สมาคม CBTA ต้นแบบบริหารจัดการเป็นเลิส คว้ารางวัล “สมาคมการค้าดีเด่น ประจำปี 2567” สองปีซ้อน
สมาคมการค้าส่งเสริมธุรกิจภาคกลาง โดย ดร.วินัย รุ่งฤทธิเดช นายกสมาคม นำทีมคณะกรรมการบริหาร นายศรมพรต รณฤทธิวิชัย กรรมการฝ่ายปฏิคม และ นายรุ่งโรจน์ เท้นทองเจริญ ผู้ช่วยผู้จัดการสมาคมเข้ารับรางวัล สมาคมการค้าดีเด่น ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานมอบรางวัลในครั้งนี้ จัดโดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติให้แก่สมาคมการค้าที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ และได้รับการยอมรับจากสมาชิกทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นต้นแบบที่ดีของสมาคมที่มีการบริหารจัดการเป็นเลิศ
ดร.วินัย นายกสมาคมฯ เปิดเผยว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ได้รับมอบรางวัล สมาคมการค้าดีเด่น ประจำปี 2567 ในครั้งนี้ ให้กับสมาคมการค้าส่งเสริมธุรกิจภาคกลาง ในนามของคณะกรรมการและสมาชิกสมาคมรู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่สมาคมการค้าส่งเสริมธุรกิจภาคกลาง ได้รับรางวัลในครั้งนี้”
ดร.วินัย กล่าวอีกว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสมาคมฯ มีวิสัยทัศน์มุ่งเป็นองค์กรชั้นนำในการส่งเสริมสมาชิกทั้ง 4 ภาคธุรกิจ ผลักดันนโยบายสู่การพัฒนาทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีพันธกิจ ในการเป็น ศูนย์กลางเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจของสมาชิกที่ตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทย 4 ภาคธุรกิจ ได้แก่ ภาคการผลิต ภาคการค้า ภาคการบริการ และภาคการท่องเที่ยว มีเป้าหมายที่จะยกระดับให้ 4 ภาค ธุรกิจนั้น มีมาตรฐานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดโลกได้อีกด้วย”
ดร.วินัย กล่าวต่อว่า “สำหรับกลยุทธ์ในการพัฒนาสมาคมฯ นั้น คือ ให้ภาคการผลิต มีการผลิตสินค้าที่มี
คุณภาพ ต้นทุนที่ต่ำด้วยระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถแข่งขันและตอบรับความต้องการของลูกค้าได้อย่าง
รวดเร็ว ภาคการค้า มุ่งผลักดันการตลาดผ่านสื่อ Social สนับสนุนการสร้างเครือข่ายธุรกิจ เชื่อมโยง การแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการของสมาชิก รวมถึงองค์กรภายนอกเพื่อเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้า สำหรับภาคการบริการนั้น มุ่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรภาคการบริการในทุกระดับให้มีทักษะการบริการอย่างมืออาชีพ”
“และผลักดันภาคการท่องเที่ยว ให้ทำการตลาดผ่านสื่อ Social media ศึกษาความต้องการของนักท่องเที่ยว เพื่อใช้เป็นข้อมูลตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งสินค้าและบริการ อีกทั้ง เพิ่มศักยภาพของธุรกิจด้านการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐาน มีบุคลากรมืออาชีพ และสุดท้ายสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงธุรกิจการท่องเที่ยวกับภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศเข้าด้วยกันอีกด้วย” ดร.วินัย กล่าวท้ายที่สุด