รอวันนี้มานาน “ออยศรี” ขยี้ “ทนายตั้ม” อย่างเดือด

รอวันนี้มานาน “ออยศรี” ขยี้ “ทนายตั้ม” อย่างเดือด ลั่นไว้ใจ “สนธิ” มากกว่า ตร. จ่อยื่นยุบมูลนิธิฯ ทิ้ง – ไม่รู้มีประโยชน์อะไรกับสังคม

ติดตามกันยาวไป สำหรับกรณี “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ถูก “เจ๊อ้อย จตุพร อุบลเลิศ” เศรษฐีนีที่อาศัยอยู่ในฝรั่งเศส แจ้งดำเนินคดีฉ้อโกงเงิน 71 และ 39 ล้านบาท แบ่งเป็นคดีหลักและคดีรอง ต่อมาฝั่ง “อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” และ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ออกมาร่วมกันเปิดโปงพิรุธการทำพินัยกรรม มีการกล่าวหาว่าทนายตั้มแอบทำพินัยกรรมสอดไส้ เอาชื่อตัวเองไปใส่เป็น “ผู้จัดการมรดก”

รายการโหนกระแส วันที่ 22 พ.ย. 67 “รสริน ประกอบธัญ” ดำเนินรายการแทน “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 เกาะติดเหตุการณ์เรื่องนี้ สัมภาษณ์ ออยศรีและผองเผือก ซึ่งประกาศตัวเป็นเจ้ากรรมนายเวร , พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ รองแต้ม วิเคราะห์แนวทางสืบสวนสอบสวนคดีต่าง ๆ , สุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

ตร.เรียกคุณไปสอบ?

ออยศรี : ไม่ได้มีเป็นหมาย เขาขอให้เราเข้าไปให้ข้อมูลอะไรบ้างที่เราพอจะมี มีทั้งที่บอกไปบ้างและไม่ได้บอกไปด้วย เนื่องจากบางอย่างบอกตามตรงว่าทนายตั้มรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ รู้จักตร.เยอะ บอกตรง ๆ ว่าไม่ไว้ใจตร. ก็บอกตร.ว่าตอนนี้ทั้งประเทศ ออยไว้ใจที่สุดคือคุณสนธิค่ะ ตอนนี้ให้ข้อมูลกับทีมคุณสนธิไปแล้ว การขยายผลต่าง ๆ ต้องอาศัยอำนาจตร.อยู่แล้ว แต่ขอให้ผู้ใหญ่เขาไปดำเนินการแล้วกัน เราแค่ตัวเล็ก ๆ

กะให้จมดิน?

ออยศรี : ถ้าอะไรที่เขาทำเอาไว้ เขาก็ต้องรับในสิ่งที่เขาทำค่ะ ถ้าไม่ได้ทำก็ไม่ต้องรับอะไรทั้งสิ้น

ไม่ได้แค้น?

ออยศรี : เป็นคนนึงที่อยากช่วยสังคมนี้ ช่วยให้สังคมได้เห็นถึงพฤติกรรมของเขา

ให้ข้อมูลตร.นานมั้ย?

ออยศรี : ไม่นานมากค่ะ ชม.สองชม.เท่านั้น ไม่ได้คุยเยอะ เราบอกได้เท่าที่บอก เราเซฟในมุมของเรา สองข้อมูลตรงนี้ จะมีคนที่ต้องนำตัวออกมาต่ออีกต่อนึง คนที่กุมข้อมูลตรงนั้นอีก มันไม่ใช่แค่ตัวทนายตั้ม แต่มันจะขยายออกไปอีกเยอะ ไม่ใช่แค่คนรอบตัวที่ปรากฏอยู่ตามครอบครัว แต่อาจมีใครที่ไม่เคยปรากฏว่าอยู่ข้าง ๆ แต่ต้องอยู่ข้าง ๆ แล้วแหละ ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต่อไป ออยได้เจอคุณสนธิด้วยวันนั้น ที่เหลือก็ส่งให้ทีมงาน

คุยกับคุณสนธิยังไงบ้าง?

ออยศรี : เป็นความลับแล้วกันค่ะ (หัวเราะ) ท่านใจดีค่ะ ในรายละเอียดขอไม่ลง แต่เอาเป็นว่าถ้าท่านสุดซอย ออยก็ชอบจังเลย (หัวเราะ) ถ้าทะลุซอยก็ไปด้วย ถึงไหนถึงกัน ช่วยเต็มที่ ฟรีตลอดงาน

เรื่องการติดตั้งจีพีเอสในรถเบนซ์พี่อ้อย และพินัยกรรมที่ไม่ชอบมาพากล หลายฉบับเหลือเกิน มีฉบับนึงที่จู่ ๆ ใส่ชื่อตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกโดยที่เจ้ามรดกเขาไม่ได้รู้ ต้องถามรองแต้ม เรื่องจีพีเอสคิดว่าผิดปกติมั้ย?

รองแต้ม : ถ้าเป็นรถราคาอย่างนี้ ส่วนมากเขาติดมากับตัวรถอยู่แล้ว ถ้าจีพีเอสติดมากับตัวรถ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และล็อกอินไปให้ใคร ตัวนั้นกับผู้ซื้อก็ไม่แปลก เพราะดูว่าหลังเอารถมาแล้วใครเป็นคนใช้ ถ้าสมมติว่าพี่อ้อยซื้อแล้วทนายตั้มเอาไปใช้ ถ้าทนายตั้มคืนรถ จีพีเอสและล็อกอินต่าง ๆ ก็ต้องคืนให้พี่อ้อย หลักการต้องเป็นอย่างนี้ สองถ้าจีพีเอสเก่าที่ติดมา คุณไปแกะออก แล้วเอาจีพีเอสใหม่เข้าไปใส่ แล้วไปล็อกอินเข้าชื่อคุณหรือครอบครัวคุณอย่างนี้พิรุธแน่นอน คุณทำเพื่ออะไร

เป็นห่วง?

รองแต้ม : ถ้าเป็นห่วง พ่อคุณติดอย่างนั้นด้วยมั้ย หรือติดให้คุณอื่นที่คุณเป็นห่วงมั้ย ถ้าติดก็เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าติดคนนี้คนเดียว มันก็น่าคิดมั้ย เราไม่ได้ว่าเขา ก็ต้องดูว่าคุณเปลี่ยนเขา หรือบริษัทเปลี่ยน ถ้าคุณจงใจเปลี่ยน แสดงว่าคุณจิตไม่ดีแล้ว สองสิ่งที่คุณแกะออก ทำให้เสียทรัพย์ได้มั้ย คุณทำทรัพย์สินเขาเสียหายนะ เขาไม่ได้ให้คุณทำนี่ สาม คุณละเมิดสิทธิ์เขามั้ย คุณไปตามเขาว่าอยู่ที่ไหนยังไง คุณละเมิดสิทธิ์เขานะ คุณเอารถไปคืนก็ต้องเอาล็อกอินไปคืนเขา จะไปตามเขาได้ยังไง ไม่รู้จะเข้าเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับดักฟังหรือเปล่า เพราะติดตามถือว่าเป็นดักฟัง มีโทษจำคุกนะ เรื่องแบบนี้ผิดกฎหมายทั้งหมด ถามว่าทำแบบนี้แล้วเชื่อมโยงกับอะไร สังคมมองว่าสิ่งที่คุณกระทำ เขาก็ย้อนไปดูคดี สามสี่คดีเขามองว่าคุณเป็นผู้กระทำความผิดและโดยทุจริตหมด เพราะคดีแรกแจ้งข้อหาฉ้อโกงโดยเป็นปกติธุระ ซึ่งข้อหาฉ้อโกงบอกแล้ว ผู้ใดทุจริตหลอกลวงผู้อื่นโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อความจริง และได้ทรัพย์สินไป สี่คดีเป็นแบบนั้นหมด เพราะหวังผลและประสงค์ต่อทรัพย์สิน ฉะนั้นอะไรที่เกิดมา สังคมเชื่อแล้วว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ ปรากฏว่าก็เกี่ยวกับเรื่องมรดก เรื่องผู้จัดการมรดก คนเลยต้องคิดมากไง ถ้าทำสัญญาอาจรู้ คู่สัญญาต่าง ๆ สิ่งแรกต้องวันเวลาสถานที่ต้องปรากฎอยู่ในสัญญา เนื้อความในสัญญา ลงชื่อคู่สัญญา และต้องมีพยานอย่างน้อย 2 คน เอกสารทุกแผ่นต้องลงชื่อกำกับ 2 คนหมด ไม่อย่างนั้นคุณไปเปลี่ยนกลางทาง เปลี่ยนไส้ได้นี่ เท่าที่รู้มาปรากฏว่าสัญญาอะไรที่ทำ ไม่มีการเซ็นกำกับ แบบนี้มองได้มั้ยว่าคุณคิดไม่ดี คุณอาจเปลี่ยนก็ได้นี่ เอกสารช่องว่างต้องกากบาท ฆ่าทิ้ง ไม่สามารถเป็นแผ่นว่างไว้ได้ และต้องเซ็นชื่อกำกับในการฆ่าด้วย แบบนี้คนก็ไปเชื่อมโยงกับสี่คดีอีก คุณคิดอะไรหรือเปล่า คุณคิดเพี้ยน ๆ หรือเปล่า เราไม่ได้ว่าเขา สมมติมีนิยายอย่างนึงทำแบบนี้ นิยายดันใส่ข้อความที่ว่างว่ามอบเงินให้มูลนิธิหนึ่งสัก 2 พันล้าน หนาวมั้ยถ้าพี่อ้อยเป็นอะไร

ไปถึงขั้นจะฮุบสมบัติด้วยมั้ย?

รองแต้ม : เราไม่รู้ในใจเขา เราพูดไปก็ว่าเขาผิดไม่ได้ แต่เวลาทำอะไรตร.เรียกว่าแผนประทุษกรรม คนร้ายเวลาทำชอบมีแผนประทุษกรรม สิ่งที่ทำมาเหมือนแผนประทุษกรรมให้คนคิดว่าเฮ้ย คุณคิดอะไรอยู่ คุณทำอะไรอยู่ คุณต้องการอะไรอยู่

อ.ปานเทพให้ข้อมูลว่าจีพีเอสรถเบนซ์พี่อ้อย ซึ่งเขาเริ่มมีปัญหากันต้นปี แต่เป็นข่าวเดือนก.ย. ตอนนั้นรถเบนซ์ถูกคืนกลับมาที่พี่อ้อยแล้ว แต่มีข้อมูลออกมาว่าภรรยาทนายตั้มก็ยังไปดูข้อมูลการใช้รถคันนี้อยู่?

รองแต้ม : ก็แสดงว่ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในจีพีเอส ต้องเอาข้อมูลตัวเองหรือล็อกต่าง ๆ เวลามีอะไรก็ให้ไปสู่สัญญาณตัวเอง รู้ว่าพี่อ้อยหรือเจ้าของรถจะเดินทางไปไหนได้

เป็นลักษณะการติดตามตัวมั้ย?

รองแต้ม : ถ้าจริงนะ ก็ติดเพื่อติดตามตัวว่าไปทำอะไรที่ไหนอย่างไร อยู่ที่ไหน อย่างน้อยพี่อ้อยใช้รถคันนี้ตลอด เขาก็รู้แล้ว จะไปไหน ไปหาใคร คิดร้ายไปอีก เกิดมีอะไรก็สามารถรู้ได้

มีข้อมูลออกมาจากคุณสนธิ ว่ามีการชวนพี่อ้อยไปเที่ยววัดป่าทางจังหวัดเชียงราย ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งลักษณะคือติดต่อยากมาก เหมือนเป็นสถานไกลปืนเที่ยง ติดต่อไม่ได้ รองแต้มมองเหมือนคุณสนธิมั้ย ว่าคิดอะไรกับพี่อ้อยหรือเปล่า?

รองแต้ม : เรามองสองมุมนะ มองมุมที่ดีเขาอาจพาไปไหว้พระก็ได้ ส่งเสริมสิริมงคล (หัวเราะ) สองพาไปดูน้ำสวย ๆ ก็ได้ เพราะเป็นผู้มีพระคุณ แต่เวลามีพฤติกรรมและมีการกระทำต่าง ๆ ทำให้คนคิดว่าเฮ้ย คุณพาไปนอกเส้นทางแบบนี้ คุณมีอะไรหรือเปล่า เพราะผมทำหลายคดี แผนประทุษกรรม มันมีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนหลายคดี ผมเคยทำแบบนี้มาแล้ว ดังนั้นตอนไม่เกิดเราไม่รู้หรอก แต่พอเกิดปุ๊บสามารถสืบค้นไปได้ อ๋อ สิ่งที่คุณทำมา มันมีการวางแผนหมด แต่เราไม่ได้ว่าเขานะ แต่มันสามารถสืบค้นได้ แผนเก่าๆ มันก็จะฟ้องกับหลักฐานที่เราพบได้ว่าคุณคิดอะไรอยู่

ออยศรีสนิททนายตั้ม?

ออยศรี : อย่าเรียกว่าสนิทเลยค่ะ เรียกว่าเรารู้ก่อนคนอื่นดีกว่า คิดว่าตัวเองรู้นิสัยใจคอมากพอสมควรค่ะ ส่วนตัวเชื่อค่ะ แต่ถามว่าเขาเจตนาหรือไม่ เราตอบไม่ได้ แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัวออย ในนิสัยพฤติกรรมทนายตั้มทั้งหมด เราเชื่อ

เช่นอะไรบ้าง?

ออยศรี :   มีหลายอย่างที่พูดตรงนี้ไม่ได้ แต่ถ้าให้มาลงความเห็นว่าเชื่อมั้ยว่าจะดำเนินการไปถึงขั้นวางแผนเรื่องจีพีเอส ส่วนตัวเชื่อค่ะ หลาย ๆ อย่างที่เรารู้มาในพฤติกรรมเขาต่าง ๆ และสิ่งที่เราเคยเห็นและเคยเจอ เราเป็นคนนึงที่เป็นผู้ประสบภัย โดนใส่ร้ายมาก่อน เรามั่นใจในความบริสุทธิ์ตัวเอง เราช่วยเหลือคุณแต่คุณกล้าใส่ร้ายเรา คนที่กล้าใส่ร้ายคนที่ช่วยคุณ คุณไม่ใช่คนดี ฉะนั้นมันก็ต้องมีวันนี้ เราก็รอวันนี้ค่ะ วันนี้ก็มาถึงค่ะ

คุณเป็นคนที่มีบุญคุณกับทนายตั้ม?

ออยศรี : มีค่ะ ถ้าคนติดตามจะรู้เลยว่าในคดีหวย 30 ล้านเราเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เขาเกิดมีกระแสอยู่เสมอ เราไม่ได้เอาตัวเองมาอยู่บนกระแส แต่ช่วยผลักดันเขามาตลอด เพราะความที่เขามีคำว่า “ทนายประชาชน” เราได้รู้จักเขาช่วงหวยนั่นแหละค่ะ เราคิดว่านี่คือคนรุ่นใหม่ เราไม่โลกสวย เราต้องรู้ว่าประเทศเรา พรรคพวกเอย อะไรเอย มีความมืดบอดมืดดำในกระบวนการยุติธรรมเยอะมาก ฉะนั้นแล้วทนายประชาชนยังวัยรุ่นอยู่ คุณทำเพื่อประชาชน นี่แหละของแท้ เจ๋งแน่ พอเราเข้าไปร่วมช่วยเหลือตรงนั้น พยายามผลักดันเขา เพื่อที่ว่าวันนึงเขาจะได้ไปช่วยเหลือคนอื่น ๆ ต่อ แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาไม่ใช่ เราพูดไม่ได้หรอกค่ะเสียงเราเล็ก ๆ ตอนนั้นเราก็โดนกระหน่ำเยอะแยะ มันจึงจำเป็นต้องรอเวลา เรารู้แล้วว่าเขามีพฤติกรรมอย่างนี้ วันนึงทุกอย่างจะทำลายตัวเอง แค่นั้นเลย แล้วเราก็รออยู่ตรงนี้ เพื่อยิ้มให้เขา

ปัจจุบันเป็นแบบไหน?

ออยศรี : ก็อยากนั่งยิ้มในขณะที่เขากินฉี่ค่ะ (หัวเราะ) ปีที่แล้วออยเรียกเขามาตลอดว่าไอ้ตั้มหัวรวย ก็เขารวย เขารวยผิดปกติ เอ๊ะ หัวเขาคิดแต่เรื่องรวย ๆ ท้ายที่สุดรวยจริงด้วย แต่รวยจากเงินคนอื่นค่ะ

วันนี้เปลี่ยนฉายาให้เขา?

ออยศรี : เปลี่ยนจากไอ้ตั้มหัวรวยเป็นไอ้ตั้มหัวโตได้มั้ยคะ (หัวเราะ) เขายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ตอนนี้เราถึงยังไม่พูดว่าเขาจะหัวโตหรือยัง เพราะเขาต้องสู้ไปถึงฎีกา ถึงจุดนั้นก็คงไม่สายเกินไปที่จะเรียกเขาว่าไอ้ตั้มหัวโต

ดูสะใจ?

ออยศรี : เอาเป็นว่าความรู้สึกของเรา ก็มาจากการกระทำของเขานั่นแหละ ไม่ได้แต่งเติมอะไร แต่เพื่อความยุติธรรมกับทางเขาและเรา การกระทำของเขา ทำให้เรายิ้มได้

นี่คือคำพูดแด-คนที่เคยรัก?

ออยศรี : ไม่เคยรัก แค่เคยรู้จักกัน (หัวเราะ)

ออยศรีเปิดประเด็นมา คนใกล้ชิดทนายตั้มคือผู้ชายที่ชื่อว่าเล็ก คือใคร คนที่ออกมายอมรับว่าขนเงิน 39 ล้านบาทออกไป?

ออยศรี : ไม่เคยเจอ แต่เราอยู่ทันช่วงเวลาที่วิ่งออกมากราบเท้าวันนั้น ทันเหตุการณ์เห็นข่าวเห็นคลิป

ออยศรีโพสต์ว่าอะไร?

ออยศรี : บอกว่าน้องคนนี้หรือเปล่าที่ได้ยินว่าไปช่วยเหลือทนายตั้ม เมื่อวานซืนที่เรารู้มาคนขับรถคนใหม่ที่มาแทนคนเดิมที่ชื่อเบียร์ ก็คือเล็ก ซึ่งเป็นอดีตทหารอากาศที่มีข่าวเรื่องมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเข้าไปช่วยเหลือ จะเรียกว่าทนายตั้มช่วยก็ไม่ได้เพราะไม่แน่ใจว่าเขาเป็นคนว่าความเองหรือเปล่า แต่เขารับหน้า

โพสต์ทนายตั้มปี 61 จะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างทนายตั้มกับเล็ก ทนายตั้มโพสต์ว่าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยายกฟ้อง 2 ทหารอากาศ พร้อมแฟนสาวรวม 4 คนที่ถูกกลั่นแกล้ง โดยจะปล่อยเย็นนี้ทันที ไม่ต้องรออุทธรณ์ คดีนี้ยากและอันตรายที่สุดเท่าที่ผมเป็นทนายความมา หลังตัดสินท่านผู้พิพากษาได้พูดกับผมในบัลลังก์ว่าขอให้ษิทรารักษาชื่อเสียงแบบนี้ไว้ให้ดี ขอให้รักษาความดีตลอดไป ประเทศชาติจะได้มั่นคงและพัฒนา เพราะมีคนรุ่นใหม่แบบคุณ คุณออยก็เคยคิดแบบนี้มาก่อน?

ออย : ใช่ เราเคยพลาดมาก่อนเหมือนท่านผู้พิพากษาเลยค่ะ (หัวเราะ) เราเคยพูดกับเขาแหละ ในความเหมาะสมเอาคำผุ้พิพากษาที่พูดในศาลจากบัลลังก์มาโพสต์แบบนี้ คุณต้องการเครดิตหรือต้องการอะไร มันอวยยศอวยชัยให้ตัวเองได้เหรอ ก็นั่นแหละ เป็นซะอย่างนี้ เหมาะสมหรือไม่ ส่วนคดีน้องทหารอากาศ เราก็เลยงง เมื่อรู้ว่าเล็กมาเป็นคนขับรถ ส่วนตัวออยงง เพราะคิดว่าทำไมทนายตั้มไม่ไว้ใจเบียร์ คนขับรถคนเดิมที่อยู่กับทนายตั้มมาเป็นสิบปี แล้วทนายตั้มเคยพูดกับออยว่าใครจะไปจากชีวิตก็ได้ แต่เบียร์ไปไม่ได้ นั่นหมายความว่าเบียร์รู้ความดีงามทนายตั้มทุกอย่าง ที่ไปติดทองหลังพระไว้ที่ไหนก็แล้วแต่ เขาทำอะไรไว้ คิดว่าเบียร์รู้หมด ตอนแรกก็งงว่าทำไมเบียร์ออกไปจากชีวิตทนายตั้มได้ และที่งงกว่าคือทำไมไว้ใจเล็กมากกว่าเบียร์

คุณรู้จักเบียร์มั้ย?

ออยศรี : รู้จักค่ะ ไม่ได้สนิทขนาดนั้น แต่เคยเจอ คุยกันหลายครั้ง เมื่อก่อนเขาเคยซื้อไอโฟนซื้ออะไรให้เบียร์เลยนะ ตั้งแต่ปี 56 57 เขาอยู่กันมาเป็นสิบปี ตอนแรกคิดว่าเบียร์ออกไปเมื่อช่วงต้นปี แต่ไปสืบใหม่ เบียร์ออกประมาณธ.ค. พยายามหาข้อเท็จจริงที่สุดค่ะ ส่วนตัวมองว่าเบียร์ควรได้รับความไว้ใจมากกว่า แต่เมื่อเป็นน้องทหารอากาศ เราก็คิดว่าในฐานะที่ทนายตั้มเคยช่วยเหลือคดีกันมา จนปรากฏออกมาว่ายาเสพติดที่ครอบครองอยู่เป็นการยัดยา นี่คือบุญคุณหรือจะมีอีกมุมหรือเปล่าที่กุมความลับกัน เพราะทนายตั้มเขาเก่งคดียาเสพติด แม้แต่คดีเอมี่ ออยหาข้อมูลควรประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต ทนายตั้มเก่งมาก เอมี่จากค้า ขนาดยาควรต้องค้า ควรประหารชีวิต แต่ทนายตั้มเอามานั่งแถลงข่าวได้ว่าเสพ อันนี้บุญคุณหรืออะไร ไม่ทราบ ไม่ยืนยันข้อเท็จจริงนะคะ แต่ในเมื่อสามารถไว้วางใจแทนเบียร์ คุณมีความลับที่กุมซึ่งกันและกันหรือเปล่า อันนี้ไม่ทราบได้ แต่ถ้าไว้ใจมากกว่าเบียร์ ออยสงสัย

รองแต้ม :   จริง ๆ ตร.ไว้ใจได้ทุกคน จะมีแค่บางคนที่ไม่น่าไว้ใจ เมื่อกี้ออยศรีพูดดีอยู่แล้ว ทำไมเขาถึงเอาคนนี้มาใช้ หนึ่งอาจเรื่องการช่วยกันนั่นแหละ ที่ทำให้หลุดคดี ก็ถือเป็นบุญคุณได้ บางคนบุญคุณแบบนี้ออกจากคุกมาก็สามารถตายแทนกันได้นะ สองการที่เขามาช่วย ถ้าไม่ช่วยคุณอาจถูกเปิดความลับหรือพฤติกรรมคุณก็ได้ สามารถเรียกมาใช้ ตายแทนกันได้ งานแบบนี้ไม่ได้เสี่ยงคุกเสียงตะราง แค่ไปขนเงินจากธนาคาร ให้ให้เขาแค่นี้ ก็ไม่ได้ดูผิดอะไร เพียงแต่เป็นสาระสำคัญในการเป็นพยานหลักฐาน สิ่งที่เขาโพสต์ที่โพสต์เรื่องออกจากคุกแล้ว อันนิ้ผิดมรรยาททนายหรือเปล่า เป็นการอวดอ้างหรือเปล่า ศาลพูดจริงหรือเปล่า เดี๋ยวจะเป็นหมิ่นได้นะ

ผิดมั้ย?

สุชาติ : ถ้าการอวดอ้างให้ได้มาซึ่งลูกความ เช่นอวดอ้างว่าฉันเก่ง คดีนี้เคยว่าความชนะมาแล้ว มันเป็นการอวดอ้างเพื่อจูงใจให้คนมาจ้างว่าความ อีกประเด็นที่โพสต์เมื่อกี้ สำคัญ จะเป็นเรื่องการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ผมเคยเตือนทนายหลายท่าน แบบนี้เป็นประจักษ์ การโพสต์อะไรที่เกี่ยวกับศาล เป็นเรื่องที่ต้องห้าม ไม่ว่าโพสต์หน้าบัลลังก์ ถ่ายรูปออกเฟซละเมิดอำนาจศาลทั้งสิ้น แม้กระทั่งคำอวดอ้าง พฤติกรรมแบบนี้เป็นการอวดอ้าง คำพูดจะละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ต้องระวัง

ออยศรี : เขาโพสต์ตั้งแต่ปี 61 ตอนนี้ปี 67 การละเมิดอำนาจศาลมีอายุความมั้ยคะ

สุชาติ : ถ้าศาลท่านเห็น ท่านอาจจะรู้วันนี้ก็ได้ อายุความก็นับวันนี้ ก็สุ่มเสี่ยงเรื่องผิดมรรยาททนายความ และเรื่องละเมิดอำนาจศาล

ไล่โพสต์ทนายตั้ม ลักษณะการโพสต์ถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเล็กตั้งแต่ปี 61 ไปงานบวชเล็ก วันนี้ได้เห็นน้ำตาและรอยยิ้มแห่งความปลื้มปีติของพ่อแม่น้องเล็กที่ผมได้ช่วยไว้ในคดีทหารอากาศถูกยัดยา ผมดีใจที่ได้เป็นส่วนนึงที่พาน้องมามีวันนี้ได้ จนพ่อแม่น้องมีความสุขที่สุดที่ได้เกาะชายผ้าเหลืองลูกชาย เป็นอีกวันที่มีความสุขจริง ๆ ?

รองแต้ม : การโพสต์แบบนี้ เขาก็แสดงตัวตนว่าเขาเป็นคนดี สิ่งที่เขาช่วยเหลือมาเขาได้ทำประโยชน์ แต่ผมยังขัดใจคำว่ายัดยา ผมมองว่าศาลคงไม่ตัดสินว่ายัดยา เวลาศาลตัดสินให้ใครชนะ ต้องว่าเหตุผล 1 2 3 ไม่น่าเชื่อว่าเป็นแบบนี้ คำว่ายัดยา ถ้าในคำพิพากษาไม่มีนะ เจ้าหน้าที่ตร.ที่จับฟ้องได้เลย เพราะเชื่อว่าศาลไม่ตัดสินหรอกว่ายัดยา เขียนแบบนี้ผิดนะ หมิ่นประมาท

ออยศรี : ทนายตั้มเก่ง ช่วยเหลือหลายเคสที่ออกมาเป็นยัดยาทั้งนั้น รวมถึงเคสเอมี่ที่เหลือแค่เสพ

รองแต้ม : คงสงสัยไงว่าทำไมทนายตั้มว่าความแต่เรื่องยัดยา ว่าความแต่เรื่องยาเสพติด คนสงสัยว่าขบวนการของยุติธรรมมันผิดเพี้ยนหรือเปล่า มีเงื่อนงำอะไรหรือเปล่า ตอนนี้มีการตรวจสอบจะเปิดเผยกันแล้ว

ออยศรี : ตอนนี้จะมีกลุ่มคนที่เคยเป็นผู้ต้องขังและยังเป็นผู้ต้องขังข้างใน เขาคุยกันและประสานกับเราว่าอยากรวบรวมรายชื่อคนที่ทนายตั้มเคยติดต่อเพื่อประสานงานเรื่อง 100/2 และเชิดเงินไปเลย ทำอะไรไม่ได้ เอาเงินเขาไป

รองแต้ม : วิธีการตรวจสอบง่ายมาก ไปดูคดีที่เขาทำเรื่องยา มีกี่คดี ไปถึงศาลไหน ใครเป็นคนตัดสิน แล้วจะรู้ได้ว่าคดีความคนที่เขาสงสัยกันมันก็จะปรากฎ คดี 100/2 เป็นพรบ.ยาเสพติดที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม ตอนนั้นจะมีการปราบปรามยาเสพติด เขาเลยตรากฎหมายนี้ขึ้นมาว่าถ้าจับรายเล็กแล้วรายเล็กให้ข้อมูลสามารถจับรายใหญ่ได้ ก็จะใช้มาตรา 100/2 ช่วย แต่ไม่ใช่พ้นผิดนะ แต่ศาลจะลงโทษเท่าไหร่ก็ได้ อันนี้เป็นวิธีการ ถ้าศาลลงโทษปีนึง รอลงอาญาก็หลุดเลย ตรงนี้อาจเป็นเครื่องมือให้ทนายชั่ว ทนายโจร ไม่ใช่เขานะ เจ้าหน้าที่ตร.ที่คิดไม่ดี ร่วมมือกัน ทำหลักฐานเท็จมาเพื่อยื่นต่อศาล ว่าการจับกุมรายใหญ่มาจากคนนี้ เพื่อให้ได้รับข้อยกเว้น ดังนั้นบางทีไม่ได้เกี่ยวกันเลย 100/2 ต้องทำตั้งแต่วันจับ แต่นี่ไปทำย้อนหลัง ไปให้คนนั้นทำให้ คนนี้ทำให้ ผมพูดถึงทนายชั่ว ทนายโจร แต่ก่อนตอนผมเป็นพนักงานสอบสวน มีทนายโจร เวลาว่าความให้ใครแล้ว ไปจ้างพยานไม่ให้มาเป็นพยานเพื่อลูกความชนะ บางทีจ้างคนยิงตัดพยานเลยนะ เอาเงินยัดผู้เสียหาย เอาเงินยัดพนักงานสอบสวน แต่เดี๋ยวนี้มีทนายสันดานโจร บางคนเป็นทั้งทนายโจรและสันดานโจร เราพูดถึงทนายเลวนะ ตร. ทหารมีหมด ทนายมีทั้งดีทั้งเลว

ตอนนี้ทนายตั้มถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบเท่าที่ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาออกมา?

ออยศรี : ทนายตั้มยังเป็นผู้บริสุทธิ์นะวันนี้ เพียงแต่ว่ามีคดีเป็นผู้ต้องหาเฉย ๆ แล้วจะมีเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องมรรยาททนายความด้วย บางมุมต้องรอคำพิพากษาหรือเปล่า อย่างเช่นการเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเงินลูกความ เขาพูดเองว่าเขาไปขอเงินพี่อ้อยอย่างโน้นอย่างนี้ เอาลูกไปจะเป็นลูกบุญธรรม มันเข้าข่ายหรือยังตระบัดสินลูกความ

เงิน 39 ล้านน่าจะเป็นปัญหาใหญ่สุดในบรรดา 4 คดีทนายตั้ม เพราะพฤติการณ์ทำให้เห็นว่ามีลักษณะการทำเป็นขบวนการ มีการตระเตรียมกันมา พี่อ้อย พี่น้อย เคยให้สัมภาษณ์ จาก 39 ให้คนชื่อเล็กขนไป 20 ล้าน ฝากธนาคาร แล้วทยอยถอนออกวันละ 1.9 ล้าน ทนายตั้มถอนแบบนี้เพราะอะไร?

รองแต้ม : เขาฉลาดอยู่แล้ว การที่เขาเติบโตมาได้ทุกวันนี้เพราะความฉลาดของเขานะ สองอาจเกิดเพราะความเก่งก็ได้ การว่าความก็ว่ากันไป เก่งแบบไหนก็ว่าไป สามเขามองว่าเขามีสื่อคอยดูแล สนับสนุนเขา เขาถึงกล้าทำแบบนี้ เวลาทนายที่เป็นแบบนี้ อันดับแรกพวกนี้เขาจะสร้างภาพเป็นคนดีของสังคม ช่วยเหลือเหยื่อ บางทีเหยื่อตกยากไปเจอเขา มันเหยื่อซ้อนเหยื่อเลยนะ นี่คือสร้างภาพ สองสร้างพาว มีพาวเวอร์ รู้จักสื่อรู้จักนายตร.ชั้นผู้ใหญ่ รู้จักนักการเมือง ก็สร้างพาว สามสร้างพล็อตเรื่อง ก่อนทำคดีต่าง ๆ แถลงข่าวเป็นเรื่องเป็นราว สังคมก็เชื่อ เขาเก่งไง บางทีคนที่ไม่เคยออกเขาอาจไม่ได้ทำผิดนะ แต่เขาไม่มีโอกาสมาออก ประชาชนก็เลยศาลเตี้ยคนนั้นไปหมด สี่สร้างพวก มีแอดเวนเจอร์ เป็นกลุ่มเป็นก้อน กูไม่ทิ้งกัน ถ้ามึงทำผิดกูจะปิดบัง สุดท้ายทำเพื่ออะไร

เพื่อตัวเอง?

รองแต้ม : เพื่อเงิน เพื่อผลประโยชน์ พฤติกรรมก็จะเป็นอย่างนี้ เขาเก่ง มีความฉลาด เบิกทีละ 1.9 ล้าน เพราะถ้า 2 ล้านต้องโดนตรวจสอบ นี่คือความฉลาด ถึงบอกว่าสร้างหนังได้ แต่ความฉลาดแบบนี้เอามาเปิดไม่ได้นะเพราะสังคมจะไปเลียนแบบทำไม่ดี

พี่น้อยพี่อ้อยเล่ามาพอได้เห็นพฤติกรรมทนายตั้ม โดยเฉพาะเรื่องเอกสารที่บอกว่าแจ้งความแล้วไม่ได้แจ้ง เอาไปฝากแล้วไม่ได้ฝาก รวมถึง 20 ล้านที่มีการขนเงิน พฤติกรรมต่าง ๆ คุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ใช้คำว่าเป็นสันดาx เห็นด้วยมั้ยที่บอกว่ามักมีนิสัยชอบแปลงเอกสาร หลักฐานเท็จ?

ออยศรี : ตัวทนายตั้มเคยมีเหตุการณ์โดนรวบคามูลนิธิทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคมของเขามาแล้ว ในเรื่องการปลอมแปลงเอกสาร คดี 100/2 นี่แหละค่ะ คดีเอมี่ แม่มา ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่เข้าใจว่ามีการปรับเปลี่ยนกันยังไง ทั้งที่ตัวเองเป็นเจ้าของคดีแท้ ๆ เอาเอมี่มานั่งแถลงข่าวว่าเป็นแค่เสพ รับงานเป็นงานส่วนตัว ใส่เสื้อมูลนิธิแถลงข่าวยาเสพติด งงไปหมดเลยค่ะ อยากอวดอ้างอะไรหรือเปล่า เชิญชวนแขกยาเสพติดมาหรือเปล่า นั่นแหละค่ะ ท้ายที่สุดก็โดนรวบคามูลนิธิไป ตอนแรกบอกเอมี่แค่เสพ สู้มาได้สุดท้ายชนะ ทุกวันนี้เอมี่หนีออกไปนอกประเทศเพราะอะไรคะ เพราะโดนศาลชั้นอุทธรณ์เปลี่ยนคำตัดสิน โดนไป 33 ปี หนีไปไหนแล้ว

พี่แต้มมองยังไง?

รองแต้ม : ผมบอกแล้วว่าเวลาทนายโจรหรือทนายสันดานโจร จะคิดเรื่องแบบนี้ บางทีการปลอมแปลงเอกสารคนอื่นไม่รู้ เวลาไปยื่นศาล ศาลท่านก็เห็นแต่ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ท่านไม่รู้หรอกว่าเอกสารบางอย่างปลอมแปลงมา เวลาตัดสิน ท่านก็ทำตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ อันนี้ก็เป็นช่อง ถ้าเกิดการปลอมนั้น รู้เห็นเป็นใจกับคู่คดี หรือคนที่กระทำกันมา ก็เลยไม่มีปัญหาในการร้องเรียน ยกเว้นมันผุดขึ้นมา เพราะต่อสู้คดีแล้วแพ้คดี บางทีโทษกระบวนการยุติธรรมไม่ได้ เพราะต้องตัดสินตามพยานหลักฐานที่ปรากฏอยู่ ตอนนี้พี่อ้อยไปทำพินัยกรรมใหม่ที่ศาล พี่อ้อยถามว่าอันที่สองอยู่ไหน ทนายตั้มบอกว่าทำลายแล้วใช่มั้ย สมมติถ้าเกิดพี่อ้อยไม่บอกว่าไปทำครั้งที่สาม ทนายตั้มจะกล้าทำลายครั้งที่สองมั้ย ก็ไม่กล้าสิ เพราะเขาได้ประโยชน์เต็ม ๆ ก็ต้องไปดูว่าหลังพี่อ้อยทำได้บอกทนายตั้มมั้ย ถ้าไม่บอกแสดงว่าทนายตั้มก็ต้องคิดว่าฉบับที่สองเขายังมีอำนาจอยู่ แล้วไปดูสิเหตุอะไรทำไมคุณไม่คืนเขา คุณไปทำอะไรในเอกสารนั้นหรือไม่ สามการที่คุณไปทำลายโดยที่เขายังไม่รู้ อันนี้เป็นคู่สัญญานะ ถามทนายได้เลยว่าทำลายเอกสารหรือเปล่า ผิดกฎหมายอีกนะ ไปปลอมแปลงอีก โดนอีกนะ

ออยศรี : ทำลายหรือไม่ ถ้าปรากฏว่าเขายังไม่ทำลาย แต่ฉบับล่าสุดพี่อ้อยไปทำกับฝ่ายเมือง มีความเหมือนหรือขัดกับเอกสารเก่า ถ้าเขียนไป 100 อย่างในฉบับที่ทนายตั้มถืออยู่ แต่พี่อ้อยมาเขียนใหม่แต่ไม่ครบร้อยอย่างเลย มีบางอย่างไม่ได้ปรากฏในฉบับใหม่ ก็จะตกอยู่ในอำนาจทนายตั้มหรือเปล่าคะ

รองแต้ม : ถ้ามีสาม เขายกเลิกสองหมดแหละ

สุชาติ :   เขาถือเอาพินัยกรรมฉบับสุดท้าย ไม่มีข้อแม้ ฉบับที่สองก็ต้องยกเลิก

เมื่อวานคุณสนธิกับอ.ปานเทพ ไปร้องมรรยาทนายความ ทนายเดชากับทนายตั้ม ท่านสุชาติออกมารับเองเลยมั้ย?

สุชาติ : ผมเป็นอุปนายก ดูแลบริหารและกำกับดูแลเรื่องมรรยาทอยู่แล้ว วันนั้นที่คุณสนธิกับอ.ปานเทพไป ผมไม่ได้ออกมารับ แต่วันนั้นท่านไปยื่นที่ห้องทำงานผม ก่อนอื่นผมต้องขออนุญาตนิดนึง ผมปกป้องทนายความ 8 หมื่นกว่าคนทั่วประเทศ ตอนนี้สังคมทนายความถูกขยี้ มันมีทั้งทนายความดีและไม่ดี มีอีกหลายหมื่นคนที่เขาเป็นคนดี มีแค่ทนายส่วนน้อยที่กระทำความเสียหาย เราก็มีมรรยาททนายความที่จะลงโทษ เมื่อวานท่านอ.ปานเทพกับคุณสนธิก็ไปยื่นในห้องทำงานผม ผมก็รับไว้นะครับ เมื่อรับแล้วก็ไม่มีสิทธิ์ดำเนินการใด ๆ นอกจากส่งให้ประธานมรรยาท ประธานมรรยาทท่านรับเอกสารแล้วก็จะส่งเอกสารให้รองประธาน ท่านใดท่านหนึ่งพิจารณาว่าเรื่องที่ร้องมา มีเหตุผลพยานหลักฐานเพียงพอที่จะรับเป็นคำกล่าวหาหรือไม่ ถ้ามีเหตุผลเพียงพอรับเป็นคำกล่าวหา ท่านก็จะให้ผู้ถูกกล่าวหาใช้สิทธิ์ชี้แจง เหมือนการต่อสู้ในศาล เป็นการยื่นเอกสารแก้ข้อกล่าวหาเอาพยานหลักฐานมาว่ากัน เป็นกระบวนการ ท่านประธานก็จะส่งให้กรรมการสอบสวน ตั้งคณะขึ้นมา สอบสวนว่าความผิดนั้นเป็นความผิดหรือไม่ เมื่อคณะกรรมการสอบสวนเสร็จก็ส่งให้คณะกรรมการมรรยาทพิจารณา คณะกรรมการพิจารณาก็จะพิจารณาว่าผิดหรือไม่ ถ้าผิดจะลงโทษแค่ไหนอย่างไร สุดท้ายส่งให้บอร์ด ซึ่งเป็นคณะกรรมการบริหารอีกที เมื่อบอร์ดพิจารณาแล้ว ถ้าผิดลงโทษแค่ไหนอย่างไร ถ้าผู้ถูกกล่าวหาไม่พอใจในคำตัดสินนั้นก็สามารถอุทธรณ์ไปยังนายกสภาพิเศษได้ หรือนายกสภาพิเศษท่านเห็นพ้องด้วยกับคณะกรรมการ ผู้ถูกกล่าวหายังฟ้องศาลปกครองได้ กระบวนการมันยาว บางคนบอกว่าร้องมาเป็นปีสองปี ทำไมไม่รู้ผลสักที ทำไมบางทีทนายที่ถูกลบชื่อแล้วไม่ประกาศรายชื่อให้สังคมทราบ อันนี้ไม่ได้ เพราะตามพรบ.ทนายความเราไม่มีสิทธิ์ไปเปิดเผยข้อมูลเพราะมันจะเหมือนการละเมิดเขา เพราะพรบ.ทนายความเมื่อปี 28 ไม่ได้ให้อำนาจเรา ในการเปิดเผยข้อมูลนี้ ถ้าเราเปิดเผยข้อมูลเราจะถูกกล่าวและถูกดำเนินคดี ดังนั้นกระบวนการต่าง ๆ ต้องมีการแก้กฎหมาย เรื่องการสอบสวนที่เห็นว่าช้า ข้อบังคับนี้ใช้มา 20 กว่าปีแล้ว ไม่มีการแก้ไข ไม่ทันใจ ตอนนี้อยู่ในระยะเวลาแก้ไข

สภาทนายความเปิดเผยรายชื่อทนายที่ถูกลงโทษ ถอดถอนใบอนุญาต แล้วถ้าวันนึงต้องไปจ้างทนาย แล้วแจ็คพอตได้ทนายที่ถูกถอดถอนออกมา จะทำยังไง?

สุชาติ : ตรงนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขพรบ. ปัจจุบันต้องส่งคำสั่งนี้ไปแค่ศาลยุติธรรมกับเนติบัญญัติเท่านั้น

รองแต้ม : ตอนนี้เหล็กมันร้อน สังคมสนใจเกี่ยวกับทนายความมาก อันไหนควรแก้ต้องรีบแก้ สังคมจะได้สนับสนุน คนแก้กฎหมายจะได้ช่วยกัน หนึ่งอาจารย์บอกว่าพอลบรายชื่อแล้วไม่สามารถประกาศได้  มันเจ็บจี๊ดเลยนะ เมื่อไม่ประกาศเขาก็เอาตัวเองไปหลอกชาวบ้านอีก แล้วต้องแก้อีกนะ ลบแล้วมึงจะไปอยู่สำนักงานทนายความที่ไหน จะไปตั้งทนายความที่ไหน ต้องไม่ได้เลย เพราะจะไปหลอกเขาอีก ต้องทำเลย ตรงนี้เป็นสาระสำคัญ เหมือนตร.ทำผิด ก็ประกาศราชกิจจานุเบกษาเลย ว่าคนนี้ไม่ได้เป็นตร.แล้ว อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ท่านต้องรีบทำครับ บางครั้งใครถูกศาลสั่งต้องถอดทันที หรือใครถูกร้องเรียนว่ากระทำความผิด โดนพักสักสองครั้ง ครั้งที่สามต้องพิจารณาแล้ว ถอดเลย ผมถึงต่อสู้ว่าตร.ไม่ดีต้องเอาออก ไม่ต้องไปสนใจมันประชาชนต้องได้ประโยชน์

สุชาติ : คณะกรรมการชุดนี้เราเข้ามาเดือนก.ย.ปี 65 ตอนนี้เราตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขพรบ.ทนายความ พรบ.ทนายความมีมาตั้งแต่ปี 2528 พยายามแก้ไขหลายครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ กฎหมายต้องผ่านสภา ตอนนี้เราตั้งคณะกรรมการแก้ไขทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว อยู่ที่ต้องยื่นแก้ไขที่สภา แม้แต่การสอบสวนล่าช้า ข้อบังคับนี้ก็ใช้มา 20 กว่าปีแล้ว

ตอนนี้กระแสสังคมกดดัน คุณเป็นตัวแทนหมู่บ้านไปยื่นนายกฯ ให้เอาเข้าสภา?

รองแต้ม : ตอนนี้นายกฯ ทราบแล้ว ท่านกำลังลุยอยู่ แต่อยากให้ประชาชนช่วยกันกดดันส.ส. ที่เลือกไปให้แก้ไขตัวนี้ ให้คลอดออกมาไว ๆ

ออยศรี : การที่ทนายตั้มเข้าข่ายตระบัดสินลูกความหรือยัง เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินลูกความ มุมสภาทนายความต้องรอคำตัดสินจากศาลก่อนหรือไม่ ถึงจะเรียกว่าได้ตระบัดสินลูกความแล้ว เพราะเขาพูดเอง ยอมรับเองตามรายการต่าง ๆ ว่าเป็นทนายที่ไปขอเงินลูกความมาอย่างมหาศาล ถามเพื่อต้องการให้มีการตัดสินเพื่อคงอยู่หรือถอดใบอนุญาตของทนายตั้ม

สุชาติ : คำว่าตระบัดสินเป็นคำโบราณ คือมีพฤติกรรมฉ้อโกง หลอกลวงลูกความ ให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยมิชอบ เช่นไปอ้างว่าไปวิ่งเต้นตร. อัยการ ผู้พิพากษา คำว่าตระบัดสินคือให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน ตรงนี้บรรทัดฐานที่เราพิจารณาคดีมรรยาททนายความต้องบอกก่อนว่าลบชื่อ แม้แต่เงินหมื่นนึงเอาไปวิ่งเต้นพนักงานสอบสวนก็ลบชื่อมาแล้ว ส่วนตระบัดสัตย์คือรู้ข้อเท็จจริงจากอีกฝั่ง แต่เอาไปส่งอีกฝั่งเพื่อต่อสู้คดี แบบนี้เรียกตระบัดสัตย์

ออยศรี : อย่างนี้ทนายตั้มอยู่ทั้งในโหมดตระบัดสัตย์และตระบัดสินหรือเปล่า ยกตัวอย่างเคสครูปรีชา เราไม่สนใจว่าหวยเป็นของใคร แต่ทนายตั้มเข้าไปแอบถ่ายครูปรีชาแล้วตนเองเอาไปพูดว่าเอาไปใช้ในการทำลายน้ำหนักในศาล ที่บอกว่าตัวเองเป็นดีเอสไอ ส่วนตระบัดสินก็อยู่ในโซนพี่อ้อย ถูกมั้ยคะ มีอีกอย่างที่ต้องถาม ทนายตั้มเคยโดนคำพิพากษาตัดสินส่วนของการชอบใช้สื่อทำลายชื่อเสียงบุคคลอื่น มีคำตัดสินไว้แล้วในคำพิพากษาของคุณนพพล พู่แย้ม บอกว่าการใช้สื่อทำลายชื่อเสียงคนอื่นมันเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ทำไม่ได้ ศาลถือว่าห้ามเขาไว้แล้วใช่มั้ยคะ แต่ในวันที่ 23 เช้าก่อนมีการนั่งแถลงข่าวกับพี่อัจ ตัวทนายตั้มได้เอาอดีตแอดมินเพจออยไปนั่งแถลงคู่กัน โดยนั่งใส่ความตัวออย ซึ่งพวกคุณเอาเรื่องราวคดีในศาล ที่อยู่ในช่วงพิจารณาคดีด้วยไปนั่งพูดกัน ตรงนี้มีคำพิพากษาแล้วด้วยโดยท่านวิเชียรเคยพูดว่าถ้ามีคำพิพากษาตัดสินแล้วก็ไม่ต้องรออะไรแล้ว ถูกต้องมั้ยคะ

สุชาติ : นอกจากเรื่องตระบัดสัตย์ตระบัดสินที่พูดมา อาจเข้าข่ายเรื่องจริยธรรม ฉะนั้นถ้ามีคำพิพากษาของศาลถึงที่สุด ถ้ากรณีลงโทษจำคุก อันนี้เราจำหน่ายชื่อได้เลย เพราะขาดคุณสมบัติ เช่นล้มละลาย คำพิพากษาสูงสุดลงโทษจำคุก  

ออยศรี : จำคุกจำเป็นต้องรอลงหรือไม่รอลงอาญามั้ยคะ

สุชาติ : เรื่องการจำหน่ายชื่อ นั่นคือโทษถึงที่สุดคือจำคุก แต่ถ้าเรื่องจริยธรรม เราก็เอามาประกอบเรื่องการร้องมรรยาท นี่ก็อีกส่วน จะไปพักโทษเขาไม่ได้

รองแต้ม : ที่พูดนี่ก็ครบหมดแล้ว (หัวเราะ) ผมจะไม่มีเรื่องกับพี่ออยศรีแน่นอน ผมตายแน่

นอกจากคุณสนธิร้องมรรยาททนายความทนายตั้ม อีกคนคือทนายเดชา?

สุชาติ : ใช่ครับ ผมได้รับเอกสาร ได้ส่งมอบไปยังเจ้าหน้าที่ และจะส่งไปที่ประธานมรรยาท ว่าผิดมรรยาทหรือไม่ สองเรื่องจริยธรรม ถ้าผิดมรรยาทและจริยธรรม ก็ส่งให้คณะกรรมการสอบสวน ดำเนินการสอบสวนทันที ถ้าพยานหลักฐานที่ส่งไป มันพร้อม ก็สามารถดำเนินการได้เร็ว บางเรื่องที่ล่าช้า เพราะพยานหลักฐานไม่มีเลย ต้องใช้เวลาในการให้ผู้กล่าวหานำพยานหลักฐานมา แต่เมื่อวานนี้ยังไม่ได้ดูเอกสาร แต่เชื่อว่าเอกสารที่ส่งมาปึกเบ้อเร่อ เยอะมาก ผมก็ไม่มีอำนาจในการไปเปิดดู แต่เหมือนเอกสารท่านเตรียมไว้พร้อมหมด ตรงนี้ก็อาจไวขึ้น

ทีมข่าวไปสัมภาษณ์ทนายเดชา แกก็บอกว่าไม่กลัว ขำ เพราะตัวเองไม่มีแผล อยากตั้งคำถามถึงสภาทนายความบางคนก็บ้าจี้เดินออกไปรับ อุปนายกก็หิวแสงหรือเปล่า พอกันไม่มีใครเป็นผู้เสียหายหรอก ถ้าตั้มทำผิดกฎหมายก็ติดคุกไป ผมไม่ได้เข้าข้างเขานะ สิ่งต่าง ๆ ที่ตั้มพูดมาก็มาบอกพี่น้องสื่อมวลชน ก็เอามาบอกเป็นฝ่ายตั้ม อย่างพี่สนธิพูดก็เป็นข้อมูลฝั่งพี่อ้อย ตอนนี้เหมือนสร้างคอนเทนต์ไปเรื่อย ๆ ตัวละครแตกไปหมด แกก็สู้สุดซอยเหมือนกัน?

สุชาติ :   เมื่อวานนี้ไม่ว่านักข่าวหรือเจ้าหน้าที่ บอกว่าท่านอุปนายกลงไปรับเอกสารอ.ปานเทพกับคุณสนธิมั้ย ผมบอกว่าผมไม่ลงไปรับ แล้วก็ไม่ได้เสนอหน้าที่จะไปรับ เมื่อวานท่านเข้ามาในห้องผม อยากยื่นกับอุปนายกในห้อง ผมทำงานอยู่ เขาก็มายื่น มันเป็นหน้าที่และปฏิเสธไม่ได้ ในเมื่อมีประชาชนเดือดร้อนจากการกระทำของทนายความ เขาก็มีสิทธิ์ เพื่อความรวดเร็ว ผมรับเอกสารแล้วส่งให้ประธานมรรยาท แต่ก็มีสิทธิ์แค่รับและส่งไป นี่ไม่ได้เสนอหน้าออกไปหน้าสภานะครับ ดูก่อนนะ (หัวเราะ) เขาบุกมาในห้องของผม  เรามีหน้าที่บริการประชาชน แต่เราไม่ได้ออกไปรับข้างหน้า หรือแถลงข่าวร่วมกับเขาใด ๆ เราไม่ทำ ฉะนั้นก็จะเห็นภาพที่ท่านพูดมา ผมอยู่ในห้องนะครับ (หัวเราะ)

ไม่ได้เสนอหน้า เขาเข้ามาเอง คุณจะไปยื่นยุบอะไร?

ออยศรี : ตอนนี้ได้ปรึกษาพูดคุยกับทีมทนาย ลำดับถัดไปจะไปยื่นยุบมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม โดยทนายตั้มเป็นคนก่อตั้งขึ้นมา เนื่องจากวัตถุประสงค์ของเขาไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด แต่ตัวทนายตั้มได้ไปลงสว. และมีข่าวว่าทนายตั้มขาดคุณสมบัติในเรื่องการทำงานภาคประชาสังคมยังไม่ครบ 10 ปี มูลนิธินี้จดทะเบียนปี 59 ยังไม่ครบ 10 ปี เท่ากับเขาเอามูลนิธิมาใช้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแล้ว ดังนั้นแล้วมูลนิธินี้ต้องไม่ได้อยู่ต่อค่ะ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าที่อยู่มา มีประโยชน์อะไรกับสังคมบ้าง ออยทำออยศรีโพล 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีประชาชนสักคนชื่นชมและรู้ว่ามีประโยชน์อะไรบ้างกับมูลนิธินี้ นอกจากทนายตั้มลอยไปลอยมาอยู่บนแสง และนั่งแถลงข่าวเรื่องชาวบ้าน เขายกตัวเองเป็นทนายประชาชน โดยไม่ปรึกษาประชาชนสักคน วันนี้สิ่งที่เขาทำเบื้องต้นยังไม่มีศาลตัดสินก็จริงอยู่ แต่เรื่องตรงนี้มีความชัดเจน ขัดแย้งกับสิ่งที่ตัวเองตั้งต้นไว้เอง ฉะนั้นแล้วคุณไม่มีสิทธิ์อยู่ต่อ มูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคมตรงไหน กี่โมง ไม่เห็นประโยชน์ค่ะ แล้วไม่ทราบว่าการไปยื่นยุบ จะขอข้อมูลว่ามูลนิธินี้เคยทำคุณประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติ ให้ประชาชนมาแล้วกี่อย่าง แล้วมีอยู่มา ได้เงินได้ทองจากหน่วยงานรัฐตรงไหนบ้าง บนเสื้อเขาใช้โลโก้หน่วยงานภาครัฐอะไรอยู่มีความเสื่อมเสียกับหน่วยงานภาครัฐตรงนั้นแค่ไหน ภาครัฐตรงนั้นมีการขับเคลื่อนแล้วหรือยัง

About Author