"กุ้ง สุธิราช" แชร์ประสบการณ์ ครอบครัวตกเป็นเหยื่อไข้เลือดออก เข้าใจถึงคำว่า "ต้องป้องกัน ก่อนสายเกินไป"

กรุงเทพฯ – 21 สิงหาคม 2567 – “กุ้ง-สุธิราช วงศ์เทวัญ” นักร้อง นักแสดง และพระเอกลิเกชื่อดัง ร่วมแชร์ประสบการณ์ในฐานะครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ หลังจากที่น้องสาว “วิรดา วงศ์เทวัญ” ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมานานกว่า 7 เดือนจากโรคไข้เลือดออก พร้อมเป็นอีกหนึ่งเสียงในการชวนทุกคนเฝ้าระวังและดูแลตัวเองจากโรคนี้ ในงาน “แถลงข่าวแนวทางการป้องกันไข้เลือดออกด้วยมาตรการ 4 เน้น 4 เดือน” นำโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร ร่วมด้วย แพทยสมาคมฯ และเหล่าพันธมิตร Dengue-zero เพื่อสานต่อภารกิจลดการระบาดของโรคไข้เลือดออก เดินหน้าเน้นย้ำแนวทางการป้องกันทั้งในระดับประเทศ จังหวัด และชุมชน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการให้ไข้เลือดออกเป็นศูนย์ในไทย

กุ้ง-สุธิราช วงศ์เทวัญ กล่าวว่า “ผมคิดมาตลอดว่าโรคไข้เลือดออกเป็นเรื่องไกลตัวและไม่ได้มีผลกระทบร้ายแรงอะไร จนกระทั่งน้องสาวของผมที่ต้องป่วยหนักกับไข้เลือดออกขั้นรุนแรง ผมและครอบครัวอยู่กับความกังวลใจมานานหลายเดือนแล้วครับ เสียโอกาส เสียเวลา ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตัวผมและครอบครัวไม่เคยหมดกำลังใจครับ ในฐานะครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ผมก็อยากจะเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียง ที่อยากให้ทุกคนเข้าใจกับโรคนี้ให้มากยิ่งขึ้น และตระหนักว่าโรคนี้ป้องกันได้ แม้ว่าบางคนอาจจะยังไม่เคยมีประสบการณ์กับโรคนี้ แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่าเราจะเป็นไข้เลืออกออกได้ตอนไหนหรือเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้น ยิ่งเราไม่รู้ยิ่งต้องป้องกันครับ”

“ทุกวันนี้ครอบครัวของผมยังรอคอยให้น้องวิกลับมามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอีกครั้ง และเราก็ไม่ได้ละเลยกับการป้องกันตัวเองและครอบครัวจากโรคนี้แม้แต่น้อย เพราะเราเข้าใจดีว่าหากเป็นไข้เลือดออกแล้ว เราอาจต้องสูญเสียอะไรไปบ้างในชีวิต เพราะฉะนั้น อย่าคิดว่าโรคนี้มันเป็นเรื่องไกลตัว ยุงลายตัวเดียวอาจทำให้เราเป็นไข้เลือดออกก็ได้* และมันก็ระบาดนอกฤดูกาลได้แล้ว เราต้องตามให้ทันกับโรค เพื่อเอาชนะมัน และวิธีที่จะเอาชนะมันได้คือการป้องกันที่เราสามารถปฏิบัติตามมาตราการอย่าง เก็บน้ำ เก็บบ้าน เก็บขยะ และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และยังมีนวัตกรรมในการป้องกันอื่นๆ อย่างการทายากันยุงและการฉีดวัคซีน ที่สามารถขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ได้เช่นกันครับ” กุ้ง กล่าวทิ้งท้าย

* เมื่อถูกยุงลายที่มีเชื้อไวรัสเดงกีกัดอาจเกิดการติดเชื้อและเป็นโรคไข้เลือดออกได้