คุยแซ่บShow

“ซาร่า คาซิงกินี”เคลียร์ข่าวเม้าท์ รับงานเอ็น-เป็นแม่เล้าจริงไหม?

คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดแซ่บ ซาร่า คาซิงกินี เปิดชีวิตหลังมรสุมดราม่าหนัก ถูกกล่าวหาทั้งรับงานอย่างว่า เป็นเด็กเอ็นฯแถมลือหนักถึงขั้นเป็นแม่เล้า โดยเจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง วัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์, หนิง ปณิตา และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ก่อนที่จะแกร่งขนาดนี้ที่ผ่านมาเจอเรื่องราวดิ่งมากมาย ยังไงบ้าง? ซาร่า : เป็นข่าวช่วงที่เราเพิ่งคลอดลูกได้ 2 เดือน แล้วมันมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด แล้วข่าวมันแรงมากๆ  แรงขณะที่ว่าเวลาเราเดินไปซื้อของกินสายตาคนที่มองเรามา หรือเราไปซื้อชานมไข่มุก พอร้านเห็นหน้าเรา เขาไม่ขาย เขาบอกหมดแล้ว พอเราเดินออกมาปุ๊บเขาก็ขายคนนั้นต่อ เหมือนมันกระทบหนักมาก แล้วเหมือนข่าวจากช่อง รายการต่างๆในโซเชียล พอเราเสพเข้ามาเยอะๆ มันมีอยู่จุดจุดหนึ่งมันมีแว๊บเข้ามาในหัว หรือว่าเราจะต้องไม่อยู่เหรอ หมายถึงคิดสั้น? ซาร่า : ใช่ มันหนักมาก มันเป็นปัญหาเขาเรียกเคมีในสมองด้วยในช่วงนั้น ภาวะหลังคลอดไง เราก็คิดแบบว่าหรือเราเป็นคนไม่ดีเหรอ เป็นแม่ที่ไม่ดีเหรอ ทำไมคนถึงมารุมประนามด่าเราขนาดนี้ เราไปทำอะไรให้ใคร หรือมันเป็นชาติที่แล้ว เหมือนมันคิดวนไป วนมา จรเรารู้สึกว่าหรือเราต้องไปถึงจะพอใจทุกคน ทุกคนถึงจะได้รู้ว่าความเป็นจริงแล้วมันคืออะไร แล้วอะไรทำให้เราหยุดได้? ซาร่า : ตอนนั้นที่คิดเยอะว่าเราจะไปแล้ว เราตัดสินใจเดินไปหาแม็กซ์เวลล์ ถ้าย้อนกลับไปได้ไม่อยากทำเลย คือเราเดินไปบอกกับลูกว่า แม่จะไม่อยู่แล้วนะ แม็กซ์ดูแลตัวเองนะ ดูแลน้องด้วยนะ เราก็พูดเยอะ ก่อนเราจะไป เราก็กอดเขาแล้วเขาก็พูดว่าแม็กซ์ไม่ให้ไป คือคำเดียว เหมือนความรู้สึกมันตีกลับมาแล้วเราก็ร้องไห้ แล้วเราก็ขอโทษเขา ก็เลยผ่านจุดนั้นได้ แล้วจากนั้นมาเราก็ไม่คิดอีกแล้ว หนิง : อยากจะบอกคนดูที่ดูตอนนี้บางทีในการจะวิพากษ์วิจารณ์ใครสักคน เราไม่รู้หรอกว่าเรื่องราวของเขามันตื้นลึกหนาบางจริงๆ มันคืออะไร เราอยากจะให้เป็นอย่างนี้ แต่เรื่องจริง ๆ มันคืออะไรไม่รู้ แต่มันเป็นผลกระทบกับคนคนหนึ่งที่ถ้าวันนั้นเขาตัดสินใจอะไรก็แล้วแต่ ชีวิตของลูกๆ เขา อนาคต หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันจะต้องเดินต่อไปอย่างสวยงามมันคืออะไร คือตอนนี้สังคมมันบูลลี่กันหนักมาก พอเรากลับไปแข็งแรงแล้ว ใจเราแข็งแรงแล้ว การเงินเราดีด้วยไหม? ซาร่า : มันเป็นช่วงที่เราต้องทำมาหากินหนักแหละ เพราะลูกเราก็ต้อง 2 คน กว่าเขาจะโต ทั้งการเรียน ทั้งอะไรอย่างนี้บางคนก็ถามว่าเราใช้เดือนหนึ่งเท่าไหร่ถึงจะพอ สำหรับซาร่ามองว่าอย่าถามว่าเท่าไหร่ถึงจะพอ เราต้องบอกตัวเองว่าเราต้องหาเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะอนาคตมันเป็นอะไรที่ไม่แน่ไม่นอน ด้วยอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆเศรษฐกิจโลก ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ทุกวันนี้ถ้าเรามีแรง มีกำลัง เรายังมีความสามารถ เราก็ทำทุกวันให้มันดีที่สุดพยายามหาเงินให้ได้มากที่สุด ค่าเลี้ยงดูต่อเดือนของแม็กซ์เวลล์และเอมมิลี่? ซาร่า : เราก็ไม่ได้คิดเป็นตัวเลขขนาดนั้น แต่เราก็พยายามหาให้ได้มากที่สุดเพื่อจะซัพพอร์ตทุกอย่าง เพราะในพาสของเอมมิลี่เราก็ดูแลอยู่คนเดียว ส่วนในพาสของแม็กซ์เวลล์ก็มีคุณพ่อน้องมาช่วยคนละครึ่งในค่าใช้จ่ายของน้อง ซึ่งความเป็นแม่ เหมือนลูกก็ต้องเลี้ยง เงินก็ต้องหา มันจะต่างกับคนที่ไม่ต้องเลี้ยงลูกไปทำงาน100% เลย แต่เหมือนเราลูกก็ต้องเลี้ยง เงินก็ต้องหา เพราะฉะนั้นการหาเงินของเรามันไม่ได้มีเวลาทั้งหมด 100% เพราะเราต้องแบ่งทั้งสองอย่าง เพราะฉะนั้นอะไรที่เราทำได้ ไม่ว่าจะเป็นงานในวงการหรือว่าธุรกิจส่วนตัวเราก็เต็มที่กับทุกอย่าง เห็นบอกว่ามีครั้งหนึ่งลูกอยากกินขนม แต่เงินในกระเป๋า? ซาร่า : มี 20 บาท คือเรามีเงินในธนาคาร แต่ช่วงนั้นเหมือนเป็นภาวะที่เรามีเรื่องเครียด เหมือนเป็นจังหวะที่เขาชี้ไปที่มาการองในห้าง ซึ่งมันร้อยกว่าบาท เราก็บอกโอเคแป๊นหนึ่งลูก เราก็เปิดกระเป๋ามี 20 บาท อยู่ดีๆ ก็รู้สึกสะท้อนชีวิตมากว่าแบบถ้าวันนี้เราไม่เหลือแล้ว ถ้าในบัญชีเราไม่มี แล้วมีแค่ 20 บาทเราไม่สามารถซื้อมากาลองที่อยู่อยากกินได้เลย มันเหมือนจุกอยู่ในใจ เรากลัวมากที่จะไม่มี เราต้องทำทุกวันให้มันดีที่สุด เพื่อที่แบบ เราอดได้ เราไม่มี มาม่า ไข่ต้ม เรากินได้นะ แต่ถ้าลูกไม่ได้กินไม่ได้ ลูกอยากกินอะไร เราก็อยากให้ลูกได้กิน ทุกวันนี้ลูกโอเคหรือยังเรื่องกิน? ซาร่า : โอเค เขาเป็นเด็กที่กินง่ายมากๆ แบบข้าวเหนียว หมูปิ้ง ไก่ทอด ไข่เจียว ไข่ดาว เมนูไข่คือเมนูที่มีประจำติดบ้าน เขาก็จะเป็นเด็กที่กินอะไรง่าย ๆ  หลายคนคิดว่าสวยอย่างนี้ ชีวิตหรู สบาย แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย? ซาร่า : มันจะเป็นพาสของการทำงานมากกว่า ออกงานเราก็จะรู้แล้ว เราจะมีสปอนเซอร์ บางทีเราถ่ายรูปเราก็ต้องดูสวยงาม คนที่สนิทกับเราจะรู้ว่าเราเป็นคนที่ติดดินมากๆ บางทีเราทำงานได้เงินเยอะๆ เราสามารถใช้เวลาที่จะไปฉลองกับลูก พาลูกไปกินมื้อดีๆ วันครบรอบ วันเกิดก็เป็นตามบางโอกาส แต่ไม่ใช่ทุกวันเราต้องกินหรู อยู่แพงขนาดนั้น...

“จ๊ะ นงผณี” โดนโกงอีกเกือบ 50 ล้าน เผยอยู่ในขั้นตอนกฏหมาย

รับโพสต์โซเชียล ป้อง อิงฟ้า วราหะ เพราะเคยเจอเหตุการณ์นี้มาก่อน ลูกทุ่งสาวอารมณ์ดี จ๊ะ นงผณี ที่วันนี้จะมาเผยเรื่องโดนโกงที่ครั้งล่าสุดโดนไปเกือบ 50 ล้านจากมิจฉาชีพในรูปแบบข้าราชการ พร้อมเผยถึงเรื่องโพสต์ในโซเชียลรับเกี่ยวกับมิสแกรนด์ อิงฟ้า วราหะ เพราะตัวเองเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อน เปรยเรื่องความรักยังไม่คิดแต่งงานทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ โพสต์ลอย ๆ แต่กระทบหลายคน? จ๊ะ : คือจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องเราด้วย แต่เราอยากไปอยู่ในนั้น งงเหมือนกัน เป็นเรื่องที่เค้ามีกระแสกัน เราเป็นคนติดโซเชียล ข่าวนี้เต็มหน้าฟีดเลย แล้วเราเป็นคนมีประสบการณ์นี้มา เรารู้สึกว่าวงการลูกทุ่งควรปรับเป็นว่าเด็กคนไหนที่ได้ดีก็ควรจะส่งเสริมเค้า เพราะตัวเราเองเราก็เคยผ่านประสบการณ์มา เกี่ยงข้องกับมิสแกรนด์หรือปล่าว? จ๊ะ : เกี่ยวค่ะ เราบอกก่อนว่าไม่ได้รู้จักทั้งน้องและทั้งผู้ใหญ่ เราอยู่ในวงการลูกทุ่งเราจะได้อะไรคร่าวๆมาอยู่แล้ว วันนั้นที่เป็นกระแสลึกๆเราไม่ได้ยุ่งไม่รู้ แต่เวลาที่เราเจอข่าวแนวนี้มันผ่านประสบการณ์เรามา ก่อนเข้าอาร์เอสเคยเซนต์สัญญากับที่นึงไว้ตั้งแต่ตอนเป็น จ๊ะ คันหู ผู้ใหญ่อารมณ์แบบขายฝันเราเราก็เชื่อเด็กบ้านนอกไม่อ่าน เซนต์ประมาณ 7 ปี ปีสองปีก็ไม่มีอะไรเคลื่อนไหว พอมีอาร์สยามติดต่อมาเราก็บอกว่าจะเข้าอาร์สยามแล้วนะ เค้าก็บอกไปได้เลย ไปสบายๆขอให้มีอนาคตดีๆนะ พอออกเพลงแรกเท่านั้นแหละ เราไม่ได้ไปคนเดียวแล้วทีนี้เค้าออกมาด้วย พอเพลงแรกดังเค้าตามมาเลย? จ๊ะ : ทันทีเลยค่ะ ส่งเข้าต้นสังกัดอาร์เอสเลยว่าจริง ๆ เค้ามีเซนต์สัญญากับอีกที่นึงไว้ เรื่องจบหรือยัง? จ๊ะ : จบแล้วค่ะของจ๊ะโชคดีหน่อย ขอบคุณเจ้าของเพลงลิขสิทธิ์คันหูด้วย ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการลูกทุ่ง เราก็เล่าเรื่องให้ฟัง นายเคลียร์ให้ค่ะ ไลฟ์สดให้เช่าพระ? จ๊ะ : หนูเป็นคนชอบทำบุญ รู้จักเกจิอาจาย์เยอะอยู่แล้ว เริ่มมาจากพี่แจ็คก่อนเค้าอยู่ในวงการพระ เค้าเช่าอย่างเดียวไม่เคยปล่อย แต่เราเป็นนักขาย ข่วงโควิดไม่มีงานเราหาอะไรมาทำมั้ย เริ่มจากขายเสื้อผ้าก่อน พี่แจ็คบอกลองมาไลฟ์พระมั้ย เริ่มจากน้อยๆก่อน 5-10 องค์ โดนโกง 40-50 ล้าน?  จ๊ะ :  หนุเป็นคนเชื่อเรื่องบุญกรรม ถ้าไม่ได้ทำกรรมมาด้วยกันไม่ได้เจอกันหรอก หนูคิดแค่นั้นเลย มิจฉาชีพทุกวันนี้ไม่ได้มาในรูปแบบคนธรรมดา มาในรูปแบบข้าราชการด้วยซ้ำ เค้ามาเป็นลูกค้าเราก่อน วางแผน 3-4 เดือนมาเป็นลูกค้าเราให้เราตายใจ มีการนำพาตำรวจมารองสารวัตรมาเจอเราโน่นนี่นั่น มีเอกสารทุกอย่างที่เป็นจริงเค้าเข้ามาจากการเช่าพระเราแต่ธุรกิจเค้าไม่ได้เกี่ยวกับการเช่าพระ เค้ามาชวนเราทำธุรกิจ บางคนมองว่าโง่หรือปล่าว เค้าให้ผลตอบแทนหรือปล่าว ไม่ค่ะ น้อยนิดมาก เรารู้สึกว่าเราสบายใจ ผลตอบแทนน้อยมันไม่ใช่ โดนครั้งเดียวเลยมั้ยหรือทยอย?...

“หมอพรทิพย์” เปรย คดีแตงโมเป็นคดีแรกที่ ตัวแทนผู้ตายไม่อยู่ข้างผู้ตาย!

ลั่นไม่รู้คดีจะจบยังไง ช่วยไขข้อสงสัย โดนทนายดังด่าเละ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เปิดใจคดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม  พร้อมยืนยันจุดตกเรือมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เผยเรื่องกระแสที่เข้ามาคนกล่าวหาหิวแสง ยันตนเองไม่รู้แนวโน้มคดีและไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่จะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี หนิง ปณิตา ธัญญ่า ธัญญาเรศ และอาจารย์เป็นหนึ่ง...

คุณแม่ลูกดก ลูกษอน ธัญญ์ญาฎา เล่าความแสบของลูกๆพร้อมเคล็ดลับสยบ ด้วยโหราศาสตร์

เปิดใจยกครอบครัว ลูกษอน ธัญญ์ญาฎา สามีพี่อู๊ด และลูกทั้ง 4 น้องแฟลี่ น้องเฟม น้องเรย่า และน้องโฟต ที่งานนี้บอกเลยว่าแต่ละคนมีความแสบต่างกัน จนทำเอาคุณแม่สุดเพอร์เฟคต้องปวดหัวจี๊ด พร้อมเผยเคล็ดลับสยบลูกอยู่หมัดเพราะใช้หลักโหราศาสตร์เข้าช่วย และยังสอนลูกถึงเรื่องความรักทุกประเด็นในรายการคุยแซบ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มีพี่เค ปิยวัฒน์และเป็กกี้ ศรีธัญญา ดำเนินรายการ  บ้านนี้หน้าตาดีหมดเลย? แม่ลูกษอณ : ที่มีลูกออกมาส่วนใหญ่ทำเด็กหลอดแก้ว คุณหมอก็คงจะเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงที่สุด เลยออกมาสมบูรณ์มีคนแรกคนเดียวที่เป็นธรรมชาติ พี่ลูกษอณตอนเด็กถูกเลี้ยงเหมือนตุ๊กตาไขลาน? แม่ลูกษอณ : คือพี่กับคุณแม่สนิทกันมาก คุณแม่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ทีนี้คุณแม่ต้องการให้พี่เก่งในทุกด้านพี่เรียนเกือบทุกด้าน วางตารางเรียนเป็นรายอาทิตย์ ชั่วโมงไหนยังว่างก็เอาไปเสียบอีก คุณแม่บอกเองว่าพี่เหมือนตุ๊กตาไขลาน ชั้นจับเธอไปตั้งตรงไหนก็ไขลานเธอก็เต้นๆ เลยทำให้เป็นคนที่เพอร์เฟคชั่นนิส? แม่ลูกษอณ : มันทำให้พี่เป็นคนจัดการไม่เป็น ส่งผลให้พี่มาถึงตอนเลี้ยงลูก ตอนเลี้ยงลูกมีปัญหามาก เพราะพี่เป็นคนที่ไม่เคยต้องไปดูแลใคร ไม่เคยต้องจัดการใคร เราเลี้ยงลูกยากมากตกใจ เพราะพี่เป็นคนเลี้ยงง่ายชี้ไปทางไหนก็ไปสิ่งแรกที่ขอสามีเลยตอนแต่งงาน ษอณขออย่างนึงจะมีลูก 5 คนโอเคมั้ย ขอเลย สามีบอกได้เลย พ่ออู๊ด : ผมเองมาจากครอบครัวที่ใหญ่ ทำไมต้องครอบครัวใหญ่อีกแล้ว รู้สึกว่ามันวุ่นวาย ซัก 2 คนได้มั้ย แม่ลูกษอณ : เราคิดว่าเลี้ยงง่าย เรามองจากตัวเราเอง เราไม่เคยคิดว่าเด็กยุคนี้จะเป็นแบบนี้ พี่ษอนเห็นบอกว่า1ใน4มีคนนึงที่โคลนนิ่งคุณพี่มาเลย? แม่ลูกษอน : ใช่ค่ะ  คือลูกคนนี้เป็นเหมือนตัวพี่แบบสามารถให้เขาทำทุกอย่างแทนได้ คือคิดเหมือนกันทำทุกอย่างได้เหมือนกัน เคยมีอยู่วันนึงเคยไปขอร้องไม่ต้องเรียนหนังสือก็ได้นะลูก เพื่อจบจะไปทำงานใช่มั้ยคะ พี่บอกลูกลาออกเลยแล้วมาเป็นเลขาแม่ทำงานให้แม่ตลอดชีวิตไปเลยก็ได้เพราะเขารู้ใจทุกอย่างคือคนนี้ เฟรย่า : รู้สึกว่าแค่แบบเวลาคุยกับคุณแม่ทุกอย่างจะความคิดตรงกันบางทีคุณแม่ยังไม่เปิดปากพูกหนูก็จะแบบอย่างงี้ใช่มั้ยคะ คุณแม่คิดอย่างงี้ใช่มั้ย จนมีวันนึงคุณแม่บอกว่า คือเฟรจะมีเพื่อนมีแฟน คนไหน คุณแม่ก็จะบอกเลยว่าแฟนลูกคือแฟนแม่นะ แฟรมีอะไรเฟรก็จะปรึกษาคุณแม่ทุกอย่าง เวลาตัดสินใจไร คือความตัดสินใจร่วมกัน ถ้าแม่ไม่โอเคแฟรไม่ทำ เมื่อไรที่แม่โอเคแฟรโอเค อ้าเราจะทำแบบนี้นะคะ โอเคเราทำ อะไรประมานนี้ค่ะ มีคนไหนที่คนละขั้วกับคุณแม่มั้ย? แม่ษอน:คนนี้ (แฟลี่) คนนี้นี้ไหลเป็นปลาไหลเลยพี่จับไม่อยู่เลย คือลูกสาวคนนี้เป็นคนที่เหมือนคุณพ่อ พี่เนี่ยเป็นคนตรงมาก เป็นคนที่แบบเดินเป็นเส้นตรง เป็นไม้บรรทัดเลยอ่ะนะคะ แต่ลูกสาวจะเป็นคนหัวไวคือไวซะจนแม่ตามไม่ไหวพี่ก็เลยทะเลาะกับเขาบ่อย คือเหมือนแบบเวลาสมมุติตอนที่เค้าเรียนจบใหม่ๆนะคะ พี่เอาเค้ามาทำงานกับพี่ก่อนปรากฎสมมุติเราจะเดินดิลงานตรงๆเนี่ย ลูกสาวจะไม่ แม่คือต้องออกนี่ก่อน วกนู่นเข้านี่ โอ้ยหูคือพี่ฟังแล้ว คือไปด้วยกันไม่ได้เด็ดขาด ไปหาปะป๋า สุดท้ายก็คือ ไปทำงานที่โรงแรมกับคุณอู้ด เป็นธุรกิจของคุณพ่อ ถูกคอกันเลยค่ะ คือเป็นคนพลิกแพลงทั้งคู่คือคุณพ่อก็พลิกแพลงเก่งมาก  แล้วแฟลี่รู้สึกแบบนี้มั้ยต่างกับแม่เลยมั้ย? แฟลี่:จิง ๆ อ่ะค่ะเนื้อนิสัยจิง ๆแล้วมันอาจจะแค่ไม่ตรงกันแต่ว่าในความที่เราไหลอย่างงี้คือเรามองว่าเรามีจุดยืนที่เราอาจจะไม่ได้ทำผิดนีกออกมั้ยคะ แต่เราแต่มันเร็วกว่าทางนี้เราก็ไปทางนี้หน่อยละกันอะไรอย่างงี้ค่ะ แค่คือบางทีคือเหมือนเรามองต่างกัน แต่ตวามที่คุณแม่เป็นคนตรงมาก บางทีคือเวลาแฟลี่ทำพลาดอะไรอย่างงี้ไป พอคุณแม่มาบอกมันก็เออจริงสิ่งที่เราทำมันก็ อาจจะไปไกลไปนิด อะไรอย่างงี้ค่ะ  แล้วเคยอธิบายให้พ่อแม่ฟังมั้ยว่าเนี่ยจิง...

“อนุวัติ” เปิดใจ หลังถูกเม้าท์ เนรคุณ ทิ้งช่องเก่าที่ร่วมงานกันมาถึง 15 ปี

อนุวัต เฟื่องทองแดง เปิดใจหลังร่วมงานครั้งแรกกับช่องวัน 31 พร้อมเคลียร์ถูกกล่าวว่าเณรคุณออกมาจากช่องเก่าหลังร่วมงาน 15 ปี ปัดเป็นแฟนกับแยม ฐาปนีย์ เผยถึงแฟนอายุน้อยกว่า 15 ปี ไร้ปัญหา ยันเข้าใจที่ตนต้องทำงาน 7 วัน  ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บSHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ บ้านใหม่เป็นยังไงบ้าง? อนุวัต : ยังปรับตัวอยู่เยอะเลย เมื่อก่อนทำงานเช้าไปต่างจังหวัด แต่ตอนนี้ทำงานทุกวัน 24 ชั่วโมง "ทำงานทุกวันเพื่อนความเป็นวันของเรา"  อยู่ช่องเก่ามานาน จะย้ายที่ตัดสินใจนานมั้ย? อนุวัต : 15 ปีครับ ตัดสินใจนานเป็นปี มันผูกพันธ์มาก ไม่รู้จะคิดยังไง ไม่รู้จะทำยังไงดี บอกใครก็ไม่ได้นั่งคิดคนเดียว อะไรจุดประเด็นว่าต้องออกจากที่นี่แล้ว? อนุวัต : มันต้องหาอะไรใหม่ในชีวิตบ้างเราเป็นคนโลดโผน อยากมีเส้นกราฟชีวิตตื่นเต้น หวือหวา ได้คิดอะไรใหม่ ๆ ได้ทำอะไรใหม่ ๆ บ้าง คนจีบเยอะ ทำไมตัดสินร่วมงานกับช่องวัน? อนุวัต : ถ้าพูดถึงตัวเงินเอาเงินเป็นที่ตั้ง คนพูดว่ามาซื้อตัวอนุวัติไปตั้งนานแล้ว แต่ช่องวันสม่ำเสมอมากในการชวนชวนทุกปี เสมอต้นเสมอปลาย เลยตัดสินใจมาวัน มีดราม่าแฟนคลับบอกย้ายช่อง เท่ากับเนรคุณหรือปล่าว? อนุวัต : ไม่เณรคุณหรอก ใครจะคอมเม้นท์ยังไง ผมอ่านทุกคอมเม้นท์ ผมอ่านหมด  ผมรู้สึกว่าต่างคนต่างความคิด ผมไม่ว่าอะไรเค้าเลย ขอบคุณด้วยที่เค้าติดตามเราเค้าถึงสนใจในตัวเรา เสียใจมั้ย? อนุวัต : ไม่รู้สึกเสียใจและไม่ว่าด้วย ถ้าเค้ารู้ความจริงทั้งหมดเค้าจะไม่ว่าอนุวัตเลย ถ้าเค้ารู้ทุกอย่าง คนในช่อง ๅๅเองคือยินดี เหมือนเป็นบ้านเราครอบครัวเราเข้ามากอด ทุกคนอวยพร แล้วเข้าไปกอดกับผู้ใหญ่ร้องไห้นะ เค้าบอกพี่ดีใจกับหนูด้วย จบกันด้วยดี จบสวยมั้ย?...

เปิ้ล จารุณี โดนคนในครอบครัวกระทืบอ่วม! ช้ำใน กินอาหารไม่ได้ ต้องพักรักษาตัวเกือบเดือน

นักแสดงมากความสามารถ เปิ้ล จารุณี เจ้าของฉายาราชินีนักบู๊ของเมืองไทย ที่วันนี้จะมาเล่าถึงเรื่องสุดช้ำใจโดนคนในครอบครัวกระทืบ จนต้องพักรักษาตัวนานเกือบเดือน รับเคยคิดน้อยใจชะตาตัวเอง เผยเส้นทางการเข้าวงการบันเทิงเพราะอยากหาเงินเลี้ยงครอบครัว ทำงานหนักในวงการ หลังหมดสัญญาได้เงินติดตัว 60,000 บาท กดดันจนทำร้ายตัวเอง เผยประสบการณ์เฉียดตายตอนถ่ายละครจนเป็นข่าวดัง ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บSHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ ธัญญ่า ธัญญาเรศ และหนิง ปณิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ เมื่อไม่นานมานี้ถูกทำร้ายร่างกาย? พี่เปิ้ล : อันนี้เป็นเรื่องรันทดที่สุดแล้วในชีวิต ถูกทำร้ายร่างกาย เป็นคนใกล้ชิดเป็นคนในครอบครัว ซึ่งเราดูแลเค้ามาตั้งแต่ข้าวเม็ดแรก เราไม่คิดว่าวันนึงเราจะมาถึงที่ถูกกระทืบๆๆๆ พี่ทำงานไม่ได้ มันเป็นคดีอาญา ป่วย 22 วัน เราต้องขอลาละคร ส่งแผล ผลการตรวจต่าง ๆ ให้ดู เราถูกกระทืบบนอกบนลิ้นปี่ เราไม่สามารถลุกขึ้นมาต่อสู้ได้ป้องกันตัวเองได้ แรก ๆ ที่โดนก็ยังพอเดินได้ แต่พอเราขับรถจากต่างจังหวัดมากรุงเทพก็ไม่ไหวค่ะ เลยต้องเข้าโรงพยาบาล หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ทานอาหารไม่ได้ทานแล้วอาเจียน ก็ไปส่องกล้องมีผลในกะเพาะเลือดออก ก็ทำการรักษา เรื่องราวต่อเนื่องมาเป็นปีค่ะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราเจอกันแบบธรรมดาแต่เราตะโกนทัก คำที่เค้าตอบกลับมาเรียกเราว่ามัน เราก็ตกใจเราบอก ทำไมละมึง เค้าพูดกับเราอย่าไปพูดกับมัน เราตอบกลับไปทำไมละมึง จากนั้นเค้าอยู่ท้ายรถผละจากรถเข้ามาเราพร้อมกับคำพูดที่ว่าขอทีเดียว เรายังติดสายอยู่ถือโทรศัพท์อยู่เลย เค้าบอกว่าเราหาเรื่องแล้วก็ตะโกนด่าเค้ามากมาย เค้ามีพยานเท็จเป็น 10 กว่าคนมันเป็นร้านก๋วยเตี๊ยวด้วย เค้าบอกว่าเราหาเรื่องเค้าก่อน ถ้าเราจะไปทำเค้าก่อนมันเป็นไปไม่ได้เพราะพี่โทรศัพท์อยู่กับหุ้นส่วน พอพี่โดนเราเอามือยันอัตโนมัติ แล้วโทรศัพท์หล่นแต่โทรศัพท์ไม่ได้ถูกตัด พี่มีพยานคนเดียว ไม่งั้นพี่ไม่มีเส้นสายที่ไหนเจอพยานเท็จเข้าไป 11 คน พี่ต้องตายแน่ ๆ พี่ผ่านตรงนั้นมาด้วยความรู้สึกร้าวราน ปมเรื่องคืออะไร ทำไมมาทำร้ายขนาดนี้? พี่เปิ้ล : มันอาจจะยาวนานมาในจิตใจของเค้า เพราะความต่างของอายุต่างกันรอบนึง 12 ปี เค้าก็จะถูกโอบอุ้มดูแลในครอบครัว เราทำงานนอกบ้าน ความผูกพันในบ้านเฉพาะวันไหนที่ได้หยุด คือน้อยมาก มันก็กลายเป็นอีกกันข้างหลังแล้วเราก็โดดเดี่ยวอยู่คนเดียวทำงาน สรุปได้ว่ามันเป็นเรื่องผลประโยชน์ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก? พี่เปิ้ล : ก่อนหน้าที่เราจะถูกทำร้าย เราเคยผลักเค้าออกไปได้เพราะเค้าดื่มเบียร์ วันนั้นที่เค้าจะทำร้ายเรา อีกคนนึงเราเลี้ยงดูมาเหมือนกันตั้งแต่ข้าวเม็ดแรก ปัจจุบันคนนี้ทำให้เราไม่กล้าเข้าบ้าน เพราะเราได้ยินจากกล้องวงจรปิดว่า ถ้าเค้าจะทำเค้าไม่ทำเหมือนอย่างเดิมนี่หรอกจะเอาให้โดดเดี่ยวเลย จะเอาให้มันเป็นอัมพาต นี่คือคนที่เราเลี้ยงเค้ามาตั้งแต่ข้าวเม็ดแรกนะ เราไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกยังไงค่ะ แต่ตำพูดของเค้าได้ผลคือเราไม่กล้าเข้าบ้านอีก เราก็ต้องอยู่ให้ได้คนเดียว ในการดูแลครอบครัวมาจากน้ำพักน้ำแรงพี่เปิ้ล? พี่เปิ้ล : พี่ทำงานตั้งแต่อายุ 12 พอที่บ้านไม่ให้เรียนแต่เราอยากเรียน ในเวลาเดียวกันเราเห็นที่บ้านลำบาก ก็ยังตัวเล็กกะจองอแแงกันอยู่ เราก็เริ่มหางานทำ ที่ให้ได้เงินมากขึ้น แล้วมาเจอข่าวรับนักแสดง เราก็เอาเลยเพราะคิดว่ารายได้ดีกว่าแบกปูน สมัครเป็นแบบเตะต่อยไป รอบแรกเค้าก็ไม่ได้เลือก แต่เค้าก็ไปรื้อใบสมัครมาดู เราก็ถูกเรียกไป ตอนนั้นอายุ 14-15  ตอนที่ดังมากอายุเท่าไหร่? พี่เปิ้ล : ก็ 17 บ้านทรายทอง ตอนนั้นก็ทำตัวไม่ถูก บทมันส่งความพร้อมขององค์ประกอบปัจจัยทั้งหมดไม่ใช่พี่คนเดียว จุดเริ่มต้นคืออยากหางานที่มีรายได้เยอะมาเลี้ยงทุกคน แต่ตอนที่โดนรุมกระทืบแล้วต้องออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียวความรู้สึกเป็นยังไง? พี่เปิ้ล : ตอนนี้ค่อยยังชั่วแล้ว ไม่แค้นค่ะ เสียใจอยู่แล้ว เป็นเราระวังตัวมากกว่า เพราะเค้าขู่อาฆาตเราอยู่ ทำไมไม่ใช้สื่อเพื่อพูดออกไป? พี่เปิ้ล : เพราะมันเป็นเรื่องครอบครัวไงค่ะ คำตัดสินของพี่จบแล้วโดยผู้ที่ทำร้ายเรา ตอนแรกเค้าไม่รู้ว่าเรามีอะไรบ้างเค้าพยายามเอาพรรคพวก ได้พยานเต็มเลย ใส่ความเรามา พอไปถึงศาลเรามีคลิปวีดีโออยู่ชายคาบ้าน ว่าเรายืนนิ่ง...

“ตั๊ก นภัสกร” เล่าเรื่องราวความรัก 20 ปีกับ “ป๊อก ปิยธิดา” เผยถูกเม้าท์ เกาะฝ่ายหญิงดัง!

นักแสดงมากความสามารถสามีสุดอบอุ่นอย่าง ตั๊ก นภัสกร ที่วันนี้จะมาเล่าถึงเรื่องราวความรัก 20 ปีกับนางเอกสุดฮอต ป๊อก ปิยธิดา ในตอนนั้น ตั้งแต่เริ่มต้นจนแต่งงานและมาถึงปัจจุบัน งานนี้ไม่ง่ายเพราะฝ่ายสาวเป็นนางเอกดังต้องเจอคำดูถูกเกาะภรรยาดัง พร้อมเผยสาเหตุที่ไม่อยากมีลูกทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บSHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มีพี่เค ปิยวัฒน์ ชมพู่ ก่อนบ่าย และตั๊กแตน ชลลดา ดำเนินรายการ ตัวเองคลั่งรักภรรยามั้ย? ตั๊ก : เราไม่ได้คลั่งครับ แต่เรารักเป็นประจำ คบกันตั้งแต่ก่อนแต่งงานทั้งหมด 20 ปี ก่อนแต่ง 10 ปี หลังแต่ง 10 ปี  เจอกันยังไง? ตั๊ก : ด้วยเหตุบังเอิญ ผมไปกินข้าว ตอนนั้นเล่นละคนเวที ซ้อมเสร็จก็ไปกินข้าว ดึกแล้วเที่ยงคืน ตอนนั้นเจอไม่รู้ว่าเค้าเป็นดารา เราไม่ได้อยู่ในโลกสื่อมากนัก เค้าดัง ผมประเภทอยู่กับความมืดซ้อมละครเวทีเลิกดึกตื่นเช้าก็ไปซ้อมออีกชีวิตก็อยู่กับมัน ไม่รู้ว่าเป็นดารา ตอนเจอผู้หญิงคนนี้สวยมั้ย? ตั๊ก : ไม่รู้ใช้คำว่าไ ตอนเจอก็หือ มันเหมือนสตั๊นท์เข้าไปข้างใน ตอนนั้นมีพี่ปุ้ยเจ้าของร้าน ผมรู้จักกับพี่ปุ้ย ยังไม่ถึงขนาดชอบ แต่เค้าดูมีสเน่ห์  ใครจีบใครก่อน? ตั๊ก : ไม่รู้สิมันเกิดจากการพูดคุยกันก่อน จากการมานั่งคุยทุกวัน กินข้าวด้วยกันทุกวัน รู้สึกว่าทำไมมันคุยกันได้ทุกเรื่อง จีบผู้หญิงสไตล์คุณตั๊กเป็นยังไง? ตั๊ก : ผมจีบไม่เป็น ผมไม่เข้าใจคำว่าจีบมันเป็นยังไง คุยกันแล้วทันก็ค่อยๆว่าเรารู้สึกอะไรต่อกันมั้ย เค้าบอกว่าก็รู้สึกเรานั่งคุยแล้วรู้สึกว่าเป็นการคุยที่อบอุ่น เรื่องนี้สนุก เรื่องนี้หัวเราะ บางทีมีปัญหาก็มาปรึกษากันช่วยแก้ปัญหาแบบง่าย ๆ เราเล่นละครเวทีเค้าเล่นพีเรียด ก็มาเล่าให้กันฟังว่าของใครเป็นยังไง ชอบตรงไหนมากที่สุดถึงได้มาเป็นแฟนกัน? ตั๊ก : อันดับแรกประทับใจคือรอยยิ้มที่มีสเน่ห์ เราไม่คิดว่าจะลือกใครก็ได้ เราทำงานที่เราชอบโลกแคบของเราก็แฮปปี้แล้ว โลกคุณป๊อกเค้าเป็นดาราเป็นคนที่รู้จัก เราอยู่ง่ายๆสนุกสนานในโลกของเราเองก็ไม่ได้คิดอะไรแค่นั้นแหละ ไม่คิดว่าทุกวันนี้จะเป็นแบบนี้ เมื่อก่อนการคบกันยังไม่เปิดตัว เราใช้ชีวิตยังไงบ้าง? ตั๊ก : ไม่ได้ปิดบังอะไร ไม่ถึงขนาดแอบเพราะเราเจอกันตอนค่ำ ต่างคนต่างไปทำงานกลับมากินข้าวกัน เมื่อก่อนยังไม่มีสื่อมือถือถ่ายรูป ไม่มีโซเชียล  ตัดสินใจเปิดตัวอย่างเป็นทางการนานมั้ย? ตั๊ก : ผมค่อย ๆ ไป อยู่ที่ตัวผู้หญิงถ้าเค้าพร้อมไม่พร้อมอยู่ที่คุณเลย ผมไม่เคยเร่งรัดหรืออะไรทั้งสิ้น อยู่ที่เค้าพอใจ เค้าเปิดตัวเองครับ...

“เมย์ พิชญ์นาฏ” ย้อนเล่าเส้นทางรัก ไฮโซบิ๊ก จากเพื่อนเปลี่ยนสถานะเป็นแฟน พูดชัด…พร้อมแต่งแล้ว!

สาวสวยสุดแซ่บ เมย์ พิชญ์นาฏ ที่วันนี้จะมาเล่าโมเมนต์หวาน ๆ หลังเจ้าตัวควงหวานใจ ไฮโซบิ๊ก บินลัดฟ้าไปกระชับรักต่างแดน พร้อมเล่าเส้นทางความรักจากเพื่อนขยับสถานะมาเป็นแฟน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ล่าสุดเมย์จะกลับมาเล่นละครที่ช่องวัน เขาบอกว่านี่เป็นนางร้ายตัวแม่เลยเหรอ? เมย์ : จริงๆ เมย์เล่นทุกบท ตั้งแต่เด็กมาก็เล่นหนัง เป็นนางเอกบ้าง เป็นตัวร้ายบ้าง คือคุณแม่เป็นโรคที่แบบว่าทุกครั้งที่เห็นเราเล่นร้ายเขาเสียใจ เขารู้สึกทำไมต้องร้าย คือหัวโบราณทำไมต้องร้ายขนาดนั้น ลูกไม่กลัวคนเขามองเรานิสัยไม่ดีเหรอ เราก็แบบเอ้า..มันคือละครไหมอะ โอเคเรื่องหลังๆ พยายามเอาใจแม่ก็เล่นเป็นคนดี แต่ต้องยอมรับว่าเวลาเล่นร้ายมันสนุก แต่ช่างมันเถอะ เวลาเขาเขียนข่าว ไปเที่ยว นางร้ายตัวแม่นู้น นั่นนี่ เราก็เลยแบบคนคงชอบแบบนี้มากกว่า เรารู้ใช่ไหมลุคของเราคือนางร้าย? เมย์ : เปรี้ยว ๆ เมย์ไม่ได้เรียบร้อย แต่ไม่ได้แปลว่าเมย์นิสัยไม่ดีนะ เมย์ก็แค่อาจจะดูเซ็กซี่มั้งเวลาถ่ายแบบ เรื่องความรักล่าสุดไปเที่ยวกันมา? เมย์ : ไปสวิต ปารีส คือแฟนเมย์เขางานเยอะ งานเขาจะไม่เหมือนคนอื่น คือเขาขายรถ แล้วรถมักจะขายดีตามเทศกาลต่าง ๆ ฉะนั้นช่วงเทศกาลเขาจะไม่อยากไปไหน เขาต้องคอยเช็กรถ เช็กสต็อก ทำราคา ตอนแรกเราวางแพลนว่าจะไปพฤษภาคม ก็ทำใจแล้ว สงกรานต์เราคงเที่ยวทะเลอยู่นี่ อยู่ดี ๆ ใกล้ ๆ เขาคงเห็นน้องสาวเขาไปเที่ยว เขาเลยบอกไปเที่ยวกันเถอะ เดี๋ยวพาไป เขาเคยพูดไว้นานแล้ว เดี๋ยวพาไปสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเมย์ไม่เคยไปเลย เขาบอกว่ามันสวยมากเลย เราจองกะทันหันมาก ต้องยอมรับว่าทุกอย่างมันแพงไปหมดเลย แต่อะ 2 ปีที่ไม่ได้ไปก็ให้โบนัสตัวเองแล้วเขาก็บอกว่าเอาพี่กอล์ฟ ผู้จัดการเราไปด้วยสิ เขาทำทัวร์มาก่อน เลยให้เขาพาเที่ยวก็สนุกดีไปกัน 3 คน แล้วนอนกันยังไง? เมย์ : เมย์ก็ต้องนอนคนเดียว เขาก็นอนกัน 2 คน ที่ฮือฮาคือใส่บิกินี่ท้าลมหนาว? เมย์ : ก็เป็นโรงแรมโรงแรมนึง ข้างหลังเป็นภูเขา คนถามว่าน้ำหนาวไหม จริง ๆ คือน้ำอุ่น บรรยากาศดี ถามว่าแฟนหวงไหม เขาก็อยู่ข้าง ๆ นี่แหละ เป็นคนถ่ายให้ เวลาจะลงก็ให้เขาดูก่อน เขาก็แบบอันนี้ดูโป๊ไป เอารูปนี้ดีกว่า ก็จะมีเลือกให้บ้าง มันเคยแว๊บไหมว่าสุดท้ายอยากแต่งงานกับบิ๊ก? เมย์ : เราคบใคร เราก็จริงจังหมดนะ แต่มันตอบไม่ได้หรอกว่าคนไหนไปถึงขั้นไหน แต่กับคนนี้เอาจริง...

“ติ๊ก ชิโร่” ควงลูกสาว “น้องชาเม” เคลียร์คำครหาเปิดค่ายเพลงดันลูกเข้าวงการจริงไหม?!

ศิลปินนักร้องขาแดนซ์ในตำนาน ติ๊ก ชิโร่ ที่วันนี้จะขอควงลูกสาวคนสวย ชาเม ชามันดา มาเปิดใจครั้งแรก เคลียร์คำครหา เปิดค่ายเพลง เพราะหวังดันลูกสาวเข้าวงการ พร้อมทั้งคุณพ่อติ๊กห่วงลูกสาวหนักมาก ถึงขั้นไม่ให้มีแฟนจริงไหม โดยงานนี้ทั้งคู่มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญาเป็นพิธีกรดำเนินรายการ พี่ติ๊กอยู่ในวงการบันเทิงมามากกว่า 30 ปี? ติ๊ก ชีโร่ : ครับ 35 ปี ปีนี้เข้าปีที่ 36  ล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้วมีข่าวเม้าท์ออกมาว่านักร้องขาแดนซ์ภรรยาแอบแซ่บกับคนสวน แล้วบอกว่าลูกที่มีอยู่อาจจะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ซึ่งบางคนบอกว่า ติ๊ก ชิโร่หรือเปล่า เรารู้สึกยังไง? ติ๊ก ชิโร่ : เวลาเราเห็นข่าวคนอื่น อักษรนั้น อักษรนี้ มันก็มีอะไรทำให้เราคิดตามไปด้วย บางทีก็เป็นจริง บางทีก็ไม่เป็นจริง ทีนี้พอมาบอกว่าหวยออกที่เราก็น่าจะใช่อยู่ เป็นความรู้สึกแบบนั้น เราอยู่ในวงการมานานไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ พอมีขึ้นมารู้สึกว่ายังไงดีเนี่ย แต่ในฐานะที่อยู่วงการนี้เราก็นิ่งไม่ตอบโต้อะไรทั้งสิ้นเลย แสดงว่าตอนนั้นพี่ไม่ได้แก้อะไรในสื่อเลย? ติ๊ก ชิโร่ : เท่าที่จำได้ไม่มีแก้อะไรเลย ก็ถือว่าช่วงนั้นเขาพูดถึงเรา ถ้าเป็นคนที่อยู่ในวงการก็ต้องฝากขอบคุณกัน ว่ายังไม่ลืมกัน ในส่วนครอบครัวล่ะ? ติ๊ก ชิโร่ : เราก็คุยกับทั้งอ้อ ชาเม ยาหยี สมาชิกครอบครัวของเรา คุยกันเข้าใจกันดีว่าอันนี้เป็นอันนั้น อันนั้นเป็นอันนี้สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม เหมือนกับคลื่นที่มันกระทบฝั่งมาเรื่อย ๆ  ข่าวนี้อยู่นานไหม? ติ๊ก ชิโร่ : ไม่นานมากเท่าไหร่นะครับ ชาเมเห็นข่าวแบบนี้เรารู้สึกยังไง? ชาเม : ตอนแรกแอบตกใจนิดนึง แต่ว่าเราก็ไม่ได้สนใจอะไร รู้สึกว่ามันเป็นกอสซิบมันมาแล้วเดี๋ยวมันก็ไป มีไปส่องกระจกไหม หู จมูก เราเหมือนคุณพ่ออยู่นะ? ชาเม : ใช่ ๆ หนูก็ไปคุยกับน้องว่าทำไมมีข่าวแบบนี้ เอ๊ะ...หรือว่าเราไม่ใช่ลูกพ่อแม่ ได้คุยกับแม่ไหม? ชาเม : หนูก็ขำ...

สุดช็อก “เปิ้ล นาคร” เผยภรรยาเคยขอหย่าเพราะ ?! ปลื้มลูกชาย คว้าแชมป์เจ็ตสกี 

คุณพ่อคนเก่ง “เปิ้ล นาคร” ได้ควง “น้องออก้า” ลูกชายคนเก่งมาเปิดใจเล่าหลังคว้าแชมป์เจ็ทสกีชิงแชมป์ประเทศไทย 2022 พร้อมเล่าเรื่องราวสุดช็อกถูกภรรยา “จูน กษมา” ขอหย่าหากทำเรื่องนี้!! ผ่านรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง ONE31 ที่มี ชมพู่ ธัณย์สิตา และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกร น้องออก้าเพิ่งคว้าแชมป์มา? เปิ้ล นาคร : แชมป์เจ็ทสกีชิงแชมป์ประเทศไทย 2022 อันนี้ถือว่าได้แชมป์ประจำสนาม เพราะว่าการแข่งขันเจ็ทสกีชิงแชมป์ประเทศไทยจะมีทั้งหมด 4 สนามใน 1 ปี แข่งแต่ละสนามแล้วเอาคะแนนมารวมกัน ว่าใครจะได้ที่ 1-2-3-4 เป็นแชมป์ประเทศไทย แล้วก็จะได้เป็นตัวแทนไปแข่งเวิลด์ไฟนอลชิงแชมป์โลก สำหรับออก้าถือเป็นแชมป์ครั้งแรกเลยรึเปล่า รู้สึกอย่างไรบ้าง? ออก้า : ดีใจมากครับ ตื่นเต้นมากครับ ตอนเข้าเส้นเขาก็จะบอกว่าเราได้แชมป์ครับ การแข่งครั้งนี้ห้ามคนที่บ้านไปดูไปเชียร์เลย? ออก้า : ใช่ครับ  เปิ้ล นาคร : จริง ๆ แล้ว ปกติพี่เปิ้ลจะอยู่กับเขาตั้งแต่เขา 3 ขวบเลย คือถ้าเขาจับเจ็ทสกีเมื่อไหร่ต้องมีพี่อยู่ด้วยเสมอแต่ในสนามครั้งนี้เราดันเสี่ยงสูง เลยกักตัวอยู่ที่บ้าน เพราะเกรงใจกลัวทำชาวพิจิตรเดือดร้อน เลยรับผิดชอบต่อสังคมกักตัวอยู่ที่บ้าน ก็ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 20 กว่าปีที่ไม่ได้ไปสนามแข่ง และปล่อยลูกไปคนเดียว ในช่วงหน้าซิ่วหน้าขวาน เลยส่งแม่ไปเป็นแม่ทัพบัญชาการแทน เราก็ดูเขาแข่งทางไลฟ์สด ก็บอกให้เขามีสมาธิ ก็ให้กำลังใจลูก แต่ในที่สุดเขาก็ทำได้เซอร์ไพรส์เราเหมือนกัน แมทช์นี้มีการท้าและบนกันด้วยกับแม่จูน ที่จะแต่งหญิง? เปิ้ล นาคร : อันนั้นคือแมทช์ก่อนหน้า ตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะบนไว้ว่าถ้าลูกติด 1 ใน 5 ก็จะไปรำแก้บน แต่ครั้งนี้เราก็บอกแม่จูนว่าถ้าลูกได้ที่ 1 ป๊าก็จะแก้ผ้าวิ่ง ก็พูดไปแล้วแต่ยังไม่ได้ไหว้  ตอนนี้ที่ป๊าไม่ได้ไปเชียร์รู้สึกกดดันกว่าไปเชียร์มั้ย? ออก้า : มันก็จะสบายขึ้นเพราะเวลาป๊าไปเขาจะพูดแล้วเราก็รู้สึกกดดันครับ  เปิ้ล นาคร : นึกว่าไม่มีเราแล้วจะใจเสีย ไม่มีกำลังใจ อ่อเพิ่งรู้พอไม่มีป๊าแล้วมีกำลังใจหรอ ถ้ามีแมทช์หน้าจะให้ป๊าไปเชียร์หรืออยู่บ้านเหมือนเดิมดีกว่า ออก้า : ให้ป๊าไปเชียร์ดีกว่า ทำยังไงถึงได้แชมป์ขนาดนี้ เห็นว่าซ้อมหนักมากเลย? ออก้า : ใช่ครับ ซ้อมบ่อย เปิ้ล นาคร : เขาก็จะซ้อมบ่อย อาทิตย์ละ 4 วัน ก็ต้องให้เขาซ้อม ตัวเขาชอบด้วย พอรู้ว่าจะไปซ้อม ไปแข่งก็จะไม่เป็นอันกินอันนอนเลย จะต้องถามป๊าอีกกี่วันจะแข่ง คือเขานับเคาว์ดาวน์ตลอด แต่พอลงสนามก็เหมือนปล่อยปลาลงเขื่อนพอเปิดประตูรถลงสนามก็คือจะหายไปกับเพื่อนนักแข่งของเขา เขาจะชอบมาก สนุกมาก สมัยวัยรุ่นพี่เปิ้ลก็เป็นแชมป์เจ็ตสกีอยู่แล้ว พอรู้ชายมาสานต่อแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?...