กู้ภัยเผยสงสัยพ่อแม่เด็ก 8 เดือน หัวเราะขณะดำหาศพ! อัยการ-ตร. ชี้อีกมุม เด็กอาจยังไม่เสียชีวิต
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 28 ก.พ. 66 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ยังเกาะติดเหตุการณ์แม่ของเด็กชายวัย 8 เดือน ออกมาสารภาพแล้วว่าตนเองทำลูกตกพื้นจนเสียชีวิต ก่อนอุ้มลูกไปทิ้งริมน้ำ แต่กู้ภัยยืนยันไม่พบสิ่งผิดสังเกตในน้ำ อาจระงับการค้นหาในน้ำ โดยสัมภาษณ์ อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน , นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต , พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, ต๊อด พิเชษฐ์ เอมศรี หัวหน้าชุดปฏิบัติการใต้น้ำ ในการกู้ภัย และมีญาติ ๆ ฝั่งพ่อของเด็ก
เมื่อวานกลับไปค้นหาต่อมั้ย?
ต๊อด : ค้นหาต่อ จุดเดิมริมแม่น้ำ ค้นหาละเอียดมากกว่าเดิม เพราะระดมประดาน้ำใกล้เคียงมาช่วย เมื่อวานกบลงเกือบ 40 ตัว ค้นหาจนตีหนึ่งกว่าๆ เกือบตีสองถึงยุติ
ก็ยังไม่เจอ?
ต๊อด : ไม่เจอ คิดว่าเมื่อวานค้นหาละเอียดที่สุดครับ ใช้โดรนจับความร้อน นักประดาน้ำก็เข้าจุดที่เข้าไม่ได้ แต่ไม่มีเลย
ที่บอกว่าจะย้อนคลองขึ้นไป ย้อนหรือยัง?
ต๊อด : ย้อนแล้วครับ ไม่มีสิ่งผิดปกติครับ
ตอนนี้กู้ภัยหาทั้งคลองหมดแล้ว ไม่มี ถามว่าจะหลุดรอดออกจากปากแม่น้ำได้มั้ย กู้ภัยบอกว่าไม่ได้ เพราะมีกองสวะ ผักตบชวา ขึงอยู่เต็มพื้นที่?
ต๊อด : ตอนนี้รื้อแล้วครับ
มีงูเหลือมตัวนึงพยายามเลื้อยผ่านไป แต่ยังเลื้อยไม่ได้ ต้องเลื้อยกลับ?
ต๊อด : มันเลื้อยกลับมาหาผม มันผ่านไม่ได้
งูเหลือมอาจกินเข้าไปหรือเปล่า?
ต๊อด : ยาก เพราะงูเล็กกว่า งูแค่ข้อมือ
ถ้าอนุมานใหม่ แม่เอามาทิ้งจุดแม่น้ำ หาหรือยัง?
ต๊อด : หาแล้วครับ หน้ากระดานหาทั้งแม่น้ำ ฝั่งซ้ายฝั่งขวา 100 เมตร ตามน้ำ 100 เมตร สวนน้ำ 100 เมตร เอานักประดาน้ำขวางเป็นหน้ากระดาน ยาวจนเลยไปอีก 100 เมตร เลยโค้งน้ำไปเลย แต่ก็ไม่เจอ ย้อนกลับขึ้นไปก็ไม่มีอะไรที่น่าสงสัย
ถ้าน้ำพัดออกไปไกล?
ต๊อด : ถ้าศพลอยแล้วถึงพัดไกล แต่ถ้ายังจมอยู่ น้ำขึ้นน้ำลงกลิ้งไปกลิ้งกลับ แต่ถ้าศพลอยแล้ว มันอาจไปกับผักตบได้ อันนั้นไปไกลแน่นอน
ถ้ามีร่างเด็กจริง ยังไงก็ต้องเจอ?
ต๊อด : ต้องเจอครับ เมื่อวานละเอียดมาก ทุกก้าว ทุกตารางเมตร ไปทีละก้าวเลย ไปให้ช้าที่สุดครับ
พี่แต้ม ในฐานะเป็นอดีตนายตำรวจเก่า เป็นมือค้นหาปราบปรามต่าง ๆ นานา มองยังไง?
ผู้การแต้ม : เราจะเชื่อได้มั้ยที่แม่เขารับสารภาพ เขาเอาไปทิ้งตรงนั้นจริงมั้ย หรือจะเอาไปฝัง ถ้าฝังก็ต้องมีคนร่วมกระทำความผิดด้วย เพราะคงไปฝังคนเดียวไม่ได้ ถ้าเราเชื่อว่าเขาไปทิ้งน้ำ น้องบอกศพไม่สามารถลอยออกไปแม่น้ำใหญ่ได้เพราะมีกองขยะอยู่ ศพ 24 ชม. สองวันก็ลอยแล้ว ทีนี้พอลอย มันไปไหนไม่ได้หรอก มันก็ต้องส่งกลิ่นเหม็น คนอยู่แถวนั้นเยอะ ต้องมีกลิ่นแน่นอน ยกเว้นใส่กระเป๋า รูดซิปอะไรต่างๆ นานา มันก็ไม่ลอย เพราะเด็กตัวเล็ก ถ้าเด็กลอยขึ้นมายังไงก็ต้องเห็น ต้องไปติดขยะ ถ้ามีเสื้อผ้าก็ไปไหนไม่ได้หรอก ถ้าเชื่อว่าทิ้งแล้วเน่า สัตว์ก็มากิน ปลาต้องมาตอดอยู่แล้ว อย่างที่เคยทำคดี บางทีไปพบเจอแต่โครงเพราะปลากินหมด เจอปุ๊บชาวบ้านเห็นทำไมตรงนี้ปลาชุม คนก็ไปดักไปทอดแห แล้วเจอกระดูกศพขึ้นมา กระดูกก็ตกตรงนั้น แต่นี่เราเห็นสภาพน้องบอกว่าน้ำไม่แรง ก็อยู่ตรงนั้นในคลอง แต่ถ้าทิ้งตรงแม่น้ำท่าจีนน้ำอาจจะแรง จะไหล ถ้าลอยขึ้นมา ถ้าไหลมันไปไกลมากนะ เคยทำคดีนึง ทิ้งแถวสำเหร่ ไปเจออีกทีปากน้ำ เพราะน้ำแรงมาก บางทีข้างบนอาจจะนิ่ง แต่ข้างล่างมีกระแสน้ำไหลไป ถ้าน้ำแรงไปไกลแน่ การค้นหาต้องค้นหาให้มากกว่านี้ แล้วถ้ามีเสื้อผ้าอยู่ ถ้าศพลอย เสื้อผ้าก็ต้องเห็น แต่นี่ 20 วัน ถ้าลอยแล้วไม่มีใครเห็น มันจะแฟ่บแล้ว มันจะลง
ถามในมุมพี่แต้ม ในมุมตร. ฟังแล้วมีอะไรน่าจะเป็นพิรุธมั้ย?
ผู้การแต้ม : พิรุธตั้งแต่หายไปแล้ว ถ้าเกิดเป็นจริงนะ คุณก็ให้การเท็จตั้งแต่แรก ความน่าเชื่อถือไม่น่าเชื่อถือแล้ว คุณบอกคนอุ้มไปจากอก ผมวิเคราะห์ตั้งแต่แรกแล้วว่าคดีนี้ไม่มีทางที่จะมีคนขโมยไป มีอย่างเดียวคนใกล้ชิดทำให้เสียชีวิตหรือเปล่า หรือเอาไปทิ้ง หรือเอาไปทำต่างๆ ตอนนี้สรุปได้แล้วว่าน่าจะเป็นเขา แต่เขาจะเป็นผู้กระทำความผิดหรือไม่ ผมไม่เชื่อว่าอุ้มเด็กแค่นี้แล้วตกไปทำให้เด็กเสียชีวิต ถ้าเขาทำจริง เด็กแค่นี้โยนทิ้งน้ำก็ตายแล้ว ต้องวิเคราะห์ให้ดี ผมไม่เชื่อว่าอุ้มเด็กแล้วตกมา อย่างของตก บางทีเราก็เอามือคว้า หรือใช้เท้ารองรับ ความแรงไม่น่าทำให้เด็กตาย
นพ.วีระศักดิ์ จรัญชัยศรี บอกว่าการที่เด็กตกจากอ้อมแขนคนอุ้ม จากการศึกษาแล้ว เด็กต่ำกว่า 6 ขวบ มีการรักษาในรพ.ที่อังกฤษ 1,775 ราย พบเด็กทารก 223 ราย เฉลี่ยอายุ 1 ปี ตกจากแขนคนอุ้ม มีโอกาสแตกของกะโหลก เลือดออกในสมอง ร้อยละ 10.6 เป็นตัวเลขที่สูง ต้องรีบนำตัวส่งรพ. เพื่อทำการรักษา?
ผู้การแต้ม : ต้องดูว่าตกลักษณะยังไง อย่างน้อยหัว หางตกเราต้องคว้า ความแรงจะเป็นอย่างนั้นได้ไง ถ้าอุ้มแล้วปล่อยมือ ความแรงอาจจะมี ผมไม่เชื่อว่าตกอย่างนี้จะทำให้เด็กเสียชีวิต เด็กอาจจุกแล้วร้องไม่ออก เลยเอาเด็กไปทิ้ง ก็อาจเป็นไปได้ แต่ตกตรงนั้นแล้วตายตรงนั้น ผมไม่เชื่อ
อาจารย์มองยังไง?
ปรเมศวร์ : เห็นด้วยกับผู้การแต้ม ตอนเรามีลูก เราก็อุ้มไม่ให้ตก มันไม่น่าเชื่อหนึ่ง สองถ้ามองจากสภาพจิตที่มีการวิเคราะห์กัน ผมว่าเขาเอาไปขายให้ใครหรือเปล่า เพราะชีวิตเขาลำบาก เขาไม่มีบ้านจะอยู่ เร่ร่อนไปเรื่อยๆ นี่เป็นการตั้งข้อสังเกต ผมไม่เชื่อว่าเอาไปทิ้ง ผมว่าต้องมีอย่างอื่น ออกไปตอนตีสาม สามีจะไม่รู้เลยเหรอ เพราะตัวสามียังพาน้องเขาไปทำอย่างอื่นเลยเพื่อหารายได้ รายงานจิตวิทยาของคุณหมอ อันนี้ประเด็นน่าสนใจ อย่าคิดว่าต้องทิ้งอย่างนั้นอย่างเดียว ประเด็นนี้ตัดไม่ได้ แต่ผมไม่ค่อยเชื่อ กู้ภัยระดมหายังไม่เจอ ผู้การแต้มพูดก็ถูก ถ้าทิ้งไว้ตรงนั้นเด็กเสียชีวิตต้องมีร่องรอยตรงนั้นบ้าง แต่ที่ผ่านมายังไม่มี ใจผมมองด้วยความคิดว่าเด็กต้องยังอยู่ แต่เห็นตรงกับผู้การแต้มว่าเขาโกหกมาตลอด
เมื่อวานมีการประกันตัว 9 พันบาท?
ปรเมศวร์ : ตร.จะตั้งข้อหา เอาแค่คำรับสารภาพไม่ได้ เหมือนเดชาว่าได้ข้อหาเดียวคือแจ้งความเท็จ แต่ข้อหาประมาทตาย อำพรางศพ ตราบใดที่กู้ภัยยังหาไม่เจอก็อย่าเพิ่งพูด การตั้งข้อหาต้องมีหลักฐานชัดพอสมควร พอมันไม่ชัดก็ไม่แปลกใจที่ศาลจะให้ประกันตัวในราคาที่ต่ำมาก เพราะเขาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนพอสมควร ทุกคนพูดตรงกันว่าไหนล่ะศพ ยกตัวอย่างคดีทนายสมชาย พยานเยอะแยะ เห็นรถชน อุ้มขึ้นรถ แต่ปัจจุบันก็ยังหาไม่เจอ กลายเป็นคดีสูญหาย ถ้าไม่มีร่าง ไม่มีชิ้นส่วน ก็ตั้งข้อหาไม่ได้
ต่างจากน้องชมพู่มั้ย?
ปรเมศวร์ : ไม่ต่าง น้องชมพู่ประเด็นอยู่ที่สาเหตุการตาย ขาดอาหาร ขาดอากาศ ขาดน้ำ นั่นแสดงว่าต้องมีคนเอาไปทอดทิ้ง ต้องมีคนเห็นว่ามีใครพาเด็ก เขาถึงตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์ ทอดทิ้งเด็ก และอำพรางศพ เพราะมีศพอยู่ แต่วันนี้ถ้าน้องไม่อยู่ เราจะตั้งยังไง
เพราะเราไม่สามารถพิสูจน์จากตัวร่างได้ว่าเกิดอะไรขึ้น?
ปรเมศวร์ : กฎหมายบอกห้ามเอาคำรับสารภาพมาฟังโดยเฉพาะคดีที่มีโทษ แต่แจ้งความเท็จได้อยู่แล้ว เพราะบอกกลับไปกลับมา โทษแค่ 6 เดือนเอง
ญาติฝ่ายพ่อ เชื่อมั้ยแม่เด็กเอาลูกไปทิ้งน้ำ?
ญาติ : ไม่เชื่อ เพราะตั้งแต่เขาบอกชายเสื้อเหลืองแล้ว ที่บอกว่าเห็นชายเสื้อเหลืองรับลูกออกไปจากอก เดี๋ยวก็วางไว้บนหมอน คำพูดเขาไม่ตรงเลย หลังจากนั้นมาก็ไม่เชื่อ เพราะครั้งแรกเขาโกหกเรา ทำไมครั้งต่อไปเขาจะโกหกเราไม่ได้
มุมตร. แจ้งข้อกล่าวหาเร็วไปมั้ย?
ผู้การแต้ม : ผมว่าเร็ว เพราะเป็นคำพูดของผู้ต้องสงสัย จะคิดว่าเป็นผู้ต้องหาคดีให้การเท็จอะไรก็แล้วแต่ แล้วเราจะไปเชื่อคำให้การโดยไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน มันจะพลาดได้ ถ้าเกิดเด็กยังมีชีวิตอยู่ มันจะมีปัญหาทันที คุณไปแจ้งข้อหาได้ไง ไปทำให้ตายโดยประมาท เจตนาฆ่า ถ้าเจอเด็กขึ้นมา อย่างที่อ.ปรเมศวร์พูด ผมคิดว่าการแจ้งข้อหาเร็ว อย่าคิดว่าคนสนใจแล้วจะตัดเป็นประเด็นจับกุมได้แล้ว อย่าทำอย่างนั้น เดี๋ยวจะมีปัญหา เขาจะมาดูถูกองค์กรตร.อีก
ปรเมศวร์ : มองว่าเร็วไปนิดนึงเหมือนกัน การจะแจ้งข้อกล่าวหาต้องมีพยานหลักฐานตามสมควรน่าเชื่อถือ แต่เราไม่รู้อีกนะ สำนวนตร.ผมไม่ทราบ แต่คำรับและคำให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวช่อง 3 ฟังแค่นี้ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ เพราะร่างเด็กเราไม่รู้เลยว่ามีหรือไม่มี
ถ้าแจ้งข้อกล่าวหาเร็วเกินไปจะทำให้เกิดความยุ่งเหยิง เพราะไม่รู้เสียชีวิตจริงหรือเปล่า ถ้าแจ้งข้อกล่าวหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย วันดีคืนดี เด็กคนนี้ยังไม่ได้ตาย ต้องทำยังไง?
ผู้การแต้ม : เอาจริง ๆ เขาก็ต้องสั่งไม่ฟ้อง แต่กระบวนการอย่างนี้ มันไม่ถูกต้อง ก็ย้อนไปคดีเก่า ๆ มันเสียไง ไม่ได้ประโยชน์ ต้องทำการสืบสวน หาหลักฐาน เช่น เขารับปากว่าฆ่า หรือทำร้าย หรือตก คุณก็ต้องไปหาหลักฐานประกอบ เขาอาจมีก็ได้ นิติวิทยาศาสตร์จะไปเก็บตรงนั้นได้มั้ย หายไปยังไง หรือบอกเขาไปทิ้งตรงนี้ ตรงนั้นมีสภาพยังไง ถ้าเจอตรงกันก็น่าเชื่อได้ว่าทิ้งตรงนั้น แต่ถ้าทิ้งตรงนั้นไปดูเลยแล้วเอามาสอบ อย่างนี้ไม่ได้
คราบเลือดที่ปรากฏ ปริมาณมากพอที่จะสันนิษฐานเป็นอย่างอื่นได้มั้ย?
ผู้การแต้ม : ต้องไปดูว่าคราบเลือดเป็นของเด็กหรือไม่ คราบเลือดเกิดจากอะไร สมมติตกไปแล้วเลือดกำเดาไหล เลือดอาจติดตามตัวพ่อแม่ แต่ก็สันนิษฐานได้ว่าเลือดเป็นของเด็ก อาจเป็นมูลเหตุนึงที่ทำให้เด็กเสียชีวิตก็ได้
มูลนิธิกระจกเงาลงคำสัมภาษณ์แม่เด็ก ลักษณะว่าไม่เคยมีความฝันตอนเด็กเลย คิดว่าพอทำงานเลี้ยงตัวเองได้ ไม่เคยคิดไปไกล ดูความเป็นอยู่ของที่บ้านคิดว่าไปถึงตรงนั้นไม่ได้หรอก เกิดมาไม่เคยมีบ้าน พ่อรับจ้างเฝ้าบ่อปลา ไม่มีเพื่อนสนิท ถูกบูลลี่ทั้งคำพูดการกระทำต่าง ๆ นานา เพื่อนทำให้รู้สึกเหมือนอากาศ ไม่มีตัวตน ทำอะไรคนเดียว อยู่ตัวคนเดียว แทบไม่เคยกอดแม่ ไม่เคยแสดงความรักต่อกัน แม่หูตึง พูดไปก็ไม่รู้เรื่อง อยู่กันห่าง ๆ จนแม่ล้มป่วยติดเตียง ก็พาไปกายภาพบำบัดที่รพ. หนูรักพ่อ แต่ไม่ชอบเวลาพ่อกินเหล้าแล้วโวยวาย หนูร้องไห้บ่อยมาก หยุดก็ต่อเมื่อเขาเลิกทะเลาะกัน จนโตก็ชาชิน ชินแบบเจ็บปวด บ้านไม่มีความสุขเลย ความสุขของหนูคือการออกมานอกบ้านตั้งแต่มาอยู่กับสามี ต่าง ๆ นานา การออกมาถ่ายทอดแบบนี้ เขาพยายามบอกว่าแม่เด็กเป็นเยาวชน สองมีบาดแผลในใจ ถามอ.วรตม์ เรื่องนี้มองยังไง?
นพ.วรตม์ : ผมได้อ่านตั้งแต่เมื่อวาน เป็นเนื้อหาที่ดี แสดงอีกด้านนึงที่อาจไม่ได้มองเห็น ตอนแรกเรามองที่ตัวคดีเป็นหลัก มีความโกรธแค้นในสังคม แต่พอได้อ่าน บางเรื่องมีมุมมองหลายด้าน ที่เห็นคือมีการถกเถียงกันเยอะว่าเราควรมีความเห็นอกเห็นใจหรือไม่กับกรณีแบบนี้ ตัวผมเองคิดว่าเด็กที่ต้องประสบเหตุการณ์แบบนี้ เรื่องราวในอดีตเราสามารถเห็นอกเห็นใจได้ แต่มันคนละเรื่องกันยุคปัจจุบัน ปัจจุบันเรื่องที่เกิด สังคมมีความงง สับสนวุ่นวาย เราอาจไม่ต้องเห็นอกเห็นใจ แต่เราเข้าใจว่าทำไมคนๆ นึงมาถึงจุดนี้ได้ บางคนเปลี่ยนเป็นความเข้าใจแทน แต่ความเข้าใจไม่ได้แปลว่าเรารับได้นะ แต่เข้าใจว่าคนนี้เขามีความเสี่ยงที่จะมาก่อเหตุแบบนี้ได้
ความเข้าใจว่าเธอเคยมีอะไรในชีวิตมาก่อน เราเห็นใจได้เรื่องอดีตของเธอ แต่ปัจจุบัน ถ้ามีการกระทำแบบนี้เกิดขึ้นจริง ก็ต้องละไว้อีกเรื่องเอามารวมกันไม่ได้?
นพ.วรตม์ : การให้ข้อมูลที่ไม่เท็จจริง มีปัญหาต่างๆ ทำให้หลายคนรู้สึกว่าเราไม่สามารถเห็นอกเห็นใจได้ แต่คนที่เขาเห็นอกเห็นใจก็ต้องเข้าใจว่าเขาอาจมีอารมณ์ร่วม ตัวเองอาจเคยประสบปัญหาแบบนี้ในอดีต แต่ถ้าไม่วิเคราะห์ข้อมูลที่เราอ่านได้จริงๆ อาจมีสักคนที่ไปกระทำความรุนแรงกับคนอื่น แล้วรู้สึกว่าอยากได้ความเห็นอกเห็นใจเหมือนกัน
จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ขึ้นมา ถ้าเยาวชนไม่อยากมีลูก ทำให้ลูกหายไป แล้วอยากให้คนเห็นอกเห็นใจ?
นพ.วรตม์ : อันนี้ก็ต้องระวัง เราเห็นเรื่อราวแบบนี้มีประโยชน์มาก สังคมควรต้องตระหนักเรื่องนี้ วันนึงเรื่องที่ไม่เคยแก้ไข อาจทำให้เขาเดินมาถึงจุดนี้ แต่สำหรับคนก่อเหตุก็เป็นอีกเรื่องนึง
จะทำยังไงกับสังคม มุมนึงก็ออกมาตามที่อ่านกระจกเงา แต่อีกมุม อย่างอีเจี๊ยบ เขาบอกต้องแยกให้ถูกต้องนะ เคยมีปัจจัยแบบนี้ในอดีต แต่ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายหรือเปล่า?
นพ.วรตม์ : เรานั่งอยู่ตรงนี้ยังไม่รู้เลยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ผมคิดว่าการที่คนมีอารมณ์ร่วม อยากมีส่วนร่วมในการโพสต์การด่า แต่ขอให้รออีกสักนิดได้มั้ย ผมว่ามันยังไม่จบเร็วๆ นี้หรอก พี่กู้ภัยยังหาอยู่เลย ฉะนั้นทุกอย่างใช้เวลา เราอย่าเพิ่งเอาอารมณ์ไปร่วมมาก รออ่านหลายๆ อย่าง อย่างข้อความกระจกเงา เขียนไว้ดีมาก เอามาพูดคุยกันต่อ ผมว่ามีประโยชน์
เมื่อวานที่ถามค้างพี่พิเชษฐ์ พี่คิดว่าเด็กยังอยู่มั้ย พี่ก็ก้ำกึ่ง ถ้าวันนี้คิดว่ายังไง?
ต๊อด : ผมคิดว่าเด็กยังไม่ตาย เขายืนอยู่ตรงนั้น 3 ชม. ถ้าจะไปทิ้งศพ 3 ชม.ที่หายไป ทิ้งศพผมก็คงไปแล้ว กลัวที่บ้านรู้
แม่เด็กหายไปตั้งแต่ตี 3 ถึงตี 5 มีคนเห็นว่าแม่เด็กกลับมาตอนตีห้าครึ่ง มีการจับสัญญาณโทรศัพท์ได้ด้วยว่ามีการโทรศัพท์หาบุคคลอื่น ๆ ?
ต๊อด : 3 ชม. เขาไปยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น ถ้าเป็นผม ผมทิ้งก็ไปแล้ว ไปยืนทำอะไร
ปรเมศวร์ : ถ้าเดินสัก 1 ชม.ครึ่งจากบ้านตัวแม่ไปถึงจุดที่เขาบอกไปทิ้งจะไปไกลแค่ไหน
ญาติ : ประมาณแค่ 500 เมตร
ต๊อด : เดินไม่ถึง 10 นาที
ปรเมศวร์ : รัศมี 1 ชม.ครึ่ง เขาเดินไปได้สุดคลองถึงไหน
ต๊อด : ถ้ามายืนตรงนั้นเพื่อรอเรือ หรือรอใครมารับสักอย่าง ก็ไกล
เดินริมคลองได้มั้ย?
ต๊อด : เดินไม่ได้ครับ
ผู้การแต้ม : บ้านมีมอเตอร์ไซค์มั้ย
ญาติ : มีรถเวฟของพ่อเขาคันนึง
คิดว่าเด็กยังอยู่มั้ย?
ญาติ : คิดว่ายังอยู่ เพราะกู้ภัยไปหาตรงนั้นสองสามรอบยังไม่เจอ สงสารกู้ภัยอดหลับอดนอน ต้องไปหาน้อง
ปรเมศวร์ : อาจหายกลางวันแล้วมาสร้างสถานการณ์กลางคืน น่าจะมีอะไรผิดปกติตรงนี้
ผู้การแต้ม : ตร.ต้องสอบว่าเขาโทรหาใคร เหมือนคดีจ้างวานฆ่าต่างๆ เวลาฆ่าเขาจะโทรไปหาคนจ้างว่าเรียบร้อย เบอร์โทรที่เขาโทรหาเป็นใคร ต้องเรียกคนนั้นไปสอบ ดึกขนาดนั้นเขาจะโทรไปหาเพื่ออะไร ต้องมีเหตุแน่นอน คนที่เขาโทรไปต้องมาให้การที่เป็นประโยชน์กับตร.
วันที่เด็กหายไป ญาติสงสัยอะไรมั้ย?
ญาติ : ไม่สงสัย แต่ช่วงตอนสี่ทุ่มยังนั่งกินหมูกระทะกับน้อง ช่วงห้าทุ่มเราเลิกกิน หนูก็เข้านอน ตัวน้องก็ยังคุยงุ้งงิ้งๆ กันอยู่กับภรรยา จากนั้นก็ไม่รู้แล้ว
ตอนตื่นเช้า ครั้งที่แล้วบอกได้ยินเสียงเด็กร้อง?
ญาติ : ใช่ ประมาณ 6 โมง ไม่รู้เสียงน้องจริงหรือโทรศัพท์มันเปิด ไม่แน่ใจเหมือนกัน เสียงแอะๆ ทีสองทีก็หายไป ช่วงเราไปทำงานพอดี ได้ยินเหมือนเสียงเด็ก แต่ไม่แน่ใจว่าเด็กยังอยู่หรือเปล่า ประมาณ 6 โมง
ไม่ยืนยันเป็นเสียงเด็ก?
ญาติ : ไม่แน่ใจว่าเสียงน้อง 8 เดือนหรือเปล่า แต่ได้ยินค่ะ
ปรเมศวร์ : แม่เด็กมากินหมูกระทะ ลูกมาด้วยมั้ย
ญาติ : หลับตรงเบาะที่เขานอนค่ะ
แม่เด็กเคยให้สัมภาษณ์ว่าทะเลาะกับพ่อ แต่คุณบอกเขางุ้งงิ้งกัน?
ญาติ : ตอนหัวค่ำเขาทะเลาะกัน ที่เขาเก็บมุ้งไปทิ้ง มีการเถียงกัน กลับมาตัวแม่เด็กไม่ยอมดูลูก ลูกยังตื่นอยู่ พ่อเด็กเลยบอกว่าไปดูลูกสิ แล้วเกิดการโมโหกัน พ่อเด็กมีเดินออกจากมุ้งกะทันหัน ทำให้มุ้งชำรุด แม่เด็กก็เก็บมุ้งทิ้ง
ต๊อด : เมื่อวานถามว่าเด็กใส่ชุดสีอะไร พี่บอกไม่รู้เลย เด็กเข้าไปในมุ้งแล้ว แต่อันนี้พี่บอกว่าเขาเก็บมุ้งไปทิ้ง
ญาติ : เขาไปทิ้งมุ้งที่ถังขยะ ตร.เอาไปแล้วค่ะตอนนี้ มุ้งคนละอันกันค่ะ อันนี้เป็นมุ้งครอบ
อาจารย์มองยังไง?
ปรเมศวร์ : ผมยืนยันว่าเด็กไม่น่าเสียชีวิต ดูไทม์ไลน์ทั้งหมดน่าจะมีอะไรมากกว่านี้ คดีทุกคดีต้องดูไทม์ไลน์ว่าอะไรยังไง ถึงจะชี้เป้าได้ถูก แต่ตอนนี้เรามานั่งวิเคราะห์ตามคำพูดของเขา ไปดูผลแต่ผลไม่เจอไง ต้องดูที่ต้นก่อน มายังไง ตอนมากินหมูกระทะพาเด็กมาด้วยมั้ย จะมีอาการอะไรมั้ย ทุกส่วนเป็นส่วนประกอบ ถ้าทำความจริงให้ปรากฏ ความยุติธรรมเกิด
กลุ่มเยาวชนอายุประมาณ 16-18 มีโอกาสมุมความคิด ความอ่าน กระทำเหตุแบบนี้ด้วยอารมณ์ หรือปมหลังของตัวเอง มีโอกาสมากน้อยแค่ไหน?
นพ.วรตม์ : กรณีทั่วไป มองย้อนไปตอนเรา 17-18 เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เป็นช่วงที่เราพัฒนาตัวเอง ติดเพื่อน อยากออกจากพ่อแม่ เรื่องอารมณ์เราควบคุมไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ยิ่งหลายคนไม่มีแบบอย่างในการควบคุมอารมณ์ หรือปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างเห็นอกเห็นใจมากนัก แน่นอนเราเจอวัยรุ่น 17-18 ที่ออกไปก่อปัญหาสังคมหรือความรุนแรงแบบนี้ได้เยอะพอสมควร เนื่องจากเขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ ไม่มีแบบอย่างที่ดีได้
กู้ภัยบอกว่าเปลี่ยนจุด?
ต๊อด : เมื่อวานให้ยกเลิกค้นหาทางน้ำ บริเวณแม่น้ำท่าจีนที่เราค้นหาอยู่ทุกวัน เพราะเขามีคำสั่งว่าตรงนี้เราดำจนละเอียดทุกตารางนิ้วแล้ว แทบรู้หมดแล้วว่าอะไรอยู่ตรงไหน เขาบอกว่าถ้าเปลี่ยนจุดจะส่งกำลังมาช่วย แต่ถ้าให้ดำจุดเดิม ท่านประธานเขาไม่อนุมัติ กลัวเป็นอันตรายกับนักประดาน้ำ ก็เลยสั่งยกเลิกภารกิจ
ถ้าจะเป็นไปได้ อาจต้องลอยไปไกลหลายกิโล กับอีกหนึ่งอัน ไม่ใช่จุดนั้น?
ต๊อด : ไม่ใช่
จุดที่เขาชี้ ตรงข้างล่างเป็นสวะ?
ต๊อด : มันเป็นขยะ กิ่งไม้ ผมสามารถเดินข้ามกองนี้ไปอีกฝั่งได้ ถ้าโยนก็ติด ไม่จมแน่นอน ไม่น่าใช่โยนตรงจุดนั้นแน่ๆ
ที่ออกไปยืนคุยโทรศัพท์ 3 ชม. ตร.น่าจะได้ข้อมูลเบสโทรศัพท์ไปแล้ว?
ผู้การแต้ม : ถ้าโทร 3 ชม. อยู่ตรงจุดเดิม คุณพูดอะไรกัน ทำไมโทรคุยกันขนาดนั้น เป็นคู่รักกันหรือไง ภาวะนั้นก็ไม่ใช่เรื่องดี แต่ถ้าโทรแล้วปลายทางขยับมาเรื่อยๆ ก็จะเห็นว่าคนนั้นเกี่ยวข้องกับคนนี้ยังไง ก็สามารถตรวจสอบได้ แต่ไม่รู้ตร.เขาสอบประเด็นนี้ถึงไหนอย่างไร เคยเจอเยอะแยะ จับกุมผู้ต้องหา บางทีก็ได้จากเทคโนโลยี บางส่วนก็ได้จากเทคนิคการสืบสวนสอบสวน บางทีเรามองตาคนพูดเรารู้เลยว่าเขาโกหกหรือไม่โกหก เขาร้องไห้จริงหรือไม่จริง เราพิสูจน์ได้ พอเราสงสัยเราก็บี้ จี้ ให้ได้ นี่คือการสอบสวน ถ้าผมเป็นพ่อแม่ รักหรือไม่รักลูก เวลาลูกตาย บางช่วงเวลาจะมีความรู้สึกเสียใจมาก ต้องไปดูว่ามีมั้ย บางคนแกล้งร้องไห้ ทั้งที่จ้างวานยิงผัว มีเยอะแยะ ตร.ก็มีเทคนิค
พี่ต๊อดก็สงสัยแม่เด็ก?
ต๊อด : เขานั่งหัวเราะตอนพวกผมดำหาศพ ผมเลิกภารกิจคืนแรกเพราะเหตุนี้ พ่อแม่นั่งหัวเราะ แล้วผมจะมาหาทำไม พ่อแม่เขายังนั่งหัวเราะคิกคักๆ อยู่เลย ผมก็เลยเลิก ทุกวันนี้ที่ไปหา ไม่ได้อยากไปนะ ผมเลิกสงสัยว่าเด็กอยู่ตรงนั้นตั้งแต่วันสองวันแรก แต่ไปเพราะเจ้าหน้าที่เขาสงสัย อาจมีคำรับสารภาพ พวกผมดำจนหอยทุกตัวอยู่ตรงไหน ผมรู้หมดแล้ว เขานั่งหัวเราะบอกว่าพี่ดำทำอะไรกัน เขาก็บอกไปนอนแล้วเดี๋ยวค่อยมาดูกันใหม่ แล้วไปนอน ดูชิลกว่าพวกผมอีก ทั้งที่พวกผมเครียดมากว่าจะเจอหรือไม่เจอ
ถ้าเป็นการสูญเสีย วัยรุ่นอายุ 17 จะมีอาการแบบนี้มั้ย?
นพ.วรตม์ : ถ้าเป็นลูกเรา หรือคนในครอบครัว อารมณ์ร่วมต้องเยอะมากอยู่แล้ว สีหน้าอาจเรียบเฉย แต่พอถูกถามด้วยคำถามบางจุด อาจมีสีหน้าเศร้าแสดงอาการอย่างชัดเจน ขนาดกู้ภัยไม่ใช่คนในครอบครัว ยังมีอารมณ์ร่วมกับเด็กหายไป ฉะนั้นไม่ว่าเด็กอายุ 16 มีลูก หรือ 30 40 ก็ตาม การสูญเสียใครสักคนในครอบครัวต้องมีการเสียใจ ซึ่งการเสียใจไม่ได้มีแค่วันสองวันแน่นอน เพราะอยู่ในท้องตั้งครรภ์มา ยกเว้นบางกรณีคุณแม่มีปัญหา ซึมเศร้าหลังคลอด ไม่สามารถมีอารมณ์ร่วมกับลูกได้ แต่ถ้ามีภาวะแบบนั้น คนในครอบครัวต้องเห็น เช่น มีภาวะซึมเศร้า ตั้งแต่คลอดลูกมา สีหน้าเรียบเฉย ไม่เคยดูแลลูกเลย ก็เป็นไปได้
เป็นไปได้มั้ย กรณีมีปมในหัวใจ ตัวเองก็ยอมรับว่าเอาไปโยนตรงจุดนั้น แต่กู้ภัยไปงม แล้วเขาไปหัวเราะ มองยังไง?
นพ.วรตม์ : ต้องถามครอบครัวว่าเห็นเวลาที่ดูแลลูกมีลักษณะแบบไหน ถ้าก่อนหน้านี้ดูแลดี ผูกพันใกล้ชิด เหตุการณ์ที่กู้ภัยพูดก็ค่อนข้างขัดแย้งกันพอสมควร
ปรเมศวร์ : กำลังนั่งนึกว่าน้องเขาคงฉลาดพอที่จะคิดบางเรื่องได้โดยที่เรามองไม่เห็น เช่น หยุดการตามหาดีมั้ย รับสารภาพจบ ทุกอย่างจะได้ไม่ต้องตาม ไม่ต้องไปดู แต่เขาลืมไปว่าปัจจัยสำคัญคือน้อง ซาก ชิ้นส่วนน้องยังไม่เจอ คิดง่าย ๆ เจอผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ ตร.ถามทุกวัน เบื่อ ๆ ๆ รับสารภาพตรงนี้ไปเลย ทุกอย่างจะได้จบ ผมมองในแง่น้องคนนี้ไม่ธรรมดา
สังคมพูดว่าในเมื่อครั้งแรกมีการโกหก และโกหกมาเรื่อยๆ สิ่งที่สัมภาษณ์ในมูลนิธิกระจกเงา เราจะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน?
นพ.วรตม์ : เป็นการตั้งสมมุติฐานที่ดี ตอนอ่านทีแรกก็อินกับเนื้อหา แต่มาฉุกใจตรงที่แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด มันสอดคล้องกันหรือเปล่า เป็นเรื่องที่ดีที่คนอ่านอะไรบางอย่างแล้วไม่ได้เชื่อหมดใจ แต่สิ่งสำคัญคือคนที่อ่านข้อความที่เป็นเชิงบวกมากๆ อาจต้องทำความเข้าใจว่าเราเห็นอกเห็นใจเขาในอดีตได้ แต่สิ่งที่เกิดในปัจจุบันเป็นคนละเรื่องกันครับ
วันแรกก็งงอยู่ ผมมีโอกาสคุยกับตัวแม่ บอกว่าจะให้เงินจำนวนนึง ถ้าแม่ให้เด็กคนอื่นไป ให้เอาเด็กกลับมา ถ้าเลี้ยงไม่ไหวผมเข้าใจ เราอาจยากจน ไม่มีงาน ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะช่วย ให้เงินก้อนนึงกับแม่ไปก่อน เชื่อว่าจะเลี้ยงน้องได้ช่วงระยะเวลานึงเลย แต่ถ้าขาดตกบกพร่องผมจะช่วยให้อีก แกก็นิ่งคิดไป สักพักบอกว่าไม่รู้อยู่ไหน แล้วแกไปบอกทีมงานผม ชื่อคุณหนุ่มเหมือนกัน บอกว่าพี่หนุ่ม กรรชัย จะให้เงินเขาจริงใช่มั้ย ทีมงานเลยบอกว่าจริง แล้วก็มาคุยว่ายังไงคุยกันอีกที รู้อีกทีเหมือนเขาคิดอีก แล้วบอกว่าไม่รู้อยู่ที่ไหนจริง ๆ เขาตอบคำนี้มา ตอนหลังก็สงสัยเขาบอกว่าเด็กตายแล้ว เขาเอาเด็กไปทิ้ง ยิ่งสับสนไปใหญ่?
ปรเมศวร์ : เด็กคนนี้ไม่ธรรมดา เชื่อเถอะ
ผู้การแต้ม : ที่เขาสัมภาษณ์ ผมว่าที่ดูเหมือนเขียนให้ออกมาในมุมมองที่ดี เขียนแล้วสวย คำพูดที่เขียนอาจตรงจิตใจ แต่ในความรู้สึกของเขาจะตรงกับที่พูดหรือเปล่า ผมก็ไม่มั่นใจ
ไม่ได้คอมเพลนกระจกเงานะ แต่จากบทสัมภาษณ์แบบนี้ เกรงว่าจะเป็นบรรทัดฐาน?
นพ.วรตม์ : จริง ๆ เขียนดี ทำให้สังคมฉุกคิดอีกมุมนึง ที่มันสำคัญมาก ๆ ที่ทำให้มาถึงจุดนี้ แต่ถ้าเพิ่มสักหน่อยว่าเรื่องนี้ไม่สามารถเห็นอกเห็นใจได้ถ้ากระทำจริงๆ
วันแรกพ่อประกาศในเฟซบุ๊กว่าหากใครเอาไปให้เอามาคืน ไม่มีการบอกว่าแม่เด็กทำร้ายนะ คิดว่าพ่อรู้มั้ย?
ญาติ : น่าจะรู้ แต่รู้ไม่หมดหรือเปล่า
ผู้การแต้ม : สมมติว่าถ้าวันนั้นเป็นอุบัติเหตุจริง แม่เขาเอาไปทิ้ง แม่ไม่เล่าให้สามีฟังเหรอ สามีไม่ออกอาการอะไรเลยเหรอ ไม่มีอะไรสะท้อนเลยเหรอ หรือเอาไปให้คนอื่น พ่อก็ต้องรู้อีก แต่ถ้าไปให้แล้วมันดีกว่า เขาก็ไม่เสียใจมาก