คนรักนาฬิกาได้เฮ “ดิจิเซน” เปิดตัว Revolution นิตยสารนาฬิกาชื่อดังจากสิงคโปร์ เวอร์ชันภาษาไทย
ถูกใจคนรักนาฬิกาเมื่อ ‘อาลี ซีอานี’ ผู้คร่ำหวอดในแวดวงสื่อแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ระดับสูง แห่ง ดิจิเซน ประกาศถือครองลิขสิทธิ์ ‘Revolution Magazine’ นิตยสารเพื่อคนรักนาฬิกาสัญชาติสิงคโปร์ที่ได้รับความนิยมจากเหล่าคนรักนาฬิกาทั่วโลก และถือฤกษ์ดีจัดงานเปิดตัวนิตยสาร ‘Revolution Thailand’ ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักของคนวงการสื่อ นักสะสมนาฬิกา และคนวงการบันเทิง อาทิ มาเรีย ลิม กรรมการผู้จัดการฝ่าย อีคอมเมิร์ซ การขายและการตลาด Revolution Media Global, เดวิด ซัม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและอีคอมเมิร์ซ Revolution Media Global พร้อมด้วย สุพรทิพย์ ช่วงรังษี, โชติกร ปัญจทรัพย์, วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์, วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ, จิตติมา วรรธนะสิน, กฤศณัฏฐ์ กิจวิทยศักดิ์, ชญาภา จูตระกูล ฯลฯ ร่วมแสดงความยินดี โดยมี 2 ผู้บริหารแห่ง ดิจิเซน อาลี ซีอานี และ แพม เทียน พร้อมด้วย บดินทร์ เซนย์วิบูลย์ บรรณาธิการนิตยสาร Revolution Thailand ให้การต้อนรับ ณ ร้าน Blue By Alain Ducasse ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ เมื่อวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567
อาลี ซีอานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิจิเซน จำกัด กล่าวว่า Revolution Magazine เป็นนิตยสารที่ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศและระดับโลก สำหรับเวอร์ชันภาษาไทย บริษัทฯ มั่นใจว่า Revolution สามารถตอบสนองความต้องการเนื้อหาที่มีคุณภาพและลึกซึ้งให้กับผู้สนใจนาฬิกาหรูและแฟชั่น ผ่านการครีเอตคอนเทนต์ที่เข้มข้นและมุมมองที่ไม่เหมือนใคร โดยจุดแข็งของหนังสือเล่มนี้คือความสามารถในการนำเสนอเนื้อหาที่เหนือกว่าการรีวิวนาฬิกาทั่วไป โดยการสำรวจมิติทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้องกับนาฬิกา เชื่อว่า Revolution Magazine จะมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับคนรักนาฬิกาทุกเจเนอเรชันในไทย ไม่ว่าจะกลุ่มที่ซื้อนาฬิกาเพื่อการลงทุน นักสะสม และกลุ่มคนรักแฟชั่น ได้อย่างแน่นอน โดยจะเปิดให้พรีออเดอร์นิตยสาร ‘Revolution Magazine’ ฉบับภาษาไทยฉบับแรกด้วยราคา 200 บาท ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งจะวางจำหน่ายในเดือนเมษายน 2568
‘Revolution Magazine’ เป็นนิตยสารที่เกี่ยวกับนาฬิกาหรูและวัฒนธรรมของการสะสมนาฬิกา ก่อตั้งขึ้น ในประเทศ สิงคโปร์ตั้งแต่ปี 2005 โดย ‘Wei Koh’ และ ‘Bruce Lee’ มีจุดเริ่มต้นจากความชื่นชอบและหลงใหลนาฬิกาของทั้งคู่ โดยเน้นนำเสนอเนื้อหาคุณภาพสูงเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนาฬิกา ตั้งแต่การออกแบบ เทคโนโลยีเบื้องหลังไปจนถึงเรื่องราวของแบรนด์และบุคคลสำคัญในวงการ ปัจจุบันมีการตีพิมพ์ถึง 6 ภาษาใน 12 เวอร์ชัน ได้แก่ มาเลเซีย ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อิตาลี ลาตินอเมริกา เม็กซิโก ตะวันออกกลาง รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ และได้รับการยอมรับว่าเป็นสื่อชั้นนำสำหรับผู้หลงใหลในนาฬิกา โดยนำเสนอทั้งเนื้อหาเชิงเทคนิค ความงดงาม และไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้องกับโลกของนาฬิกาหรูและกลไกอันน่าทึ่ง
ในปี 2018 Revolution Magazine ได้ขยายตัวสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลด้วยการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ทันสมัย พร้อมกับเข้าสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยจำหน่ายนาฬิการุ่นใหม่ นาฬิกาวินเทจ และนาฬิการุ่นพิเศษที่ร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกทำให้ Revolution Magazine เป็นมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์ ทั้งยังเป็นชุมชนและแหล่งรวมของนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบในนาฬิกาอีกด้วย
เซเลบริตี้ที่ชื่นชอบในเรือนเวลา อย่าง ทิปปี้-สุพรทิพย์ ช่วงรังษี เผยถึงสไตล์การเลือกนาฬิกาว่า “เลือกนาฬิกาที่ใช้งาน ดังนั้นบุคลิกของนาฬิกาต้องเข้ากับบุคลิกของตัวเองด้วย ส่วนตัวชอบนาฬิกาดีไซน์คลาสสิก สายหนังทรงกลม การแมตช์นาฬิกากับเสื้อผ้าไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไร เพียงเลือกในสิ่งที่ชอบ เวลาซื้อนาฬิกาจะใช้หัวใจในการตัดสินใจซื้อ อยากดูชิค ๆ โก้ ๆ ไม่ทางการก็อาจเลือกนาฬิกาทรงโอเวอร์ไซส์ ส่วนงานกลางคืนจะเลือกนาฬิกาที่เรือนเล็กดูคลาสสิก ลุคกลางวันจะสไตล์ไหนก็ได้ เพราะนาฬิกาเป็นเครื่องบ่งบอกเวลาและสไตล์ลิ่งการแต่งตัวของเรา และเป็นเรื่องของการลงทุน เพราะฉะนั้นจะเลือกซื้อนาฬิกาแบรนด์ที่ราคาค่อนข้างเสถียร”
ด้าน ป็อป-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ บอกว่า นาฬิกาเป็นสิ่งที่คอยย้ำเตือนให้เราตรงต่อเวลาและมีวินัยในเรื่องของเวลา รวมถึงเป็นเครื่องประดับอีกชิ้นนึงที่บ่งบอกตัวตนของเรา สมัยก่อนชอบใส่นาฬิกาที่ทำจากวัสดุมีค่า อย่าง ทองคำ หรือ ทองคำขาว ปัจจุบันชอบนาฬิกาสายพลาสติกหรือสายยาง เพราะน้ำหนักเบา แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูกาลเทศะให้เหมาะสมกับงาน ส่วนตัวชอบนาฬิกาแบบเข็ม เรียบโก้ เหนือกาลเวลา และตั้งแต่หลังโควิดก็เริ่มหันมาสนใจซื้อนาฬิกาเพื่อการลงทุน โดยจะหาข้อมูลจากกูรูนาฬิกา เพื่อน ๆ แนะนำ และนิตยสารนาฬิกาต่าง ๆ ที่จะให้ข้อมูลเชิงลึก”
สำหรับคนรักนาฬิกาชาวไทยที่สนใจเป็นเจ้าของนิตยสาร ‘Revolution Magazine’ เวอร์ชันภาษาไทย สามารถติดตามรายละเอียดและพรีออเดอร์ได้ผ่านช่องทาง Line my shop ในเร็ว ๆ นี้