“พัชรวาท” มอบหมาย รชฏ ผช.รมว.ทส. เปิดงานวันน้ำบาดาลแห่งชาติ (๓ เมษายน)
ภายใต้แนวคิด “สืบสานพระราชปณิธาน รักษ์น้ำบาดาล ต่อยอดความยั่งยืน”
วันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๗ ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พล.ต.อ. พัชราวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายร้อยเอก รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงานวันน้ำบาดาลแห่งชาติ (National Groundwater Day) ครั้งที่ ๒ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗ ซึ่งตรงกับวันที่ ๓ เมษายน ของทุกปี ภายใต้แนวคิด “สืบสานพระราชปณิธาน รักษ์น้ำบาดาล ต่อยอดความยั่งยืน” โดยมีนางอรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดี กรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหาร กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชน เครือข่ายน้ำบาดาล รวมถึงข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ให้การต้อนรับและเข้าร่วมกิจกรรมกว่า ๖๐๐ คน
ร้อยเอก รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวในพิธีเปิดงานว่า “น้ำบาดาล” เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อ การดำรงชีวิตของประชาชน และมีคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ด้วยศักยภาพของแหล่งน้ำบาดาลในประเทศไทย สามารถตอบสนองความต้องการใช้น้ำบาดาลที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องมาจากการเพิ่มจำนวนของประชากร การขยายตัวของเมืองและชุมชน การพัฒนาทางด้านเกษตรกรรม เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม รวมทั้งปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำนโยบายและแผน ตลอดจนมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาล จึงกำหนดจัดงานวันน้ำบาดาลแห่งชาติ ในวันที่ ๓ เมษายนของทุกปี เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับความสำคัญของวันน้ำบาดาลแห่งชาติ และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิชาการน้ำบาดาลและศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องสู่สาธารณะ ตลอดจนเพื่อสดุดีพระเกียรติคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยให้เป็นที่ประจักษ์ถึงวิสัยทัศน์และพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาลอย่างยั่งยืน
นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า จากการที่คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบเมื่อวันอังคารที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๕ ให้วันที่ ๓ เมษายนของทุกปี เป็น “วันน้ำบาดาลแห่งชาติ” (National Groundwater Day) สืบเนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๕เวลา ๑๗.๐๐ น. เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไป ทรงเปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่บ้านปากชัดหนองบัว หมู่ที่ ๒ ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นการกำหนดวันในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อใช้ในการรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ ทุกภาคส่วนได้น้อมรำลึกและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์กับการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาล และร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานในการร่วมกันดูแล รักษา ปกป้องทรัพยากรน้ำบาดาลให้เกิดความยั่งยืนตลอดไป กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจึงกำหนดให้มีการจัดงานวันน้ำบาดาลแห่งชาติในวันที่ ๓ เมษายนของทุกปี โดยวันน้ำบาดาลแห่งชาติ ครั้งที่ ๑ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “รวมใจภักดิ์ รักษ์ น้ำบาดาล” ส่วนครั้งที่ ๒ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗ นี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “สืบสานพระราชปณิธาน รักษ์น้ำบาดาล ต่อยอดความยั่งยืน”
ในการนี้ ร้อยเอก รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานมอบโล่รางวัลให้แก่เครือข่ายน้ำบาดาลดีเด่น ประจำปี ๒๕๖๗ จำนวน ๔ ประเภท ดังนี้
๑) ประเภทสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดดีเด่น รวม ๕ รางวัล ได้แก่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลพบุรี, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปราจีนบุรี, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตาก และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนราธิวาส
๒) ประเภทกลุ่มผู้ประกอบกิจการน้ำบาดาลภาคเอกชนดีเด่น รวม ๓ รางวัล ได้แก่ บริษัท แอล อาร์ 1999 จำกัด, บริษัท เจ.เค.การ์เด้น จำกัด และโรงพยาบาลเสนา สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
๓) ประเภทกลุ่มชุมชนผู้ใช้น้ำบาดาลในพื้นที่ต้นแบบดีเด่น รวม ๑๒ รางวัล ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่, เทศบาลตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี, เทศบาลตำบลเขาพระยาเดินธง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี, องค์การบริหารส่วนตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม, เทศบาลตำบลโคกตะเคียน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์, ชุมชนบ้านวังพลาย อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี, กลุ่มเกษตรกรบ้านคลองต่างเหนือ อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย, องค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม, เทศบาลตำบลคลองหาด อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว, เทศบาลตำบลดงมอน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร, กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านเกษตรพัฒนาเหนือ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี และเทศบาลตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
๔) ประเภทช่างเจาะน้ำบาดาลกรมทรัพยากรน้ำบาดาลดีเด่น รวม ๑๒ รางวัล ได้แก่ นายอภิชาต ใจกว้าง, นายธาณินทร์ เอี่ยมสกุล, นายเสรี รอดสะอาด, นายสมพร อรรคศรีวร, นายศรัณย์ เฉิดไทสงค์, นายสุพรรณ บัณฑิตชน, นายประกอบ เพ็ญศรี, นายบุญที วีระเชื้อ, นายสันติชัย ไขกระโทก, นายณรงค์ เรืองศรี, นายถาวร ดวงทอง และนายเทิดศักดิ์ หนูแท้
สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ ประกอบด้วย การบรรยายพิเศษ หัวข้อ “สืบสานพระราชปณิธาน รักษ์น้ำบาดาล ต่อยอดความยั่งยืน” โดยนางอรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล การเสวนาจากผู้ทรงคุณวุฒิสาขาต่าง ๆ ได้แก่ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับการบริหารจัดการน้ำบาดาลของไทย” โดย รศ. ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ศรีสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำบาดาล ดร.สมชาย ใบม่วง ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยา “น้ำบาดาลกับการขับเคลื่อนพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๑” โดย นายโอฬาร เวศอุไร ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการลุ่มน้ำ 2 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และ “เดินหน้า แลหลัง…เติมน้ำใต้ดินประเทศไทย” โดย นางสาวสมคิด บัวเพ็ง อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. โพยม สราภิรมย์ ผู้อำนวยการสถาบันทรัพยากรน้ำใต้ดิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายศศิน เฉลิมลาภ นักวิชาการอิสระ
นอกจากนี้ภายในงานยังมีบูธแสดงนิทรรศการและผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบกิจการ น้ำบาดาลภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) บริษัท ไนน์ เพชรบูรณ์ เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท แดรี่พลัส จำกัด บริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด บริษัท คุณเก๋ขนมหวาน จำกัด และบริษัท ท๊อป ฟู้ด เอเชีย จำกัด รวมถึงผลผลิตทางการเกษตรจากผู้ใช้น้ำบาดาล อาทิ กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านหนองเม็ก จังหวัดอำนาจเจริญ กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกแก้วมังกรบ้านโคกงาม จังหวัดเลย กลุ่มแปลงใหญ่เห็ดนางฟ้า จังหวัดราชบุรี และกลุ่มเกษตรกรสวนส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม จังหวัดนครศรีธรรมราช