“ปู แบล็คเฮด” ควง “แจนจัง” เปิดเส้นทางรัก 8 เดือน  รับอายุห่าง  24 ปี มีผลกับชีวิตคู่จริงไหม?

ร็อคเกอร์รุ่นใหญ่ระดับตำนาน ปู แบล็คเฮด ที่วันนี้ควงแฟนสาว แจนจัง เจตสุภา อดีสมาชิก BNK48 อายุห่างกันกว่า24 ปี มาเปิดใจจุดเริ่มต้นความรักที่เกิดขึ้นในกองถ่าย พร้อมเคลียร์ดราม่ามูฟออนไว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี หนิง ปณิตา และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ตอนวันเกิดพี่ปูช่วงต้นเดือนมิถุนายน คบกันได้กี่เดือน?

แจนจัง : ประมาณ 8 เดือน

จุดเริ่มต้นความรักของพี่ปู ไปเริ่มคุยกันคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่?

ปู : เจอกันในกองถ่ายซีรีส์เรื่องนึงครับ ประมาณเกือบ 10 เดือนที่แล้ว ก็พูดคุยกันอยู่ในห้องพักนักแสดง แต่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใคร รู้แต่เพียงว่าเป็นนักแสดงสมทบ

แจนจังรู้จักปู แบล็คเฮด มาก่อนไหม?

แจนจัง : รู้จักค่ะ เคยเห็นแล้วก็จำได้ แต่พอมาเจอตัวจริงจำไม่ได้ เพราะเขาเปลี่ยนลุคหมดเลย เราไม่ได้ติดตามตลอดมันไม่ได้แนวเรา พอมาเจอกันวันแรก ครั้งแรก เราจำไม่ได้เฉย ๆ แต่เรารู้ว่ามีปู แบล็คเฮด มีเพลงของเขาอยู่ แต่ไม่รู้ว่าคนนี้คือปู แบล็คเฮด เพราะเขากลายเป็นไวท์เฮดไปแล้ว

ไปรู้ได้ไงว่าเขาคือ ปู แบล็คเฮด ?

แจนจัง : ในกองจะมีว่าใครมาเล่นบ้าง เราก็ไปยืนอ่าน อ่อ…โอเค รู้แล้วว่านี่คือปู แบล็คเฮด

ชอบเขาเลยไหม?

แจนจัง : ชอบเลย

ชอบพี่เขาเพราะอะไร?

แจนจัง : ชอบเพราะวันนั้นเป็นวันฟิตติ้ง เราเดินไป เขามาก่อน เราหันไปเห็น อุ้ย…นี่ใคร หล่อจังเลย แล้วเหมือนมีแสงเปล่งประกายออกมา เหมือนจังหวะตกหลุมรัก หน้าเขาจะไบร์ท

พี่ปูรู้ไหมว่าน้องเห็นแสงจากกรามพี่ปู?

ปู : ไม่รู้เลยครับ มารู้ตอนหลังที่พูดคุยกันเยอะ ๆ แล้ว ถึงได้ถามว่ามันเรื่องอะไรถึงได้ถูกใจ อาจจะหลงรอยตีนกาเพราะรุ่นเดียวกันกับเขาไม่ค่อยมี

พี่ปูรู้ไหมว่าน้องเขาเป็นไอดอลวงดังเลย?

ปู : จริง ๆ มีเพื่อนสนิทที่ไปด้วยกัน เขาก็บอกว่าคนนี้เป็นไอดอล แต่ตอนแรกที่ไปถ่ายกับฟิตติ้ง เพื่อนคนนี้ไม่ได้ไปด้วยพอตอนหลังถึงได้รู้

วิธีปฏิบัติการของเราชวนเขาคุยเลยไหมเพราะเราเป็นฝ่ายชอบเขาก่อน?

แจนจัง : เราชอบ แต่เราไม่ได้อยากจะเข้าหาหรือปฏิสัมพันธ์อะไรอย่างนี้ เหมือนแค่ชอบเฉย ๆ

แล้วทำยังไงทั้งคู่ถึงสนิทกันได้?

ปู : เวลามันเยอะในกองถ่าย ก็พูดคุยกันไปเรื่อย ๆ จริง ๆ มีอยู่ 3 คน มีลูกเกดอีกคน ที่อยู่ในห้องเดียวกัน เวลาเกดไปเข้าฉากพี่ก็จะอยู่กัน 2 คน มันก็เงียบ มันต้องหาบทสนทนา

ใครเริ่มก่อน?

ปู : มันจะเริ่มจากเราคุยกัน 3 คนก่อน พอเกดไป บทสนทนากันเก่ายังอยู่ก็พูดคุยกันต่อ

แจนจัง : คือเราปลื้มเขา แต่เก็บไว้ ไม่ได้อยากเป็นแฟนเลย

แล้วบทสนทนาไหนที่ทำให้รู้สึกคลิ๊กกัน?

ปู : เขาพูดขึ้นมาว่าชอบปลูกต้นไม้บนดาดฟ้าบ้าน

แจนจัง : ดาดฟ้า หลังบ้าน ตอนนั้นปลูกข้าวโพด มีความรู้สึกว่าอยากขายข้าวโพดให้ทุกคน เพราะเราปลูกเอง

พี่ปูชอบปลูกต้นไม้เหมือนกัน?

ปู : ที่บ้านชอบปลูกต้นไม้ทั้งบ้านครับ ก็เลยคิดว่ามีเรื่องพูดคุยแล้ว

ได้ยินข่าวมาเราจีบเขาก่อน?

แจนจัง : เหมือนเวลาที่เราคุยกับเขาแล้วเราแฮปปี้  เรรก็หาเรื่องคุยไปเรื่อย ๆ เขานั่งพักอยู่ เราก็เอ๊ะ..เขาทำอะไรนะ ก็นั่งแอบดู มันทำไปโดยอัตโนมัติโดยไม่รู้ตัวว่าเราต้องมีเป้าหมายอะไร เหมือนเราชอบใครสักคนแลเวเราอยากอยู่ใกล้ ๆ เขา

ตัดสินใจอยู่นานไหม รวบรวมความกล้าไปชวนพี่เขาทานข้าว? 

แจนจัง : เราต้องดูก่อนเขาโอเคกับเราไหม เราต้องสังเกตก่อนว่าเขาอยากไปด้วยไหม

แสดงว่าตอนตัดสินใจชวนเขา มั่นใจว่าเขาต้องไป?

แจนจัง : ประมาณนั้น

ปู : ช่วงนั้นพูดคุยกันมาพอสมควรแล้ว แล้วเขาเล่นละครเวทีอีกเรื่องนึงด้วย ถามว่าเสร็จแล้วไปไหนต่อ เหนื่อยไหม ให้ไปรับไหม

ก็เหมือนกับพี่เปิดทางให้น้องเขาก่อน?

ปู : ก็เหมือนพูดคุยกันไปเรื่อยๆ เรารู้ว่า ณ วินาทีนี้เขาเพิ่งเลิกงานก็แวะไปถามนิดนึง เขาเลยบอกว่าเขาหิว แวะทานข้าวอยู่ มาไหม ผมเลยออกไป แค่นั้นเอง

หลังจากกินข้าวครั้งแรกความสัมพันธ์พัฒนาไหม?

ปู : หลังจากนั้นพอสมควร คุยกันเกือบทุกวัน เพียงแต่เราไม่ได้พูดคุยจริงจังว่าเป็นแฟนกัน มันเหมือนคนคุยที่เด็กๆเขามีกันเยอะ ทีนี้แจนเขาถามผม คนคุยไม่เห็นถึงพัฒนาการของความสัมพันธ์ เขาเลยถามผมว่าเป็นแฟนกันเลยได้ไหม อาการแบบนี้ ที่พูดคุยกันแบบนี้มันเรียกว่าเป็นแฟนกันหรือยัง ตอนนั้นผมคิดว่าหรือเขาไม่ชอบในการที่ ก็คุย ๆ กันไปก่อน เขาคงอยากได้ความมั่นใจเลยว่าเราจะเป็นแฟนกันไหมจะได้ไม่เสียเวลา เหมือนเราไปทีเล่น ทีจริง เราก็เลยให้ความมั่นใจไปว่า โอเคได้ ตอนนั้นยังไม่มีใครรู้ว่าเราพูดคุยกัน เราเองยังไม่รู้เลยว่าอายุเขาเท่าไหร่ ยังประมาณอยู่เอาให้ชัวร์ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวค่อยประกาศไป

อาการที่แอบแชทในวัย 53 ?

ปู : เหมือนตอนนั้นเขาเริ่มไม่อยากคุย ไม่มีความมั่นใจ เขียนอะไรไปก็ไม่ค่อยตอบ เราก็เลย เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้น เลยถามเขา มาก็มาจากอยู่ดี ๆ เริ่มไม่ตอบไลน์กันแล้ว อ่านแต่ไม่ตอบ บางทีตอบก็เหมือนตอบไปที เราก็เลยถามว่าอาการนี้มันอะไรมากกว่า มันไม่ใช่พูดคุย จีบกันบนรถตู้

เห็นว่าสลับกัน บางทีพี่ปูไปรับน้องจากการซ้อมละครเวทีบ้าง แต่ก็อยากให้น้องมาเห็นโลกของพี่ปู โดยการชวนน้องไปเที่ยวกลางคืน?

ปู : แจนเขาไม่เคยเที่ยวกลางคืนเลย ลักษณะไม่เที่ยว ไม่ดื่ม เราเลยคิดว่าที่มันเป็นอย่างนั้นเพราะไม่ชอบหรือว่าไม่มีใครชวนไปก็เลยถามเขาดู

ไปไหม?

แจนจัง : ไป ๆ วันนั้นเจอพ่อต๋อง แบล็คเฮด

ชวนน้องมาแบบนี้ไม่มีใครเขาตกใจเหรอ?

ปู : ตกใจกันหมดครับ คือร้านนี้คนวัยเยอะกว่าพี่ แจนเข้าไปก็เหวอ ๆ นิดนึง ร้านไม่ค่อยมีคน ค่อนข้างส่วนตัว ไม่มีใครเห็นไม่มีใครเจอแน่ ๆ 

ทำไมน้องเขาเรียกเพื่อนพี่ว่าพ่อ จริง ๆ อายุพี่ใกล้กับคุณพ่อน้องเขา?

ปู : จริงครับ ใกล้ ๆ 

แจนจัง : เด็กกว่านิดนึง 

ชอบคนแก่เหรอ?

แจนจัง : มันไม่ได้อยู่ที่อายุ มันอยู่ที่เวลาเราหันไปเจอหน้าใครครั้งแรกแล้วมันใช่เลย

คุณพ่ออายุเท่าไหร่?

แจนจัง : ใกล้ ๆ 60 ค่ะ

คุยกันนานไหมกว่าจะตัดสินใจว่าเราเป็นแฟนกันแบบเปิดเผย?

ปู : หลังจากพาไปเที่ยวที่ร้านเพื่อน เริ่มมีคนเห็น คือเราไม่ได้เปิดเผยในโซเชียล จนวันที่พาเขาไปเที่ยวยุโรป คิดว่ามันอยู่ในโมเมนต์แฮปปี้และมีความสุขแล้ว จริง ๆ เป็นเรื่องส่วนตัวของเรา แล้วเวลาเราอยู่ต่างประเทศเนี่ย มันเหมือนมีโลกส่วนตัวของเรา แล้วแฮปปี้ คิดว่าถ้าอย่างนั้นลงรูปไปเลยดีกว่า

ก่อนจะไปถึงจุดที่พาน้องไปเที่ยวต่างประเทศ คุณพ่อ คุณแม่ว่ายังไงบ้าง?

แจนจัง : คุณพ่อ คุณแม่ ปล่อยอิสระมากๆ เหมือนเขาให้อิสระเรา เพราะว่าเราโตแล้ว มีอะไรก็แค่บอกเฉย ๆ เพราะเขารู้ว่าเราไม่ได้ถเลถไหลมากสักเท่าไหร่ 

เห็นว่าตอนแรกไม่ได้บอกครอบครัวว่ามีแฟนเป็นพี่ปู แบล็คเฮด แต่ครอบครัวรู้สึกว่าช่วงนี้ฟรุ้งฟริ้ง มีแฟนแน่ ๆ เลย?

แจนจัง : ก็ต้องบอกว่ามี แต่ตอนแรกไม่บอกว่าใคร แม่ก็ถามว่าคนในกองหรือเปล่า ก็บอกว่าใช่ แม่ก็ไล่ไปเรื่อย ๆ บอยแบรนด์เหรอ ไม่ใช่ แล้วเหลือคนนี้

คุณแม่เดาจากคนวัยเดียวกันก่อน?

แจนจัง : ใช่ ๆ 

พอคุณแม่รู้ว่าปู แบล็คเฮด คุณแม่ทำหน้ายังไง?

แจนจัง : ก็ไม่ได้พูดอะไร เดาไม่ถูกเหมือนกัน เขาคงอึ้ง แต่ต้องเก็บอาการ

ตอนหลังคุณแม่โอเค เพราะพี่ปูน่ารักมาก?

แจนจัง : โอเคค่ะ เพราะเขาให้เกียรติครอบครัวซึ่งกันและกัน

ตอนไปเจอคุณพ่อ คุณแม่น้อง พี่ปูเข้าไปแนะนำตัวยังไง?

ปู : พูดคุยปกติเลย จริง ๆ คุยกับพี่ชายเขาก่อน ลองชวนเขามาทานข้าวด้วยกัน เราเพิ่งกลับจากยุโรปถามแจนว่า คุณแม่ว่างไหม ชวนคุณแม่มาทานข้าวกัน ก็เจอครั้งแรกตอนที่ทานข้าวกันนั่นแหละครับ คุณแม่น่ารักดีครับ เขาเหมือนชอบที่จะอยู่กับคุณแม่เราด้วย แจนเรียกคุณแม่เราว่าคุณย่า

แล้วทำไมถึงไปเรียกคุณย่า?

แจนจัง : ก็พี่บอกให้เรียกคุณย่า

ปู : คนส่วนใหญ่ที่เป็นรุ่นน้องที่สนิท ๆ กัน จะเรียกคุณแม่ว่าคุณย่า เรียกผมว่าพ่อหมด

แล้วทำไมหนูไม่เรียกเขาว่าพ่อล่ะ?

แจนจัง : เกรงใจ

หลายคนสงสัยที่พี่ปูเปิดตัวช้า เพราะรู้สึกเข็ดกับความรักครั้งที่แล้วไหม?

ปู : ไม่นะครับ มันไม่ได้เป็นการเลิกรา มันเป็นการจากลา เป็นอะไรที่มันเฉียบพลัน มันไม่ได้รู้สึกว่าเข็ด แต่เพียงแต่ว่าเราจะใช้เวลาทุกวินาทีนับจากนี้กับความรักครั้งใหม่หรือความสุขครั้งใหม่ให้มันคุ้มค่า และเรียกว่าให้มันมีความทรงจำที่ดีที่สุดนับจากนี้ต่อไปมากกว่า เพราะครั้งที่แล้วเหมือนเราคิดช้าในหลาย ๆ เรื่องพอสมควร

พอโพสต์รูปพี่ปูไม่กลัวเรื่องกระแสเหรอ?

ปู : มันมีนะครับ เรื่องมูฟออนเร็วไปไหม แต่ก็เป็นส่วนน้อย สำหรับคนที่เป็นแฟนคลับเรา หรือติดตามเราส่วนใหญ่จะให้กำลังใจดี ๆ เพราะเราอยู่กับสถานการณ์ที่มันเวียนวนอยู่กับความทุกข์กับเรื่องราวที่เราไม่อยากจะจำ เยอะจนเราคิดว่าน่าจะมูฟออนจากตรงนั้นยากเหมือนกัน การมูฟออนครั้งนี้ถือเป็นการมูฟออนจากเรื่องราวที่เป็นความทุกข์มากกว่า

พี่ปูมีอะไรจะบอกคนที่ว่าเรามูฟออนเร็ว?

ปู : มันไม่น่าเรียกว่าไวหรือเปล่า ถ้าวันนึงผมออกมาจากความทุกข์ตรงนั้นได้ แล้วผมเจอใครสักคนที่เขาดีกับเรา ถ้าเราไม่เกี่ยวเขาไว้ มันจะเสียดาย พอได้ออกมาจากความทุกข์แล้วได้มาเจอใครสักคน ผมว่าผมโอเคมากกว่าที่จะจมอยู่ตรงนั้น

เราไม่ได้ลืม ยังระลึกถึงน้องเขาอยู่เสมอ ๆ?

ปู : ใช่ อยู่ที่บ้านก็จะมีมุมนึงสำหรับนุ๊กเลยไว้ให้เราได้ระลึกถึง

น้องแจนได้รู้ข่าวหรือเรื่องราวของพี่ปูมาบ้างไหม?

แจนจัง : ช่วงแรก ๆ ยังไม่รู้ มารู้ทีหลังเขาเคยมีแฟน แล้วแฟนเสียด้วยโรคมะเร็ง อันนี้เรารู้สึกเศร้าและเห็นใจเขา เขายังอยู่ในช่วงเวลาของความทุกข์อยู่ ถามว่าให้กำลังใจยังไง เราก็ทำตัวปกติเลย เราเข้ามาคุณแม่บ้านบอกว่าเห็นพี่ปูกินข้าวอร่อยขึ้นนะ เราก็ดีใจ

ปัญหาระหว่างวันของคู่นี้?

ปู : ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับสุขภาพของเราหรือเปล่า เรื่องเปิดทีวี เสียงทีวีเราพอได้ยิน แต่เขาบอกมันดังเกินไป ณ ปัจจุบันต้องมาคำนวนด้วยตัวเลขตรงกลางว่าเอาประมาณนี้

แจนจัง : จริง บ้านมันสะเทือน แล้วคลื่นเสียงมันกระแทก นอนไม่ได้เลย

ปู : สำหรับเรามันเหมือนมียุงมาบินวี่ๆ ไม่รู้สึก ก็เลยคิดว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้าอาจจะให้หมอไปดูดขี้หูออก

เขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องเสียงดังอย่างเดียวนะ มีปัญหาเรื่องการนอน?

ปู : เราทำงาน สมมติเราเล่นคอนเสิร์ต เร็วที่สุดคือ 4 ทุ่ม พอเขาเปิดดึกขึ้นเริ่มเล่นเที่ยงคืนแล้ว แต่สำหรับแจนสามทุ่มตาปิดแล้ว นั่นหมายความว่าเรายังไม่ทันอาบน้ำออกจากบ้านเลย คนนี้อาบน้ำนอนแล้ว เรากลับมาก็หลับแล้ว ตอนแรก ๆ อยากรู้ว่าเราใช้ชีวิตยังไงก็ไปด้วย ไปต่างจังหวัดยังไงก็ต้องไป เพราะไม่กล้านอนที่โรงแรมคนเดียวอยู่แล้วนอนอยู่ตรงโซฟาห้องรับรอง หลัง ๆ เลยคิดว่าไม่ต้องดีกว่า รออยู่ที่บ้านดีกว่า เวลามันจะสวนกันในเรื่องพวกนี้ เวลาที่ไม่มีงาน 3 ทุ่มเขาก็ชวนแล้ว พี่นอนได้แล้ว

พี่ปูปรับไหม?

ปู : พยายามครับ มีอยู่หลายครั้ง 3-4 ทุ่มขึ้นไปนอน แต่มันตื่นตี2  มันเป็นเวลาของคนรุ่นนี้

ตกลงแต่งไม่แต่ง?

ปู : ปูนนี้แล้วถามว่าพร้อมหรือไม่พร้อมเราพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าต้องให้เวลาเขานิดนึง

ถ้าเขาขอแต่งงานเราพร้อมไหม?

แจนจัง : ถ้าในหัวตอนนี้ยังไม่มีความคิดนั้นเข้ามาเลย เพราะเราเพิ่งเป็นแฟนกันเอง แต่ถ้าเขาขอจะตอบอะไรได้ละค่ะ

รักไหม?

ปู : ตอนนี้พูดได้เต็มปาก รักครับ มันเปลี่ยนชีวิตพอสมควรเลย หลังจากไม่กี่เดือนที่ผ่านมามันซึมๆ อยู่ แต่ ณ วันนี้โอเค สดใสขึ้น

แจนจัง : ก็รักมาก ๆ ค่ะ รักจนในหัวคิดไปแล้วว่าเวลาที่เขาโตขึ้นเราจะดูแลเขายังไง

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ ปู แบล็คเฮด-แจนจัง 

About Author