“เมดีซ กรุ๊ป” และ “โรงพยาบาลราชพฤกษ์” เปิดตัวศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์
ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ “เมดีซ กรุ๊ป” และ “โรงพยาบาลราชพฤกษ์” เปิดตัวศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) เพื่อผลักดันให้จังหวัดขอนแก่นก้าวสู่การเป็น Medical Hub อย่างเต็มภาคภูมิ
- ชูจุดเด่นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในอาเซียนที่มีความเชี่ยวชาญระดับ “State-of-the-Art BIOlongevity” เทคโนโลยีสู่เป้าหมายการมีชีวิตยืนยาว เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสฝากเก็บสเต็มเซลล์ส่วนบุคคลได้ทุกช่วงวัย
- พร้อมขยายความแข็งแกร่งให้กับการวางรากฐานสุขภาพแนวทางใหม่ ยกระดับให้จังหวัดขอนแก่นเป็นศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ สำหรับภาคอีสานตอนบนและประเทศเพื่อนบ้าน
- เปิดตัวศูนย์การเก็บไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) มิติใหม่ของการสร้างความสุขจากการให้….สู่เป้าหมายการมีชีวิตยืนยาวเริ่มต้นได้จากเซลล์ที่มีคุณภาพของทุกคน
บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านสถาบันการฝากเก็บ คัดแยก เพาะเลี้ยง และวิจัยสเต็มเซลล์แบบครบวงจร พร้อมรางวัลการันตีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ “บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน)” โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของจังหวัดขอนแก่น ให้บริการทางการแพทย์อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากล (JCI International และ GHA-for COVID-19) ด้วยการเปิด ศูนย์การเก็บไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) ที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และมอบการบริการเหนือระดับด้วยบุคลากรและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานด้วยหัวใจเป็นที่ตั้ง สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคอีสาน จากนวัตกรรมซึ่งเป็นเทรนด์ของเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อให้ได้การฝากเก็บ สเต็มเซลล์ชนิดเนื้อเยื่อมีเซนไคม์ (Mesenchymal Stem cell) ส่วนบุคคล สำหรับเราทุกคนที่พลาดโอกาสการเก็บ สเต็มเซลล์ในวันแรกเกิด ซึ่งมูลค่าของตลาดนี้ในระดับโลกถือว่าประเมินค่าไม่ได้ เพราะทุกคนสามารถฝากเก็บสเต็มเซลล์ของตัวเองได้ ตั้งแต่อายุ 10 ปีเป็นต้นไป
ศูนย์การเก็บไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) มุ่งเน้นฐานลูกค้าที่มีพฤติกรรมการเลือกบริโภคสินค้าหรือบริการและมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากลูกค้ากลุ่มอื่นๆ โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเหล่านี้มักจะมองเห็นความสำคัญของการใช้จ่ายไปกับการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับตนเอง รวมทั้งยังมองหาทางเลือกที่ใช้นวัตกรรมอันก้าวหน้าใหม่ ๆ ในการสร้างชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพแข็งแรงให้กับตนเอง รวมไปถึงอยากให้ตนแลดูอ่อนวัยและมีบุคลิกรูปลักษณ์ที่ดูดีอยู่เสมอ
นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผู้คนในโลกปัจจุบันกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากวิกฤติด้านสุขภาวะที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม มลพิษ จำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 เมดีซ กรุ๊ป ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในทั่วโลก และได้ดำเนินธุรกิจของเราอย่างต่อเนื่องมาถึง 13 ปี เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนด้านสุขภาพให้กับคนทั่วโลก มุ่งมั่นนำเสนอทางเลือกใหม่ที่จะทำให้ผู้คนสามารถมีชีวิตอันยืนยาวและใช้ชีวิตในวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าเดิมได้ ผ่านนวัตกรรม BIOlongevity ที่ครบวงจรที่สุด โดยในปัจจุบัน เรามียอดรวมจำนวนการเก็บสเต็มเซลล์มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก เพราะทุกกระบวนการ ตั้งแต่การฝากเก็บ จนถึงการเพาะเลี้ยงเซลล์ ถูกคิดขึ้นจากงานวิจัยที่ได้รับการรับรองจากสถาบันต่างๆ ในระดับโลก เราพิถีพิถันในทุกรายละเอียดจนได้รับรางวัลการันตีคุณภาพจากเวทีระดับสากลมากมาย อาทิ รางวัลยอดเยี่ยมต่อเนื่องถึง 4 ปีซ้อนจาก Frost & Sullivan ในฐานะธนาคารสเต็มเซลล์ที่ดีที่สุดของประเทศไทย (Thailand’s Stem Cell Banking Company of the Year) รางวัล World Branding Awards โดย World Branding Forum รางวัลระดับอนุภูมิภาค South East Asia Stem Cell Banking Technology Innovation Leadership Award
นายแพทย์วีรพล กล่าวถึงเทคโนโลยีการฝากเก็บสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมันไว้อย่างน่าสนใจว่า “สเต็มเซลล์ชนิดเนื้อเยื่อมีเซนไคม์ (Mesenchymal Stem Cell: MSCs) ในอดีตเรามีความเข้าใจกันว่าควรจัดเก็บจากเนื้อเยื่อสายสะดือของทารกแรกเกิดเท่านั้น มีเพียงเมดีซ กรุ๊ป ที่พยายามพัฒนานวัตกรรมการคัดแยกและเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์นี้จากเนื้อเยื่อไขมันอย่างมุ่งมั่น เพื่อเปิดโอกาสให้กับทุกคนซึ่งรวมถึงตัวผมเองด้วยที่พลาดโอกาสการฝากเก็บสเต็มเซลล์ในวันแรกเกิด ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของการฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่ดีที่สุดของตัวเองอีกครั้ง การฝากเก็บ MSCs” ของตัวเอง ไว้เพื่อตัวเองในอนาคต นับเป็นหนทางที่ปลอดภัยและไม่ขัดต่อจริยธรรมใดในการดูแลสุขภาพของมนุษย์ที่จะพึงมีได้ เมดีซ กรุ๊ป ควบคุมมาตรฐานในการจัดเก็บแช่แข็งเซลล์ที่อุณหภูมิ – 196 องศาเซลเซียส ในไอระเหยของไนโตรเจนเหลว เพื่อคงประสิทธิภาพได้ยาวนาน เมดีซ กรุ๊ป มอบกรมธรรม์การจัดเก็บ 60 ปี ซึ่งเป็นการดูแลที่ยาวนานที่สุดในอุตสาหกรรมธุรกิจธนาคารรับฝากเก็บสเต็มเซลล์ นอกจากนั้น MEDEZE GROUP PTE. LTD. (สาขาสิงคโปร์) ยังพัฒนานวัตกรรมการสร้างอวัยวะเทียมจากเซลล์ต้นกำเนิด โดยอวัยวะที่ประสบความสำเร็จแล้วคือ “กระจกตา”
นายแพทย์วีรพล กล่าวต่อไปว่า “ในระดับโลกการแข่งขันในการพัฒนาความก้าวหน้าของการนำสเต็มเซลล์ไปใช้เพื่อให้มนุษย์มีสุขภาพและคุณภาพการใช้ชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีความสุข นับเป็นการแข่งขันที่สร้างนวัตกรรมแบบก้าวกระโดด แต่ถ้าเราทุกคนต้องการจะไปสู่ทิศทางเดียวกันนี้ให้ได้ เราทุกคนควรฝากเก็บสเต็มเซลล์ของตัวเองไว้ก่อน เพื่อหยุดอายุเซลล์ของตัวเองไว้ในวันนี้ เพราะสิ่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของทุกคนในการที่จะต่อยอดใช้ประโยชน์ในอนาคต ดังนั้น การตั้งต้นเก็บไขมันที่มีคุณภาพดี ด้วยกระบวนการที่ถูกต้องทางการแพทย์จึงสำคัญยิ่ง สถานพยาบาลคุณภาพเหนือระดับของโรงพยาบาลราชพฤกษ์ ที่จังหวัดขอนแก่น จึงเป็นนับเป็น ศูนย์การเก็บไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) ที่ดีเลิศด้วยประการทั้งปวง”.
นายแพทย์ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในส่วนของโรงพยาบาลราชพฤกษ์นั้น เราคือ โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของจังหวัดขอนแก่น เป็น “โรงพยาบาลที่มีสภาพแวดล้อมเพื่อการเยียวยา (Healing Environment Hospital)” ขนาด 200 เตียง ที่มีวิสัยทัศน์โดดเด่นตลอด 29 ปีของการก่อตั้งมา สู่การให้บริการทางการแพทย์อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากล (JCI International และ GHA-for COVID-19) ด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ ด้วยมุมมองในการให้ความสำคัญกับคนไข้ มิใช่ลูกค้า และบุคลากรของเราคือ ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ มิใช่พ่อค้า และพนักงานทุกคนของเราเป็น “ผู้ให้” ดังนั้นการดูแลรักษาของ โรงพยาบาลราชพฤกษ์ เราทุกคนมีเป้าหมายร่วมกันนั่นคือ “ความสุขจากการให้” และวันนี้เมื่อเราร่วมมือกับ เมดีซ กรุ๊ป ในการจัดตั้งศูนย์การเก็บไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) ยิ่งเป็นการยืนยันถึงศักยภาพของเราในการดูแลคนไข้ได้อย่างรอบด้าน
นายแพทย์ธีระวัฒน์ กล่าวต่อว่า การเปิดศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) ที่โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จังหวัดขอนแก่นนั้น เพื่อเป็นศูนย์กลางการให้บริการสำหรับผู้รับบริการในจังหวัดขอนแก่น จังหวัดใกล้เคียง ผู้รักสุขภาพจากสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประเทศลาว และนานาชาติ ที่มีความต้องการฝากเก็บสเต็มเซลล์จากไขมันที่มีคุณภาพดี ทำให้ทุกขั้นตอนปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ได้คือการวางรากฐานของสุขภาพสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ด้วยโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ระดับสูงและบริการที่น่าประทับใจของโรงพยาบาลราชพฤกษ์.
นายรุจติศักดิ์ รังษี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวถึงความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ว่า “ตามเจตจำนงของผมที่มุ่งมั่นจะสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการค้า การลงทุน การบริการ เพื่อเชื่อมโยงอนุภูมิภาค ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ดังนั้น ความร่วมมือในการเปิดศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) ที่โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จังหวัดขอนแก่นครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่จะนำนวัตกรรมระดับโลกของคนไทย จะเข้ามาส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถในการบริการด้านสุขภาพเพื่อคนขอนแก่น และจะเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับจังหวัดใกล้เคียงและนักท่องเที่ยวที่จะมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามวิสัยทัศน์ “ขอนแก่นเมืองน่าอยู่ มุ่งสู่นวัตกรรม ศูนย์กลางเชื่อมโยงภูมิภาคกลุ่มน้ำโขง”.
นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวว่า “จังหวัดขอนแก่นนั้น มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมาอย่างเข้มแข็ง ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์ การศึกษา และวัฒนธรรม เรามีปัจจัยต่างๆที่ส่งเสริมให้จังหวัดมีความสามารถในการที่จะก้าวไปสู่การพัฒนาแบบก้าวกระโดดและยั่งยืน การเปิดศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) ที่โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จังหวัดขอนแก่นนั้น จะเป็นอีกปัจจัยที่ส่งเสริมให้จังหวัดขอนแก่นก้าวสู่การเป็น Medical Hub ที่มีนวัตกรรมระดับโลกเข้ามาให้บริการ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อรวมกับบริการที่อบอุ่นและเหนือระดับของโรงพยาบาลราชพฤกษ์แล้ว จังหวัดขอนแก่นของเราจะถูกจับตามองในฐานะจังหวัดที่น่าลงทุนทางเศรษฐกิจและลงทุนทางด้านสุขภาพอย่างแน่นอน”
คุณณภัสวรรณ จิลลานนท์ (คุณน้อย) แขกรับเชิญพิเศษ ได้กล่าวถึงความประทับใจกับนวัตกรรมการฝากเก็บสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมันของตัวเองไว้ว่า “คือความมหัศจรรย์ของชีวิต”ค่ะ ที่เราสามารเก็บสเต็มเซลล์ของตัวเราเองได้เพื่อการวางแผนดูแลตัวเองได้ทันทีจนถึงตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจ แน่นอนค่ะว่า วันนี้ทั่วโลกเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุทั่วโลก แต่นวัตกรรมนี้จะช่วยพลิกภาพนี้ไปจากความคิดเดิมๆ… คนที่มีอายุมากขึ้น ไม่จำเลยที่จะต้องอ่อนแอ มีโรคภัยไข้เจ็บ ร่างกายเสื่อมโทรม …เพราะนวัตกรรม BIOlongevity Technology ของเมดีซ กรุ๊ป จะเปลี่ยนชีวิตให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง อ่อนเยาว์ ด้วยชีวิตที่ยืนยาวขึ้น”.