เปิดใจที่แรก “บี๋ สวิช” แค้นใจ!! ถูกคนใกล้ตัวยกเค้าหมดตัวสูญเกือบ 10 ล้าน

“บี๋ สวิช” อดีตพระเอกดังยุค 90 เปิดใจที่แรกหลังบ้านโดนยกเค้า ของมีค่าหายเกลี้ยงสูญเสียทรัพย์สินมูลค่ารวมเกือบ 10 ล้านบาท จนหมดตัว รับแค้นใจเคยคิดอยากฆ่า เจ็บปวดมากที่คนร้ายติดคุกแค่ 2 ปีและตอนนี้ออกจากคุกแล้ว แต่ตนเองกลับไม่ได้ทรัพย์สินคืนแม้แต่บาทเดียว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ อาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ได้ข่าวว่าพี่บี๋โดนยกเค้า แต่ไม่คิดว่าหมดตัว?

“นับหนึ่งใหม่เลย มันงัดทั้งเซฟ รู้จักคนร้ายมาระยะนึง เขาเป็นอดีตพนักงานแบงก์อยู่ที่อำนาจเจริญ แล้วเขามาขายประกัน ขายอะไรให้ จากนั้นผ่านไปหลายเดือน เขาก็มาแจ้งเราว่าเขาป่วยเป็นมะเร็งระยะ 2 ร่างกายไม่สามารถทำงานปกติได้ ตอนแรกเราก็ยังไม่เชื่อ แต่เขาบอกว่าที่บ้านเขา แม่ก็เป็นเนื้องอกในสมองด้วย พ่อก็หลบหนีคดีทางการเมืองอะไรสักอย่าง ทำให้เราเชื่อใจ เพราะเราเคยเจอกันเวลาเขาขายประกัน เขาบอกให้ช่วยหน่อย เขาไม่ไหวแล้ว การรักษาโรคมะเร็งต้องใช้ยา ราคามันสูงมาก ทำอะไรได้ก็ทำ ขอแค่ให้มีที่ทำงาน เราก็ถามว่าทำอะไรได้บ้าง เขาบอกทำได้หมด กับข้าว งานบ้านทำได้หมด ช่วงนั้นประกอบกับแม่บ้านผมกลับต่างประเทศไปเป็นปี ไม่กลับมาสักที มันจังหวะพอดี เราก็เห็นใจเขา สงสารนะ ถ้าเขาป่วยเป็นมะเร็ง บ้านแตกแยก เราก็รับมาเป็นแม่บ้าน คอยทำความสะอาด ซักผ้า ถูบ้าน”

ตอนเขามาทำแรก ๆ เห็นพิรุธมั้ย?

“แรก ๆ ไม่มีพิรุธ แรก ๆ ทำงานดี เขามีทักษะที่เขาเคยทำงานแบงก์มาด้วย มันก็ช่วยจัดการบางอย่างได้ ช่วงแรกก็สามารถไว้ใจได้ เฝ้าบ้านได้ เราก็ไม่เคยคิด เรามีเมตตา ช่วยเหลือผู้คนได้เราก็ช่วย”

ในบ้านมีกี่คน?

“มีผม คุณแม่ คุณยาย แต่คุณแม่กับคุณยายไป ๆ มา ๆ เบื่อต่างจังหวัดก็กลับมาอยู่กับผม หลัก ๆ อยู่คนเดียว”

ระยะเวลาที่เขาอยู่มา นานขนาดไหน?

“3-4 ปี ก็นานพอสมควร แม่บ้านต่างชาติกลับบ่าย เดี๋ยวลา เดี๋ยวขาด”

 ระหว่าง 3-4 ปีไม่มีอะไรหาย?

“มีของหายบ้างเป็นบางอย่าง อย่างเสื้อผ้าที่เราซื้อไว้แล้วเก็บ ยังไม่ได้ใส่ แต่ด้วยความที่เราเป็นผู้ชายไม่ได้คิดอะไรมาก เราก็ถามเขา เขาบอกเขาไม่เห็น ไม่ทราบ ช่วงนั้นมีญาติพี่น้องมาที่บ้านบ้าง บางทีญาติก็มาหยิบไปบ้างโดยไม่ได้บอก เราก็คิดว่าญาติเราเอาไป”

วันนึงมีตร.มาที่บ้าน เกิดอะไรขึ้น?

“ผ่านไป 3-4 ปี วันนึงมีตร.บุกมาที่บ้าน ยื่นหมายจับโจรที่ปลอมตัวมาเป็นแม่บ้านผม เขาไปก่อคดีทางแบงก์เอาไว้ แล้วหลบหนีมาซุกซ่อน เราก็ห๊ะ ตกใจ มันเกิดอะไรขึ้น ตร.เชิญไป ผมก็บอกว่าถ้างั้นคุณไปเคลียร์ตัวคุณเอง แบบนี้เราไม่โอเคแล้ว ขอกุญแจบ้านคืนทั้งหมด ตอนนั้นเขาโดนจับไปเลย แต่ไม่ถึงวันที่เราโดนยกเค้า หลังจากนั้นผมก็มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่ 7 วัน พอกลับมาปรากฏว่าเปิดประตูห้องไป เซฟโดนงัด เปิดออกหมดเลย โห ตอนนั้นใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เพราะผมซื้อทองเอาไว้ เราเก็บหอมรอมริบ เราทำมาหากินสุจริต เราเผื่อไว้ยามแก่เฒ่า พ่อแม่เจ็บไข้ได้ป่วยตรงไหนเราจะได้ใช้ตรงนี้ในยามฉุกเฉิน ผมซื้อตอนนั้นมาขาดทุน ซื้อ 2.6 หมื่น 2.7 หมื่น ก็คิดว่าถ้าราคาขึ้นมาเท่าทุนเราจะขายเอาทุนคืน จะได้ไม่ขาดทุนเยอะ เราเก็บไว้เป็นสิบปี พอวันนึงเราจะเอาไปขาย ช่วงนั้นโควิดเริ่มเข้า แม่ก็เริ่มมีอาการป่วย”

เซฟใช้วิธีการงัดหรือรู้รหัส?

“งัดเลย” 

วันที่ขอกุญแจ ได้คืนทั้งหมดมั้ย?

“วันที่เขาขโมยของแล้วหนีไป ผมก็ประสานเจ้าหน้าที่ตร.ไปตามจับที่บ้านพ่อเขาที่เป็นอาจารย์เก่า อาจารย์เกษียณอยู่ที่จังหวัดอำนาจเจริญ”

ของที่อยู่ในตู้เซฟ มีกี่บาท?

“ทอง 50 บาท 4 แท่ง ถ้าเทียบราคาตอนนี้ บาทละ 3.2 หมื่นก็คูณเข้าไป ไหนจะแหวนทองที่เป็นแหวนวงแรก ราคาไม่สูง แต่มีมูลค่าทางจิตใจ สลักชื่อผม VIT มีเพชรตรงตัว I วงนึงก็ญาติผู้ใหญ่เขาให้ตอนเราประสบความสำเร็จ เราก็อยากเก็บ ผมก็ตามไปเจอที่บ้านของเขา มีกุญแจสำรองที่เขาขโมยผมไป แล้วตร.ค้นเจอใบที่เอาไปจำนำ แหวนที่เอาไปจำนำ ดันจำนำร้านไม่มีชื่อ ไม่มีเบอร์โทร ไม่สามารถตามได้ อีกใบนึงเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่เขาเอาไปจำนำ อันนั้นยังพอมีชื่อ ตามมาได้บ้าง แต่อย่างอื่นตามไม่ได้เลย”

เขาไม่บอกเหรอ?

“ตอนเขาจำคุกก็ไปเจรจา บอกว่าเอาไปซ่อนไว้ที่บ้าน ตรงท่อบ้าง ผมก็ไปหานะ ด้วยความซื่อ เรามีความเชื่อว่าเราจะได้ของเราคืน ไปหาก็ไม่มี บอกว่าไปซ่อนตรงนั้นเราไปหาก็ไม่มี สุดท้ายก็ไปคุยว่าให้พูดความจริงมา ขอของเราคืนเถอะ ศาลก็ให้ระยะเวลา แต่สุดท้ายโจรก็โกหกตอแหลไปเรื่อย มันผิดคำพูด สร้างเรื่องสร้างราว จนสุดท้ายที่ขึ้นศาล ตัวเขาก็บอกว่าเขายอมติดคุก ไม่ยอมคืนของให้ผม ผมก็จะทำยังไงดี ในเมื่อเราเป็นผู้เสียหาย ถูกกระทำแบบนี้ มันเจ็บปวดมาก”

ตอนนั้นเป็นยังไง?

“เครียดมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ ทำไมเป็นแบบนี้วะ ทำไมเกิดซ้ำกับเราอีก เราเจอเหตุการณ์โดนโกงมาหนึ่งรอบ นี่โดนอีก เราไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้ คนที่ถูกกระทำ อยากให้เข้าใจความรู้สึก คุณมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น ผมเดือดร้อน มันเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ผมจะเอามาดูแลตัวผม ดูแลพ่อแม่ยามแก่เฒ่า แต่คุณมาขโมยไปหมด แล้วคุณคิดว่าคุณจะไปเสวยสุขเหรอ ทำไมไม่ทำมาหากินสุจริต ผมยังมีความรู้สึกว่าอยากให้บ้านคุณ ครอบครัวคุณ โดนปล้นแบบผมบ้าง คุณจะรู้สึกยังไง คนออกข้อกฎหมายอยากให้โดนบ้าง อยากให้เข้าใจหัวอกคนที่ถูกกระทำว่ามันเจ็บปวดรวดร้าวขนาดไหน กับสิ่งที่เราถูกกระทำมา โห คุณใจร้ายมาก” 

ที่พูดถึงอยู่ผ่านมากี่ปีแล้ว?

“3 ปีแล้ว”

อารมณ์ยังคุกรุ่น เสียใจ?

“มันหมดเลย เราอายุมากขึ้น การทำงานมันยากขึ้นแล้ว เรารู้”

มูลค่าโดยรวมที่หมดไป ทั้งหมดเท่าไหร่?

“ประมาณ 6 ล้าน แต่ถ้าตีราคาทอง ณ ปัจจุบัน ล่อไป 7 ล้าน ทั้งหมดเกือบ 10 ล้าน”

ไปเจอที่บ้านเขาอำนาจเจริญ เจอใครบ้าง?

“เจอคุณพ่อเขา อดีตข้าราชการครูที่อำนาจเจริญ เป็นผู้ใหญ่ที่มีลูกศิษย์ลูกหาในอำนาจเจริญหลายคนเหมือนกัน ผมก็ได้คุยกับท่าน ว่าผมมาดีนะ ลูกสาวพ่อขโมยทรัพย์สินผมไป พ่อเขาน่าจะยังไม่รู้เรื่อง และเขาหนีกบดานไป พอตามไป ตอนแรกเราคิดว่าคนเป็นครูบาอาจารย์น่าจะมีศีลธรรม จริยธรรม เพราะสอนเด็กสอนนักเรียน ก็คิดว่าน่าจะทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีด้วย แต่กลายเป็นว่าคุณพ่อก็ไม่ได้ช่วยอะไร เหมือนกับสุดท้ายแล้วไม่ว่าลูกจะผิดอะไร ก็คอยโปรเทคลูกหรือเปล่า”

ประโยคไหนที่คิดว่าไม่น่าได้แล้ว?

“ตร.กันตัวผมออกมา เพราะทางผู้ต้องหาออกมาโวยวาย ด่าตร.เต็มไปหมดเลย เขาโวยวาย มากันทำไมเต็มบ้านไปหมด อับอายโน่นนี่นั่น แต่เขาก็ยอมรับว่าเขาทำ แล้วอ้างไปเรื่อย โดนจับไปวันนั้น ติดที่เรือนจำอำนาจเจริญ ฝากขังไว้ แล้วนำตัวมาเข้ากรุงเทพฯ เพราะเหตุเกิดที่กรุงเทพฯ ต้องเอามาที่เกิดเหตุ”

ไม่บอกเลยว่าของอยู่ที่ไหน?

“ไม่บอกเลย ตอนนั้นช่วงโควิดร้านย้ายเข้าย้ายออก เราก็ตามไม่ได้เลย ในฐานะเราเป็นผู้เสียหาย มีคำสั่งศาลมาให้เราไปตามทรัพย์สินเอง มีคำสั่งให้กรมบังคับคดีตามบังคับคดี เราก็ไปกรมบังคับคดี เขาก็บอกว่าคุณต้องไปตามเรื่องเองนะ หมายความว่าหน้าที่ของผู้เสียหายต้องไปตามทรัพย์สินเองในคดีแพ่ง ก็ต้องไปตามเอง ทุกสิ่งทุกอย่างตามเอง แต่เราไม่มีอำนาจเหมือนเจ้าหน้าที่ตร.ในการไปสอบถาม ผมก็เอาหมายศาลลองไปถามธนาคารเพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน เผื่อมีโจรเอาเงินไปซุกซ่อนธนาคารไหนบ้าง ปรากฏว่าไม่ได้รับความร่วมมือกับธนาคาร ธนาคารอ้างข้อกฎหมายบางข้อที่เข้ามาคือ pdpa เรื่องคุ้มครองสิทธิ์ แต่ผมก็มีคำถามที่สงสัยและอยากเรียนถามผู้พิพากษาท่าน จริง ๆ ท่านให้ความยุติธรรมกับผมดี เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายช่วยเหลือผมดี ประเด็นตรงนี้เป็นข้อกฎหมายไปเอื้อประโยชน์กับโจรหรือเปล่า บางอย่างมันดีนะ บางข้อเอื้อต่อโจรหรือไม่ ขณะที่เราเป็นผู้เสียหาย แต่ผมไม่มีอำนาจ ผมได้รับคำสั่งศาลไป ผมไปยื่นกับแบงก์ขอตรวจสอบ แต่แบงก์ไม่ให้ แสดงว่าคำสั่งศาลตรงนี้มันไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้วหรือเปล่า แล้วถ้าเกิดเคสอื่นเกิดขึ้นมาอีก อีกหน่อยจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีหรือเปล่า ผมไปขโมยเงินอาจารย์มาแล้วผมยอมติดคุกสองปี ได้รับโทษออกมา ไม่ต้องมาใช้จ่าย จบกันไป ทั้งที่เราสูญเสียเป็นมูลค่ามหาศาล”

เราได้รับความเป็นธรรมแต่ไม่เพียงพอ เงินหามาทั้งชีวิตเกือบ 10 ล้าน คนร้ายตัดสินติดคุก 2 ปี?

“ใช่ แล้วคดีก่อนหน้านั้นคดีฉ้อโกงอีก 4 ปี กลายเป็น 6 ปีแต่ติดจริงแค่ 2 ปี”

พีคกว่านั้นคือ เขาขโมยเงิน แต่พี่บี๋ไปเยี่ยมเขาในคุก?

“ผมยังมีความหวัง ตัวเขาเองก็เขียนจดหมายให้ไปเยี่ยมเขาบ้าง เขียนมาบอกว่าขอโทษที่ทำให้เสียใจ พี่คงเครียดมาก โน่นนี่นั่น เขาทำสิ่งไม่ดี เหมือนเขาสำนึกผิด ขณะนั้นแม่ผม ยายผม ไม่สบาย ป่วยเข้ารพ.ต้องรักษา ผมจะทำยังไงดี เงินที่เขาขโมยไปจะได้เอากลับมารักษาแม่กับยาย เราก็ไปเยี่ยมเขา เขาบอกว่าเงินยังอยู่นะ ไม่ได้หายไปไหน เดี๋ยวออกมาจะคืนให้แน่นอน เราก็ยังมีความหวัง ตราบใดที่เขายังอยู่ในคุก เราก็คิดว่าเงินจะไม่ถูกใช้ไปหรือเปล่า หรือเขายักย้ายถ่ายเทเราก็ไม่รู้ แต่ตอนนั้นเรายังมีความหวัง”

ตอนอ่านจดหมายไว้ใจเขามั้ย?

“ผมยังไม่ไว้ใจ ผมไม่เชื่อคำพูดเขานะ ว่าจะเป็นจริง เพราะเราเจรจากับเขาหลายรอบแล้ว วิธีคิดของโจรจะคิดไม่เหมือนกับเรา ที่รู้ผิดชอบชั่วดี แต่โจรไม่แน่ใจว่าพอติดคุกไป 2 ปีสิ่งที่เขากระทำลงไปเขาได้รับโทษแล้ว ผมไม่รู้ว่าเขาจะสำนึกกับสิ่งที่เขาทำหรือเปล่า ถ้าเขาอยากเปลี่ยนในสิ่งที่เขาทำไม่ถูกต้อง ให้กลับมาทำให้ถูกต้องซะ มันไม่น่าภาคภูมิใจหรอก ที่คุณเอาเงินที่เขาทำมาหากินบริสุทธิ์ เขาเก็บสะสม เขาเก็บหอมรอมริบมา แล้วคุณเอาไปใช้ มันไม่น่าภาคภูมิใจหรอก อย่าทำเลย ถ้ามีโอกา หรือคุณพ่อคุณแม่คุณฟังอยู่ โปรดเอามาคืนผมเถอะ ผมเดือดร้อนจริง ๆ ในสิ่งที่คุณทำ คุณเอาไปทั้งชีวิตผมเลย ที่ผมทำทุกอย่าง แล้วผมไปตามก็ต้องใช้เงิน มันไม่ง่ายเลย ถ้าอยากแก้ความผิด อยากทำผิดให้เป็นถูก สิ่งที่คุณได้รับโทษไปนั้น คุณสำนึกหรือไม่ก็อยู่กับคุณ”

อะไรทำให้มีความหวังว่าทองที่ยังเอาไปจะยังอยู่?

“ช่วงโควิดมันไม่น่าใช้อะไรได้มาก ตัวเขาเองการพนันก็ไม่ได้เล่น แต่อาจชอบเครื่องประดับอะไรต่าง ๆ ผมคิดว่าเงินไม่น่าถูกใช้ไปไหน ในความคิดผมเองนะ แต่เริ่มไม่รู้สึกอย่างนั้นแล้ว พอเขาออกไป เขาก็อาจเล่นแร่แปรธาตุเปลี่ยนไป  หรือครอบครัวญาติพี่น้องเขาจะเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไรในการจับจ่ายในรูปแบบต่าง ๆ ก็ฝากร้านทองหลาย ๆ ร้านทอง ถ้าท่านทราบเบาะแส ช่วยกรุณาแจ้งทางรายการหรือแจ้งผมก็ได้ แม่ทองใบนะครับ 50 บาท 4 แท่ง 200 บาทครับ ผมอดหลับอดนอนเสี่ยงอุบัติเหตุ กว่าจะเก็บหอมรอบริมมาได้ เราก็รู้ว่าอายุมากขึ้นก็เก็บไว้ใช้ยามแก่เฒ่า พ่อแม่เจ็บป่วย ก็อยากเก็บไว้เป็นเรื่องธรรมดา แล้วอยากแจ้งว่าเราไม่แน่ใจว่าเขาออกไปแล้วจะสำนึกหรือไม่ ก็อยากเตือนภัยหลาย ๆ คน ถ้าเจอคนเหล่านี้อีก ตอนนี้ผมกับเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกันทั้งสิ้น ฉะนั้นโปรดระมัดระวังนะครับ โจรจะมีวิธีการพูด ปลอมอะไรเยอะแยะ เปลี่ยนโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กส่วนใหญ่เขาใช้เป็นภาษาญี่ปุ่น ตอนนี้โจรมารอบทิศทางจริง ๆ ต่อให้ป้องกัน แต่อันตรายอยู่รอบด้าน สิ่งสำคัญคือต้องป้องกันตัวเองให้มากที่สุด ก็อยากเตือนทุกท่านไว้ รู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆ เขาใช้ความสงสารของเรา ทำให้เราตกเป็นเหยื่อเขา ผมต้องคอยพยุงจิตใจ คอนโทรลจิตใจไม่ให้มันตก”

พี่บี๋เคยคิดถึงขั้นจะทำร้ายตัวเอง?

“ครั้งแรกโดนโกงเคยคิด แต่ครั้งนี้เราเจ็บซ้ำน้ำใจมาก เหมือนโดนกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำไมต้องเป็นเรา”

แค้นถึงขนาดไหน?

“ผมอยากให้คนร้ายโดนปล้นโดนเหมือนที่ผมรู้สึก ให้ครอบครัวคุณโดนเหมือนที่ผมโดน จะได้เข้าใจความรู้สึกว่าคนถูกกระทำ คนไม่รู้เรื่อง เขาเจ็บปวดแค่ไหน มันสาหัสแค่ไหน เดือดร้อนแค่ไหนอย่างไร”

เวลาคนเครียดมาก ๆ อยากฆ่ามันเลย พี่มีมั้ย?

“มีแว๊บแรก สองสามเดือนแรก ทำไมต้องมาทำกับเราแบบนี้ เราอุตส่าห์ช่วยเหลือคุณ ให้คุณมีที่อยู่ที่กิน มีที่พักอาศัย แต่กลับมากินบนเรือนขี้รดบนหลังคาแบบนี้เหรอ ก็ต้องขอบคุณกำลังใจจากคุณแม่และคนรอบข้าง คำสอนของพระพุทธเจ้าที่เราเอามาสงบจิตสงบใจ ข่มจิตเราให้เรียนรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีเกิดแก่เจ็บตาย ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น เราต้องประคับประคองจิตใจ ทำให้จิตเราเข้มแข็งให้ได้ และผมจะตามเอาทรัพย์สมบัติเราคืนมา ยังไงผมจะตามล่าคุณแน่นอน ผมจะไม่ยอมให้โจรชั่วลอยนวล”

เล่าให้คุณแม่ฟังทุกเรื่อง?

“จริง ๆ ผมไม่อยากเล่า กลัวเขาเครียดไปตามเรา กลัวช็อกโน่นนี่นั่น เราก็พยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน แต่มาบอกทีหลัง แม่ก็ตกใจ แต่ก็ให้กำลังใจ บอกว่าไปดูคนอื่นสิ เขาแย่กว่าเราจะลูก วันนี้ลูกยังมีชีวิต มีบ้าน มีรถอยู่ ยังมีแรง มีหน้าที่การงานที่ได้รับความเมตตา เราต้องดำเนินชีวิตต่อไป ความหวังอยู่ที่ตัวเรา กำลังใจก็อยู่ที่ตัวเรา เริ่มจากตัวเราก่อน แล้วค่อยแบ่งพลังไปให้คนอื่น”

ร้องไห้กับคุณแม่มั้ย?

“ผมเป็นผู้ชายไม่กล้าร้องไห้กับคุณแม่ ส่วนใหญ่จะร้องคนเดียว ไม่อยากให้เขาทุกข์ไปกับเรา อยากให้แกมีความสุขมากกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเราก็รับไว้ด้วยตัวเอง เราเป็นลูกผู้ชายพอ เราคิดอย่างเดียวว่าเราต้องเข้มแข็ง ต้องสู้ แต่ความเข้มแข็งบางทีก็ไหลออกมาเป็นน้ำตา”

ตอนนี้คนร้ายสู้พี่กลับ ตอนนี้ออกมาจากคุกแล้ว?

“เขาหายเงียบไปเลย ไม่ติดต่อใด ๆ ทั้งสิ้น หายสาบสูญไปเลย ผมไม่รู้จะไปสืบหายังไง ไม่รู้เขาไปซ่อนตัวที่ไหนยังไง ยังหาไม่เจอ วันที่เขาออกมา เผอิญทำงานอยู่ ไม่รู้จะไปตามยังไง”

เราก็เชื่อใจเพราะเขาบอกว่าจะเอาของมาคืนเรา?

“ใช่ ถ้าเขารักษาคำพูด ให้สัจจะสัญญา แต่แน่นอนสัจจะไม่มีในหมู่โจร”

อยากบอกอะไรเขา?

“ถ้าออกมาแล้ว ผมไม่รู้ในคุกได้อบรมขัดเกลาหรือทำให้คุณรู้สึกสำนึกบ้างแล้วหรือยัง ถ้าสำนึกแล้ว คุณเองก็ควรทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้กลายเป็นเรื่องถูกต้องซะ เงินทุกบาทเป็นของผม ผมยังไม่ได้คืนแม้แต่สลึงเดียว เพราะฉะนั้นได้โปรดเถอะ แม้แต่พ่อแม่คุณ ครอบครัวคุณดูอยู่ ขอร้องล่ะ ผมเดือดร้อนจริง ๆ ในสิ่งที่คุณทำ อย่ามีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นเลย คนอื่นหามาด้วยความยากลำบาก เขาเหน็ดเหนื่อย เดือดร้อน มาทำแบบนี้มันเจ็บปวดนะครับ ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวคุณบ้างคุณจะรู้สึกยังไง ผมหวังว่าสิ่งที่คุณได้โอกาสจากสังคมแล้ว ควรกลับเนื้อกลับตัวซะใหม่ ผมยังรอให้คุณติดต่อและรอให้คุณเอาของมามอบให้ผมอยู่ แนะนำว่าถ้าเกิดคนนี้ไปก่อคดีอีก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมนะครับ ตรวจสอบกันให้ดี เช็กก่อนว่าเคยมีประวัติหรือเปล่า สิ่งสำคัญก็ต้องให้กำลังใจตัวเราเอง ต้องอยู่เพื่อสู้ต่อไป ก็หวังว่าเสียงเล็ก ๆ หนึ่งเสียงจากผู้ถูกกระทำ จะไปถึงผู้พิพากษา ตร. กรมบังคับคดี กฎหมายบางอย่างได้โปรดเถอะ ถ้าแก้ได้ก็แก้ อย่าไปเอื้อให้คนที่ไม่ดีเลย”

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ย้อนหลัง บี๋ สวิช 

About Author