Moonlight Glow บวงสรวงเปิดกล้องซีรีส์วายเรื่องแรก “Magic Move (ทำนายทายรัก)”

บวงสรวง ทำนายทายรัก (5)

Moonlight Glow ประเดิมผลงานแรกด้วยซีรีส์วายอบอุ่นหัวใจ “Magic Move (ทำนายทายรัก)” กับเรื่องราวของหมอดูจำเป็นและทายาทหนุ่มที่รักเริ่มจากคำโกหก ก่อนกลายเป็นความจริงในหัวใจ! บวงสรวงเปิดกล้องสุดคึกคัก นำทีมโดยผู้บริหาร-นักแสดง-อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เตรียมชมตอน Pilot ปลายเดือนสิงหาคม 68 ก่อนลุยความฟินเต็มรูปแบบต้นปี 69!

Moonlight Glow บริษัทผลิตซีรีส์ที่เปล่งประกายความฝัน มุ่งมั่นสร้างซีรีส์วายและยูริที่อบอุ่นหัวใจ นำโดย  คิง ชินนริทธิ์ โชติสุริยพงศ์ – ครูนุ่น สรีภรณ์ แสงบุญนำ ( EXECUTIVE PRODUCER) และ ครูต้า วิทวัส สังสะกิจ (PRODUCER)  กำกับการแสดงโดย ณ์อบ ศฐาณพงศ์ ลิ้มวงษ์ทอง  ได้ฤกษ์งามยามดีจัดพิธีบวงสรวงพร้อมเปิดตัวซีรีส์วายเรื่อง “Magic Move” (ทำนายทายรัก)    ผลงานเรื่องแรกจากค่าย  Moonlight Glow  ณ ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร

ทีมผู้บริหาร Moonlight Glow ผู้สร้างซีรีส์วาย เรื่อง “Magic Move” (ทำนายทายรัก)   ได้นำทีมนักแสดงและทีมงาน  เดินทางมาร่วมพิธีกันอย่างพร้อมหน้า  อาทิ   บอล- ณพัฒน์ศักย์ เอกพิพัฒนา / ดีม- วุฒิภัทร รุ่งเจริญอารีจิตต์ / แทน- พิชวัชร์ วิสิฐธรกุล / สไปรท์- พัฒน์พงษ์ ลอยมาปิง  /  โฟกัส- ญาณินสินี โชติสุริยพงศ์ / โอ๊ต-  สรวิชญ์ แก้วประเสริฐ / อาร์มมี่- รัฐพล เทพมณี / ไวน์- จิรายุ สมบุญกิจ   พร้อมนักแสดงและอินฟลูเอนเซอร์ ชื่อดังของเมืองไทยมากมาย อาทิ  มิวกี้ ไปรยา ผดุงสุข ,นนท์ อินทนนท์ ,บอส ชนกันต์ พูนศิริวงศ์, สุเมธ องอาจ  , ปานธนพร แวกประยูร ฯลฯที่ได้มาร่วมพิธีบวงสรวงกันอย่างพร้อมเพรียง

“MAGIC MOVE” (ทำนายทายรัก)   ซีรีส์ที่เล่าถึง เรื่องราวของหนุ่มนักศึกษาสถาปัตย์ปีสุดท้าย คนหนึ่ง ที่เผลอสร้างชื่อเสียงเป็น “หมอดูหินทำนาย” จากความบังเอิญ จนกลายเป็นที่พูดถึงในมหาวิทยาลัย เขาแกล้งเปิดเผยตัวว่าเขาเป็น “คู่จิ้นวัยเด็ก” ของหนุ่มทายาทนักธุรกิจอสังหาฯ ผู้เพียบพร้อม แม้ความสัมพันธ์เริ่มจากคำโกหก แต่ก็พัฒนาเป็นความรักที่จริงใจ ขณะเดียวกัน  ชายหนุ่มที่ไม่สมหวังจากการก้าวไปเป็นศิลปินที่เกาหลี ก็ดันกลับมาตามหาคู่จิ้นในอดีตของตนเองซึ่งก็คือทายาทนักธุรกิจอสังหาฯคนนั้น    ความลับที่ปกปิดเริ่มสั่นคลอน แต่สุดท้ายทุกคนต่างได้เรียนรู้ว่า โชคชะตาไม่อาจกำหนดชีวิต หากไร้ความกล้าที่จะเลือกและลงมือทำด้วยตนเอง 

เรื่องราวสะท้อนความขัดแย้งระหว่างโชคชะตา ความเชื่อ และการเลือกของหัวใจ พร้อมตั้งคำถามว่า… ระหว่างโชคชะตาที่ลิขิตไว้ กับความกล้าที่จะเลือกทางเดินเอง อะไรสำคัญกว่ากัน?     

โดยเมื่อทำพิธีเสร็จเรียบร้อย ทุกท่านก็ได้ถ่ายภาพร่วมกัน และ ให้สัมภาษณ์กับพี่ๆสื่อมวลชน โดยซีรีส์วาย “MAGIC MOVE” (ทำนายทายรัก)   เตรียมพบกับเทปพิเศษ Pilot Episode ปลายเดือนสิงหาคม 68 นี้ ก่อนจะรับชมความเข้มข้นแบบเต็มรูปแบบของซีรีส์ในช่วงต้นปี 69  โดยจะแจ้งให้ทราบช่องทางการออนแอร์อีกครั้ง

ดวงนำพา โชคชะตาจะพลิกรัก หรือ ดวงนำรัก จะพักโชคชะตา

เราโตมากับคำว่า “โชคชะตา” และความเชื่อมากมายในสังคมล้วนมาจากความเชื่อในสิ่งที่ทำให้เรามีกำลังใจ…แต่ไม่มีโชคชะตาไหนจะสำคัญไปกว่าความกล้าที่เราจะเดินเข้าไปหามัน โชคชะตาไม่มีความหมาย  ถ้าเราไม่ลงมือทำ และไขว่คว้ามันไว้ ความรักไม่ใช่เรื่องของการทำนายอนาคต มันเป็นเรื่องของการเลือกในปัจจุบัน….และในทุก ๆ ปัจจุบัน ผมเลือกคุณ..

เรื่องย่อ “Magic Move”

ฤทธิ์ นักศึกษาปีสุดท้ายคณะสถาปัตย์ กำลังทำโปรเจกต์จบที่มีแนวคิดผสมผสานศาสตร์แห่งความเชื่อ โดยเลือกศึกษาเรื่อง “พลังงานจากหิน” ที่ใช้ในการตกแต่งและก่อสร้าง ซึ่งเชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกับโชคลางและพลังงานในบ้าน ระหว่างทำเรื่องเอกสารที่มหาวิทยาลัย เขาบังเอิญเจอกับเพียว นักศึกษาคณะบริหารชื่อดัง ทายาทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้เพียบพร้อม และแอบจำชื่อ-ที่อยู่ของเพียวจากเอกสารที่ถืออยู่

ในค่ำคืนหนึ่งที่ร้านเหล้าของปีเตอร์ เพื่อนสนิท ฤทธิ์เมาและคึกจนหยิบหินรูนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์มา “ทำนายดวง” ให้ลูกค้าเล่นๆ จนกลายเป็นกระแส “หมอฤทธิ์ หินทำนาย” ที่คนแห่มาขอดูดวงทุกคืน หลังลังเลและปฏิเสธอยู่พักใหญ่ ฤทธิ์จึงยอมรับบทหมอดูจำเป็นอีกครั้ง เพื่อช่วยให้ร้านของเพื่อนกลับมาคึกคัก โดยมีเงื่อนไขว่า เขาจะเริ่มทำนายหลังสี่ทุ่มเท่านั้น และลูกค้าต้องเลี้ยงเครื่องดื่มให้เป็นค่าครู

 คืนหนึ่งเพียวและเพื่อนมาที่ร้านและขอดูดวงจากฤทธิ์ ด้วยความเมาและกดดัน ฤทธิ์จึงทำนายแบบมั่วๆ ไป แต่เมื่อเพียวกลับมาอีกครั้งพร้อมคำขอบคุณที่คำทำนายก่อนหน้าช่วยให้เพื่อนในกลุ่มคืนดีกับแฟน ฤทธิ์จึงตัดสินใจแกล้งเปิดเผยว่าตนคือ คู่จิ้นวัยเด็กที่เพียวจำไม่ได้ เพราะเคยสูญเสียความทรงจำจากอุบัติเหตุ ซึ่งเพียวก็หลงเชื่อและเริ่มผูกพันกับฤทธิ์มากขึ้น

ในขณะที่ฤทธิ์ใช้ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตและเรื่องเล่าเติมเต็มความทรงจำให้เพียว ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ลึกซึ้งขึ้น เพียวแนะนำให้ฤทธิ์รู้จักทีมออกแบบในธุรกิจครอบครัว และซินแสที่แนะนำให้ฤทธิ์กับเพียว “แกล้งแต่งงาน” แก้เคล็ดดวงไม่ดี จนทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน

ขณะเดียวกัน พิชชา เด็กหนุ่มที่เคยเป็นเด็กฝึกศิลปินในเกาหลี เดินทางกลับมาไทยเพื่อตามหาคู่จิ้นในวัยเด็ก ซึ่งก็คือเพียว เขาเข้าร้าน Magic Move และสนิทกับปีเตอร์และ เพลิน หมอดูจำเป็นที่ใช้ไพ่ภาพในการทำนาย โดยที่พิชชาไม่รู้ว่า “หมอฤทธิ์” ที่เขาเฝ้ารอคือคนรักของเพียวในปัจจุบัน

เรื่องราวดำเนินไปจนความลับเกือบแตก ฤทธิ์เลือกจะโกหกต่อเพื่อรักษาความสัมพันธ์ จนสุดท้ายเพียวจัดอีเวนต์ใหญ่เกี่ยวกับศาสตร์ความเชื่อและการออกแบบ และกล่าวบนเวทีว่า “โชคชะตาไม่มีความหมายหากเราไม่ลงมือทำ” พร้อมสารภาพความผิดและเลือกฤทธิ์ในทุกปัจจุบัน

เรื่องราวสะท้อนความขัดแย้งระหว่างโชคชะตา ความเชื่อ และการเลือกของหัวใจ พร้อมตั้งคำ ถามว่า… ระหว่างโชคชะตาที่ลิขิตไว้ กับความกล้าที่จะเลือกทางเดินเอง อะไรสำคัญกว่ากัน?     

           CHARACTER

บอล- ณพัฒน์ศักย์ เอกพิพัฒนา

รับบท : ฤทธิ เด็กสถาปัตย์ ผู้เริ่มจากการโกหกแบบเล่น ๆ แต่รักจริง

ดีม- วุฒิภัทร รุ่งเจริญอารีจิตต์

รับบท : เพียวทายาทนักธุรกิจ หนุ่มเนี้ยบ ผู้แอบทดสอบโชคชะตาเพื่อตามหารักแท้

สไปรท์- พัฒน์พงษ์ ลอยมาปิง

รับบท : ปีเตอร์ เพื่อนสนิทที่เป็นเหมือน “พ่อสื่อ” และศูนย์กลางของเรื่อง

สไปรท์- พัฒน์พงษ์ ลอยมาปิง

รับบท : พิชชา เด็กที่เติบโตมากับความฝันของคนอื่น ต้องหาทางหาความฝัน   ของตัวเองให้เจอ

โฟกัส- ญาณินสินี โชติสุริยพงศ์

 รับบท : พลอยเพลิน น้องสาวที่ทำให้ร้านยังมีสีสันแม้ไม่มีหมอฤทธิ์

  นักแสดงสมทบหน้าใหม่ อาทิ

                  โอ๊ต-  สรวิชญ์ แก้วประเสริฐ         /        อาร์มมี่- รัฐพล เทพมณี

                   ไวน์- จิรายุ สมบุญกิจ                 /        ชิโน๊ะ- พีรภัทร  ธนรัตนนนท์

About Author