“ช่อง Boomerang” แปลงโฉมครั้งใหญ่ ทุ่มงบกว่า 100ล้าน ยกทัพการ์ตูนเอเชียยอดฮิต เสิร์ฟแฟน ๆ เป็นครั้งแรก!!
เอ็มซีเอ็น (โกลบอล) จำกัด ผู้จัดและผู้ผลิตรายการสถานีโทรทัศน์ช่อง Boomerang ช่องการ์ตูนอันดับ 1 ในกลุ่มเด็กและครอบครัวร่วมกับ DEX บริษัท เดกซ์ (ดรีม เอกซ์เพรส) ผู้ให้บริการธุรกิจคาแรคเตอร์เพื่อความบันเทิงครบวงจร เดินหน้าลุยงานสื่อโทรทัศน์เต็มสูบ!! ปรับโฉม ช่อง Boomerang ประเดิมส่ง Ultraman และ Masked Rider เรียกน้ำย่อย พร้อมเสริมทัพความสนุกด้วยการ์ตูนเอเชียยอดฮิต ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 น. เป็นครั้งแรกของช่อง ตั้งเป้าติด 1 ใน 5 Overall TV Channel ในไทย พร้อมทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ในปี 2567 ลุยงาน Content และกิจกรรมการตลาดเพิ่ม
นายพรพจน์ เลาหสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มซีเอ็น (โกลบอล) จำกัด เปิดเผยว่า ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของช่อง Boomerang ครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือกับ DEX ซึ่งเป็นผู้ให้บริการธุรกิจคาแรคเตอร์เพื่อความบันเทิงครบวงจร ทั้งด้าน Content และคาแรคเตอร์จากญี่ปุ่น ที่จะเข้ามาเติมช่องว่างและเสริมความแข็งแกร่งให้กับช่อง โดยเฉพาะด้านเนื้อหารายการ ด้วยการนำการ์ตูนจากฝั่งเอเชียมาออนแอร์ผ่านช่อง Boomerang เป็นครั้งแรก จากเดิมที่จะออกอากาศการ์ตูนในฝั่งตะวันตกแบบ 100% รวมทั้งการพัฒนาด้านบริการ ช่องทางการสื่อสารและการรับชมให้มีความหลากหลาย ทั้งการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ การเพิ่มช่องทางรับชมผ่าน Youtube, Facebook รวมถึงช่องทางการรับชมอื่น ๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสดใสและความมีชีวิตชีวาให้กับช่องได้เป็นอย่างดี
“แม้ว่า Boomerang จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านเนื้อหา แต่เรายังคงความเป็น Boomerang ที่ครองใจผู้ชมมาตลอด ด้วยการมอบความสุขให้ทุกคนในครอบครัว ไปพร้อมกับการมอบสาระ ความรู้ให้กับเด็กๆ และการเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่สังคมผ่านการ์ตูนและรายการที่ปลอดภัยเหมาะสมกับเด็ก โดยปัจจุบันเราเป็นสถานีโทรทัศน์เพียงช่องเดียวที่ฉายการ์ตูนแบบ 24 ชั่วโมง บนทีวีดาวเทียม ช่อง 89 ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าชมกว่า 13 ล้านคนในแต่ละเดือน โดยการเปลี่ยนแปลงแรกที่จะเกิดขึ้น คือการเริ่มออกอากาศการ์ตูนญี่ปุ่นยอดฮิตอย่าง Ultraman และ Masked Rider หรือ ไอ้มดแดง เป็นรายการแรกๆ เพื่อเอาใจสาวกแดนปลาดิบ เนื่องจากตลาดของการ์ตูนญี่ปุ่นในประเทศไทยยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมีฐานแฟนคลับที่ค่อนข้างหนาแน่นอยู่แล้ว อีกอย่างการที่เรานำคอนเทนต์ฮีโร่เข้ามา เพื่อต่อยอดและปูพื้นฐานธุรกิจที่จะแตกแขนงออกไป เช่น การทำโชว์ต่าง ๆ ด้วยการนำการ์ตูนฮีโร่ที่เป็นคนแสดงจริงๆ เข้ามาให้เด็ก ๆ ได้ชมทำให้เกิดความสนุกสนาน สร้างสีสัน สร้างอรรถรสในการรับชมจากนอกจอ อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจในเรื่องของการทำความดี การได้ช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งการ์ตูนของทาง DEX ถือว่าตอบโจทย์ได้ตรงจุด เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่ดีและโด่งดังมาอย่างยาวนาน” นายพรพจน์ กล่าว
ด้านนายกฤษณ์ สกุลพานิช ประธานกรรมการ บริษัท เดกซ์ (ดรีม เอกซ์เพรส) กล่าวเสริมว่า การก้าวเข้าสู่วงการสื่อโทรทัศน์ของเดกซ์ในครั้งนี้ เกิดจากความต้องการเพิ่มช่องทางการสื่อสารของบริษัทฯ ผ่านทางช่อง Boomerang ซึ่งเป็นช่องการ์ตูนที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและครอบครัวเช่นเดียวกับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ การเข้ามามีส่วนร่วมตรงนี้จะช่วยให้งานด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของบริษัทฯ รวมไปถึง Partner ทางธุรกิจ สามารถส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด และมีความประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“ด้วยลักษณะสินค้าและบริการของเดกซ์ การขยายและเพิ่มช่องทางการสื่อสาร โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านสื่อโทรทัศน์ ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมการตลาดต่างๆ จะช่วยทำให้เดกซ์เป็นบริษัทฯ ที่มีการบริการที่ครบวงจร เริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตและจัดจำหน่ายสื่อ การอนุญาตให้ใช้ลิขสิทธิ์และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลิขสิทธิ์ จากตัวการ์ตูนคาแรคเตอร์ยอดฮิต ไม่ว่าจะเป็น กันดั้ม, อุลตร้าแมน, Masked Rider หรือ ไอ้มดแดง วันพีซ ดาบพิฆาตอสูร และคาแรคเตอร์อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับการทำการตลาดและการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ จะสามารถรองรับทุกความต้องการของลูกค้าและ Partner ทางธุรกิจของเราได้ครอบคลุมและครบครันมากยิ่งขึ้น” นายกฤษณ์ กล่าว
นายพรพจน์ เลาหสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มซีเอ็น (โกลบอล) จำกัด กล่าวปิดท้ายว่า ในปี 2567 ทาง Boomerang จะเน้นการลงทุนด้าน Content และกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เม็ดเงินกว่า 100 ล้านบาท ผ่านกิจกรรมทั้งออฟไลน์และออนไลน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัด Boomerang School Tour ครั้งที่ 7 ใน 40 โรงเรียนทั่วประเทศ การจัดงานวิ่งด้วยกลุ่มเป้าหมายที่มากกว่า 5,000 คน รวมทั้งกิจกรรมทั้งระดับประเทศและระดับเอเชีย งานแสดงสินค้า และงานเปิดตัวสินค้าต่างๆ ร่วมกับเดกซ์ ที่จะมีให้ติดตามและร่วมสนุกตลอดทั้งปี ซึ่งคาดว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งหมดในปีนี้ จะช่วยกระตุ้นความนิยมของช่องจนขยับขึ้นมาติด 1 ใน 5 อันดับ ของ Overall TV Channel ในไทย จากที่อยู่ใน Top 10 มามากกว่า 10 ปี รวมถึงรายได้ที่คาดว่าจะจะเติบโตขึ้นจากปีก่อนมากกว่าเท่าตัวจากสินค้าและบริการที่มีความหลากหลายขึ้น