รีวิวอนิเมะซีรีย์ “Jujutsu kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร” season 2 ภาคย้อนอดีต

ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอนิเมะซีรีย์ ที่ใครต่อใครหลายคนต่างเฝ้ารอกันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ กับซีซั่นต่อ ที่จะเปิดเผยเรื่องราวของตัวละครที่เก่งที่สุดในเรื่อง อย่าง “โกโจ ซาโตรุ” และ เพื่อนของเขาอย่าง “เกะโทร สุงุรุ” ก่อนที่ทั้งสองคนจะเลือกเดินเส้นทางกันคนละอย่าง และอะไรที่ทำให้เขาทั้งสองคนนั้นเปลี่ยนไป และทั้งคู่ไปเจออะไรมาบ้าง 5 ตอนแรก ของซีซั่นนี้ได้บอกเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ความรู้สึกหลังจากรับชมจะเป็นยังไง ไปอ่านพร้อมกันเลยครับ 

สำหรับพาร์ทแรกในช่วง 5 ตอนแรกของซีซั่นนี้ จะเป็นช่วงย้อนอดีตเรื่องราวของ “โกโจ ซาโตรุ” และผองเพื่อนของเขา “เกะโท สุงุรุ” และ “อิเออิริ โชโกะ” ก่อนที่จะมาเป็นอาจารย์และผู้ใช้คุณไสยที่แข็งแกร่งในปัจจุบัน ซึ่งเนื้อเรื่องในภาคนี้ โกะโจ และ เกะโท ได้รับภารกิจให้ไปปกป้อง “อามาไน ริโกะ” ที่เป็นร่างหล่อเลี้ยงดวงดาว ที่ต้องหลอมรวมร่างเข้ากับ “ท่านเทนเกน” ซึ่งเป็นผู้ใช้คุณไสยที่มีพลังค้ำจุนประเทศญี่ปุ่นจากเบื้องหลัง และการเปลี่ยนกายเนื้อใหม่ จะเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในทุก ๆ 500 ปี แต่ภารกิจนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีผู้คนมากมายที่ไม่ต้องการให้เหตุการหลอมรวมครั้งนี้เกิดขึ้น ทำให้พวกของโกะโจ ซาโตรุ ต้องปะทะกันกับเหล่านักล่าค่าหัว และพวกผู้ใช้คุณไสย เพื่อปกป้อง ริโกะ โดยที่พวกเขานั้นไม่รู้เลยว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้จะทำให้พวกเขาทั้งคู่นั้น ถึงจุดเปลี่ยนไปตลอดกาล 

สำหรับช่วง 5 ตอนแรกของซีซั่นนี้ ต้องบอกเลยว่า อนิเมะทำดียิ่งกว่ามังงะเสียอีก (ถึงแม้ว่าจะอ่านมาแล้วก็ตาม) และยังรู้สึกได้เลยว่า อนิเมะให้น้ำหนักในเรื่องของการปูความสัมพันธ์ของตัวละครภายในเรื่องค่อนข้างมากเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าตัวเรื่องจะไม่ได้บอกเล่าเรื่องความสัมพันธ์ออกมาตรง ๆ แต่มันก็แฝงไปด้วย dialog เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แฝงอยู่ในบทพูด ที่เน้นไปในเรื่องของความสัมพันธ์ในแบบเพื่อนสนิท เพียงคนเดียวของ โกะโจ ซาโตรุ และ เกะโท สุงุรุ ที่ทำให้เราอินในเรื่องของความสัมพันธ์ และขยายลึกลงไป ถึงจิตใจของทั้งสองให้เข้าใจถึงความเจ็บปวด และ เรื่องราวในอดีตของพวกเขาได้ 

ในซีซั่นนี้เองก็ทำให้เราเข้าใจความรู้สึก และ มุมมอง แนวคิดของตัวละครอย่างเกะโทมากยิ่งขึ้น ว่าทำไมเขาจึงตัดสินใจทำแบบนั้น เมื่อความเชื่อหรืออุดมคติที่ตัวละครอย่างเขาเคยเชื่อมั่น กับถูกสั่นคลอนขึ้นมา การให้คุณค่าและความหมายกับสิ่งที่ตัวเองเคยเชื่อก็อาจเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ นั้นจึงทำให้ตัวละครอย่าง เกะโท สุงุรุ ดูโดดเด่น และเข้าใจถึงความรู้สึกเขามากขึ้นในภาคนี้ 

นอกจากตัวละครหลักอย่าง โกะโจและเกะโท ที่โดดเด่นในภาคนี้แล้ว ขวัญใจแฟน ๆ หลายต่อหลายคนต่างชื่นชอบ อย่างป๋า “ฟุชิงุโร โทจิ” ก็ปรากฎตัวออกมาได้อย่างน่าทึ่ง และน่าตกใจ ด้วยฝีไม้ลายมือที่เก่งกาจ ที่อนิเมะ Present ตัวละครนี้ออกมาได้น่ากลัว และ แข็งแกร่งแบบจริง ๆ เป็นมนุษย์ที่เรียกว่าแข็งแกร่งที่สุดเลยก็ว่าได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่พลังไสยเวทย์เลยด้วยซ้ำ ทำให้ตัวละครที่ไร้ไสยเวทย์อย่างเขา สู้ได้สูสีกับผู้ใช้คุณไสยเลยทีเดียว และเรายังได้เห็นถึงมุมมองความเป็นมนุษย์ในตัวของเขามากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

อีกหนึ่งตัวละครที่โดดเด่นไม่แพ้กันอย่าง “อามาไร ริโกะ” ที่มาพร้อมกับคาแรคเตอร์ที่น่ารัก ร่าเริง สดใส แต่ก็มีปมที่แสนจะมืดมน ทำให้ตลอดที่ดู อยากเอาใจช่วยตัวละครนี้มากยิ่งขึ้น (ถึงอ่านมังงะมาก่อนแล้วจะรู้จุดจบที่แสนเศร้าของเธอก็ตาม TT) อีกอย่างเคมี ความเข้ากันของตัวเธอกับโกะโจ ซาโตรุ ก็ดูดีมาก ๆ ถึงแม้ว่าช่วงย้อนอดีตจะมีเรื่องราวแค่ 5 ตอน แต่เพียงแค่นี้ ก็ทำให้ตัวละครอย่าง ริโกะ ในช่วงไคล์แมกซ์ มันดูอิมแพ็กกต์ต่อใจคนดูมาก ๆ และตัวละครนี้เอง ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยน ที่ทำให้ตัวละครอย่างเกะโท และ โกะโจ เลือกเส้นทางเดินที่ต่างกัน (สำหรับใครที่อ่านมังงะมาแล้วบอกเลยว่าการเล่าเรื่องฉากไคล์แมกกซ์ของริโกะจะทำให้คนที่อ่านมาแล้วช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่ามังงะอย่างแน่นอน)

ในส่วนของการเล่าเรื่อง และ งานภาพ ที่ใครต่อใครหลายคน ต่างก็คาดหวังว่ามันจะดีกว่า หรือเทียบเท่ากับ ซีซั่น 1 ต้องบอกตรงนี้เลยว่า ลายเส้นอาจจะดูแปลกตาไปหน่อย แต่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่ารับไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ต้องบอกก่อนว่าซีซั่นนี้ โดนเด่นในด้านมุมกล้อง ภาพมีความเป็น Cinematic มากขึ้น และการเคลื่อนไหวในฉากสู้อันรวดเร็ว รวมถึงการสื่ออารมณ์สีหน้าท่าทางของตัวละคร ที่ทำให้เรารู้สึกแบบเดียวกับตัวละครในเรื่อง ที่เจอเหตุการณ์แบบนั้นจริงๆ อาจเป็นเพราะการเรียบเรียงเนื้อหาใหม่ของตัวอนิเมะที่เล่าออกมาได้สนุก และเข้าใจง่ายยิ่งกว่ามังงะ และการเพิ่มฉากบางฉาก ที่ไม่ได้มีในมังงะเข้ามาช่วยเสริมเรื่องราวของตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น 

สรุป 

Jujutsu kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร ซีซั่น 2 ภาคย้อนอดีตนี้ เปิดตัวด้วยโทนเนื้อเรื่องที่สดใส เต็มไปด้วยสีสันสว่าง ต่างจากภาคแรกที่มาในโทนมืดมน แต่ภาคนี้เองก็ยังแฝงไปด้วยความจริงจัง และตัวอนิเมะเอง ก็ยังเติมเต็มเรื่องราวจากมังงะ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และพาให้คนดูอย่างเรา เข้าใจตัวละครมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งภาคที่ทำให้เราได้เห็นจุดเริ่มต้นของอาจารย์ โกะโจ ที่กลายเป็นตัวบั๊ค อีกด้วย และเส้นทางที่ตัวละครอย่างเกะโทเลือกเดินด้วย 

นอกจากนี้ ช่วงครึ่งหลังของอนิเมะเรื่องนี้ เราจะได้ดูเหตุการณ์ความเดือด ที่เขาเรียกกันว่าจุดพีคของอนิเมะเรื่องนี้อย่าง “อุบัติการณ์ชิบุย่า” จะเป็นภาคที่เดือดที่สุดในช่วงครึ่งหลังของซีซั่น 2 นี้ พร้อมเข้าสู่ความเดือดกัน 31 สิงหาคมนี้ 

สามารถรับชม Jujutsu kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร ซีซั่น 2 ได้ทาง True ID, Bilibili Thailand, iQIYI, Netflix และ Ani-One Thailand

About Author