“นิโตริ” เปิดตัวสาขาที่ 2 “ซีคอน บางแค” พื้นที่ใหญ่สุดในเมืองไทย
พร้อมประกาศลุยตลาดไทยเต็บสูบ ตอบรับแผนขยายสาขาในแถบเอเชีย
NITORI (นิโตริ) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น บริหารงานโดยบริษัท นิโตริ โฮลดิงส์ จำกัด (Nitori Holdings Co., Ltd.) จากเมืองซัปโปโร ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ประกาศความพร้อมในการขยายสาขาใหม่เพิ่มเติมครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชีย พร้อมเดินหน้ารุกตลาดเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านเมืองไทยเต็มสูบ ด้วยการเปิดตัว NITORI สาขาที่ 2 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค ซึ่งนับเป็นสาขาที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยในปัจจุบัน ชูแนวคิด “มอบความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้คนทั่วโลก” ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในพื้นที่ ด้วยสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน และของแต่งบ้านสไตล์มินิมอลจากประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพและราคา แบบไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง ตลอดจนสร้างสีสันให้กับตลาดกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น โดยพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ววันนี้ ณ ชั้น 1 ศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค
นายทาเคดะ มาซาโนริ (Mr. Takeda Masanori) กรรมการ, ผู้จัดการทั่วไปแผนก Global Merchandising และผู้จัดการทั่วไปแผนก Global Sales Promotion รับผิดชอบส่วนธุรกิจขายต่างประเทศ บริษัท นิโตริ โฮลดิงส์ จำกัด กล่าวว่า “สำหรับ NITORI สาขาซีคอน บางแค นับเป็นสาขาที่ 2 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนิโตริ กรุ๊ป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสินค้าญี่ปุ่นคุณภาพดีของลูกค้าในพื้นที่ โดยเราเล็งเห็นว่าศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค เป็นศูนย์การค้าชั้นนำที่เป็นเสมือนจุดศูนย์กลางของย่านบางแค อีกทั้งยังตั้งอยู่ในย่านชุมชนขนาดใหญ่ มีการเดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อได้ทั้งทางรถยนต์ รถประจำทาง และรถไฟฟ้าใต้ดิน ส่งผลให้ในแต่ละวันมีปริมาณผู้ใช้บริการในพื้นที่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ NITORI ในฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเราเชื่อว่าการเปิดตัวร้านสาขาใหม่ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีและเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคชาวไทย พร้อมช่วยยกระดับการช้อปปิ้งสไตล์ญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพื่อรองรับความต้องการด้านสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน และของแต่งบ้าน ตลอดจนช่วยผลักดันในการขยายฐานลูกค้าและผู้มาใช้บริการภายในพื้นที่ศูนย์การค้าให้เติบโตอย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้นิโตริ กรุ๊ป (Nitori Group) ดำเนินธุรกิจตามพันธกิจที่ว่า “มอบความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้คนทั่วโลก” โดยตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป มีเป้าหมายที่จะเร่งขยายสาขาในเอเชียเพิ่มเติมให้ถึง 3,000 สาขา เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดเอเชียที่เป็นอีกหนึ่งตลาดหลักของนิโตริ กรุ๊ป ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านยอดขายที่วางไว้ที่ประมาณ 720,000 ล้านบาท (ราว 3 ล้านล้านเยน) ภายในปี 2032 เนื่องจากคาดการณ์ว่าภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดรับกับทิศทางการตลาด การสานต่อพันธกิจ ตลอดจนวิสัยทัศน์ของบริษัทได้เป็นอย่างดี โดยในปัจจุบันร้าน NITORI มีสาขาทั่วโลกรวมกว่า 954 สาขา ซึ่งแบ่งเป็นสาขาในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 805 สาขา และสาขาในภูมิภาคเอเชีย เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกงอีกกว่า 149 สาขา ส่วนในประเทศไทย หลังจากได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปิดตัวสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา ทางนิโตริได้วางแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มเติมเป็น 25 สาขาทั่วประเทศ ภายในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งนอกเหนือจากร้าน NITORI ที่วางขายสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านแล้ว ทางนิโตริ กรุ๊ป ยังมีสินค้าแบรนด์อื่น ๆ ในเครือฯ มากมาย อาทิ แบรนด์ DECO HOME ที่เน้นสินค้าตกแต่งบ้านที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน, แบรนด์ SHIMACHU ที่เพิ่มการจำหน่ายสินค้างานช่าง เครื่องมือช่าง ไปพร้อม ๆ กับสินค้าตกแต่งบ้าน และแบรนด์ N PLUS ที่จำหน่ายเครื่องแต่งกายสำหรับผู้หญิง เป็นต้น
นิโตริ กรุ๊ป ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียอย่างเต็มกำลัง ผ่านการสร้างรูปแบบโมเดลธุรกิจอย่างครบวงจร ที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงขั้นตอนการผลิต การกระจายสินค้า และการจัดจำหน่าย เพื่อการนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย โดยนำเสนอ “สิ่งที่คาดไม่ถึง” และมีคุณภาพดีเยี่ยมในราคาที่ “ย่อมเยาว์” พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายทางธุรกิจทั่วภูมิภาคเอเชียผ่านพันธมิตรทางธุรกิจหลายราย โรงงานการผลิต และบริษัทเทรดดิ้งของตนเอง เช่น ในประเทศไทยมีการก่อตั้งบริษัทที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลจัดส่งสินค้าภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาตั้งแต่ปี 1999 และโรงงานสยามนิโตริ (Siam Nitori) ผู้ผลิตพรมรีไซเคิลจากขวดพลาสติก ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีกระบวนการผลิตทั้งหมดภายในโรงงานเป็นของตัวเองด้วยรูปแบบธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร ส่งผลให้มีเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่แข็งแกร่งในการผลิตสินค้าให้กับนิโตริ กรุ๊ปมาอย่างยาวนาน เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอการสร้างที่อยู่อาศัยที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน มั่งคั่ง และมอบความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่ผู้คนทั่วโลกได้อย่างเหมาะสม
ทั้งนี้เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา ทางนิโตริ กรุ๊ปได้ทำการขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 37 สาขาใน 4 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย รวมถึงทำการเปิดตัวสาขาแรกในประเทศมาเลเซีย สิงค์โปร์ และประเทศไทย ตลอดจนวางแผนที่จะเปิดสาขาแรกในประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้เพิ่มเติมอีกด้วย โดยคาดการณ์ว่าภายในเดือนมีนาคม 2024 นิโตริจะสามารถเปิดสาขาได้เพิ่มได้มากขึ้นกว่า 78 สาขา ส่งผลให้จะมีจำนวนสาขารวมทั่วภูมิภาคเอเชียมากถึง 206 สาขา พร้อมตั้งเป้าว่าตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป จะเปิดสาขาใหม่ในต่างประเทศให้ได้ปีละประมาณ 300 สาขา เพื่อสานต่อพันธกิจและวิสัยทัศน์ของบริษัทอย่างยั่งยืน
นายตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค กล่าวว่า “ผมมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับนิโตริ กรุ๊ป ในการเปิดตัวร้าน NITORI สาขาซีคอน บางแค ซึ่งถือเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในปัจจุบัน รวมถึงสาขาอื่น ๆ ที่จะวางแผนร่วมกันในอนาคต เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการช้อปปิ้งให้กับลูกค้าอย่างครบครัน ซึ่งน่าจะถูกใจนักช้อปที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบในคุณภาพของสินค้าตกแต่งบ้านให้ได้จับจ่ายใช้สอยสินค้าที่ครอบคลุมทุกความต้องการ และมีความหลากหลายในแบบฉบับของ NITORI ที่คุ้มค่าเหนือราคาโดยไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น โดยสำหรับการเปิดสาขาในครั้งนี้ ทางซีคอน บางแค มีความตั้งใจจัดหาพื้นที่ในโลเคชั่นที่ดีที่สุดของชั้น 1 ซึ่งมีพื้นที่กว่า 2,600 ตารางเมตร ซึ่งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกทั้งทางรถยนต์ และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ‘สถานีภาษีเจริญ’ ที่มี Skywalk เชื่อมต่อเข้ามายังศูนย์สรรพสินค้าของเราโดยตรง ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่รองรับการเดินทางของลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง NITORI ยังเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านยอดนิยมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเสมือนแหล่งรวมของเทรนด์ญี่ปุ่นที่เข้าถึงง่าย เป็นร้านที่ทุกคนตั้งตารอคอย โดยผมเชื่อว่าลูกค้าที่มาใช้บริการภายในศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแคจะตื่นตาไปกับสินค้าที่หลากหลายและมาจับจ่ายที่ร้าน NITORI กันอย่างคึกคัก รวมถึงช่วยเติมเต็มสีสันของการช้อปปิ้งให้กับลูกค้าย่านฝั่งธนฯ ให้มีชีวิตชีวามากขึ้น และประสบความสาเร็จตรงตามเป้าหมายไปด้วยกันอย่างแน่นอน”