“4KINGS” ฉลองมุ่งสู่ 100 ล้าน ผู้สร้างเคลียร์ทุกประเด็นร้อน - ปลื้มกระแสแรง เล็งสร้างภาคต่อ

เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับภาพยนตร์กระแสแรงแห่งยุคอย่าง“4kings” ภาพยนตร์เรื่องแรกของค่ายหนังน้องใหม่ เนรมิตรหนังฟิล์ม ที่เป็นการรวมนักแสดงมาดเซอร์ไม่ว่าจะเป็น “เป้” อารักษ์ อมรศุภศิริ “จ๋าย” อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี “ภูมิ” ภูมิ รังษีธนานนท์ “โจ๊ก” อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ “นัท” ณัฏฐ์ กิจจริต “ทู” สิราษฎร์ อินทรโชติ “บิ๊ก” อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบรียล (D Gerrard) ฯลฯ ผลงานการกำกับและเขียนบทโดย “พุฒิ” พุฒิพงษ์ นาคทอง ที่ตอนนี้กำลังกวาดรายได้ไปอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งล่าสุดทางค่ายภาพยนตร์ได้จับมือร่วมกับ เอ็มพิคเจอร์ส พร้อมเหล่านักแสดง ผู้กำกับและทีมงาน ได้จัดงานเฉลิมฉลองรายได้ภาพยนตร์ “4kings มุ่งสู่ 100 ล้าน” กันไปอย่างชื่นมื่น ซึ่งทางทีมงานภาพยนตร์ได้มีมาตราการการตรวจ เชื้อโควิดผู้ร่วมงานทุกคนก่อนร่วมงาน โดยงานนี้มีสื่อมวลชนสนใจมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง เพราะนอกจากรายได้ที่พุ่งทะยาน กระแสดราม่าของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็แรงไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นกระแสข่าวเด็กเข้าไปดูแล้วออกมาตีกัน โดยอ้างว่าเป็นผลมาจากการดูหนังเรื่องนี้ ซึ่งก็ทำให้มีหลาย ๆ ฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหู ซึ่งทาง คุณเนติธร พรพิทักษ์สิทธิ์ ผู้อำนวยการสร้างก็ไม่นิ่งนอนใจ ได้ออกมาเปิดใจเคลียร์กระแสข่าวดังกล่าวในงานนี้

“ทางค่ายคาดหวังมาตั้งแต่แรกแล้วว่าจะทำหนังให้มันประสบความสำเร็จ จริงๆ ก็ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะสร้างภาค 2 เพราะเรื่องของ 4 สถาบันนี้มันมีเยอะมาก เล่าให้จบในภาคเดียวไม่ได้ ตอนนี้ส่งให้ทีมพัฒนาบทอยู่ นอกจากนี้ทางผู้บริหารได้จัดทีมไปรีเสิร์ชข้อมูลมาแล้วพบว่าในแต่ละปีมีเด็กอาชีวะจบไม่น้อยกว่าแสนคน พอระยะเวลาผ่านมา 20-30 ปี ปรากฏว่าเรามีฐานคนดูหลายล้านคน เขาก็เกิดมีความอยากย้อนยุค ย้อนวัยไปดูหนังในยุค 90 สมัยที่ตัวเองเรียน ถามว่าหนังดังเพราะกระแสไหม คือหนังเราไม่ได้ทำให้เด็กมาดูแล้วเกิดความฮึกเหิมหรือตีกันนะ เจตนารมณ์ของค่ายคืออยากจะสื่อให้เด็กและเยาวชนดูเป็นอุทาหรณ์สอนใจว่าสิ่งที่คุณทำเนี่ย มันจะเกิดผลร้ายๆ ในอนาคตตามมา แต่สิ่งที่ออกมาพอมีคนไปดูหนังแล้วมาตีกันจริงๆ อันนี้ก็เหนือความคาดหมายจริงๆ เพราะหนังมันจะเป็นซีนดราม่าซะเยอะ ส่วนที่มีผู้ใหญ่หลายท่านออกมาแสดงความคิดเห็น ขออนุญาติแจ้งว่า หนังเรื่องนี้ ผู้ใหญ่ก็ได้ หนังเรต 15+ ก็แสดงว่าหนังมันไม่ได้มีความรุนแรงอะไรเท่าไหร่”

ส่วนเรื่องรายได้นั้นผมตั้งเป้าไว้ที่ 200 ล้าน ก็อยากให้เข้าไปดูกันและค่อยมาคิดตามว่าหนังเรื่องนี้มันดีหรือไม่ดีอย่างไร แล้วค่อยมาวิจารณ์กัน แต่หนังเรื่องนี้ทางผู้สร้างเจตนาดี อยากจะสอนในเรื่องบาปบุญคุณโทษ เวรกรรม สิ่งที่เขาทำจะต้องได้รับผลตามมาประมาณนี้ครับ ขอให้ไปดูกัน ”

ในขณะที่พระเอกของเรื่องอย่าง “เป้” อารักษ์ อมรศุภศิริ กล่าวเสริมถึงเจตนาของทางผู้สร้าง และนักแสดงทุกคน คือการตีกันมันเป็นเรื่องในอดีต เป็นอุทาหรณ์มากกว่า และปัจจุบันอยากให้ทุกคนกลับมารักกัน ก็ไม่ใช่แค่มีตีกันอย่างเดียวนะ มีหลาย ๆ ภาพที่ช่างกลต่างสถาบันเดินออกมาข้างนอกแล้วใส่ช็อปคนละสีแล้วมาถ่ายรูปด้วยกันหน้าโรงหนัง ก็เป็นเรื่องที่ผมประทับใจ

“ก็อยากฝากน้อง ๆ ที่เข้าไปดูหนังกันทุกคน ออกมาแล้วได้โปรดอย่าตีกันเลย ถ้าชอบหนังอย่าตีกันเลย ถามว่าผมได้เตรียมใจกับกระแสแบบนี้ไหม คือเราค่อนข้างชอบบทภาพยนตร์ ชอบเจตนาของผู้กำกับและผู้สร้างว่าความจริงเขาก็ถ่ายฉากรุนแรงไว้เยอะนะ แต่ตัดทิ้งหมด เพื่อให้หนังมันไปในทางที่มีประโยชน์ต่อคนดูครับ ไม่ได้ไปยุแยง เพราะฉะนั้นคนที่เข้าไปดูแล้วผมคิดว่าน่าจะไม่อยากออกมาตีกัน เรื่องของความเจ็บตัว ที่บางทีคุณไม่สามารถย้อนกลับมาได้นะถ้าคุณพลาดพลั้งอะไรไปบางอย่าง ก็ฝากด้วยแล้วกัน”

จากการเคลียร์ทุกประเด็นร้อนจากผู้สร้าง รวมถึงรายได้ล้วนเป็นสิ่งการันตีว่าภาพยนตร์เรื่อง “4KINGS” เจ๋งแค่ไหน แฟนๆ สามารถไปร่วมพิสูนจนด้วยสายตาตัวเอง ให้ภาพยนตร์เจตนาดีๆ เรื่องหนึ่ง ก้าวสู่ 200 ล้านไปพร้อมกันได้ในโรงภาพยนตร์ รับชมเทรลเลอร์ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=3olMNtUaVW4 และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ https://www.facebook.com/4kings90s