เพื่อนผู้ตาย เปิดชนวนเหตุ ชายคลั่งกราดยิง 3 ศพ เพชรบุรี ก่อนถูกวิสามัญ แม่ผู้ก่อเหตุลั่นลูกป่วยซึมเศร้า
กรณีเหตุสลดใจ ชายคนหนึ่งมีอาการคลุ้มคลั่ง ขังตัวเองอยู่ในบ้าน ก่อนใช้อาวุธปืนก่อเหตุกราดยิงที่ จ.เพชรบุรี ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย เสียชีวิต 3 ราย ก่อนใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตร. ล่าสุดตร.วิสามัญไปเรียบร้อยแล้ว กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญอีกคดี
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 23 มี.ค. 66 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ ซี ศรัณย์ วงศาโรจน์ – เอิร์ท ถิรวัฒน์ วงศ์สุริยา เพื่อนผู้เสียชีวิต, ยุพา ชูภู่ ชาวบ้านอยู่ในที่เกิดเหตุ, ประพันธ์ จับใจ คนที่เห็นเหตุการณ์คนแรก, พวงเพ็ญ เกื้อเดช ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
ซี เอิร์ท เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น ระหว่างผู้ตายกับผู้ก่อเหตุ?
เอิร์ท : เรื่องแรกเป็นเหตุการณ์เอาปืนมาตบก่อน เหตุการณ์ประมาณ 2 เดือนได้แล้ว
ประมาณเดือนพ.ย. หรือธ.ค. ปีที่แล้ว ยังไงต่อ?
เอิร์ท : เริ่มต้น เพื่อนผมคือโอ๊ต ออกไปซื้อข้าว พอกลับมาถึงหน้าบ้าน ผู้ก่อเหตุอยู่ฝั่งบ้านเขา ตะโกนด่าโอ๊ตและให้นิ้วกลางมา พอโอ๊ตมาถึงในบ้าน ผู้ก่อเหตุก็กระโดดข้ามกำแพงและเข้าไปในบ้านที่เช่าอยู่ ตอนนั้นมีคนอยู่ 4-5 คนด้วย มีเบล กับโอ๊ต ซึ่งเสียชีวิตอยู่ในนั้น เขาเอาปืนมาตบโอ๊ตก่อน แล้วมีเพื่อนอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าไปห้าม เขาก็เอาปืนจ่อหัวแล้วบอกว่ามึงอย่าเสื-ก แล้วเดินออกจากบ้านไปเลย นั่นคือเหตุการณ์แรก ก็แจ้งความ โทร 191 ก่อน ตร.มาที่เกิดเหตุ เขาไม่ได้อะไรมาก แนะนำให้ไปแจ้งความที่สน.
โอ๊ตกับเบลเช่าบ้านหลังนั้นนานแค่ไหน?
เอิร์ท : ประมาณ 2 ปี
ผู้ก่อเหตุอยู่ในบ้านนั้นนานแค่ไหน?
ประพันธ์ : นานมาก ประมาณ 20 ปี
พูดง่าย ๆ เขาก็เหมือนเจ้าถิ่นที่นั่น แล้วมีเหตุการณ์อื่นมั้ย?
เอิร์ท : หลังจากนั้นเขาเปิดเพลงเสียงดังโวยวาย และมีเหตุการณ์ที่สอง แต่เหตุการณ์ที่สองผมไม่ได้อยู่ แต่ซีอยู่
ซี : หลังเลิกเรียนก็มารวมกันที่บ้าน เหมือนเขาเห็นพวกผมอยู่ ก็เริ่มถือมีดยาวๆ มาทำแงะหญ้าหน้าบ้านเขา แต่สายตามองบ้านพวกผมอยู่ เขาเดินรอบ เข้าๆ ออกๆ สายตาหันมามองที่บ้าน ช่วงนั้นมีเบลอยู่ ผม เพื่อนชื่อต่อ และน้องของเบลอีกคน สี่คน วันนั้นโอ๊ตไม่ได้อยู่ เขาคนเดียวก็ไม่ได้กลัวอะไร ช่วงเย็นพวกผมจะกลับแล้ว เพื่อชื่อต่อกำลังถอยรถกลับ ผมมองส่งเพื่อนทางหน้าต่าง เห็นผู้ก่อเหตุเดินปรี่เข้ามาเลย ผมเลยดึงเพื่อนเข้าบ้านล็อกประตู แต่ไม่ได้แจ้งตร. ดูอาการเขาก่อน เขาก็เอารถเครื่องเขามาจอดหน้าบ้าน ขาตั้งคู่ แล้วก็นอนพิงบนรถมอเตอร์ไซค์ และหันมามองที่บ้านผม ตอนนั้นผมจำไม่ได้ว่าเขาถืออะไรหรือเปล่า
ถือสปาต้าหรือเปล่า?
ซี : ไม่แน่ใจ แต่เหมือนปังตอ จนพวกผมต้องแจ้งความ เขานอนเป็นพักๆ เดินวนเวียน
ไม่หลอนเหรอ?
ซี : หลอนครับ จะเข้า ๆ ออก ๆ ก็ต้องดูว่าเขายืนอยู่หรือเปล่า กลัวตลอดครับ
ลักษณะไม่ปกติ?
ซี : ไม่ปกติแน่นอน
มีอีกมั้ยนอกจากครั้งนั้น?
ซี : มีเรื่อย ๆ ครับ เปิดเพลงดัง ก่อกวน คืนก่อนเกิดเหตุเพื่อนถ่ายคลิปไว้มีปาขวดมาหน้าบ้านที่พวกผมอยู่ และเอาอาหารแมวหรือหมาไม่รู้มาตั้งเอาไว้ น้องชายเบลเขาถ่ายคลิปไว้ครับ
เอิร์ท : และมีอีกคลิป เขามาเบิ้ลรถที่หน้าบ้านตอนเช้า
อาการเหมือนคนหลอนยา หรือมีอาการทางจิตมั้ย?
เอิร์ท : เรารู้แค่เขาไม่ปกติครับ
ซี : สำหรับผมเขาก็ไม่ปกติครับ
ที่แน่ ๆ เราย้อนกลับไป เหตุการณ์ครั้งแรก ที่เขาเข้าไปเอาปืนตบหน้า เราไปแจ้งความ แล้วเรื่องนี้มีการส่งเข้าอัยการจะมีการฟ้องร้องกัน มันเป็นปฐมเหตุ เพราะวันเกิดเหตุ สองคนนี้ต้องไปขึ้นศาลพอดี แต่ต้องถามผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คนนี้เป็นบุคคลอันตรายตั้งแต่แรกมั้ย?
พวงเพ็ญ : ใช่ค่ะ เขาหลอนๆ ชาวบ้านรู้กันดี บางทีเขาก็ดีแต่บางทีก็ไม่ปกติ แต่ได้ข่าวว่าเขาเป็นโรคซึมเศร้า แม่เขาบอกในช่วงหลังๆ นะคะ เป็นโรคซึมเศร้า กินยาคลายเครียดอยู่ แม่เขาบอกว่าช่วงหลังเป็นโรคซึมเศร้า
ฝั่งพี่ยุพา อยู่ที่นั่นเป็นยังไง?
ยุพา : เขาอันธพาล พูดจาไม่ดี ป้าอยู่ห่างหน่อยค่ะ ไม่ค่อยได้เจอ
พฤติกรรมเขาที่ชาวบ้านเจอ เป็นยังไง?
พวงเพ็ญ : ถ้าเขาไม่อะไรกับใครเขาจะอยู่ในบ้าน แต่ถ้าเขามีอะไรกับใคร เขาจะมีอาการไม่ปกติ อารมณ์ร้อน โมโหง่าย
เคยมีการปรึกษากันเองในหมู่บ้านมั้ยว่าเขาเป็นบุคคลอันตราย มีการแจ้งมั้ย?
พวงเพ็ญ : ไม่เคยมีค่ะ แต่เขาเคยไปบำบัด
เห็นว่าพี่เองเคยโดนคนนี้ยิงสวนมาในบ้าน?
ประพันธ์ : ใช่ครับ ประมาณ 2 ปีที่แล้ว เขาขี่รถผ่านหน้าบ้านผมบ่อย เร็ว ลูกน้องเลยเรียกเขาบอกว่าให้ขี่รถเบาๆ หน่อย กลัวไปชนเด็กชนอะไรแบบนี้ เขาก็บอกว่าเดี๋ยวเขากลับมา เขาขี่รถไปบ้าน ก็รู้แล้วว่าเขาคงไปเอาปืนแน่นอน สักพักเขามาจอดตรงหัวมุมแล้วยิงเข้าใส่เลย 3 นัด แต่ผมก็ไม่ได้แจ้งความ เพราะสักพักนึงเขาก็ให้ผู้ใหญ่บ้านคนเดิมที่เสียชีวิตไปแล้วมาช่วยเคลียร์ โดยไม่ได้อะไรกัน เห็นเป็นเพื่อนบ้านครับ
ที่พยายามถามถึงพฤติกรรม แค่อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน วันนั้นเราจะหวังพึ่งคนอื่นก็ลำบาก ต้องพึ่งตัวเอง ถ้าพูดตรง ๆ ถ้าพึ่งปืนว่าจะมีการกวาดล้าง มันก็มีการขายกันอยู่ เรื่องยาเสพติด ก็ไม่รู้จะทำยังไง ยังมีอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ไม่รู้จะพึ่งใคร ก็ต้องพึ่งตัวเองในการสังเกตพฤติกรรม ที่ถามเพื่อให้ดูและสังเกตพฤติกรรมเพื่อนบ้านด้วย ว่าถ้ามีลักษณะแบบนี้ ควรทำยังไง ไม่ให้เกิดเหตุบานปลายแบบไหน ผมว่ามีความจำเป็นเหมือนกัน ย้อนกลับมาเรื่องทั้งหมด พอเหตุการณ์ทั้งหมด บ้านหันหน้าชนกัน?
เอิร์ท : เหมือนอยู่ตรงสามแยกครับ
บ้านมันอยู่ทแยงกัน เวลาทำอะไรก็ได้ยิน เพราะอยู่ใกล้กันมาก วันเกิดเหตุ โอ๊ตคนที่ถูกตบแล้วไปแจ้งความเอาเรื่องไว้ เบล เป็นพยานในเหตุการณ์ครั้งนั้น ทั้งสองคนกำลังจะไปขึ้นศาลตามหมายศาลที่นัดเลย ผู้ก่อเหตุก็ต้องไป นั่นแสดงให้เห็นว่าผู้ก่อเหตุรู้เลยว่าเดี๋ยวสองคนนี้ต้องไปขึ้นศาล ฉะนั้นนี่คือสิ่งที่ผู้ก่อเหตุรู้เลยว่าถ้าไปมีปัญหาแน่ เขาตั้งใจก่อเหตุทันที?
เอิร์ท : ผมก็เชื่อแบบนั้นครับ
คุณอยู่บ้านมั้ยเมื่อวาน?
เอิร์ท : ไม่อยู่ครับ ตอนแรกน้องชายเบลอยู่ที่บ้าน ตอนกลางคืนโดนก่อกวนก่อน เบลก็กำลังจะวิ่งมาที่บ้าน เพราะตอนนั้นเบลอยู่บ้านแฟน บอสก็บอกว่าเขาก่อกวน ถ่ายคลิปส่งให้กันดู เบลก็เลยบอกบอสให้ไปอยู่บ้านแฟนก่อน พอเช้ามา เบลก็มาที่บ้าน และเบลก็ถ่ายคลิปที่เขามาเบิ้ลมอเตอร์ไซค์ก่อน จากนั้นน้องชายเบลโทรมาเล่าว่า พี่ชายเขาโทรบอกจะไปศาล และจากนั้นก็ขาดการติดต่อกันเลย รู้ข่าวอีกทีจากซี เพราะซีเห็นในไลฟ์สดของข่าว
ถึงได้รู้ว่ามีเหตุเกิดกับเพื่อนของเรา?
เอิร์ท : ใช่ครับ
พี่ประพันธ์ เหตุการณ์เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น?
ประพันธ์ : ลุงเขาโทรให้ไปเอาแกงบวดตาลของเพชรบุรีที่ดังๆ 3 ถุง ผมก็เอาไปฝากญาติบริเวณที่เกิดเหตุ 2 ถุ
อีก 1 ถุงผมจะเอาเข้าบ้าน ก็วนอยู่ซอยนั้น เจอผู้เสียชีวิต 2 คน อีกคนอยู่บนรถจักรยานยนต์คว่ำหน้า อีกคนใส่เสื้อแดง ห่าง 3 เมตร นอนคว่ำหน้าเหมือนกัน ผมก็คิดว่าเป็นอุบัติเหตุ ไม่รู้ว่ามีเหตุอะไรกัน ผมก็โทรบอกผู้ใหญ่เลย แล้วโทร 191 สักพักนึงมีน้องเพิ่งกลับจากทำงานอยู่ในซอยเดียวกัน
ไม่เห็นร่องรอยการถูกยิง?
ประพันธ์ : ตอนนั้นไม่เห็นเลย ไม่กล้าเข้าไปยก เข้าไปทำอะไรทั้งสิ้น คิดว่ามีอุบัติเหตุ สักพักมี 2 คนขี่จักรยานยนต์เข้าไป ผมก็เรียกให้เขาจอด ผมสังเกตแล้วว่าจะยิงกัน เพราะมีปลอกกระสุนตกอยู่ข้างล่าง สักพักคนยิงก็โผล่หน้ามาจากประตูหน้าบ้านเขา เขาก็ไล่ผมกับน้องสองคนนั้นว่าไป ๆ ผมก็รู้ว่าเขาน่าจะเป็นคนยิงแน่นอน น้องสองคนนั้นก็วนรถกลับ ผมก็ขึ้นรถถอยมาจอดหน้าปากซอย สักพักตร.ก็มา
เขาไล่พี่ให้ออกมา พี่เจอกลางถนนเลย?
ประพันธ์ : ศพอยู่ริมซ้าย ชิดขอบทาง
เขายิงจากในบ้านหรือออกมาแล้วยิง?
ประพันธ์ : มันได้สองกรณี เขาอาจจะยิงออกมาก่อน แล้วมาซ้ำข้างนอก เพราะผมเห็นปลอกกระสุนตกอยู่ใกล้ ๆ ศพ จากนั้นพอตร.มา เขาไล่ผมออกมาแล้ว รถนายกอบต. รู้ข่าวก็ขับมา แต่ผมไม่เห็นนะ ผมได้ยินเสียงปืนเป็นระยะ ๆ
ยิงใส่นายกอบต.?
ประพันธ์ : ใช่ครับ ยิงสองรอบ แล้วสักพักก็ได้ยินรถนายกฯ ออกไป สังเกตเห็นว่ามีรูกระสุนปืนตรงข้างกระจก ก็รีบเดินไปหา เปิดประตู ปรากฏว่านายกฯ โดนยิงเข้าบริเวณกกหู มีรถพยาบาลมารับตรงนั้น แกยังรู้ตัว เดินได้ ตอนนี้พ้นขีดอันตราย
อีกคนที่โดนยิงเสียชีวิตคือพนักงานส่งเอกสาร?
ประพันธ์ : ตอนนั้นเขาไล่ผมแล้ว ผมชะโงกไปดู เห็นแต่จักรยาน ไม่เห็นคน จักรยานพิงเสาไฟอยู่หน้าบ้านคนยิง ร่างน้องรถบังอยู่
ป้าได้ยินเสียงปืนยังไง?
ยุพา : ได้ยินเสียงรัวๆ เลย เพราะอยู่หลังบ้าน ตอนนั้นไม่ออกมาดู น้องทางบ้านโทรมาบอกว่าหลังบ้านเขายิงกัน ออกมาเลย ตร.มาเยอะแยะ น้อง ๆ เขาก็อยู่หน้าบ้านหมด
พี่พวงเพ็ญล่ะตอนนั้นอยู่ไหน?
พวงเพ็ญ : อยู่ที่บ้าน แล้วผู้ใหญ่บ้านเขาโทรแจ้ง ให้ไปแจ้งชาวบ้านว่าอย่าไปผ่านแถวนั้น ก็เลยไปแจ้ง พอแจ้งเสร็จ บล็อกตรงนั้นไว้ แล้วแจ้งในหมู่บ้านตัวเองว่าอย่าออกมาตรงนี้ แล้วกั้นทางเข้าซอยเข้าออกหมู่บ้าน เราดูทุกบ้าน เพราะกลัวมีเหตุซ้ำซ้อน ชาวบ้านก็ดีมาก ไม่ออกกันมาเลย
เพราะเขาก็กลัว เห็นบอกว่าต้องอพยพเด็กออก?
พวงเพ็ญ : ใช่ค่ะ ในซอย 3 เป็นศูนย์ดูแลเด็กเล็ก
ประเด็นหลังจากนั้น คุณพ่อพนักงานส่งของ เขามาที่เกิดเหตุด้วย เขามีโอกาสให้สัมภาษณ์เหมือนกันว่าจริง ๆ อยากให้ตร.วิสามัญซะเลย เหตุรุนแรงถึงขั้นมีคนตายแล้ว ทันทีที่รู้ว่าลูกเสียชีวิตก็ไปยืนรอ เอาร่างน้องกับเพื่อนน้องอีกสองคนออกมาไม่ได้ ที่เข้าไปไม่ได้เพราะอะไร?
ประพันธ์ : ใครเดินไปเขายิงสวนออกมาหมดเลย ผมกับน้องสองคนนั้นโชคดีมาก ที่เขาไม่ได้ยิงใส่ผม เขาเคยขอเหล้ากิน คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เขาไม่ยิง และเขารู้จักกับผมด้วย ผมคิดว่าถ้าผมเข้าไปยกน้อง 2 คนนั้นออกมา ผมก็น่าจะโดน เขาน่าจะยิงผมแน่
ปกติเขาแม่นปืนเหรอ?
ประพันธ์ : เขาชอบยิงปืนครับ ชอบเก็บ ชอบอะไรประมาณนี้
อยู่ในสาย พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผกก.ภ.จว.เพชรบุรี หลังเหตุการณ์สงบไปแล้ว บริเวณนั้นเข้าไปเคลียร์เพิ่มเติมมั้ย?
พล.ต.ต.ปิติ : ตั้งแต่เหตุการณ์ปกติ ก็ได้เข้าไปพิสูจน์พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกหนึ่งครั้ง เนื่องจากเมื่อคืนนี้เราทำงานกันค่อนข้างดึก และผลการพิสูจน์ผู้เสียชีวิตทุกราย ผมก็ต้องขอแสดงความเสียใจ ต่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่อยากให้มีเหตุการณ์เหล่านี้ วันนี้ต้องนำเรียนว่าสภาพจิตใจผู้ปกครองผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย โดยเฉพาะผู้เสียหาย 3 รายแย่มาก เพราะได้ติดตามไปที่รพ.โดยเฉพาะห้องนิติเวช พบกับผู้ปกครองสามท่าน ขวัญและกำลังใจดูแย่ ผมเลยได้เร่งรัดดูแลอำนวยความสะดวกให้ ประสานผู้ว่าฯ เรื่องเยียวยาผู้เสียหายให้เร็ว โดยให้กองทุนยุติธรรมจังหวัด ประชุมและพิจารณาเงินช่วยเหลือก้อนแรกมาก่อน เพราะปกติกรณีผู้เสียหายคดีอาญา อาจได้รับเงินกองทุนเยียวยาจากภาครัฐอยู่ในวงเงิน 1.5 แสนบาท ได้ประสานผู้ว่าฯ และให้ตร.พาผู้ปกครองเดินทางมาพบผู้ว่าฯ ที่ศาลากลางเพื่อรับเงินส่วนนี้ก่อนเดินทางกลับต่างจังหวัดครับ
มีฝั่งญาติ ๆ ผู้เสียชีวิต มองว่าปฏิบัติการมีความล่าช้า ในการเข้าไปชาร์ตตัวผู้ก่อเหตุ?
พล.ต.ต.ปิติ : ผมได้นำเรียนญาติผู้ตายทั้ง 3 ทราบเป็นการส่วนตัวไปแล้ว เหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวานประมาณบ่ายโมงเศษ เราได้รับแจ้งข้อมูลว่ามีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง มีผู้บาดเจ็บส่งรพ. 2 ราย จากนั้นผมและทีมงานเร่งเข้าที่เกิดเหตุ เพราะขณะนั้นชุดสภ.เมืองเข้าพื้นที่แล้ว คนร้ายยังใช้อาวุธปืนยิงอยู่ เมื่อไปถึงก็ปิดล้อมพื้นที่ กระทั่งรู้จุดหมายว่าคนร้ายอยู่บริเวณบ้านในซอยหมู่ 4 เป็นสามแยก เป็นซอยตัน ผมก็สั่งการให้อพยพคนไม่เกี่ยวข้องออก โดยเฉพาะมีศูนย์ดูแลเด็กอนุบาล ห่างไม่เกิน 30 เมตร ให้เร่งพาเด็กออกมาให้เร็วที่สุด จากนั้นเราสำรวจโดยนำโดรนขึ้น เราพบว่ามีผู้ถูกยิงอีก 3 ราย เราพิจารณาแล้วว่าเบื้องต้นต้องคาดการณ์ไว้ก่อนว่ายังไม่เสียชีวิต ต้องเร่งพาเขาออกมารักษาเร่งด่วน ผมก็เปิดปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่ จัดชุดปฏิบัติการณ์นำตัวบุคคลสามคนออกมา แต่ขณะที่เราดำเนินการ คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงออกมาตลอด เราพิจารณาแล้วว่าบริเวณตรงนั้นรอบๆ เป็นบ้านชั้นเดียวหมด ยกเว้นบ้านคนร้ายที่เป็นบ้าน 2 ชั้น จุดที่ศพอยู่ ถ้าใครเข้าตรงนี้เขาพร้อมยิง เราก็พยายามล็อกเป้าหมาย และสั่งว่าถ้าคนร้ายยิงอีกให้ดำเนินการได้เลย ปรากฏว่าขณะนั้นที่เราพยายามเข้า คนร้ายไม่ออกมานอกบ้าน เขาอยู่แต่ในห้อง เปิดฉากยิงใส่เราตลอด พอดีผมพบคุณแม่คนร้าย ก็นำมาซักถามว่าเขาเป็นใคร ให้แม่ติดต่อเข้าไป แต่เขาปิดโทรศัพท์ตลอดเวลา ขณะนั้นมีเพื่อนของคนร้ายที่เป็นตร.ติดต่อเข้ามาว่าเขาติดต่อคนร้ายได้ทางเฟซบุ๊ก ผมก็บอกว่าให้ติดต่อและมาพบผมที่ศูนย์ปฏิบัติการที่เราดำเนินการไว้ ปรากฏว่าคนร้ายเขาแมสเซสหาเพื่อนเขาเลยว่า รอดูได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลักษณะการสื่อสารเหมือนคนพร้อมสูญเสีย จากนั้นการติดต่อไม่มี เราเฝ้านะครับ ขณะนั้นคนร้ายเงียบ เราส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเขาก็ยิงมาเป็นระยะๆ กระทั่งระยะนึงก็นำเรียบเหตุที่เกิดขึ้นกับผบ.ตร. ท่านสั่งการให้ชุดปฏิบัติการนเรศวรเข้าพื้นที่มา ขณะนั้นคนร้ายไม่มีการยิงออกมา แต่ก็จัดชุดเจรจาต่อรองเข้าไป เขาก็ยิง ให้แม่เข้าไปพูดด้วยผ่านโทรโข่ง เขาก็ยังยิงใส่แม่ จุดที่แม่เขาพูดเลย สองจุดนี้เขายิงตลอด
ทำไมถึงตัดสินใจเข้าชาร์ตเวลาตีสาม?
พล.ต.ต.ปิติ : เนื่องจากพอเราขยับพื้นที่บีบเข้าไป คนร้ายก็ใช้อาวุธกราดยิงตลอดเวลา จนมีมติร่วมกัน หลังเกิดเหตุ ท่านรองต่อศักดิ์ได้เข้ามาดูเรื่องปฏิบัติการ ช่วยตัดสินใจ ท้ายสุดได้มีการเข้าปฏิบัติการ เพราะคนร้ายมีพฤติการณ์ไม่ยอม พร้อมแลกเจ้าหน้าที่ เรามีความจำเป็นต้องเข้าปฏิบัติการในครั้งนี้
กรณีแบบนี้ เป็นไปได้มั้ย ถ้าเกิดเหตุแบบนี้แล้ว เจ้าหน้าที่จะบุกชาร์ตในเวลาใกล้เคียง สมมติเหตุเกิดบ่ายโมง ถ้าจบสัก 3-4 โมงเย็นได้มั้ย?
พล.ต.ต.ปิติ : เราไม่ต้องการให้เหตุการณ์ยืดเยื้อ เราพร้อมปฏิบัติการ แต่คนร้ายอยู่ในห้องปิดทึบและอยู่ในจุดที่ดีกว่า การทำงานอะไรก็ตาม ต้องให้เจ้าหน้าที่มีความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ก็มีลูกมีเมีย ประชาชนโดยรอบก็ต้องปลอดภัย เวลาเข้าปฏิบัติการ เราต้องทำด้วยความปลอดภัย ไม่ต้องกังวลครับ เหตุการณ์แบบนี้ถ้ามีโอกาส เจ้าหน้าที่ก็พร้อมทำให้เร็วอยู่แล้ว ไม่ต้องการยืดเยื้อ แต่ด้วยสถานการณ์มันไม่อำนวย
ผู้ก่อเหตุระหว่างก่อเหตุ ก็มีการนั่งโพสต์เฟซบุ๊กอยู่เรื่อย ๆ คุณเองก็เข้าไปดูด้วย?
เอิร์ท : ใช่ครับ โพสต์เหมือนตัวเองพร้อมตายแล้ว
ไม่อยากให้เผยหน้า เผยชื่อ เพราะเหมือนให้รางวัลผู้ก่อเหตุ จะเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ ไม่อยากบอกจำนวนด้วยซ้ำ แต่เป็นข่าวไปแล้ว เพราะทุกสถิติจะมีคนมาลบ แต่เขามีการโพสต์ต่าง ๆ นานาในมุมเขาออกมา ไปพูดคุยกับ “ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา” นักอาชญาวิทยาด้านพฤติกรรมและจิตวิทยาอาชญากร คณะสังคมศาสตร์ ม.มหิดล ลักษณะแบบนี้คิดว่าเป็นพฟติกรรมการเลียนแบบมั้ย?
ตฤณห์ : ตอบได้ว่าเป็นส่วนหนึ่ง อาจเคยเห็นจากภาพยนตร์หรือข่าวอาชญากรรมต่างๆ ทำให้เวลาก่อเหตุ มีจุดที่ได้ไอเดีย หรือวิธีการก่อเหตุขึ้นมา พฤติกรรมมนุษย์เรามาจากการเลียนแบบจากการเห็นประสบการณ์อยู่แล้ว มีความเป็นไปได้ครับ
มุมที่เขาทำ เขามีพฤติกรรมก้าวร้าว มีคนอยู่บริเวณบ้านเขา ถามทางนี้ก่อน คุณเปิดเพลงเสียงดัง โวยวายมั้ย?
เอิร์ท : ไม่ครับ
ผู้ก่อเหตุเคยบุกไปถึงในบ้าน ใช้อาวุธปืนตบคนถึงในบ้าน ใช้มีดปังตอไปเกี่ยวหญ้าแต่ตามอง แล้วถือปังตอนอนบนมอเตอร์ไซค์ มองมาในบ้าน และถือมีดเดินไปหาเขาเลย ก่อนเขาก่อเหตุ เขาใช้เหมือนขวดและถ้วย ไปวางไว้หน้าบ้านผู้เสียชีวิตก่อน ไม่รู้เป็นสัญลักษณ์อะไร ถ้าถอดออกมาได้ จะเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ คน อาจารย์มองยังไง?
ดร.ตฤณห์ : สาเหตุของเหตุครั้งนี้ มีการใช้ยาเสพติดอย่างที่หลายข่าวนำเสนอและวิเคราะห์กันไป ยาเสพติดมีส่วนอย่างมาก กระตุ้นให้คน ๆ นึงก้าวร้าว บวกกับเขารู้อยู่แล้วว่าวันนี้เขาต้องไปขึ้นศาล คดีของเขาเอง ผู้ก่อเหตุรู้ตัวอยู่แล้วว่าต้องโดนลงโทษจำคุกแน่นอน เพราะพฤติกรรมก้าวร้าวไม่สามารถควบคุมได้ ความเครียดในการที่รู้ว่าต้องไปขึ้นศาล ทำให้ระเบิดอารมณ์ขึ้นมาก็เป็นไปได้ แต่ต้องทำความเข้าใจว่าความเครียดเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ละคนมีวิธีการจัดการแตกต่างกัน แต่คนที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ก้าวร้าวของตนเองได้ ก็จะออกมาในพฤติกรรมรุนแรง หรืออาชญากรรมแบบนี้ เรื่องโรคทางจิตเวช การเสพยามีผลทำให้เป็นโรคทางจิตเวชแน่นอน ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องความก้าวร้าว เกิดการคลุ้มคลั่ง แต่ขอไฮไลต์ไว้นิดนึง ว่าไม่อยากให้โทษผู้ป่วยจิตเวช หรืออ้างว่าเป็นโรคซึมเศร้าแล้วไปทำการแบบนั้นแบบนี้ เพราะเป็นโรคซึมเศร้าแล้วสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้คนอื่นก็ไม่ถูกต้อง ถ้าเป็นโรคทางจิตก็ต้องไปรักษา ผู้ปกครองหรือคนมีหน้าที่รับผิดชอบ ญาติสนิท เพื่อน ถ้าเกินความรับผิดชอบของตนเอง ก็ควรส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญหรือเอาออกจากชุมชนครับ
ปัจจุบันเวลามีคนก่อเหตุทีไร อ้างเป็นโรคซึมเศร้าตลอด อาจารย์มองยังไง?
ดร.ตฤณห์ : ผิดมหันต์เลยครับ ผู้ป่วยซึมเศร้าพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงมีแต่น้อยมาก ส่วนใหญ่เขาจะอยู่กับตัวเอง ไม่อยากเจอสังคม อย่าใช้ข้ออ้างการเป็นโรคซึมเศร้าไปทำร้ายคนอื่นแล้วทำให้สังคมเดือดร้อน เพราะผู้ป่วยซึมเศร้าส่วนใหญ่จะไม่ก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ไม่ทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วย ส่วนใหญ่จะทำร้ายร่างกายตัวเอง ดังนั้นอย่าอ้างว่าเป็นโรคซึมเศร้าแล้วไปทำร้ายคนอื่น คุณอาจมีปัญหาทางจิตอย่างอื่น หรือมีปัญหาด้านบุคลิกภาพ ควรให้ผู้เชี่ยวชาญมาบอกดีกว่า อย่าเอาตัวเองกล่าวอ้างว่าเป็นโรคโน้นโรคนี้ ไม่มีสิทธิ์ใช้อาการป่วยไปทำร้ายคนอื่นครับ
กรณีแบบนี้จะเตือนประชาชนยังไงได้บ้าง เวลาอยู่ในชุมชนร่วมกัน จะมีคนนึงที่มีพฤติกรรมแปลกๆ แบบนี้เกิดขึ้น วันนี้ใกล้ตัวเข้ามาทุกวันๆ จากที่เมื่อก่อนไม่เคยเห็น มันเยอะมาก จะดูพฤติกรรมคนยังไง?
ดร.ตฤณห์ : ก่อนอื่นต้องเริ่มที่สถาบันครอบครัว ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดในสังคม รู้ดีที่สุดว่าสมาชิกในครอบครัวมีลักษณะอย่างไร ก้าวร้าวรุนแรง ไม่ดียังไง เราไม่อยากให้การถอดบทเรียนเป็นอะไรที่ซ้ำซาก ต้องถอดเรื่องเดิมๆ แล้วไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างประโยคลูกฉันเป็นคนดี เพื่อนผมเป็นคนดี พี่ผมเป็นคนดี เขาเป็นคนดีกับคุณ แต่กับสังคมเขาอาจไม่ใช่คนดีก็ได้ คนในครอบครัวถ้ารักและเป็นห่วงจริงๆ ต้องพาไปรักษาแก้ไข ไม่ใช่ออกมาปกป้องหรือทนต่อพฤติกรรมเกเรเหล่านี้ คนประพฤติชั่วโดยสันดาน คนอันธพาล เกเร มันไม่ได้เกิดขึ้นข้ามวัน คนอยู่ดีๆ ลุกขึ้นมาเป็นฆาตกรก้าวร้าวรุนแรง มันสะสม และส่งสัญญาณมานานแล้ว เพียงแต่เราเพิกเฉยหรือเปล่า นี่คือหน้าที่คนในครอบครัว ส่วนในชุมชน ควรตรวจตราลักษณะพฤติกรรมสมาชิกในชุมชนอยู่เสมอ ถ้าเริ่อเกเร ก่อความรำคาญ ใช้ยาเสพติด ทะเลาะวิวาท โดยเฉพาะใช้กัญชา ยาเสพติด แอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้อง ให้แจ้งหน่วยงานของรัฐ แต่บางทีหน่วยงานรัฐก็มีความสัมพันธ์กับผู้ก่อเหตุ เช่น ผู้ก่อเหตุเป็นนักการเมืองหรือมีอำนาจในท้องถิ่น ถ้าเป็นอย่างนั้น ตร. เจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะไม่กล้าเข้าไปยุ่งเพราะเป็นผู้มีอิทธิพล ถ้ากระทรวงใดๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือกรมใดที่เกี่ยวข้อง อาจไม่ใช่หน่วยงานตร. จะมีหน่วยงานแยกออกมาได้หรือเปล่าโดยไม่ขึ้นตรงกับใคร เพื่อขจัดอิทธิพลการเมือง ขจัดผู้มีอำนาจในท้องถิ่น ที่คนในท้องถิ่นไม่กล้าไปร้องเรียน เพราะความเดือดร้อนจะเกิดกับคนแจ้ง ดังนั้นชุมชนต้องออกมาพูด หรือนิรนามก็ได้ เขียนรายชื่อโดยไม่ต้องบอกว่าใครเป็นคนเขียน ส่งให้หน่วยงานว่าคนนี้เป็นคนอันตราย ต้องได้รับการมอนิเตอร์อย่างใกล้ชิด คนในชุมชนจะได้ไม่เดือดร้อน อย่างคนนี้ตอนแรกเขาไปขออนุญาตพกปืนกับกำนัน แต่กำนันไม่ให้ เพราะลักษณะนิสัยไม่ควรพกปืน อารมณ์รุนแรง ฉุนเฉียว แต่ถ้าได้ข้อมูลมาไม่ผิด เขาให้คุณแม่ผู้ก่อเหตุ เป็นข้าราชการเซ็นรับรอง ไม่ควรให้คนในครอบครัวนามสกุลเดียวกันมาเซ็นว่าอนุญาตให้พกปืนได้ มันไม่ถูกต้อง
ที่สงสัย ถ้านับตั้งแต่ครั้งแรกที่เขามีปัญหาบ้านผู้เสียชีวิต ทางนี้เขายืนยันว่าผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนตบปั้ง มันเกิดเหตุไปแล้ว เรื่องถึงชั้นศาลแล้ว ทำไมตร.ไม่ยึดอาวุธปืนออกมา ทำไมถึงค้างอยู่?
ดร.ตฤณห์ : กฎหมายประเทศไทย ถ้ายังไม่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จะไม่สามารถเข้าไปทำอะไรได้ เช่น การเอาอาวุธปืนตบ ก็เป็นเรื่องทำร้ายร่างกาย แต่ปืนมีใบอนุญาตถูกต้อง รวมทั้งคดียังไม่ถึงที่สุด นี่เป็นข้อเสียของเมืองไทย เพราะกระบวนการยุติธรรมมันล่าช้า กระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้า คือกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ยุติธรรม อันนี้มีนักปราชญาพูดไว้ ผมไม่พูดเอง ปัญหาก็ต้องไปแก้ ทำไมตร.ทำงานช้าคือกำลังพลไม่พอ จะไปโทษตร.ก็ไม่ได้ เพราะมันมีสเต็ปในการทำงาน ในการบุกเข้าไปปฏิบัติการ ตร.ก็เป็นสมาชิกในครอบครัวของใครคนใดคนหนึ่งเหมือนกัน คุณจะเร่งให้เขาออกไปรับลูกปืนแทนมันก็ไม่ใช่ มันต้องมีวิธีการของมัน มีลำดับขั้นตอน พอกำลังพลไม่พอ เราต้องผลิตเจ้าหน้าที่เพิ่ม แต่ต้องแยกแยะด้วยกระบวนการยุติธรรมที่นำมาปรับใช้ ตร.ไม่ใช่คนสร้างกฎหมาย ตร.เป็นผู้ปฏิบัติตครับ ดังนั้นเราต้องไปแก้ที่กฎหมายหรือเปล่า ต้องให้ผู้ใหญ่พิจารณาครับ
ผมพูดมาบ่อย ๆ ว่าสังคมกำลังจับตามองเรื่องตร.ที่เวลาไม่ได้อยู่ในเวลาราชการ ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ทำไมถึงพกปืนพกอยู่ เมื่อคืนก็เกิดอีกครั้ง ตร.สามนาย ไปนั่งกินเหล้า มีเรื่องกับคนในร้าน ชกต่อยกัน ยิงขู่สองนัด สืบไปสืบมา ตร.ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ไปเที่ยวไปกินเหล้าแล้วใช้ปืนยิง?
ดร.ตฤณห์ : ตร.เป็นอาชีพที่ต้อง 24 ชม.อยู่แล้ว
ล่าสุดร้านถูกสั่งปิด ไม่มีกำหนด อย่างนี้มองไง?
ดร.ตฤณห์ : มันต้องมองสองแง่ ตร.คือมนุษย์ มีทั้งดีและไม่ดี พอกินแอลกอฮอล์เข้าไปก็ขาดสติ แต่การมีอาวุธในมือทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการก้าวร้าว เพราะเขามีอำนาจ ถ้าตร.มีลักษณะนิสัยก้าวร้าว หุนหันพลันแล่น นอกเวลาควรยึดปืนไว้มั้ย หรือควรตรวจสุขภาพจิตต่อเนื่อง ดูนิสัยด้วย บางคนไม่ได้ป่วย แต่มีสันดานไม่ดี แก้ไขไม่ได้ครับ
ตอนนี้บ้านที่เราเช่าจะกลับมั้ย หรือจะย้าย?
เอิร์ท : ดูจากพ่อแม่น้องบอส เขาน่าจะย้ายออก
พ่อบอกว่าไม่สบายใจ?
เอิร์ท : ใช่ครับ
พี่จะเอายังไงกันต่อไป?
ประพันธ์ : เราต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา เอาง่าย ๆ อาจแจ้งผู้ใหญ่บ้าน แจ้งผู้นำชุมชนในท้องถิ่น
อย่าเรียกว่าเราถอดบทเรียนเลย เพราะถอดกันมาหลายครั้ง ผมนั่งพูดเราถอดบทเรียน แต่ถอดไม่รู้กี่ที แล้วก็เกิดอีก ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน อย่างที่บอกช่วยเหลือตัวเอง ดูแลตัวเอง สังเกตคนรอบข้าง ถ้าเขามีพฤติกรรมแปลกๆ เหมือนเมายา มีอาการทางจิต ต้องพยายามแจ้งคนในชุมชน หรือบอกตร. หรือบอกญาติพี่น้องเขาก็ได้ เพราะอาจนำมาซึ่งความสูญเสียแบบนี้อีก