มช.-N Health-นาโนซายน์ เทคโนโลยี จับมือพัฒนาเครื่องทำลายเชื้อในอากาศจากผลงานนักวิจัยคนไทย

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ – N Health -บริษัท นาโนซายน์ เทคโนโลยี จำกัด จับมือพัฒนาและขยายตลาดเครื่องทำลายเชื้อในอากาศ ทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ได้มาตรฐานจากผลงานนักวิจัยคนไทย

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 นายณรงค์ฤทธิ์ กาละพุฒ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจสนับสนุนโรงพยาบาล 7.1 บริษัทเนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด (N Health) ในเครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BDMS)
ได้ทำการลงนามบันทึกความเข้าใจและความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและขยายตลาดเครื่องทำลายเชื้อในอากาศ
ระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่


โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธัญญานุภาพ อานันทนะ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในนามอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนายวิโรจน์ โขมพัตราภรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท นาโนซายน์ เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้ร่วมลงนาม
ปัจจุบันด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และอากาศที่เต็มไปด้วยเชื้อก่อโรคและ ฝุ่นละอองจำนวนมาก รวมถึง PM 2.5ที่มีอนุภาคเล็กจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าซึ่งนับเป็นสาเหตุสำคัญ ในการก่อให้เกิดโรคติดต่อทางอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของผู้คนในสังคมเป็นอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ด้วยความร่วมมือจากทั้ง3องค์กรทั้งในส่วนของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริม
สนับสนุนทรัพยากรองค์ความรู้ด้านวิชาการในการวิจัย และพัฒนาเครื่องทำลายเชื้อในอากาศในช่วงเวลาที่ผ่านมา บริษัทนาโนซายน์ เทคโนโลยี จำกัด ที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริม ให้คำปรึกษาในการออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อจัดจำหน่าย และการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพต่อการใช้งาน และทาง N Health ที่พร้อมส่งเสริม สนับสนุนทรัพยากรและองค์ความรู้ในการทดลองเครื่องทำลายเชื้อในอากาศ ทั้งในภาคสนามและในห้องปฏิบัติการ การพัฒนาเครื่องต้นแบบสู่เชิงพาณิชย์ และเพิ่มช่องทางการตลาด
ด้วยความร่วมมือดังกล่าวข้างต้นมีเพื่อวัตถุประสงค์ที่สำคัญร่วมกัน คือเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต และยกระดับ “เครื่องทำลายเชื้อในอากาศ” ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ นำไปสู่การขยายผลทางการตลาด ให้เพียงพอตรงกับความต้องการของกลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพ อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน