แจงอีกครั้ง! ‘ปุ้ย’ ยัน ‘ลำไย’ ไม่ได้ทำผิดพร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ

กลายเป็นดราม่ายาวที่หลายคนติดตาม สำหรับเรื่องราวของ ‘ลำไย ไหทองคำ’ ที่ออกมาประกาศสถานะโสด เลิกรากับ ‘ปุ้ย L.กฮ.’ จนมีการขุดคุ้ยความสัมพันธ์กับแดนเซอร์ชาย ‘บอส’ ซึ่งลำไยก็ยอมรับว่าเคยคุยกันจริง เป็นช่วงที่ห่างกับแฟนหนุ่ม และเข้าใจว่าบอสเลิกกับแฟนสาวแล้ว แต่กลับยังไม่เลิก ซึ่งภายหลังได้มีการพูดคุยกับแฟนสาวของ ‘บอส’  พร้อมจ่ายค่าเสียใจให้ 2 ล้านบาท

ล่าสุด ‘ปุ้ย’ ได้ออกมาโพสต์คลิปอีกครั้ง ผ่านเฟซบุ๊ก “ศรีสกล สมทรง” พร้อมเขียนแคปชั่นว่า “ฟังคลิปให้จบนะครับ แล้วจะรู้ว่าเราไม่ได้ทำผิดต่อกันครับ ขอบคุณทุกๆกำลังใจ และน้อมรับทุกคำตำหนิ ครับผม”

สำหรับในคลิป ‘ปุ้ย’ แจงว่า สวัสดีครับ ผมจะมาพูดเรื่องผม น้องลำไย และน้องผู้ชายครับ ผมขอไม่เรียกชื่อนะครับ  ปัญหาของผมกับน้องลำไยไม่ใช่เพราะมีมือที่ 3  มันเป็นปัญหาเริ่มต้นของผมกับน้องลำไย หลักๆ ก็มาจากผมครับ … ผมไม่มีความมั่นใจในการเข้าสังคม ไม่ชอบการปาร์ตี้สังสรรค์ เวลาน้องลำไยจัดกิจกรรม น้องลำไยพยายามให้ผมปรับ แต่ผมเลือกจะไม่ปรับเพราะตอนนั้นผมมองว่าผมไม่ได้ผิดอะไร และก็มามีประเด็นหลักๆคือ ผมซื้อโต๊ะสนุกเกอร์เข้ามาในบ้าน และผมฝึกจริงจังมากๆ เพราะผมอยากเล่นเก่ง ลำไยมาถึงบ้านตี 4  ผมยังเล่นไม่เสร็จ น้องลำไยมาถึงบ้าน 8 โมงเช้า ผมก็ยังเล่นไม่เสร็จ จนน้องลำไยเริ่มถามว่าทำไมพี่ไม่เล่นตอนหนูออกไปทำงาน ตอนหนูมาถึงบ้านพี่หยุดเล่นได้ไหม ผมก็เฉย .. เล่นมาเรื่อยๆ ทำแบบนั้นมาตลอดครับ


และน้องลำไยก็มาพูดอีก ผมก็เล่นเหมือนเดิม น้องลำไยก็บอกว่า พี่รู้ไหมข้อเสียของพี่เวลาทำอะไรพี่จะหมกมุ่น จดจ่อกับสิ่งนั้นสิ่งเดียวเลย จนพี่ไม่รู้ว่ารอบข้างพี่ยังมีสิ่งอื่นอยู่ ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้ผิดอะไร เพราะเล่นในบ้านไม่ได้ออกไปเล่นข้างนอก ก็เลยตอบไปว่า “ถ้าอ้าย (ลำไย) อึดอัด เดี๋ยวปุ้ยจะกลับไปอยู่บ้านที่ใต้ก็ได้” น้องลำไยก็ถามว่า “ทำไมต้องไปอยู่ที่ใต้” ผมก็บอกว่า “ก็อยู่แล้วอึดอัดกัน” น้องก็เลยบอกว่า “โอเค ถ้าพี่คิดดีแล้ว หรือพี่ลองคิดดูใหม่” แต่ผมบอกว่าไม่ต้องคิด จะได้รู้ว่าแต่ละคนต้องการอะไร เผื่อว่าเราจะเข้าใจกันมากขึ้น  แล้วก็แยกไปอยู่ที่ใต้ ไม่ค่อยกลับมา จ.ปทุมฯ จนแม่แดง (แม่ลำไย) โทรมาหาว่าทำไมไม่ค่อยเข้าบ้านเลย มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ผมบอกไม่มีปัญหาอะไรครับแม่ ผมกลับมาปลูกบ้านที่ใต้ เดี๋ยวเสร็จธุระแล้วกลับไป แม่แดงก็เข้าใจแบบนี้ เพราะผมกับน้องลำไยไม่เอาปัญหาไปให้แม่แดงรับรู้

ระหว่างนั้นผมก็ส่งคลิปที่ผมปลูกบ้านอัปเดตให้น้องลำไยดู และบอกว่าต่อไปอาจไม่ได้กลับไปอยู่ที่บ้านนั้น ให้อ้าย (ลำไย) วางแผนชีวิตดีๆ ดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัวดีๆ  ปุ้ยอาจจะไม่กลับไปนะ อาจจะปักหลักอยู่ที่ใต้ ลำไยก็เคารพการตัดสินใจของผม  แล้วก็มีการตกลงกันว่า ถ้าผมจะมีใคร น้องลำไยก็จะไม่ปิดโอกาส ขอให้บอก และน้องลำไยจะมีใครก็ขอให้บอก ก็จะไม่ปิดโอกาสเช่นกัน ตกลงกันแบบนี้ แต่ตอนนั้นแค่ไม่ได้บอกให้ใครรู้ ก็แยกกันอยู่พักใหญ่ๆ ระหว่างแยกก็มีการคุยแซวกันอยู่เรื่อยๆ แต่ก็คุยกันน้อยลง

จนมาวันหนึ่ง น้องลำไยมาบอกว่าคุยกับคนนี้ แต่ตอนนั้นผมมองว่าเด็กๆคุยกัน คงไม่มีปัญหา  พอผ่านไปสักพักน้องลำไยเริ่มโทรมาปรึกษาบ่อยขึ้นว่าพี่คิดว่ายังไง ผมก็บอกว่าลองคุยกันไป แต่บอกให้ระวังว่าเค้าเข้ามาแบบไหน ให้ดูดีๆว่าเค้าต้องการอะไรจากเรา  ผมก็สังเกตและติดตามมาตลอด ก็ยังหวังดีต่อกัน ยังเป็นห่วงกัน จนเวลาผ่านไป ลำไยมาปรึกษาว่า อยู่ๆแฟนของน้องผู้ชายคนนี้ติดต่อเข้ามา ผมก็บอกอ้าวไหนเค้าบอกว่าเค้าเลิกกับแฟนแล้ว เค้าแยกกับแฟนแล้ว เพราะตอนก่อนไปคบ น้องลำไยบอกผมว่าเค้าพูดแบบนี้ๆ ผมก็ได้รับรู้มา

น้องลำไยก็บอกว่าหนูไม่รู้ แฟนเขาโทรมาแบบนี้ๆ ผมก็บอก “งั้นอ้าย (ลำไย) โดนหลอกแล้ว” ผมพูดแบบนี้ อันนี้ผมไม่ได้ว่าน้องผู้ชายหรือว่าใคร เพราะพฤติการณ์ทำให้ผมรู้สึกได้ว่าลำไยน่าจะโดนหลอกหรือเปล่าก็ปรึกษากันไป ช่วงนั้นน้องลำไยเครียดมากก็ปรึกษากันบ่อยขึ้น

ทีนี้น้องลำไยมาบอกว่า เค้าเรียกเงินหนู 10 ล้าน ผมก็ตกใจ  ทำไมเรียกตั้ง 10 ล้าน อันนี้มันแปลกนะ ผมก็บอกไม่เป็นไร ผมก็ลองคุยกับบริษัทน้องลำไย ก็ปรึกษากันว่าลองนัดมาคุยดูไหม เพราะทั้งผม บริษัท และน้องลำไย ก็ไม่อยากให้เป็นปัญหา เพราะคนที่รักน้องลำไย คนที่รักเรา เค้าไม่รู้ว่าข้อมูลเป็นมายังไง แต่ถ้ามีปัญหาคือเราเป็นคนสาธารณะ ต้องโดนตำหนิติเตียนอยู่แล้ว ก็อยากให้มันจบ

บริษัทน้องลำไยก็นัดคุยกับผู้หญิง แต่ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นะครับ เพราะผมอยู่ที่ใต้ ตกลงกันจ่ายเงิน 2 ล้าน มีการเซ็นรับเงินเรียบร้อย มีสัญญาเซ็นรับเงิน 2 ล้านบาท น้องผู้หญิงรับเงินไป .. รับปากกันว่าทุกอย่างจะจบหมดทุกอย่าง

ทีนี้น้องลำไยก็ไม่ได้คุยต่อกับน้องผู้ชาย เค้ากลัว เค้ารู้แล้วว่ามันไม่ใช่ ทางบริษัทก็จะให้น้องผู้ชายหยุด แต่ผมบอกให้หยุดไม่ได้ ต้องหักเงินไปด้วย ให้เค้ารับผิดชอบในสิ่งที่เค้าได้ทำ เพราะเป็นผู้ชายต้องรับผิดชอบ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ได้มีเยื่อมีใยอะไรต่อกัน ผมโอเค

ผมก็ย้ายกลับมาอยู่ปทุมฯ เหมือนเดิม ก็ปรับเข้าใจกันได้มากขึ้น จนมาวันเกิดน้องลำไยที่ผ่านมา ก็มามีปัญหาอีกรอบ น้องก็มีการเตรียมให้เหมือนเดิม เตรียมงาน ซื้อเสื้อผ้าให้ผมให้แม่แดง บอกว่าหนูรอตัดเค้กเวลานี้นะ มีพี่ๆ ที่พี่รู้จักด้วย มีคนที่พี่ชื่นชอบมาด้วยนะ ผมก็โอเคครับ รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ พอถึงเวลาก็ให้เพื่อนไปส่งแม่ ผมไม่ไป ซึ่งน้องลำไยเค้าก็งอนที่ผมไม่ไปในงาน ไม่เกี่ยวอะไรกับใครเลยนะครับ คือก่อนหน้านี้ผมเป็นแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว น้องลำไยก็งอนว่าสรุปพี่ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลยนี่

ก็คุยกันน้อยลงอีก แต่ทีนี้เราก็อยู่บ้านเดียวกัน  ผมก็ประชดประชันอยู่เรื่อยๆ “ถ้าอ้าย (ลำไย) เข้าบ้าน ปุ้ยไม่เข้าก็ได้นะ” จนถึงขั้นผมถอดแหวนที่น้องลำไยซื้อให้ใส่ น้องลำไยก็ถามหาว่าแหวนหายไปไหน ผมก็บอกถอดทิ้งไปแล้ว ขี้เกียจใส่ บอกห้วนๆไป ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่แรงไม่หยาบ แต่มันทำลายความรู้สึก

น้องลำไยก็ถามว่าเรื่องเราจะเอายังไง ผมก็ตอบ “จะเอายังไง ก็แล้วแต่อ้าย (ลำไย)” ก็ถามย้ำกันอยู่แบบนี้ จนน้องลำไยไปโพสต์เพราะน้อยใจผม พอผมเห็นลำไยโพสต์ผมก็โทรไปเคลียร์  ปุ้ยไม่ได้อยากให้มันจบแบบนี้เลยนะ  แค่ประชด ปุ้ยจะปรับตัวเอง น้องลำไยก็บอกว่าพี่จะให้หนูปรับตรงไหนก็ว่ามา ยินดีจะปรับ พี่อย่านิ่ง พี่อย่าเฉย หนูก็เหนื่อย หนูทำงานหนัก เราก็ขอโทษขอโพยกัน แต่พอเราเคลียร์กันก็มีปัญหาเรื่องนี้ออกมา

ผมและน้องลำไยขอบคุณทุกๆคน ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ให้เรา เข้าใจคนคอมเมนต์มองอีกด้านหนึ่ง เราเข้าใจได้ ผมกับน้องลำไยเป็นคนสาธารณะ ครอบครัวเราเป็นคนสาธารณะ เรายินดีรับทั้งคำชมและคำติเตียน คำตำหนิ คำตักเตือน เรายินดีรับไว้หมด แต่น้องลำไยไม่ได้ทำผิดต่อผมเลย พี่ๆที่เข้าใจผม ผมยินดี ดีใจมาก แต่น้องไม่ได้ทำผิดอะไรต่อผม ผมก็พูดเท่านี้ นี่คือความจริงทั้งหมดนะครับ

Cr_Facebook: ศรีสกล สมทรง 

About Author