22/11/2024

คุยแซ่บShow

“เอมมี่ มรกต” ควงสามี เปิดใจรัก 17 ปี ชีวิตคู่เหมือนจำเลยรัก – เคยเลิกกันเพราะฝ่ายชายไม่อยากมีลูก?!

เอมมี่ มรกต ที่วันนี้ควงคุณสามี หนุ่ม จิรยุทธ มาเปิดใจที่แรกกับเส้นทางรัก 17 ปี และปัญหาความรักที่ทำเอาสาวเอมมี่ถึงขั้นออกปากว่าชีวิตคู่เหมือนเป็นจำเลยรัก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ คู่นี้คบกันมานานมาก? เอมมี่...

ดวงประจำวันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2566

ดวงประจำวันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2566 ฤกษ์ดีประจำวันเสาร์เวลา 10:09 - 17:09 น. สีมงคล สีขาว สีม่วง สีดำ เลขไพ่ที่ได้ทั้งหมด 78503 เลขมงคล 7 8 5 เลขเด่น...

“ตั้ม วราวุธ” ควง “หมวย” เปิดใจอุปสรรครัก คบแฟนคลับเป็นแฟน! รัก 8 ปีสุดทรหด แม่กีดกัน แฟนคลับคว่ำบาตร

“ตั้ม วราวุธ” ศิลปินและพิธีกรสายฮา วันนี้ควง “หมวย ธันยาธร” แฟนสาวนอกวงการ มาเปิดใจครั้งแรก หลังคบหากันมายาวนาน 8 ปี กับเส้นทางสุดทรหด แม่กีดกัน แฟนคลับคว่ำบาตร รวมทั้งเคยทะเลาะกันจนหนีออกจากบ้าน เกิดอะไรขึ้น ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี ชมพู่ ก่อนบ่าย และ...

“อ้วน รีเทิร์น” ควงสามี “หมอย้ง” เผยโมเมนต์ครบรอบ 11 ปี รับเล่นของ สักจิ้งจก ไว้ในที่ลับ ทำผู้ชายหลง!

อ้วน รีเทิร์น ที่วันนี้ควงสามีรุ่นน้อง หมอย้ง เพิ่มศักดิ์ มาสยบข่าวลือขาเตียงหัก พร้อมยืนยันด้วยของขวัญล้ำค่าครบรอบ 11 ปี สร้อยเพชรมูลค่าหลายล้านบาท เคลียร์ชัดเคล็ดลับที่ทำให้คุณสามีหลงหัวปัก หัวปำขนาดนี้ เพราะแม่อ้วนทำของ สักที่จุดลับจริงหรือเปล่า โดยทั้งคู่มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา...

“หนิง ปณิตา” เมียหลวงใจพระ เล่านาทีเผชิญหน้ามือที่สาม 

หลังจากที่เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566  “หนิง ปณิตา พัฒนาหิรัญ” เดินทางขึ้นศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เผชิญหน้าบุคคลที่สาม ในคดีที่หนิงเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคู่กรณี ในคดีละเมิดเรียกค่าเสียหายจากการทำให้ครอบครัวต้องพัง โดยทั้งคู่ใช้เวลาไกล่เกลี่ยนานถึง 7 ชม. ก่อนตกลงกันได้ด้วยดี คู่กรณียอมโพสต์คลิปขอโทษ หนิง ในไอจี และห้ามลบคลิปเป็นเวลา 1 ปี ด้าน หนิง ยอมลดค่าเสียหายให้เหลือ 3 ล้านจากที่เรียกไป 10 ล้าน ให้ผ่อนจ่าย 4 ปี ล่าสุด หนิง ได้ออกมาเปิดใจทุกเรื่องราวผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี ชมพู่ ก่อนบ่าย และ ตั๊กแตน ชลดา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ มีโอกาสเจอหน้ากันครั้งแรก เป็นยังไง? “ณ วินาทีแรก เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่รู้สึกอะไร ความรู้สึกมีอยู่แล้วแหละ โกรธมันมี แต่เรารู้สึกที่ว่าจะโกรธก็ต้องมีสติตลอด ต้องสั่งตัวเองให้ใจเย็นและมีเหตุผล ตอนเจอเขาก็มือสั่นนะ แต่พอหายใจเข้าออก มีสติ ใจเย็น ทุกอย่างกำลังจะดีแล้ว ก็อยู่ในสภาวะที่เราควบคุมได้” มีจังหวะพีคปะทะคารมกันด้วย? “ไม่เรียกว่าปะทะคารม พอศาลท่านเมตตาให้เราไกล่เกลี่ยกัน ก็เป็นจังหวะที่เรากับเขาได้เผชิญหน้ากันพูดคุยกันครั้งแรก แน่นอนว่าการพูดคุยกันครั้งแรก เราก็อยากพูดในส่วนของเรา ว่าเรารู้สึกยังไง เราก็พูดกับเขาว่า ขอโทษนะที่พูดทั้งหมด เรามีระยะเวลาพูดสั้นมาก เราพูดชัด ๆ ตรง ๆ ไม่ต้องแปล แล้วหนิงเป็นคนแบบนั้น หนิงขอแค่อย่างเดียวการเคลียร์กันให้สำเร็จและแยกย้ายจากกันไปด้วยดี มันต้องมาจากพื้นฐานที่ว่าคุณรู้สึกว่าคุณผิดก่อน ถ้าคุณรู้สึกว่าผิดได้มันก็จะไปในทิศทางที่ควรจะไปได้ ซึ่งยอมรับว่าน้องทำได้ดีพอสมควร แล้วพอเขาทำได้ดีพอสมควร มันทำให้เราเปิดใจที่จะฟังอะไรอีกหลาย ๆ คำที่เขาพูด แต่ถ้าเขาทำตรงนี้ไม่ได้ มันก็ทำให้เราไม่ได้เปิดใจฟังเขา เรื่องมันก็จะไม่จบ ถูกมั้ย ก็ต้องไปอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถอย ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมที่จะเป็นคนฟัง” ในฐานะรู้จักพี่หนิงมานาน ตอนแรกคิดว่าโหด ดุ แต่จริง ๆ เป็นคนใจอ่อนและใจเย็นมาก เมื่อวานก็เป็นอีกครั้ง พอเขาร้องไห้ ขอโทษ แม่ก็ใจอ่อนให้อภัยเขาเลย ทำไมถึงเห็นใจเขา? “เป็นคนเห็นน้ำตาคนไม่ได้ นี่คือจุดอ่อนของเรา แต่บนความที่ไม่ได้เรียกว่าให้อภัยหรอก เรียกว่ายอมเปิดใจยอมฟังคนอื่นบ้าง เพราะปัญหาทุกปัญหาเวลาเกิดต้องฟังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร เขาทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร พอเขาพูดมาเราก็บอกว่ามันไม่ใช่ สิ่งนี้คุณก็ต้องการแบบนี้ อย่างเขาบอกว่าเขาโดนผู้ชายหลอก เราก็บอกว่าไม่ หนิงไม่ได้เข้าข้างจิน อย่าคิดว่าการที่บอกว่าไม่ คือหนิงเข้าข้างจิน แต่มีคนเตือนคุณนี่ ถ้ามีคนเตือนคุณ คุณต้องรับฟังแล้ว คุณจะบอกว่าโดนหลอกไม่ได้ เพราะมีคนเตือนคุณ คุณต้องยอมรับตรงนี้ก่อนว่าคุณไม่ฟังใคร ถ้าไม่ฟังใครแล้วรู้ว่าเขายังไม่ได้เลิกกับครอบครับครัวเขา แสดงว่าคุณผิด แต่ถ้าคุณฟัง คุณออกไปเลยนะ แต่นี่คุณไม่ฟัง แต่ถามว่าเขาโดนหลอกจริงมั้ย เขาก็อาจโดนการพูดเหมือนที่เขาให้สัมภาษณ์ไป เราก็ต้องเปิดใจฟังตรงนี้ ตรงนี้เลยเป็นจุดที่ทำให้เราเห็นใจเขา” มีข่าวออกมาว่าคู่กรณีพี่หนิงร้องไห้ คำไหนที่ทำให้เขาร้องไห้ออกมา? “ประโยคที่บอกว่าก่อนอื่นต้องยอมรับให้ได้ก่อน หนิงยอมรับฟังแล้วว่าโดนหลอก แต่โดนหลอกแล้วยอมให้เขาหลอกด้วยมั้ย มันเป็นจุดที่ทำให้ตัวเองรู้สึกต้องยอมให้เขาหลอกมั้ย หนิงขอไม่เอาคำพูดที่เราคุยกันอย่าไปลงดีเทล เพราะน้องเขาทำในส่วนที่ต้องทำ ณ ตรงนั้น ต้องยอมรับว่าถ้าเขายอมรับแล้วก็โอเค คนเราถ้าไม่ยอมรับจะเดินต่อไม่ได้ แต่วันนี้เขายอมรับ เราต้องให้โอกาสเขามั้ย คนเรามีใครไม่เคยทำผิด วันนี้หนิงมานั่งตรงนี้ได้เพราะหนิงเคยทำผิด และทุกคนยังเคยให้อภัย สังคมยังให้อภัยในสิ่งที่หนิงทำผิด หนิงถึงนั่งตรงนี้ได้ สังคมก็ต้องให้อภัยถ้าเขาทำผิด เพราะเขายอมรับ เราก็ควรให้โอกาสและดูว่าข้างหน้าเขาจะทำยังไง ถ้าเขาแก้ไขได้ ทำให้เราสร้างคนดี ๆ ได้คนนึงเลยนะ แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้ อันนั้นก็คือตัวเขา สำหรับเรากับเขา จบเรียบร้อย”...

“จิ๊บ ปกฉัตร” ควง ผจก. รับผิดชอบคลิปหนีตายกลายเป็นไวรัล ลั่นไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง ระแวงจนแพนิค

กรณีเด็กชายอายุ 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงที่สยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยหนึ่งในคนบันเทิงที่อยู่ในเหตุการณ์ คือ “จิ๊บ ปกฉัตร เทียมชัย” และ “เอ็ม” ผู้จัดการส่วนตัว ที่เจ้าตัวได้ถ่ายคลิประหว่างหนีตายเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์จนกลายเป็นกระแสไวรัล และถูกติติงเป็นจำนวนมาก ถึงวิธีการเอาชีวิตรอดที่ไม่ถูกหลักวิธี ล่าสุดทั้งคู่ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์  และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ จิ๊บ ปกฉัตรและเอ็ม ผู้จัดการส่วนตัว จิ๊บ : ก่อนอื่นต้องพูดว่าขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและภาวนาอย่างที่สุดให้ผู้บาดเจ็บตอนนี้รอดปลอดภัย ในฐานะที่เราเจอเหตุการณ์มาเมื่อวานก็อยากโอบกอดทุกคนที่อยู่ร่วมเหตุการณ์กัน ณ บริเวณนั้น เราเข้าใจความแพนิคที่เกิดขึ้น เพราะตอนนี้เราเองก็เป็น ที่วันนี้เรามาออก เพราะจิ๊บอยากมารับผิดชอบ ในฐานะที่คลิปนี้กลายเป็นไวรัล แล้ววิธีการหนีที่เกิดขึ้นในคลิป จิ๊บอยากรับผิดชอบว่าการที่จิ๊บหนีเข้าไปในลิฟต์ ออกไปในรถหรืออะไร ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง ไม่ใช่วิธีการหนีที่ถูกต้อง วันนี้จิ๊บเลยขอใช้พื้นที่รายการนี้ ที่จะบอกทุกคนว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น คุณห้ามทำเลียนแบบทุกอย่างในคลิปนี้ ทุกอย่างที่ทำมันผิดหมด? จิ๊บ : คุณห้ามเข้าไปในลิฟต์ เพราะลิฟต์คือทางตัน เราไม่รู้ว่าเหตุเกิดชั้นไหน เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่จิ๊บไปถึงและจอดรถลง นั่นคือจังหวะที่พอดีกัน ไม่ได้อยู่ในพารากอนก่อน? เอ็ม : ณ ตอนนั้นเราไปทำธุระกันมาก่อน แล้วไปเดินห้างกันมาก่อนที่เอ็มควอเทียร์ แล้วกลับมาห้างนี้ 4 โมงตรงเป๊ะเลย เราจอดรถชั้นเอ็มแล้วเดินขึ้นชั้น 1 พอขึ้นมาชั้น 1 เราก็ตกลงกันว่าจะทานอะไรกันดี จิ๊บบอกว่าไปชั้น 4 แล้วกัน เรากำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อน จังหวะเดินอยู่มีคนวิ่งแล้ว เราก็พูดเล่นกับเพื่อนว่าตามดารา ข้างบนมีงาน เราคิดอย่างนี้ พอขึ้นชั้น 2 เฮ้ย วิ่งเอีกแล้ว จิ๊บ ตามเธอแล้วล่ะ ไม่ใช่หรอก ขึ้นชั้น 3 ก็วิ่งอีก ชั้น 4 ก็วิ่งอีก เราไม่รู้จริง ๆ เราก็เดินไปตรงกลางของห้างที่จะมองลงไปว่ามันมีอะไร มองปุ๊บวิ่งทุกชั้นเลย ในทิศทางเดียวกัน ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ดาราแล้ว แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร จิ๊บรู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น? จิ๊บ : ตอนนั้นไม่รู้ว่ายังไง ก็เขาดูข่าวในทวิตเตอร์แล้วบอกว่าเขายิงกัน ก็คิดว่าเป็นแบบยิงกันเฉย ๆ ไม่รู้ว่ามันคือเหตุการณ์อะไร คิดว่าเขาคงตกใจเสียงปืนก็เลยวิ่ง เราก็เริ่มมูฟออน เอ็ม : เราเดินเร็วก่อน แล้วมีพี่ผู้หญิงสองคนเดินมาชนก็เลยถามว่าพี่มันคืออะไร เขายิงกันสามนัด ทีนี้ทั้งเลขา เอ็ม คนทำคอนเทนต์ก็วิ่งกัน แล้วชั้นนั้นไม่มีทางออกไปลานจอดรถ จิ๊บ : เราไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์จะใกล้ตัว เราก็เลยไม่สนใจว่าทางออกควรอยู่ตรงไหน ทางออกฉุกเฉินอยู่ยังไง เราไม่รู้ว่ามันใกล้ตัว เรางง และไม่มีสติ ได้ยินเสียงปืนตอนไหน? เอ็ม :...

เปิดใจครั้งแรก ลีเดีย-แมทธิว โพสต์เดือดกลางโซเชียล สรุปเรื่องจริงหรือแค่คอนเทนต์?

เคลียดชัด ๆ กันไปเลย สำหรับคู่สามี ภรรยาสุดแซ่บ ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ กับ แมทธิว ดีน ที่วันนี้ควงคู่กันมาเปิดใจดราม่าครั้งแรก หลังโพสต์ผ่านโซเชียลจะทำหมันหรือจะให้เปลี่ยนผัว แถมยังเขียนข้อความขึ้นจอ LED กลางถนนจนทำให้เกิดดราม่าถล่มไม่เหมาะสม ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ลีเดียโพสต์ในไอจีว่าจะทำหมันหรือจะให้เปลี่ยนผัว? ลีเดีย : ก็กดดันค่ะ เพราะเป็นเรื่องที่คุยมานานแล้ว แล้วมันเหมือนไม่ซีเรียสสักทีนึง แมทธิว : จริง ๆ เป็นประเด็นที่เราคุยกันมานานแล้วแหละ เป็นปีแล้ว เนื่องจากทั้งคู่ก็ยุ่งในเรื่องต่าง ๆ เรื่องชีวิต เรื่องลูก เรื่องงานก็ยังไม่ได้คุยแบบจริงจังสักที แต่ขึ้นป้ายขนาดนั้นก็จริงจังแล้ว ตกใจเลย มันก็มีกระแสดราม่ามากมาย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย รู้สึกยังไงดี? แมทธิว : เราเจอเรื่องแบบนี้มาพอสมควรแล้วแหละ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนแฮปปี้หรือเห็นเหมือนกันหรอก มันเป็นสิ่งที่คนในวงการบันเทิงต้องยอมรับอยู่แล้ว แต่ตามแนวคิดของเรา เราไม่ได้ไปทำอะไรใคร คนอื่น คนที่โดนกระทำคือผมนี่แหละครับ แต่เหตุผลที่มันยังไม่คุยหรือไม่ได้ไปทำจริง ๆ ผมว่าผมอธิบายไปแล้วแหละ ผมก็ยกธงขาวไปแล้วแหละในไอจี สรุปคือยอมแล้วเหรอ? แมทธิว : อธิบายก่อนว่าที่มันยังไม่ได้คุยจริงจัง เพราะเราก็เห็นอยู่ว่าลูกเราเวลาอยู่ด้วยกันมันแฮปปี้แฟมิลี่มาก ๆ เลย ก็มีความสุขตรงนี้คิดว่ามันก็มีความสุขมาก แล้วก็บวกกับสิ่งที่เดมี่คอยพูดกับเราอยู่เรื่อย ๆ ว่าเดมี่อยากมีน้องสาว มันเลยคิดอยู่ในใจตลอด แต่พอเขามาจริงจังแบบนี้ปุ๊บ ผมก็รับฟัง เห็นใจอยู่แล้ว เข้าใจทุกอย่าง มันเหนื่อย ลีเดีย : รอพ่อนัดวัน แมทธิว : ยังไม่ได้นัดครับ ยังไม่เรียบร้อย หลายคนมองว่ามันเป็นคอนเทนต์หรือเปล่า หรือเป็นปัญหาจริง ๆ ? ลีเดีย : เพราะว่าเราคุยกันมานานมากแล้ว ทำไมยังไม่ไปทำ มันเป็นปัญหาของครอบครัวนี้?...

เชฟป้อม ควงลูกชาย เล่าโมเมนต์ความสนิท 

เชฟป้อม ควงลูกชายเล่าโมเมนต์ความสนิท  พร้อมบอกเหตุผลทำไม ลูกชาย ไม่ยอมเป็นเชฟอาหารไทยเหมือนคุณแม่! สุดยอดเชฟอาหารไทย อย่าง เชฟป้อม หม่อมหลวงขวัญทิพย์ ที่วันนี้ควงลูกชาย แอร์ กุลพล มาเปิดความสนิทที่คุยกันได้ทุกเรื่อง พร้อมเผยความรักครั้งใหม่ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และเป็กกี้  ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ เชฟมีลูกกี่คน? เชฟป้อม : 3 คน ชายล้วน 3 คน คุณแอร์คิดว่าใครสนิทกับคุณแม่ที่สุด? แอร์ : ไม่สนิทเลย ล้อเล่นครับ สนิทพอ ๆ กัน เชฟป้อม : สำหรับลูก 3 คน วิธีพูดกับวิธีคุยบางเรื่องไม่เหมือนกัน เรื่องสาวคุณแอร์คุยกับคุณแม่ได้ไหม? แอร์ : ได้ครับ ไม่เคยรู้สึกว่าอันไหนต้องคุยกับแม่ หรือคุยกับพ่อ ใครอยู่ตรงนั้นก็คุย มีเหตุการณ์หนึ่ง ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญของครอบครัว เป็นการตัดสินใจที่จะแยกทางกับคุณพ่อ ตอนนั้นคุยกันกับลูกไหม? เชฟป้อม : ตอนนั้นคุยกับลูก 3 คนไม่เหมือนกัน 1 กับ 3 ค่อนข้างต่างกับพี่ แต่คนที่2 เหมือนพี่ คือแรงเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจะพูดอะไรเราจะต้องตะล่อมก่อน 1 กับ 3 คุยด้วยกันเลย แล้วเอา 1 กับ 3 เป็นพวกไปคุยกับคนที่ 2 มันก็จะเข้าใจง่ายขึ้น แต่ลูกก็เข้าใจเหตุการณ์ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทำไมคุณแอร์เลือกที่จะเข้าใจคุณแม่? แอร์ : จริง ๆ ไม่มีอะไรให้ไม่เข้าใจ แค่คนสองคนเขาไม่อยากอยู่ด้วยกัน เขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน ในความคิดของเราคือ ตราบใดที่มีคนจ่ายค่านู้น ค่านี้ ชีวิตทุกอย่างมันยังเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ค่อยสนใจว่าใครเป็นคนจ่าย แต่ชีวิตเราไม่เปลี่ยน แต่ชีวิตเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในการที่เขาเลิกกันมันก็เป็นเรื่องที่ดี และเป็นโบนัสของเรา เราไม่ต้องฟังคนทะเลาะกันในบ้านอีกแล้ว เชฟป้อม : ที่ลูกพูดก็ถูกนะ เราไม่ตั้งใจให้ลูกเปลี่ยน ให้ลูกมีผลกระทบน้อยที่สุด ลูกเคยอยู่อย่างไงก็อยู่อย่างนั้น ได้อะไรก็ได้อย่างนั้น แล้วพอดีพี่เลือกจะกระทำการนี่ตอนที่คนเล็กอายุ 15 แล้ว ซึ่งค่อนข้างโตมาระดับนึงพูดรู้เรื่อง ลูกต้องเปลี่ยนแปลงน้อยสุด อยู่ที่เดิม เรียนที่เดิม ต้องเลือกไหม คุณพ่อ คุณแม่ แยกทางกัน ลูกต้องอยู่กับใคร?...

“แน็ก ชาลี” เปิดเส้นทางรัก “เก๋ไก สไลเดอร์” เกือบไม่ได้ไปต่อเพราะโดนคนถล่มด่าเป็นแสน!

เปิดปาก แน็ก ชาลี กับเส้นทางรักกับยูทูบเบอร์ชื่อดัง เก๋ไก สไลเดอร์ พร้อมแจงสาเหตุทำไมไม่โชว์ความหวานออกสื่อ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ กับเก๋ไก๋ เริ่มต้นได้ยังไง? แน็ก : มันนานมาก หลายอย่างทำให้ชีวิตเราอยู่ด้วยกันไม่ได้ ผมก็เกรงใจกลุ่มแฟนคลับเขา เลยทำให้มีช่วงที่ถอยออกมา พอเวลามันผ่านไป เราก็ยังไม่ได้มีใคร ก็มีอยู่คนเดียว กลับมาเมื่อไหร่ก็อยู่ตรงนี้ตลอด แสดงว่าทุกวันนี้ทุกอย่างโอเคแล้ว? แน็ก : ก็โอเคครับ ถ้าเต็ม 100 ผมให้เป็น 1000 เลยครับ ช่วงหนึ่งก็มีคอมเมนต์ว่าเก๋ไกหนีไป เราได้เห็นคอมเมนต์พวกนั้นไหม? แน็ก : ช่วงแรกผมเป็นคนพิมพ์เองนี่แหละ เนื่องด้วยสถานะแรก ต้องบอกก่อนว่าเหมือนเด็ก ๆ กลุ่มเขาเยอะมากที่จะไม่เข้าใจในการพิมพ์อะไรที่มันไม่ดีในโซเชียล แต่ผมโดนเด็ก ๆ ถล่มด่าเยอะมาก เป็นแสนคน แล้วด่าพ่อ แม่ ทุกคน ข้อดีก็คือคุณแม่ผมเป็นคนที่ใจเย็นมาก แล้วตัวผมก็เป็นคนที่ใจเย็นสุด ๆ เลย ใครที่ทำให้ผมใจร้อนได้ มันต้องเป็นอะไรที่ซ้ำซากและสุด ๆ จริง ๆ  ตอนนั้นเราเครียดไหม? แน็ก : ผมก็เครียดนิดนึง ผมเครียดตอนที่เด็กมันด่าพ่อ แม่เรา ทั้งที่พ่อ แม่เราไม่ได้เกี่ยวอะไร แล้วมันด่าคำรุนแรงมาก หลายคนก็บอกให้เราฟ้อง แต่ผมจะไม่ทำ เพราะผมเห็นสภาพถ้าเราฟ้องปุ๊บสิ่งที่เราได้เจอไม่ใช่เด็ก ๆ หรอก เป็นพ่อ แม่ เด็กที่ต้องมาไหว้ เรารู้สึกว่าเราทำไม่ได้ ไม่ใช่นิสัยอย่างนั้นอยู่แล้วด้วย เป็นสาเหตุนึงไหมที่ตอนนั้นเหมือนเพิ่มเริ่มคุย สานสัมพันธ์ แต่พอมีกระแสแบบนี้ก็เลยห่างกัน? แน็ก : มันต้องห่างจริง ๆ ครับ แล้วมันมีเหตุผลอะไรอีกหลายอย่างในชีวิตคู่สองคน หลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้ที่มันทำให้เราต้องห่างกัน แล้วเขารู้สึกว่าเขาต้องทำงานอะไรหลาย ๆ อย่าง เขาอยากทำงานของเขา แต่เราก็พยายามซัพพอร์ตให้ไเ้มากที่สุด อาจจะมีทะเลาะกันบ้าง เถียงกันบ้าง แต่ว่าตัวผมจะเป็นคนที่ชื่นชมในเรื่องที่เวลาเขาทำสิ่งที่ถูกต้อง ตอนที่ห่างไป อะไรทำให้วนกลับมาได้?...

“หนิง ปณิตา” โล่งอก”จิน” อดีตสามี เป็นคนพูดเองเรื่องเลิกรา 

หนิง ปณิตา โล่งอกอดีตสามี จิน จรินทร์ เป็นคนพูดเองเรื่องเลิกรา ลั่นไม่ได้ร้องขออะไร ข้อตกลงฝ่ายชายเป็นคนเสนอ หลังจากที่ จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ อดีตสามี หนิง ปณิตา ไปออกรายการของพี่ชายคนสนิทอย่าง เป๊ก สัณณ์ชัย เผยถึงเรื่องราวปัญหาครอบครัว บอกว่ารู้สึกผิด เลิกกันแล้วก็ไม่ควรมีคนอื่น อีกทั้งทำให้หนิงทุกข์ และต่อมาหนิงได้ออกมาโพสต์ข้อความร่ายยาวผ่านทางโซเชียลทันที ล่าสุด หนิง ปณิตา ได้เปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ตอนแรกคิดว่าจบสวยแล้ว แต่เมื่อวานหรือวันก่อนหนิงโพสต์ตู้มขึ้นมาเกิดอะไรขึ้น? หนิง : ตามที่หนิงโพสต์มันค่อนข้างชัดเจนว่าเรื่องราวที่ผ่านมามันจบแล้ว ทุกคนเข้าใจในแบบที่เราเซตอัพว่ามันจะต้องจบแล้ว มันไม่ควรถูกพูดขึ้นมาอีก หรือว่าสัมภาษณ์ถึงสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาอีก ทั้ง ๆ ที่เราเองอยู่หน้าสื่อ ทำงานทุกวัน รายการหลาย ๆ รายการ ต้องการคอนเทนต์จากเรา ต้องการสัมภาษณ์ในหลาย ๆ เรื่องที่ไม่เคลียร์ หรือแม้กระทั่งรายการเราเองมีลูกค้ามาซื้อสปอนเซอร์ ต้องการให้พี่หนิงประเด็นนี้ ๆ ทุกคนก็ช่วยกัน จบแล้ว ๆ เราจะไม่พูดถึงอะไรแล้ว เพราะมันจบไปแล้ว แล้วมันก็เป็นข้อที่ทางคุณจินเองก็บอกด้วยว่าเราจะไม่มีทางพูดถึงว่าเลิกราหรือหย่าร้าง ให้ทุกคนเข้าใจว่าเราก็มีปัญหาแบบนี้ แต่เราอยู่ด้วยกัน หนิงไม่เคยพูดคำว่าหย่า? หนิง : ไม่เคยพูดคำว่าหย่า ไม่เคยพูดคำว่าเลิก ที่ไม่พูดคำนี้ เพราะเป็นการขอร้องจากคุณจินเองที่ไม่ต้องการให้ครอบครัวเขารู้ และที่สำคัญคือรักษาความรู้สึกลูกแบบค่อยเป็น ค่อยไป จินก็น้องพี่ เป๊กก็พี่ชายพี่? หนิง : จริง ๆ เทปนี้ล่าสุดเลยในรายการคนละเป๊ก เทปนี้เทปแรก เขาติดต่อหนิงด้วยซ้ำ แต่หนิงยังไม่มีคิวให้ที่จะไป แล้วก็มาติดต่อเป็นจิน ซึ่งจินเองบอกกับหนิงว่าจะไปถ่ายรายการพี่เป๊ก หนิงก็รู้มาว่าต้องไปถ่ายรายการ แต่ว่าพอฟังบทสัมภาษณ์อะไรหลาย ๆ อย่าง ในรายการ ในมุมของหนิง หนิงรู้สึกมันขัดแย้ง สมมติถ้ากลับไปแก้บทได้ อยากให้โลกรู้อะไร? หนิง : ตามที่หนิงพิมพ์ไว้ก็ค่อนข้างจะชัดเจนทั้งหมด จินก็เป็นน้องพี่ ถ้าจินดูอยู่ก็เลี้ยงดูลูกอย่างที่หนิงขอไว้? หนิง : อย่างที่หนิงบอก พอเรื่องมันไม่จบแล้วมันต้องออกมาพูดอย่างนี้ แต่ ณ วันนี้มันถูกพูดขึ้นในเรื่องราวหลาย ๆ เรื่อง เดี๋ยวทุก...