“หมิง จิรกิติยา- อรรถ วิสุทธิ์” เข้าพิธีแต่งงาน สุดโรแมนติก

เป็นวันดีของคู่รัก หมิง จิรกิติยา (ชาลิสา) บุญครองทรัพย์ กับ อรรถ วิสุทธิ์ รังษิณาภรณ์ ถือฤกษ์ดี (16 มกราคม 2568) จัดพิธีรับพรเป็นสิริมงคลสูงสุดของชีวิตที่ได้เข้านมัสการ ท่านเจ้าคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม โดย “หมิง-อรรถ” ได้เข้ากราบขอพร และพรมน้ำมนต์เพื่อเป็น  มงคลชีวิตคู่ โดยมีลำดับงานเริ่มด้วยพิธีอย่างไทย เจ้าบ่าวเจ้าสาวร่วมกันตักบาตร ต่อด้วยพิธีสงฆ์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ เทศน์ให้โอวาท เจ้าบ่าวเจ้าสาวร่วมกันถวายสังฆทาน พร้อมจดทะเบียนสมรส

จากนั้นได้มาทำพิธีกันต่อที่ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ มีลำดับงานเริ่มด้วยพิธีอย่างไทยพิธีแห่ขันหมาก งานนี้เจ้าบ่าวกว่าจะผ่านประตูเงินประตูทองก็ทำเอาเหนื่อยกันเลยทีเดียว เพราะแต่ละประตูหินสุด แต่เพราะรัก อรรถ วิสุทธิ์ ทำอย่างเต็มผ่านทุกโจทย์ของแต่ละด่านพร้อมยังเปย์ทั้งซองเงินและทองเพื่อผ่านทุกประตูได้มาเจอหน้าเจ้าสาว ต่อด้วยพิธีรับขันหมาก พิธีสู่ขอ และในช่วงพิธีสวมแหวนหมั้น อรรถ วิสุทธิ์ ได้บรรจงสวมแหวนเพชร 5.5 กะรัตให้กับหมิง จิรกิติยา (ชาลิสา) อย่างอบอุ่นเต็มไปด้วยความรัก และจากนั้นได้เชิญแขกผู้เกียรติหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ โดยมีญาติทั้ง 2 ครอบครัว เพื่อนนอกวงการ – เพื่อนในวงการร่วมเป็นสักขีพยานรักอย่างล้นหลาม ส่วนเพื่อนเจ้าสาว มีทั้งหมด 24 คน อาทิ “นุ้ย สุจิรา, จ๋า ณัฐฐาวีรนุช, กระแต ศุภักษร, เบลล์ เกิร์ลลี่เบอร์รี่, น้ำหวาน ฐิติรัศมิ์ (น้ำหวาน ซาซ่า) ฯลฯ บรรยากาศภายในงานฉลองมงคลสมรสอบอวลไปด้วยมนตร์แห่งความรัก ทั้งแสนโรแมนติกและซึ้งกินใจ โดยเฉพาะทางเจ้าสาวที่น้ำตาซึมอยู่ตลอด

และในช่วงแถลงข่าวเจ้าสาว หมิง จิรกิติยา (ชาลิสา) สวยสุดอลังการราวเจ้าหญิง เป็นผลงานการออกแบบของ วนัชกูตูร์ ที่ดูแลความตระการตาแห่งความงดงามตลอดทั้งงานอย่างต่อเนื่อง โดยชุดนี้ออกแบบให้สะท้อนความหรูหราร่วมสมัยด้วย สไตล์เวสเทิร์น ด้านบนเป็นเสื้อแขนยาวโปร่งที่ตัดเย็บจาก ลูกไม้ฝรั่งเศสนำเข้า โชว์ความงามแบบอ่อนหวานและนุ่มนวล ช่วงลำตัวออกแบบเป็นลักษณะของ คอร์เซ็ต ที่ช่วยเน้นทรวดทรงและความสง่างามของว่าที่เจ้าสาวอย่างสมบูรณ์แบบ กระโปรงทรงเอแบบเรียบหรู ตัดเย็บจาก ผ้าไหมคุณภาพสูง ที่ออกแบบมาอย่างประณีต สร้างความสง่างามและคลาสสิกให้กับผู้สวมใส่ พร้อมเสริมลุคให้เหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยาย สมฐานะอดีตนางสาวไทยที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความสง่างาม ซึ่งมูลค่าของชุดนี้กว่า 500,000 บาท เป็นผลงานที่แสดงถึงความทุ่มเทและความสามารถในการออกแบบของทีมงานวนัชกูตูร์ และยังสะท้อนถึงความละเอียดอ่อนในทุกกระบวนการสร้างสรรค์ พร้อมกับความรักที่เจ้าบ่าว – เจ้าสาวป้ายแดงได้ควงคู่กันเปิดใจอย่างสุดซึ้ง

หมิง : ที่รู้จักกันพอดีว่ามีรุ่นพี่เป็น พี่อุ๋ย ภรรยา พี่ดู๋ สัญญา สนิททั้งทาง หมิง แล้วก็ พี่อรรถ ด้วย ก็เห็นเราทั้ง 2 คนโสด วันนั้น พี่อุ๋ย ไปกฐินที่ อุดรธานี 
อรรถ : พี่อุ๋ย โทรมาบอกว่ายังโสดอยู่ไหมจะมีคนแนะนำให้รู้จัก ตอนนั้นกำลังอยู่ในงานของสมาคม จากนั้นก็เลยเจอ พี่อุ๋ย ที่อุดรธานี แล้วมาเจอกับ หมิง ที่กรุงเทพเจอครั้งแรกปิ๊งเลย? 
อรรถ : คือเราไปก่อนแล้วนั่งรอ เขามาทีหลังใส่ชุดชมพู สวยมากเลยครับ ชอบตั้งแต่วันนั้นเลย ตอนนั้น พี่อุ๋ย แนะนำว่าเป็นนางสาวไทยก็เลยมีโอกาสมาเจอที่กรุงเทพ ประโยคที่จีบถามเลยว่าอยู่อุดรธานีได้ไหม
หมิง : เป็นคำแรกที่หมิงไม่ได้คิดอะไรเลย เพราะว่า หมิง เป็นคนชอบเที่ยว เพราะทุกคนก็เห็นว่า หมิง ชอบเที่ยว หมิง ก็ตอบติดตลกว่าได้ พี่ หนูชอบเที่ยวอุดรบ่อยมากเลย ชอบไปไหว้พระอะไรอย่างนี้ เขาก็เอาคำตอบเก็บไว้ในใจเป็นประมวลผลว่าโอเคพุ่งเลย เพราะว่า หมิง อยู่ อุดรได้ พอมาจีบแล้วเริ่มคบกัน เขาก็เลยมาถามว่าอยู่อุดรจะยังไง ตอนแรกเราก็ตกใจว่าใครจะมาอยู่อุดร เขาก็บอกว่า หมิง ไง เราก็บอกว่า หมิง ไปบอกตอนไหน ก็ หมิง ตอบเองว่าอยู่อุดรได้ เราก็เลยบอกว่านั้น หมิง ตอบเล่น 
อรรถ : เราก็คิดไปแล้วว่าคำพูดคำแรกคือความจริง คำถามตอนนั้นของผมคือหวังผลเลยครับ ก็คือถ้าแต่งกันคือไปอยู่ที่อุดร ประทับใจกันตอนไหน?
หมิง : จริง  ๆ ต้องบอกว่าเขาเป็นคนที่เข้ามาที่เราไม่คาดฝัน เราก็ไม่ได้มีอะไรเข้ากันบ้างบางอย่าง แต่ว่าเราได้รู้จักตัวตนเขา ตั้งแต่ หมิง เกิดมา หมิง ไม่เคยเห็นใครตื่น 7 โมงเช้าตั้งแต่คบกันจนถึงวันนี้ คือเขาเป็นคนขยันมาก นอนเที่ยงคืนตื่น 7 โมงเช้า เขาเป็นคนตั้งใจทำอะไรคือตั้งใจจริง ๆ เราก็เลยเห็นว่าถ้าคนที่เขามีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจอะไรแบบนี้ หมิง ว่าถ้าเราลองได้คบกับคนนี้ เราจะต้องทำความสัมพันธ์ให้มันดี เพราะเขาคงไม่พูดอะไรสุ่ม 4 สุ่ม 5 หรือเป็นคนพูดไปทีขอไปเรื่อย เราก็เลยตัดสินใจคบเขา แต่ที่เรารู้สึกว่าเรา 2 คนเหมือนกันเลยคือเรา 2 คนรักครอบครัวมาก ๆ เหมือนกัน พี่อรรถ เป็นคนที่รักครอบครัวและกตัญญู หมิง ว่าติดคุณแม่แล้ว พี่อรรถ คือเลเวลหนักกว่า หมิง อีก อันนี้เป็นพื้นฐานในการสร้างครอบครัว คบกันประมาณ 1 ปี  ที่คบกันทุกครั้งเขาจะพูดเสมอว่าเขามาจีบใช่ไหม 2 เดือนมาขอเป็นแฟน เดี๋ยวเดือนที่ 4 เขาจะพาไปสวัสดีคุณพ่อคุณแม่ ก่อนหน้านั้นเขามาเจอคุณพ่อคุณหมิงก่อนนะเพื่อจะบอกว่าเขามาจีบนะ ทุกอย่างเขาชัดเจนมาก เขาเป็นคนตรรกะ 100 คือตอนแรกเราก็งงนะ ถามว่าดีไหมคือดีค่ะ แล้วถามเขาว่าพี่ทำไมไม่ย้ายจาก 8 มาเดือน 4 เขาก็บอกว่าไม่ได้มันต้อง 4 5 6 เขาเรียงเป็นสเต็ปเลย จนวันที่มาขอเขาก็พูดกับ หมิง เลย คือตอนนั้นต้องบอกก่อนว่าพอเราโตความสัมพันธ์พวกนี้ต้องจริงจัง เขาบอกว่าเคยพูดแล้วไม่ใช่เหรอ 1 ปี เขาจะมาขอ ซึ่งเราไม่ได้คิด คิดว่าเขาพูดไปว่าอยากเอาใจ แต่เขาทำจริง

สำหรับ หมิง เพิ่งเข้าใจวันนี้อะไรที่เขาว่ามันใช่คือบางทีไม่ต้องรอเวลาทุกอย่างมันจะง่ายไปหมด เราไม่เคยมีคำถามในตัวเขาเลยว่าเขาคิดแบบนั้นกับเราไหม เขาจะทำไม่ดีแบบนั้นกับเราหรือเปล่า เรามองเห็นแต่แรกเลยว่าเขาพยายาม คนเราทุกคนไม่เข้ากันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ อีกสิ่งหนึ่งที่ หมิง ตัดสินใจเลยว่าต้องเป็นคนนี้เพราะว่าจริง ๆ เป็นคำพูดตอนที่เขามาจีบด้วยซ้ำยังไม่ได้เป็นแฟนกันเลย ตอนนั้นเราแค่รู้สึกว่าห่างกัน หมิง ไม่เคยคบคนห่างกันแบบอยู่ต่างจังหวัด เราจะได้เหรอ 1 2 3 4 5 บางทีเราก็เข้ากันไม่ได้นะ เขาก็พูดมาคำหนึ่งว่า หมิง คนแต่งงานกันเขายังต้องปรับตัวเลย แล้วทำไมเราเพิ่งคบกันเอง เราก็ต้องค่อย ๆ ปรับซิ พอคบกันไปเรื่อย ๆ เขาจะมีอยู่คำหนึ่งที่พูดตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะงอนกัน ผิดใจกัน เขาจะบอกว่าให้เราคิดว่าเราคือคนเดียวกัน เราเลยรู้สึกว่าเออมันเป็นคำไม่เคยคิดอยู่ในหัว เพราะว่าส่วนใหญ่เวลาคนคบกันจะเป็นเรา เป็นฉัน เป็นเธอ แต่เขาจะพูดกับ หมิง เสมอว่ามันคือเรา

อรรถ : 1 ปีที่คบกันแล้วแต่งงาน เราดูจากน้องเขาด้วยครับ น้องเขามีความรู้สึกกับเราขนาดไหน จริง ๆ น้องถามผมเยอะมากว่ารักเขาหรือเปล่า ก็ตอบเขาทุกทีว่ารัก รักเยอะไหม ก็เยอะ แต่พอถามเขา เขาไม่เคยตอบเลยว่ารักผม จนเมื่อให้ดอกไม้เมื่อตะกี้นี่เอง ตกลงรักพี่ไหม บอกหน่อยว่ารักพี่หรือเปล่า
หมิง : แหม! ถ้าไม่รักเราก็ไม่แต่งไหม แต่จริงนะเป็นเรื่องที่เคยบอกเขาเลย ครั้งแรกที่บอกเขาคือวันที่ลงอินสตาแกรมในวันที่เขามาขอ หลังจากวันนั้นเขาถามอีกก็ไม่เคยบอก จนเมื่อกี้ตอนที่เขาเดินมาในพิธีเขาก็อีกตกลงรักเขาไหม เราก็บอกว่ารักซิ
อรรถ : เราก็รู้อยู่แล้วว่าเขารู้สึกยังไง แค่ได้ยินก็ได้ ไม่ได้ยินก็ได้ แต่เราสัมผัสได้อยู่แล้ว
หมิง จะไปอยู่อุดรเลยไหม? 
หมิง : คงมา ๆ ไป ๆ 
อรรถ : แต่หลัก ๆ คงอยู่ที่นู่น แต่อุดรเดินทางสะดวก 

วางแผนมีทายาทเลยไหม? 

หมิง : เรื่องนี้อยู่ในแพลนช่วง 1 ปีที่ผ่านมา คบกันมา 5-6 เดือน พี่เขาบอกว่าอยากแต่งงาน ถ้าอย่างนั้นเราอยากมีลูก พอเราพูดปุ๊บเขาก็จัดแจงเลย อ๋องั้นเดือนต่อไปตรวจสุขภาพ ก่อนจะขอกันก็พาไปตรวจสุขภาพแล้วไปตรวจมาแล้วที่ GFC ก็คือไปดูความพร้อมของเราทั้ง 2 คนว่าพร้อมแค่ไหน พอตรวจก็ชื่นใจว่าเรา 2 คน ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ว่าด้วยวัยก็มองว่าสมควรมีได้แล้ว พ่อแม่ทั้ง 2 ฝ่ายก็อยากอุ้มหลานจริง ๆ ปลายปีมีงานฉลองอีกทีหนึ่งเพราะเรือนหอยังไม่เสร็จเพราะทุกอย่างมันฉุกละหุกไปหมด แล้วเรือนหอจะเสร็จปลายปีก็เลยว่าจะฉลองก่อน เสร็จจากงานก็จะเข้าปรึกษากับ GFC ขั้นตอนต่อไปมันจะเป็นการผสมเลยไม่ใช่ฝากไข่ เราต้องไปคุยกับคุณหมออีกทีหนึ่งว่าสุขภาพของเรามันเหมาะสมกับแบบไหน

งานในวงการจากนี้ของ หมิง?

หมิง : ยังทำอยู่ แต่ไม่ขนาดเหมือนเมื่อก่อน เดี๋ยวนี้ก็มีแค่พิธีกร อีเว้นต์บ้าง หรือเป็นพรีเซ็นเตอร์ พอแต่งงานไปมันก็คงต้องเวลากับครอบครัวเยอะ เพราะถ้ายิ่งไปอยู่ อุดร เราก็คงต้องให้เวลากับเขา เพราะว่าเขาคือหัวหน้าครอบครัว เขาก็บอกว่าเขาจะดูแลเราอันนี้ขอคอมมิสบ้าง
อรรถ : คือ หมิง สบายใจแบบไหนก็แล้วแต่เขาเลยครับ

คำมั่นสัญญา?

อรรถ : ยังไม่เคยสัญญาเลยเพราะปกติ 24 ชั่วโมงจะวิดีโอคอลเห็นกันตลอด 1 ปีที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตแบบไหน คงไม่มีคำที่จะต้องสัญญาอะไรเพราะไม่มีความสงสัยอะไร
หมิง : สำหรับ หมิง เขาอาจจะไม่ได้มองว่าเป็นคำมั่นสัญญา แต่จริง ๆ แล้วตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ามาในชีวิตมันเป็นสิ่งที่เขาทำให้เราเห็นมันเป็นคำสัญญาที่ไม่ต้องพูดมันคือการกระทำ หมิง ก็เพิ่งเข้าใจวันนี้ว่าเขาให้มองที่การกระทำ ก็คือเขาทำให้เห็น ส่วนสินสอดมูลค่ามันคือการให้เกียรติซึ่งกันและกันที่ทางคุณแม่ให้เกียรติทางฝั่ง หมิง สำหรับ หมิง ไม่ได้ตรงนั้นเป็นหลักสำคัญเกินไปกว่าความรู้สึกที่เขามีต่อเรา เพราะว่า หมิง จะบอกเขาเสมอเลยตั้งแต่คบกันมาให้พี่มีแค่ไหนหรือยังไง ถ้าพี่เป็นคนไม่ดี พี่เป็นคนเจ้าชู้ เป็นคนไม่รักเดียวใจเดียว ไม่ดีกับ หมิง อย่างทุกวันนี้ หมิง ก็ไม่เอานะ ตรงนั้นมันซื้อเราไม่ได้

หมิง : เรื่องสินสอด หมิง บอกว่า สำหรับเรามองว่ามันคือการให้เกียรติกันและกันมากกว่า เราไม่ได้มองตรงนั้นไปมากกว่าความรู้สึกที่เขามีให้กับเรา เพราะเราบอกเขาเสมอว่า ต่อให้พี่เป็นคนดีหรือรวยแค่ไหน แต่ถ้าเป็นคนเจ้าชู้เราก็ไม่เอาเหมือนกัน เพราะเราไม่สามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเงิน ส่วนแหวนหมั้นหมิงเลือกเอง ประมาณ 5.5 กะรัต เป็นสิ่งแทนใจและเป็นทรัพย์สิน เครื่องการันตีความรักระหว่างเรา งานเมื่อเช้าเรามีทำพิธีที่วัด พร้อมกับจดทะเบียนสมรสกันแล้วเรียบร้อย

About Author