“ทนายแม๊” ร่ำไห้ ขออย่าขุดคุ้ยเป็นศัตรู อ้างลูกเมียลำบาก

ไม่รู้ขัดแข้งขัดขาใคร “ทนายแม๊” ร่ำไห้ ขออย่าขุดคุ้ยเป็นศัตรู อ้างลูกเมียลำบาก ทนายดังฟันคดี “แตงโม” ยังปิดคดีไม่ได้ศุกร์นี้

รายการ เป็นเรื่องใหญ่ ออนแอร์ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.15 น. ทางช่อง JKN 18 ดำเนินรายการโดย “อั๋น ภูวนาท คุณผลิน” ได้สัมภาษณ์ “ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต” และ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” กรณีที่ตร.ประกาศจะปิดคดี “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์”

เรื่องการเปิดเผยออกมาจากคุณเอกพันธ์ เรื่องน้องฟันหัก แต่ก่อนไปถึงตรงนั้น พรุ่งนี้ตามกำหนดการ ตร.บอกจะมีการแถลงปิดคดี สองท่านมองว่าเป็นไปได้เหรอ?

เดชา : (หัวเราะ) วันนี้ได้คุยกับทนายกฤษณะ ทนายคุณแม่ เขาไปพบตร. ก็โทรมารายงานผม ในฐานะเป็นที่ปรึกษาให้ทนายนะ ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาให้คุณแม่ เขารายงานว่าไปพบตร. ตร.ก็บอกว่าพรุ่งนี้ก็ยังไม่แน่นอน เนื่องจากผลทางนิติวิทยาศาสตร์พวกเนื้อเยื่อต่างๆ ยังไม่เสร็จ พรุ่งนี้ก็น่าจะยัง แต่ไม่มีอะไรแน่นอน ที่แน่อาจไม่แน่ เดายาก คงน่าจะยัง

ทำไมตอนแรกถึงบอกจะปิดคดีพรุ่งนี้ ถือว่าเร็วกว่าปกติ หรือเร็วผิดปกติ 13 วันจะแถลงปิดเลย?

ทนายเจมส์ : ผมว่าเร็วเกินไป เพราะปกติผลชันสูตรผมเคยทำคดีอื่น อย่างน้อย 45 วัน เฉพาะผลชันสูตรอย่างเดียว แบบหยาบด้วยนะ ไม่ได้ละเอียด อันนี้มาแป๊บเดียวรู้เลย อาจารย์ยังบอกว่าผลหยาบออกมาแล้ว แต่ผลที่ส่งชิ้นเนื้อไปตรวจส่งกลับมาหรือยัง มันต้องรอคิว

ตอนคุยกับเพื่อน จะมีคำถามว่าทำไมวะ มากมายเต็มไปหมด สองท่านมีคำถามอะไรที่สงสัยหรือคาใจในการทำงานของตร.มั้ย?

ทนายเจมส์ : ถ้าในมุมตร. ผมสงสัยหลายประเด็น อย่างคืนเกิดเหตุ ตร.ไปถึงที่เกิดเหตุนะ ทำไมไม่รีบกันตัวผู้อยู่บนเรือ 5 คนแยกสอบก่อน แยกสอบคนละคน อย่างนี้ไม่มีโอกาสไปเตี๊ยมอะไรกันทัน แต่พอปล่อยให้เวลาเนิ่นนาน เขามีสติ เขามีเวลาในการตระเตรียมซ้อมกัน บางข่าวบอกมีการไปซุ่มวางแผนตระเตรียมคุยกันที่ปั้มน้ำมันด้วยซ้ำ พอวิ่งตามคนร้ายมันจะไม่ทันการ สองหลักฐานที่เกี่ยวกับเรือสำคัญ ตอนนี้หลักฐานสองอย่าง ที่สำคัญ คือตัวศพที่จะบอกว่าเขาตายเพราะอะไร มีอะไรไปกระทบร่างกายเขาบ้าง ปล่อยให้เอาเรือไปล้างหรือเปล่า อันนี้ผมก็ไม่รู้นะ  ก็ต้องถามตร.ว่าพอรู้แบบนี้ปุ๊บ คุณไปห้ามอู่เรือห้ามล้างเรือไว้หรือเปล่า ไม่งั้นก็เป็นการทำลายหลักฐานที่อยู่บนเรือ

เขาปล่อยกลับไปหมดเลย แปลกมั้ย เคยเกิดขึ้นมั้ยจากประสบการณ์ทั้งสองท่าน?

เดชา : ส่วนใหญ่เท่าที่เห็น ส่วนใหญ่ผู้ต้องหาเป็นเศรษฐี ไฮโซ เป็นคนมีเส้นสาย เป็นดาราดัง จำได้มั้ยที่นางแบบเคยเมาแล้วไปชนตร.ตาย เคยเข้าไปช่วย เสร็จแล้วก็ยืนเอะอะโวยวายร้องไห้ แล้วกลับบ้านไป ต่อมาทนายพามา สร่างเมาแล้ว อาบน้ำท่า ก็พิสูจน์ไม่ได้ ก็ปล่อยหลุดไปอีก หรือคดีบอส ที่ชนตร.ทองหล่อตาย อันนั้นเขาหนีไป และตร.ก็ช้า ต้องให้บิ๊กแจ๊ส มีวันนี้เพราะพี่ให้ เข้าไป กว่าจะออกมาก็สร่างเมา แล้วเปลี่ยนคนขับอีก แบบที่เจมส์พูด พอช้าก็จบแล้ว อย่างพวก 5 คนเป็นประจักษ์พยาน พอช้าปุ๊บ ไปเจอทนาย ทนายก็ต้องเตี๊ยมว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร ก็ไม่พูด ส่วนอันไหนตัวเองเสียหายก็อาจจะแต่งเรื่องใหม่ ก็เป็นไปได้

ไม่มีใครเชื่อเรื่องปัสสาวะท้ายเรือ?

เดชา : ประมาทมีข้อกฎหมายอยู่สองอย่าง หนึ่งความผิดของผู้ตาย สองเหตุสุดวิสัย ฉะนั้นถ้ามีทนาย มีที่ปรึกษา ก็ต้องบอกว่าพอมีเหตุสุดวิสัย ที่เป็นความผิดผู้ตาย มีอะไรบ้าง มันอาจไปเตี๊ยมกันก็ได้

ถ้าตร.ขอตรวจเลือด หรือเส้นผม เราปฏิเสธได้เหรอ?

ทนายเจมส์ : ในกระบวนการคดีอาญา บางครั้งมาขอตรวจ ตร.เขามีสิทธิ์ปฏิเสธ แต่ถ้าเจ้าพนักงานสั่งให้ทำอะไรแล้วไม่ทำ อาจเป็นความผิดอีกฐานนึง เคยเห็นคดีจับผู้ต้องหามาได้ ผู้ต้องหาจะไม่แถลงก็เป็นสิทธิ์ของเขา สมมติเขาปฏิเสธ ก็กลายเป็นข้อสงสัย อยู่ในสำนวนแน่นอน การที่จำเลยไม่ให้ความร่วมมือไปตรวจ เขาอาจไม่ได้กลัวเรื่องการฆาตกรรม แต่อาจกลัวเรื่องสารอะไรบางอย่าง ถ้ามี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประเด็นมั้ย ถ้าเขาเสพแล้วทำให้น้องตายตรงไหน

ประเด็นใหญ่สุด อุบัติเหตุหรือฆาตกรรม?

ทนายเจมส์ : อุบัติเหตุมีสองอย่าง ถ้าเกิดจากเขาเองเสียชีวิตไม่มีใครรับผิดชอบ แต่ถ้ามีคนทำให้เกิดขึ้น คนขับโดน อย่างที่ประชาชนสงสัยฆาตกรรมหรือเปล่า

เรื่องทนายกฤษณะ ทนายคุณแม่แตงโม ถูกหมายจับสกลนครสด ๆ ร้อน ๆ มันเกิดอะไรขึ้น ล่าสุดมีหมายจับคดีอะไร?

กฤษณะ : เป็นพ.ร.บ.เช็ค ตามที่ผมเห็นในโพสต์ ตอนนี้ผมนึกออกแล้ว ผู้เสียหายผมก็เป็นอีกกลุ่มนึง ที่ผมเคยรับสารภาพ และจะชำระค่าเสียหายให้ ผมเซ็นเช็คค้ำประกันไว้ มีการเจรจาต่อรอง ผมชำระไม่ทันเหมือนเดิม ก็เป็นเคสกลุ่มเดียวกันที่ผมเคยเคลียร์ใจไปแล้ว คดีนี้ไม่คิดต่อสู้ ยอมรับโดยดี ก็อยากเคลียร์ผู้เสียหายด้วย แต่ในเมื่อมีหมายจับแล้วผมก็ต้องออกไปทำตามขั้นตอนคือมอบตัว และขอประกันตัวออกมา รายงานตัวให้ครบ แต่ก็อาจขอเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหาย ถ้ายินยอมให้ผมชำระ และยินยอมถอนฟ้องให้ เพราะตอนนี้ใจผมโฟกัสที่คดีน้องแตงโมอย่างเดียวเต็มร้อย ทุกวันนี้วิ่งหาพยานหลักฐานต่างๆ ตั้งใจทำคดีนี้โดยไม่อ่านโพสต์คดีตัวเองที่มีการขุดคุ้ยขึ้นมาโดยไม่ทราบว่าผมไปขัดขาใครหรือเปล่า หรือผมทำให้ใครได้รับความเสียหาย ผมก็กราบขออภัยนะครับ ตอนนี้ครอบครัวผมชอกช้ำมากจริงๆ ผมก็ยอมรับในการกระทำ ยินดีชดใช้ ไม่คิดจะหนี ขอโอกาสได้เคลียร์เงินก้อนนี้เพื่อหาความจริงให้น้องแตงโมอีกครั้ง ถ้าผมมีการประกันตัวออกมา เจ้าทุกข์ยอมความได้ ก็จะถือว่าไม่มีคดีกันต่อไป ก็สามารถเป็นทนายคุณแม่แตงโมได้ ส่วนสภาทนายความจะพิจารณาอย่างไร อันนี้ก็ค่อยสอบถามกันอีกที เป็นเรื่องอนาคต แต่ส่วนผมเองยังยืนยันและโฟกัสไปที่น้องแตงโม ยังปรึกษาทนายเดชาจะเข้าไปขอคำปรึกษาอยู่เลย แต่ปรากฏว่ามีคนขุดคุ้ยประวัติ ผมก็ยืดอกรับและเคลียร์ ส่วนท่านใดเอาประวัติของผมและขุดคุ้ยขึ้นมา มันเป็นข้อมูลส่วนตัวของผมแล้วเอาไปเผยแพร่ในทางเสียหาย อยากวอนขอว่าอย่าให้ผมต้องใช้สิทธิในการต่อสู้ทางกฎหมาย หลังผมเสร็จสิ้นคดีของผมแล้ว วอนขอนะครับ อย่าเป็นศัตรูกันเลย กราบขอล่ะครับ ลูกเมียผมลำบากครับ (ร้องไห้)

ทนายเดชาอยากแนะนำอะไร?
เดชา : คดีที่มีหมายจับเป็นคดีส่วนตัว ท่านส.ส.มงคลกิตติ์ ยินดีประกันตัวให้นะกฤษณะ

กฤษณะ : ขอบพระคุณมากครับ (ร้องไห้)

เดชา : ผมติดต่อส.ส.เต้ให้ ผมกับเต้เป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องกลัว ยอมรับความจริง

กฤษณะ : ตอนแรกก็คิดมาก แต่ถึงตอนนี้ครอบครัวผมยังไม่รับทราบเลยนะครับ ไม่รู้จะบอกเขายังไงดี ก็คงต้องอธิบายให้คุณแม่น้องแตงโมรับทราบว่าผมจะรีบประกันตัวและกลับขึ้นมาดำเนินการต่อไป ตอนนี้ผมเริ่มได้ข้อมูลอะไรหลายๆ อย่าง ให้พนักงานสอบสวน ยังตั้งใจและมีความจริงใจ ยังนัดทนายเดชาจะเข้าไปพบท่านอยู่ วันอาทิตย์นี้เองครับ

ทนายกฤษณะบอกว่าจะไปหาหลักฐานอะไรเพิ่ม มีอะไรเจอแล้วเป็นชิ้นเป็นอันที่อยากบอกเรา?

กฤษณะ : วันนี้ได้ไปพบพนักงานสอบสวนบก. 1 บนชั้น 3 มีการต้อนรับให้เข้าไปดูสำนวน แต่เนื่องจากว่าผลชันสูตรยังกลับมาไม่ถึงพนักงานสอบสวน ข้อมูลด้านคดีไม่สามารถขอดูได้ จริงๆ ผมกับพนักงานสอบสวน จะมีส่วนร่วมในการนำไปใช้ต่อสู้และสำนวนนี้จะส่งไปยังอัยการ

เจออะไรใหม่มั้ย?

กฤษณะ : ภาพที่ขยายเหมือนมีการนั่งเรือ แล้วมีภาพเหมือนคนเอาขวดตีของบุคคลๆ นึง ยกขึ้นมาที่ศีรษะและดึงลงมา มันมองแล้วมีส่วนคล้ายมีการต่อสู้กัน แล้วเอาอะไรไปฟาดศีรษะ คดีนี้พี่ไทด์ได้มีการเชิญไปเป็นพยานในคดีนี้ด้วยหรือเปล่า และฝากคำถาม 4 คำถามให้พนักงานสอบสวนได้ตอบคำตอบ

คลิปที่ทนายพูด จินตนาการว่าเหมือนตีหัวกัน ไม่แน่ใจ ทะเลาะหรือเล่นก็ไม่รู้ กับอีกอัน ทะเลาะทำร้ายร่างกาย สองคนบอกว่าแค่เป็นผู้ชายคนนึงเปลี่ยนเสื้อ พอผมดู ก็เปลี่ยนเสื้อได้นะ ยกแขนเพื่อถอดเสื้อ มีจังหวะถอดเสื้อแล้วมุดออก มองคลิปนี้อย่างไร?

เดชา : ผมตามข่าวมา และถามนักข่าวอาชญากรรม มีคนถ่ายหลังเกิดเหตุ เขายืนยันว่าหลังเกิดเหตุ ซึ่งก็หมายถึงว่าแตงโมตกน้ำไปแล้ว ไม่ได้มีอะไรกับคดี อย่าไปปั่นกระแส สองพยานหลักฐานเป็นคลิป ถ้าไม่ชัดอย่าไปมโน จะไปขยายก็ไม่มีคุณค่าในเชิงพิสูจน์ สำคัญคือใครถ่าย ถ่ายเมื่อไหร่ ตัดต่อมั้ย ถ้าถามผม ผมว่าไม่มีคุณค่าในด้านพยานหลักฐาน

กับภาพที่เหมือนคนกระโดดจากเรือ?

ทนายเจมส์ : มันก็ยังไม่ชัดว่าใครโยนอะไรลงไปหรือเปล่า เพราะเวลาของตกลงน้ำ น้ำต้องกระเพื่อมมั้ย แต่นี่ไม่มีอะไรเลย มีของตกลงไปแล้วไงต่อ อะไรมาชี้ชัดว่าเป็นน้องแตงโม คลิปเหล่านี้ต้องผ่านการวิเคราะห์พนักงานสอบสวน อันไหนไม่สำคัญเขาก็ตัดออก ถ้าทนายคุณแม่มองว่าคลิปพวกนี้สำคัญ พนักงานสอบสวนไม่ได้เอามาในสำนวน เขาเป็นโจทก์ร่วม สามารถเอาคลิปหลักฐานเหล่านี้เข้าไปได้ในชั้นของศาล

คิดว่าเป็นฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ?

เดชา : เราเป็นนักกฎหมาย ในการวินิจฉัยหรือแสดงความคิดเห็น ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ปรากฏ พยานบุคคล เอกสาร วัตถุ ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเท่าที่เห็นก็ได้แค่อุบัติเหตุ ซึ่งอุบัติเหตุแยกย่อยอยู่ 2 อย่าง หนึ่งตายฟรี ประเภทแรก กับอุบัติเหตุแบบมีคนรับผิดชอบ ธงมันออกมาชัดแล้ว ส่วนใครจะไปมโนว่าเป็นฆาตกรรมก็มีสิทธ์มโน แต่การมโนไม่มีพยานหลักฐานรองรับ ในแง่กฎหมายก็ไม่มีราคา เพราะคิดไปเอง

สภาพร่างของน้องที่ยังไม่ได้อธิบายว่าทำไมตาขวาเป็นอย่างนึง ตาซ้ายเป็นอย่างนึง ฟันหักจริงมั้ย คิดว่าตรงนี้จะมีจุดทำให้คดีเปลี่ยนได้มั้ย?

เดชา : หลักของกฎหมายต้องมีผู้กระทำ วัตถุที่กระทำ ตอนนี้มีศพ แล้วการกระทำ อาวุธอะไร หยดเลือดบนเรือมีมั้ย ก่อนมายังคุยกับผู้การแต้ม ว่ามีร่องรอยหยดเลือดมั้ย อาวุธที่ใช้กระทำมีมั้ย ผู้กระทำเป็นใคร ก็มันขาด เหมือนการจับบ่อนพนัน ไม่ใช่บ่อน เจอแต่ไพ่ เจอเงิน เจอคนเล่น เจอเจ้ามือ องค์ประกอบภายนอกต้องครบ ไม่งั้นก็ไม่มีความผิดทางอาญา การมโนอะไรไปก็เป็นเสรีภาพในการมโน แต่บางอย่างทำให้ตร.มีงานเพิ่ม แค่นั้นเอง

ทนายเจมส์ : ผมมองเบื้องต้นก่อน หลักฐานชัดแค่เรื่องประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ไม่ได้หมายความว่าต้องไปรับโทษเจตนาฆ่า สองหลักฐานไปไหวมั้ย มีหลักฐานอะไรเชื่อมโยงหรือเปล่าว่าฆาตกรรม เวลาสืบเขาสืบจากศพ มีร่องรอยบาดแผลอะไรทิ้งไว้มั้ย มันเข้าได้กับอาวุธที่เก็บในที่เกิดเหตุหรือเปล่า ซึ่งในเรือไม่มีอะไรเลย ขวดไวน์อยู่ไหน บาดแผลมีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ส่วนแพทย์ยังไม่ให้คำวินิจฉัยเลยว่ามีบาดแผลอะไรหรือไม่ อาจมีของแข็งไปกระทบหัว หรือหัวไปกระทบของแข็ง บาดแผลจะต่างกัน ณ วันนี้ยังไม่วินิจฉัย ถามว่าตั้งธง ผมเห็นด้วยกับตร. ว่าตั้งธงไว้ก่อนว่าประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ถ้ามีหลักฐานที่ไปถึงเจตนา อย่างเช่นมีประจักษ์พยานคนนึงกลับคำให้การ แต่นี่มันไม่มีไง 5 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ถือว่าเป็นประจักษ์พยาน มีน้ำหนักมากครับ แต่สำคัญคือเขาจะให้การหรือเปล่า นี่อีกเรื่องนึง

เดชา : ให้การแล้วที่ปั้มน้ำมันไง

ความพิรุธไม่มีผลต่อรูปคดี?

ทนายเจมส์ : เอ๊ะเกิดจากการไปแต่งเรื่องแล้วไม่เนียน ทำให้เกิดความสงสัย  

ไปได้สุดแค่อุบัติเหตุ?

ทนายเจมส์ : เขาแต่งเรื่องแล้วสื่ออะไรถึงฆาตกรรมบ้าง ตอนเขาให้การ เขาให้การในฐานะพยาน คำให้การของเขาถ้าเป็นคำให้การเท็จก็โดนดำเนินคดี แต่ถ้าเป็นผู้ต้องหา

เดชา : โกหกได้เต็มที่

ทนายเจมส์ : แต่ถ้าเป็นพยาน เรียบร้อย อาจโดนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมถ้าโกหก ต้องระวังนิดนึง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“บุ๋ม ปนัดดา” – “อาร์ต พศุตม์” หัวร้อน หลังฟังทุกบทสัมภาษณ์ของแม่แตงโม
“แต๊งค์ พงศกร” ฟาด “แม่แตงโม” ทำหน้าที่ได้แย่มาก
ถกแซ่บ! หาก “แม่แตงโม” ไม่เอาเงินตอนนี้ แม่จะได้อะไรหากศาลยกฟ้อง!
“ทนายกฤษณะ” รับ ! ฝ่าฝืนคำสั่ง “แม่แตงโม” อย่าออกโหนกระแส
“อ้วน รีเทิร์น” ไม่เชื่อ “แตงโม นิดา” รับงานเอ็นฯ
งานเข้า! สาวแฉถูกทนาย “แม่แตงโม” โกงเงิน มูลค่าความเสียหายเกินล้าน

About Author