๆ

ปกติเวลาเปลี่ยนชื่อต้องมีอาจารย์ มีซินแส แต่ของแพร์?

แพร์ : มาจากทีวี คือจำไม่ได้ว่าเป็นชื่อนักแสดงจริงๆ หรือเป็นชื่อตัวละคร เขาชื่อว่าพิชชา แล้วหนูแบบสมัยก่อนคนจะไม่ชื่อ 2 พยางค์ หนูก็อยากชื่อนี้จัง เลยไปหาข้อมูล แต่พอเอาชื่อ พิชชา มาบวกกับนามสกุล เขาบอกว่าจะหลงไหลในสิ่งอบายมุข แต่มันก็ยังชอบชื่อนี้อยู่ ก็เลยไปหาแบบเติมท้าย ก็เลยรู้สึกว่าถูกโฉลกชื่อพิชชาภา เอามาบวกกันก็ลงตัว

เรื่องความรักมีเป็นตัว เป็นตนแล้วใช่ไหม?

แพร์ : ใช่ค่ะ เป็นคนนอกวงการ คบมาเกือบปีแล้วค่ะ

แต่ไม่ค่อยเห็นลงโซเชียล?

แพร์ : ใช่ค่ะ ไม่ลง จริง ๆ หนูถ้ามีแฟนไม่ค่อยลงโซเชียล หนูแค่รู้สึกว่าเอาให้ชัวร์ก่อน เดี๋ยวมันจะมีอะไรแปลก ๆ เข้ามาในชีวิตหรือเปล่า เขาอายุมากกว่าปีเดียว

เจอกันได้ยังไง?

แพร์ : เขาเป็นรุ่นพี่ของเพื่อนหนู เหมือนหนูไปเรียนแล้วเจอกันที่คอร์ส เพื่อนแนะนำคนนี้ก็โสด หนูก็โสด แล้วเขาบอกว่าเหมือนเป็นคนบ้า ๆ เหมือนกัน ก็เลยอาจจะแมชต์กันได้

เขามีวิธีจีบยังไง?

แพร์ : เขาไม่ได้จีบ

แล้วจุดไหนที่ทำให้เปลี่ยนจากเพื่อนเป็นแฟน?

แพร์ : เหมือนไปเจอกันที่ร้านอาหาร แล้วหนูรู้มาว่าเขาเคยถามคนในชีวิตหนูว่า หนูโสดไหม แล้วทำความรู้จัก เหมือนตอนนั้นหนูยังไม่อยากมีใคร ถ้าสมมติเป็นคนติดเที่ยว หนูไม่เอานะ เหมือนตอนนั้นเขาก็ยังเที่ยวๆ อยู่ ซ่าๆ วัยรุ่น เขาก็เด้งไป เหมือนโลกยังไม่เหวี่ยงมาเจอ แต่สุดท้ายก็มาเจอกัน

ประทับใจอะไรในตัวเขา?

แพร์ : หนูก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน มันยังไม่ถึงปี พูดตรง ๆ ก็คือเหมือนคุยแล้วคลิ๊ก เรายังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเท่าไหร่ แต่รู้สึกว่าในทุกวันนี้ที่รู้จักกันแล้วมันดี เขาดูแลเราดี เขาไม่ได้แบบเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์จากเรา

มีความเชื่อเรื่องนี้ไหม คนที่ทำงานในวงการ เขาให้ชูเรื่องงาน ถ้าชูเรื่องความรักมันขัดกัน?

แพร์ : ไม่เชื่อค่ะ เขาก็เป็นคนไพรเวท มีไอจี มีรูปเดียว แต่ไม่ใช่หน้าเขา เขาเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูป

หวานกันไหม?

แพร์ : ไม่ค่ะ เหมือนเป็นฟิลเพื่อน รุ่นพี่ที่ปรึกษากัน เหมือนตอนนี้เขาอยากสร้างตัวทำงาน

คบกันมาเกือบปีทำไมไม่เปิดตัว?

แพร์ : ถ้าอยู่เฉย ๆ ก็ไม่เล่าให้ใครฟัง ถ้ามีคนถามแพร์ก็ตอบ ไม่ได้ปิดอะไรขนาดนั้น ก็ใช้ชีวิตปกติ ขอเวลาดู ๆ กันไปก่อน

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ :