“แก้ว” พยานสำคัญ เผยเกลี้ยกล่อมให้สารภาพ แต่คำตอบทำอึ้ง

“แก้ว” พยานสำคัญ ย้อนเหตุการณ์ “แอม” ส่งกระเป๋า “ก้อย” มาที่คอนโด เผยเกลี้ยกล่อมให้สารภาพ แต่คำตอบทำอึ้ง

กรณี “น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์” หรือ “ทนายพัช” ทนายความของ “แอม สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์”  หรือ  “แอม ไซยาไนด์” จะเข้าไปพบแอมที่เรือนจำในวันที่ 23 พฤษภาคม เพื่อจะให้เซ็นเอกสารคำฟ้องเอาผิดข้าราชการตำรวจชุดคลี่คลายคดี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 รวมทั้งมีการรายงานว่าทนายพัชจะฟ้องพลเมืองดี และพิธีกรอีก 2 รายด้วย ซึ่งก่อนหน้านั้นทนายพัชถูกออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดตามมาตรา 184  ช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลงโดยการทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด หลังพบพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังการจัดส่งกระเป๋าแบรนด์เนมและทรัพย์สินของ “ก้อย ศิริพร” ผู้ตาย ไปให้ น.ส.แก้ว พยานอีกคน เพื่ออำพรางหลักฐานทางคดี ซึ่งแก้วคือคนที่แอมร้องขอให้เข้าไปพบในเรือนจำ

รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 23 พ.ค. 66 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ คุณแก้ว คนที่แอมอยากเจอ ล่าสุดคุณแก้วเข้าไปเจอแอมมาแล้ว มาพร้อม คุณอ้อ ชลิดา มูลนิธิวินวิน รวมทั้ง อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน

พี่แก้ว วันนี้ตัดสินใจมาอีกครั้ง เพราะอะไร วันนั้นที่คุยกันไว้ พี่แก้วบอกว่าขอกลับไปคิดดูก่อนว่าจะเป็นพยานให้แอมหรือเปล่า ตกลงตัดสินใจยังไง?

แก้ว : กลับไปแล้วก็ไปนอนคิด ทบทวนหลายๆ อย่าง ดูข่าวดูอะไรหลายๆ อย่าง ดูย้อนไปถึงตัวเอง เขาก็คิดทำร้ายเรา ในความเป็นจริง สิ่งที่เขาทำก็ควรได้รับโทษไป คิดถึงหัวอกคนโดนทำร้าย คนที่สูญเสีย คิดถึงบรรยากาศวันนั้นที่เหมือนเราจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว มารายการก็ฟังคำพูดหลายๆ อย่างที่เขาพูดไม่ตรง ก็เลยได้คิดค่ะ

วันนี้พี่แก้วจะไม่เป็นพยานฝั่งเขาแล้ว?

แก้ว : ใช่ค่ะ ไม่เป็นค่ะ

เห็นว่าพี่แก้วมีโอกาสเข้าไปเยี่ยมแอมด้วย?

แก้ว : ใช่ค่ะ ครั้งเดียว ไม่เคยได้เข้าพบส่วนตัวนะคะ วันนั้นไปกับทีมตร.วันที่ 13 นั่นคือครั้งแรก หลังเขาโดนจับค่ะ

พี่ไปแล้วก็กลับ?

แก้ว : ไปแค่หยอดตังค์ใส่ตู้ให้เขาเท่านั้นค่ะ ไม่ได้เจอ มาเจอพร้อมกับกับเจ้าหน้าที่ตร.วันที่ 13 ค่ะ

เจอแล้วเป็นยังไง?

แก้ว : โดยทั่วไปเป็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ซะมากกว่าค่ะ แค่เราไปพูดให้เขาย้อนกลับไปว่าเรื่องราวเกิดอะไรขึ้น บอกเขาว่าตอนนี้ข้างนอกสภาพเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้มันไปถึงไหนแล้ว เขาสู้ไม่ไหว ไปไม่รอด ด้วยหลักฐานหลายอย่าง ให้เขายอมจำนนซะ ที่เหลือก็เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ตร.ที่เขาจะพูดต่อค่ะ เรารู้สึกว่าเหมือนเขาเข้าป่า แล้วเราไปดึงเขาออกจากป่า ดึงเขาออกมาก่อน ถ้าเขาไม่มาเราก็ไม่รู้จะทำยังไง บรรยากาศเหมือนไปดึงเรื่องราวเก่า ๆ ให้เขาคิดค่ะ

พูดยังไงบ้าง?

แก้ว : พูดว่าพฤติกรรมที่ผ่านมาของเขา เขาทำอะไรค้าง ๆ คา ๆ

เขาบอกพี่มั้ยว่าไม่ได้ทำ?

แก้ว : เขาก็บอกว่าไม่ได้ทำ ก็ถามเขาว่า ณ วันนี้ถ้าน้องทำ ก็รับสารภาพไป โทษหนักจะได้เป็นเบา เจ้าหน้าที่ก็พยายามพูดถึงข้อกฎหมายให้น้องเขาฟัง เขาบอกว่าเขาไม่ได้ทำ เขาไม่ทำหรอก เพราะน้องเขาจะทำกิจการอะไรกับเขาบางอย่าง ซึ่งเขามีโอกาสได้ทำกับก้อย มีโอกาสไปทำธุรกิจด้วยกันอีกยาว เขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องฆ่าน้องก้อย เขาใช้คำนี้นะคะ ก็ถามว่าแล้วเกิดอะไรขึ้น มีอะไรพลิกผันหรือมีคนอื่นเกี่ยวข้องหรือเปล่า ปกป้องคนอื่นอยู่หรือเปล่าให้บอกตรงนี้มา เขาก็หันมาว่าเราพี่ก็คิดสวยไป โลกสวยไป เราก็อึ้งไป ว่าอ้าวแล้วตกลงเป็นยังไง เขาก็ไม่พูด แต่ความรู้สึกเหมือนเขาปกป้องใครสักคนอยู่

พี่มองว่าเขาปกป้องใคร?

แก้ว : คือถามว่าไซยาไนด์เอามาจากไหน เขาก็ไม่บอก ก็บอกว่าตอนนี้พ่อแม่ พี่ สามี ลูกเต้า เดือดร้อนหมดแล้ว ถ้าเป็นยังไงควรคุยความเป็นจริง มีเจ้าหน้าที่ตร.ท่านนึงอธิบายไปว่าถ้าเป็นพี่นะ ถ้าทุกคนเดือดร้อนแบบนี้ถึงทำไม่ทำก็รับสารภาพแล้ว แอมเป็นคนที่ใจดำมาก ไม่นึกถึงอะไรเลย เจ้าหน้าที่ว่าต่อหน้าเลยค่ะ

แอมว่าไง?

แก้ว : เขาก็เฉยอย่างเดียว เขาบอกว่าจะมีใครสำคัญกว่าพ่อแม่พี่น้อง ลูกเต้าเหรอ

เขาพูดคำนี้?

แก้ว : ใช่ค่ะ

คิดว่าเขากำลังปกป้องใคร?

แก้ว :   อันนี้ไม่สามารถเดาได้เลยค่ะ เพราะเราถามไซยาไนด์สั่งมาในชื่อใคร ใครสั่งให้ เขาไม่ยอมบอกเลยค่ะ เขาไม่พูดค่ะ เท่าที่ฟังจากเจ้าหน้าที่พูดก็ยังไม่ทราบรายละเอียดนะคะ เพียงแต่กำลังหาอยู่

ฝั่งคุณอ้อคิดว่าสั่งเป็นชื่อแอมเองมั้ย?

อ้อ : ไม่ค่ะ คิดว่าแอมเป็นคนสั่ง แต่สั่งเป็นชื่อคนในครอบครัวมากกว่า ที่เขายังห่วงอยู่คนนึง

แล้วพี่แก้วบอกว่าเหมือนแอมปกปิดหรือต้องการช่วยเหลือใครสักคน คิดว่าเป็นใคร?

อ้อ : เป็นคนในครอบครัวเขา ที่อาจจะไม่ใช่แฟน อาจเป็นชื่อใครคนใดคนหนึ่ง

ไม่อยากให้ตร.เรียกตัวคนนี้มาเหรอ?

อ้อ : ประมาณนั้น ถ้าเรียกในนามบุคคลนั้น ความผิดก็มีอยู่แล้ว แต่แอมเขาอาจไม่รู้กฎหมายทั้งหมด เพราะเราไม่แน่ใจว่าทนายเอาข้อมูลอะไรใส่ให้แอมบ้าง

เดี๋ยวเขาฟ้องนะ?

อ้อ : เป็นสิทธิ์ของเขาค่ะ อยากฟ้องก็ฟ้องได้ แต่ถ้าไม่เป็นความจริงเราก็ฟ้องกลับแค่นั้นเอง แน่นอน เจอกัน

เขาฟ้องคุณรพีไปแล้วนะ?

อ้อ : ทราบค่ะ อาจเป็นวินวินอีกด้วยก็ได้

เขาฟ้องพิธีกรไปแล้ว 2 คน?

อ้อ : อาจเป็นพี่หนุ่มด้วยก็ได้

ปุ๊บปั๊บรับโชค จะเป็นผมหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เขาก็มีสิทธิ์ไปฟ้องได้ เราก็ยืนยันตามข้อเท็จจริงไป ผมก็จะบอกว่าผมฟังมาจากตร.?

อ้อ : แอมก็อาจรับข้อมูลมาจากทนายพัชคนเดียว แม้แต่วันนั้นอ้อไม่ได้เข้าไป ตร.ก็เล่าให้ฟัง พี่แก้วก็เล่าให้ฟัง แอมจากที่เคยไว้ใจพี่แก้วมากๆ ก็ไม่ไว้ใจแล้ว เพราะทนายบอกว่าพี่แก้วไปเร่ออกรายการนั่นโน่นนี่ ซึ่งไม่เป็นความจริง พี่แก้วออกรายการเดียวคือรายการพี่หนุ่ม นอกนั้นไม่ได้ออกนะคะ แต่ความที่แอมรับฟังข้อมูลด้านเดียว นี่ไม่ใช่จากเรารับรู้มานะ อดีตสามีเขาก็บอกมาเหมือนกันว่าแอมรับข้อมูลจากทนายด้านเดียว จนทำให้เขาเชื่อและปักใจ ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ทนายเอาอยู่ ทนายเอาได้ ให้แอมทำตัวสวยๆ รออยู่ในเรือนจำ เดี๋ยวอีก 84 วันก็ได้ออกมาเดินห้าง รองอ๊อฟเคยพูดให้ฟังว่าแอมเชื่อทนายมากๆ วันนั้นที่เราเข้าไป เขาก็มีท่าทีที่อ่อนลง เริ่มพูดในบางอย่าง แต่พอทนายกลับเข้าไปอีก ก็มีกลับคำให้การทั้งหมด

ก่อนหน้านั้นที่ทนายความคุณแอม เขาถอนตัวไปแล้วรอบนึง ตอนนั้นคุณไปเจาะข้อมูลมามั้ย เขาถอนตัวเพราะอะไร?

อ้อ : เรานับวัน เขาบอกเขาถอนตัววันที่ 5 พ.ค. แต่วันที่ 5 เขาเพิ่งออกจากเรือนจำเองนะ และออกมาให้ข่าวอีก 84 วันเดี๋ยวพาไปเดินช้อปปิ้ง มันย้อนแย้งกับคำพูดของเขา

วันที่ 5 พ.ค. ทนายไปหาแอม ผ่านไปไม่กี่วัน ทนายบอกว่าถอนตัวแล้วตั้งแต่วันที่?

อ้อ : 5 พ.ค.

หลายคนก็เลยงง ว่ายังเข้าไปเจอแอมอยู่เลย ทำไมออกมาถอนตัวแล้ว คุณไปเจาะเรื่องอื่นมาอีกมั้ย?

อ้อ : เราไม่รู้เขาเล่นเกมอะไรอยู่ อยู่ดี ๆ ก็มีทนายคนใหม่ขึ้นมา โดยที่ทนายคนนั้นไม่รู้ตัวเหมือนกัน และมีทนายแม๊ขึ้นมาอีกเหมือนกัน นี่ก็งงว่ามาจากไหนเหมือนกัน เพราะช่วงเว้นระยะเรื่องการเมือง เราก็อยู่เงียบ ๆ แต่ก็มีทนายคนนี้ ๆ โผล่ขึ้นมา สุดท้ายแล้วทนายพัชก็กลับมาทำเหมือนเดิม ใบถอนก็ไม่มียืนยันชัดเจนว่าเขาถอนเป็นทนาย ใบแต่งตั้งก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม

ประเด็นที่ฝั่งพี่แก้วเข้าไปเจอแอม พี่ก็พยายามเกลี้ยกล่อมแอมให้รับสารภาพ หนักจะได้เป็นเบา เขาไม่ฟัง เขาบอกพี่โลกสวย?

แก้ว : ค่ะ น้องเขาบอกไม่ได้ทำ เจ้าหน้าที่กับตัวพี่เองพยายามถามว่าแล้วมันเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น มีอะไรผิดปกติ มีใครฝากอะไรไป ให้เล่าเรื่องราวในวันนั้น เขาบอกไม่พี่ พี่แก้วคิดโลกสวยไป ไม่มีอะไรขนาดนั้น

วันนั้นเคยถามพี่ว่าพี่คิดว่าแอมเป็นคนทำหรือเปล่า ตอนนั้นพี่ตอบว่าไง จำได้มั้ย?

แก้ว : ตอบว่าด้วยพฤติกรรมที่รู้จักเขา เขาเป็นคนใจบุญ ช่วยเหลือหมา คุณหนุ่มก็ทำให้คิดว่าฉากหน้าดี แต่ฉากหลังเป็นอีกแบบนึง

บอกผมเป็นคนชี้อีกแล้ว เดี๋ยวก็ปุ๊บปั๊บรับโชคอีก แล้ววันนี้พี่คิดยังไง คิดว่าเขายังทำมั้ย คิดว่าใจบุญอยู่มั้ย?

แก้ว : ตอนนี้ไม่คิดเช่นนั้นแล้วค่ะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อ 3 ปีที่แล้วค่ะ เหตุการณ์นั้นเหตุการณ์เดียว มั่นใจแล้วค่ะ มั่นใจมาก ๆ

วันนั้นเจออะไร?

แก้ว : วันนั้น 25 พ.ย. 63 ได้นัดกันไปทานส้มตำแถว ๆ ชานเมืองเพชรบุรี แถว ๆ ชายทะเล ออกนอกตัวเมืองไปสัก 15-20 นาที ตอนทานส้มตำ ก็ทานปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ช่วงระหว่างนั้นก่อนทานส้มตำ น้องเขามาหา น้องเขาบอกว่าอยากทำสมุนไพรตัวนึงขายที่แถวนครปฐมต้องเข้าคิวซื้อกันเลย เขาทำตัวนี้ขาย อยากให้พี่ช่วยชิมหน่อยว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง แค่เดา ๆ เอา หลังทานส้มตำเสร็จก็มาที่รถแยกย้ายกันกลับ น้องเขาก็หยิบน้ำสมุนไพรตัวนี้ออกมาจากลังโฟมที่อยู่ในรถของเขา ลังใหญ่นะคะ แต่แช่น้ำมาขวดเดียว เป็นคนเปิดและให้กิน ตอนที่กินเอาหลังพิงรถตัวเอง กินไปประมาณ 1 ส่วน 4 ของขวด สีเห็นปุ๊บคือมันดำ สีไม่สวย ก็บอกว่าไม่สวย เขาบอกพี่ชิมรสชาติให้หนูหน่อย ก็ชิมไปอึกนึง ตามด้วยอึกที่สอง เป็นรถขมอย่างเดียว ไม่มีรสอะไรเลย ก็ส่งคืนเขาไปแล้วบอกว่าไม่ผ่าน ถึงคุณภาพดีแต่ทำแล้วไม่โอเคทั้งสีทั้งรส ก็ส่งคืนเขาไปทั้งหมดเลย เขาบอกว่าพี่เอาไปกินต่อให้หมด พี่ก็บอกว่าไม่เอา ไม่กิน ไม่อร่อย ก็แยกย้ายกันกลับ พอมาขึ้นนั่งทำท่าจะกลับรถ หันไปบอกลูก ๆ ให้รัดเข็มขัด พอหันกลับมาอีกทีมันเหมือนกับรถหมุน เวียนหัว มือไม้ไม่มีแรง ตาจับภาพไม่ค่อยได้ เหมือนหมอกลงตอนเช้า พยายามหายใจแต่หายใจไม่สุด รู้สึกอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ จนนอนไปกับพนักพิงแล้วหยิบโทรศัพท์โทรหาเขาเลยว่าเอาอะไรมาให้พี่กิน เขาก็กำลังจะสตาร์ทรถไปก็ลงมา แล้วมีน้ำมาขวดนึงบอกว่าเอาน้ำไปกินมั้ย ตอนนั้นตัวเองนอนตะแคงอยู่ เห็นในมือมีน้ำมาจริง ๆ ขวดนึง แต่มีการเปิดไปแล้ว ก็เลยไม่เอาน้ำ ตัวเองอยู่ในรถ น้องเขายืนข้างรถ ก็ถามว่าไปรพ.มั้ยพี่ เรียกรถพยาบาลมั้ย ความคิดก็แว้บขึ้นมาในหัวว่าอาการแบบนี้เหมือนโดนยาฆ่าแมลงตามที่เราเรียนมาคิดว่าถ้าไปรพ. คิดถึงการล้างท้อง เขาจะใส่ท่อไปทางจมูก ทานยาพิษเข้าไปยังไม่ลงลำไส้ ก็คิดว่าเอ๊ะ เรายังสามารถกินน้ำได้อยู่ ก็เปิดน้ำที่อยู่ในรถ อัดเข้าไปให้แน่นๆ แล้วล้วงคอให้อาเจียนออกมา ครั้งที่หนึ่งทำไปก็รู้สึกว่าอาการมันเบาลง ก็ตามขวดที่สองเข้าไปค่ะ จนสุดท้ายมือไม้ที่อ่อนแรงเริ่มกลับมามีแรง แต่อาการเวียนหัวมีอยู่นิดหน่อย อาการตาพร่ามัวก็ดีขึ้น ก็เลยกลับบ้านค่ะ

หลังจากนั้น?

แก้ว : ไปปรึกษาเพื่อนที่เขาเป็นหมอ ก็ถามเขาว่าเอ๊ะ สมุนไพรพวกรากกระชายพวกนี้ถ้าเกิดล้างไม่เกลี้ยง มียาฆ่าแมลงเป็นไปได้มั้ย เพื่อนก็บอกว่าการที่เขาจะผสมกับยาฆ่าแมลง เขาต้องผสมเจือจางกับน้ำนะพี่ ถ้าเกิดเป็นอย่างพี่ว่า คนกินก็ตายทั้งประเทศ เขาก็เล่าให้เพื่อนหมอฟัง เพื่อนหมอบอกว่าเขาจงใจใส่พี่แล้วนะ พี่ไปถามเขาสิว่าเขาใส่เป็นหัวอะไร เขาก็บอกว่าบีทรูท แต่วันนั้นตอนกลับมาก็ทานน้ำมะพร้าวไปอีก 2 ถุง ให้ลูกสาวไปซื้อ จากนั้นแอมก็ทักมาคุยว่าอาการเป็นยังไงบ้าง ไปหาหมอหรือเปล่า เราก็บอกว่าไม่ได้ไป

ล่าสุดเพจบิ๊กเกรียนลงไว้ว่าแฮชแท็ก เล่นนอกเกม ทนายธันย์นิชา ทนายขวัญใจชาวนาข่า ไม่ได้หายไปไหน รอหมายเรียกค่ะ วันที่ 23 พ.ค. ทนายขวัญใจชาวนาข่าไปพบแอม ไซยาไนด์ ที่ทัณฑสถานกลางเพื่อเซ็นเอกสารคำฟ้องเตรียมแจ้งม.157 กับตร. นี่คือล่าสุดบิ๊กเกรียนลงไว้แบบนี้ ยังมีทนายขวัญใจชาวนาข่าฟาดกลับ 1 รุม 3 ตร. พลเมืองดี 2 พิธีกรรายการดัง ไปตามดูได้ในเพจบิ๊กเกรียน เขาก็จะรายงานข่าวสองมุม ฝั่งทนายด้วย ตร. สังคมทั้งหมด มันก็เป็นประเด็นที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม ที่เราทำกันอยู่ เราทำกันบนพื้นฐานข้อมูลที่ตร.บอกมา อย่างกระเป๋าตกลงเขาส่งไปให้พี่ พี่งงมั้ย เจอกระเป๋าได้ยังไง?

แก้ว : วันนั้นเผาศพน้องก้อยแล้วมีพี่ผู้ชายคนนึง เป็นมูลนิธิวินวินติดต่อเข้าไป กำลังเดินทางกลับจากทางใต้ก็นัดเจอกันตอนเย็น พี่เขาก็ถามเหมือนที่คุณถามว่ารู้จักกันแบบไหน ก็เล่าให้ฟัง พี่เขาบอกว่าไซยาไนด์อาจสั่งเป็นชื่อคนอื่น เป็นพัสดุคนอื่น จากที่เขาเล่าให้ฟังนะคะ ว่ามีผู้ต้องสงสัย 2 คน เวลาสั่ง สั่งในชื่อเขา มีการใส่เบอร์โทรแอมลงไป ก็ฟังข้อมูลเฉย ๆ ทีนี้หลังตัวเองไปอะไรมามากมาย ตอนนั้นพี่เขาจะรับมากรุงเทพฯ พอกลับไปบ้าน เราคิดว่าภารกิจเรายังไม่เสร็จ หลังจากเราไปยุ่งวุ่นวายกับทางใต้ จะมาหาอะไรบางอย่างไม่เจอ ทีนี้ตอนเช้าไปด้วยกัน ก็บอกว่ามีเรื่องค้างคาใจอยู่เรื่องนึง ก่อนไปกรุงเทพฯ ขอทำภารกิจตัวเองให้เสร็จก่อน หากล่องพัสดุไม่เจอ ต้องไปหาที่โน่น ตัวเองเป็นคนขับรถมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ ระยะทางที่ห่างกันก็ 20 นาที ก็ให้พี่เขาพาไปตรงนั้นหน่อยนึง แล้วไปถามเจ้าหน้าที่นิติว่ามีพัสดุถึงพี่มั้ย เขาบอกว่าไม่มี ทางขึ้นบันไดมีกล่องวางอยู่กล่องนึง เหมือนเป็นกล่องเบียร์ช้ำ ๆ สักนิดนึง พอพี่เขาไปดู ก็ถามแก้วว่ารู้จักคนส่งมั้ย มารู้ทีหลังว่าเป็นน้องสะใภ้แอม พี่เขาก็เอากระเป๋าขึ้นรถไปด้วย ก็บอกว่ากล่องนี้แหละที่รู้สึกว่าไม่ใช่ของที่เราสั่งมา ถ้าสั่งต้องมาส่งที่ทะเบียนบ้านปัจจุบัน แต่นั่นส่งมาตามทะเบียนราษฎร์ ซึ่งเราไม่ได้อยู่แล้ว

ปรเมศวร์ : เขาส่งมาเป็นชื่อเราเลย จ่าหน้ากล่องเรียบร้อย

แก้ว : ค่ะ หลังจากนั้นก็มากรุงเทพฯ

อ้อ : วันนั้นวินวินไปรับ เรานัดกับรองโจ๊กว่าจะพาพี่แก้วมาให้ข้อมูลเรื่องรถป้ายแดง ที่แอมมักหลอกให้คนเอารถป้ายแดงไปขาย ไม่เกี่ยวกับพัสดุเลย แต่วันนั้นพี่ต้อย วินวิน ไปร่วมงานศพก้อยเสร็จ ก็เลยไปรับพี่แก้ว พี่แก้วเลยเล่าให้ฟังว่ามีพัสดุแจ้งมา ซึ่งส่งออกวันที่ 19 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่คุณก้อยเสียชีวิต

ปรเมศวร์ : มีใครแจ้งพัสดุมามั้ย

แก้ว : มีค่ะ วันที่ 22 มีแจ้งมา ตอนนั้นอยู่ชะอำ เจ้าหน้าที่พัสดุโทรมาบอก ทีนี้ก็บอกเขาว่าพี่ไม่อยู่บ้าน โยนข้ามกำแพงบ้านไปเลย เขาบอกว่าไม่มีกำแพงบ้านนะพี่ ซึ่งบ้านปัจจุบันเป็นบ้านเดี่ยวมีกำแพง แต่เขาส่งไปตามบัตรประชาชน เป็นคอนโด ตรงนั้นไม่มีคนรับ เขาเลยต้องวางเอาไว้

ที่ไล่ที่มาที่ไป เพราะมีผลพัวพันกับเรื่องราวล่าสุดที่บอกว่าจะมีหมายจับทนายพัช ทนายของแอม ก็งงว่าเขาจะออกหมายจับทนายพัชเรื่องอะไร บิ๊กโจ๊กบอกว่าการออกอนุมัติหมายจับวันนี้ตามมาตรา 184 ช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ได้รับโทษ หรือรับโทษน้อยลง โดยการทำลายซ่อนเร้นพยานหลักฐาน หลังพบพยานหลักฐานว่าทนายพัชมีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังการจัดฉาก ยักย้ายหลักฐานเพื่ออำพรางคดีการเสียชีวิตของน.ส.ศิริพร หรือก้อย ในประเด็นเรื่องกระเป๋าของก้อยที่สูญหายไปหลังก้อยเสียชีวิตไปแล้ว ก่อนจะมีการส่งต่อไปยังสถานที่ต่าง ๆ หลายที่ สุดท้ายน้องสะใภ้ของแอมเป็นคนส่งไปให้เพื่อนสนิทของแอมคือแก้ว ที่คอนโดที่จังหวัดเพชรบุรี ศาลบอกว่าไม่ต้องออกหมายจับหรอก ให้ออกหมายเรียกก่อน ทนายพัชบอกว่าจะไปเมื่อคืนนี้ทุ่มนึง แต่ปรากฏว่าไม่ไป นักข่าวก็ไปรอกัน ล่าสุดทนายพัชบอกว่าไม่ต้องออก เดี๋ยวไปเจอแล้ว จะเข้าไปเจอแอม แล้วให้แอมเซ็นเอกสาร บิ๊กเกรียนบอกว่าจะฟ้องตร.แล้ว 157 ทีนี้อยากรู้ว่าตร.มีหลักฐานอะไรหรือเชื่อได้ยังไงว่าทางฝั่งทนายเขามีส่วนรู้เห็นกับเรื่องกระเป๋าที่ส่งให้คุณแก้ว?

แก้ว : ก็วันนั้นที่เข้าไปในเรือนจำ แอมเขาบอกกับตร.แบบนี้ ตร.ถามว่าส่งหลักฐานตัวนี้ให้พี่แก้วทำไม แอมก็บอกว่าทนายบอกว่าให้เก็บไว้เป็นหลักฐานในชั้นศาล ตร.ก็บอกว่าไม่ใช่นะ หลักฐานนี้มันมัดตัวเอง เขาก็บอกว่าทนายบอกเขาแบบนั้น เขาถามทำไมไม่ส่งให้ทนาย ทำไมส่งให้พี่แก้ว น้องเขาก็ไม่ตอบ ตร.ก็ถามว่าใช่เหรอ ทนายเขาจบทนายมาเขาไม่น่าให้ส่งไปนะ เพราะหลักฐานนั้นมันเป็นหลักฐานมัดตัวไปขั้นชั้นศาลได้ไง แต่แอมตอบมาแบบนั้นค่ะ

แอมกล่าวหาทนายพัชหรือเปล่า?

แก้ว :   อันนี้ก็ไม่ทราบ

ตอนแรกจะออกหมายจับ อย่างนี้ถ้าเป็นตามข้อเท็จจริง?

ปรเมศวร์ : ข้อเท็จจริง 184 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ในกฎหมายบอกว่าเรียกผู้ต้องหาคนที่ถูกกล่าวหา ถ้ามีโทษจำคุกเกิน 3 ปีจะออกหมายจับก็ได้ หรือจะออกหมายเรียกก็ได้ แต่กฎหมายให้โอกาสออกหมายจับได้เลย แสดงว่าไปออกหมายจับที่ศาล แสดงว่าเขาเตรียมตั้งทนายคนนี้เป็นผู้ต้องหาแล้ว ตาม 184 คือการช่วยซ่อนเร้น ต้องต่อจิ๊กซอร์ว่าใครเป็นคนสั่งให้น้องสะใภ้ไปส่ง ถ้าตร.ออกหมายอย่างนี้ ก็เป็นไปได้ที่ทนายให้น้องเป็นคนไปส่ง เขาเลยตั้งข้อหา 184 ร่วมกัน สมคบกัน ยักย้ายพยานหลักฐาน

เปิดคลิปเสียงพี่รพีที่มีการพูดกับแอม ก่อนแอมถูกจับ คุณรพีเหมือนผู้มาก่อนกาล ไล่เลย กระเป๋าอยู่ที่ไหน เอาไปทิ้งเอ็งต้องอย่างนี้ ๆ นะ  โทรศัพท์สองเครื่องยังไง ถ้าเกิดตรวจร่างกายเจอยาพิษเอ็งซวยเลยนะ แล้วสุดท้ายมันออกมาเป็นอย่างที่เขาพูดไว้เลย ประเด็นคือกระเป๋า แอมเองมีการบอกว่าเอาไปทิ้งแล้ว แต่กลายเป็นว่าให้น้องสะใภ้ตัวเองส่งคุณแก้ว แบบนี้เจตนามันแปลก ๆ?

ปรเมศวร์ : มันคือยักย้ายพยานหลักฐานทั้งหมด เพราะคุณรพีไปพูดเรื่องโทรศัพท์บ้าง กระเป๋าบ้าง เป็นพยานแวดล้อมที่ประกอบว่ามันน่าจะมีการเอาไปหลังจากที่มีการตาย ดูว่าเขาไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ เขาไม่กลัวอะไร

พอเข้าเรื่องทนายความ พอแอมพูดคำว่าทนายแนะนำให้ส่งแบบนี้ ให้ทำแบบนี้?

ปรเมศวร์ : คนเอาไปส่งพนักงานสอบสวนคงสอบแล้ว และคงชี้เป้าแล้วว่าใครใช้ พยานหลักฐานต้องน่าเชื่อวามีการกระทำความผิดตร.ถึงออกหมายจับ ทีนี้ออกหมายจับเร็วเพราะโทษเกิน 5 ปี ถ้าโทษไม่ถึง 3 ปีเขาออกหมายเรียก ทีนี้ศาลบอกว่าออกหมายเรียกไปก่อน ศาลมองว่าทนายเขามีตัวตน ไม่น่าจะหลบหนี

ตร.บอกพฤติกรรมทนายพัชเหมือนรองอ๊อฟ สามีแอม เพราะมีการยักย้ายถ่ายเทกระเป๋า?

ปรเมศวร์ :  ความผิดพวกนี้คือความผิดขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ถ้าต่างประเทศจะหนักมาก แต่ของเราไม่หนัก แต่ชัดๆ ว่าตอนนี้ถ้าไปปรากฏตัวต่อพนักงานสอบสวน เขาคงตั้งเป็นผู้ต้องหา

ล่าสุดช่วงเลือกตั้ง มีข่าวว่าแอมรับสารภาพ แต่ไม่เชิงรับว่าตัวเองเป็นคนกระทำ รับสารภาพว่าไซยาไนด์แด้เคยผสมยาเสพติดแล้วเสพ หลังจากนั้นก้อยเขาขอ ฝั่งเธอเองก็หวังดีเอาไปให้ เอาไปผสมยาเสพติด ทำกันเอง แล้วเสียชีวิตกันเอง เธอไม่เกี่ยว ประมาณนั้น อาจารย์มองยังไง?

ปรเมศวร์ : ไม่ใช่รับหรอก เขาเรียกว่ารับข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ แต่จะข้อเท็จหรือข้อจริงไม่รู้ การรับสารภาพทางกฎหมาย รับว่าตัวเองกระทำความผิดฐานฆ่าหรือไม่ แค่นั้นเอง

มีสื่อไปสัมภาษณ์ตร. ตร.บางท่านบอกว่าตั้งแต่เกิดจากท้องพ่อท้องแม่ ไม่เคยเห็นเลยว่าเอาไซยาไนด์ไปผสมยาเสพติดมาเสพ เขาบอกตายหมด ใครจะไปทำอย่างนั้น มันไม่มี?

ปรเมศวร์ : ที่เขาพูดมาไม่ใช่การรับสารภาพ เป็นการพูดเพื่อปัดให้ตัวเองพ้นผิดในฐานะผู้ต้องหา

กรณีทนายพัช เขาโดนข้อกล่าวหาแล้ว ทนายมีสิทธิ์สู้ได้เหมือนกัน เพราะเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่?

ปรเมศวร์ : ถ้าพนักงานสอบสวนเรียกไปพบและแจ้งข้อกล่าวหา เขาให้การยังไงก็ว่ากันไป เขาก็ต่อสู้ไป บางทีบางคนถามทนายว่าความได้มั้ย ได้ ทุกคนถ้าถูกฟ้องว่าความด้วยตัวเองก็ได้ แต่เขาจะไม่ว่ากัน

อยู่ในสายกับ “บิ๊กโจ๊ก” พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ตอนนี้เป็นหมายเรียกสำหรับทนายพัช?

บิ๊กโจ๊ก : ใช่ครับ คือศาลท่านพิจารณาว่ากรณีเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งเรามีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว ในส่วนรองอ๊อฟ แต่รองอ๊อฟ ไม่ได้ขออนุมัติหมายศาลออกหมายจับ เราใช้แค่การแจ้งข้อกล่าวหา ดังนั้นในความผิดเรื่องการไปยุ่งเหยิงทำลายพยานหลักฐาน ก็เป็นความผิดอันเดียวกัน เหมือนกับรองอ๊อฟ ศาลก็เลยให้ปฏิบัติเหมือนรองอ๊อฟ คือออกหมายเรียกผู้ต้องหา เมื่อวานส่วนพนักงานสอบสวนส่วนกองปราบ ก็สั่งให้ไปออกหมายเรียกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

ทางตร.เอง มีหลักฐานชัดเจน ยืนยันได้ถึงได้ออกหมายขนาดนี้?

บิ๊กโจ๊ก : ใช่ครับ เรามีหลักฐานชัดเจน ต้องบอกว่าในกระบวนการยุติธรรม ในส่วนกลุ่มคนที่เราออกหมายจับหรืออกหมายเรียกผู้ต้องหาก็ตาม เหล่านี้แม้เขาเป็นผู้ต้องหาแล้ว แต่ตราบใดก็ตามที่ศาลยังไม่พิพากษาว่าเขาเป็นผู้กระทำความผิด เขาก็ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เราก็ต้องให้ความเป็นธรรม แต่ถามว่าพยานหลักฐานเราไปถึงมั้ย พยานหลักฐานเราเพียงพอ เราถึงอนุมัติหมายจับ แล้วศาลก็เห็นว่าพยานหลักฐานเพียงพอ ถึงได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา

ล่าสุดฝั่งบิ๊กเกรียนลงว่าทนายพัชไม่ได้ไปไหน เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาจะไปรับทราบข้อกล่าวหา?

บิ๊กโจ๊ก : ผมทราบจากกองปราบปรามว่าเขาจะมามอบตัวตอนทุ่มนึง แต่หลังจากทุ่มนึงก็ไม่มา ผู้บังคับการกองปราบก็รายงานให้ผมทราบ ก็ไม่เป็นไร ก็เป็นสิทธิ์ของเขา เพียงแต่เราออกหมายเรียก ก็มีระยะเวลาให้ ถ้าไม่ทำตามหมายเรียก ก็มีเหตุให้ออกหมายจับ ก็แค่นั้น เราดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม

บิ๊กเกรียนบอกว่าทนายพัชจะไปหาแอมวันที่ 23 ที่ทัณฑสถานกลาง ให้แอมเซ็นเอกสารเตรียมแจ้งความตร. 157 น่าจะมีท่านด้วยนะ ผมไม่ได้ปั่นนะ เขาว่ามาแบบนี้?

บิ๊กโจ๊ก : เรื่องนี้ผมไม่ทราบ แต่เรื่องแจ้งความก็ทำได้หมด แต่การตัดสินก็อยู่ที่พยานหลักฐาน เพราะต้องเรียนตรงๆ ว่าการทำงานก็ต้องให้ความเป็นธรรม การดำเนินคดี แจ้งข้อกล่าวหา สอบสวนก็เป็นขั้นตอนชั้นสอบสวนเพื่อนำคดีขึ้นสู่ศาล แต่ว่าก็ต้องให้ความเป็นธรรมเขาด้วยว่าตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาถึงที่สุด ก็ถือว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ นี่เป็นกระบวนการหลักยุติธรรม 

เขาไล่ฟ้องหมดเลยนะ ทั้งคุณรพี พลเมืองดี พิธีกรสองคน ไม่รู้ผมจะเป็นหนึ่งในนั้นหรือเปล่า มีตร.ด้วยต่างๆ นานา ท่านโจ๊กมองยังไง?

บิ๊กโจ๊ก : ไม่เป็นไร เขาก็สามารถใช้สิทธิ์ได้ แต่ในกระบวนการฟ้องต่อศาลยุติธรรมต่างๆ ส่วนนี้ศาลต้องใช้ดุลยพินิจต่างๆ ซึ่งถ้าคุณรพีไม่นำข้อมูลมาแจ้งต่อผม ผมก็ไม่รู้ อาจมีศพที่ 18 19 20 ต่อไปก็ได้ วันนี้เมื่อคุณรพีเสียสละนำข้อมูลมาให้ผมเมื่อเราพิสูจน์ทราบ กระบวนการก็ยุติตั้งแต่ตอนนี้ ไม่งั้นอาจมีศพต่อไป ในเรื่องที่คุณรพีทำผมก็มองว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ในการทำงานแบบนี้ต้องสุ่มเสี่ยงต่อการฟ้องร้อง รวมถึงผมเองก็ตาม วันนี้การทำงานข้าราชการแบบผมหรือคุณหนุ่มก็ตาม เราต้องยึดหลักรักษาองค์กร รักษาส่วนรวม รักษาประเทศชาติมากกว่ารักษาตัว ถ้าเรารักษาตัวมากกว่ารักษาประชาชน เรื่องแบบนี้เราคงไม่กล้าไปทำ ฉะนั้นถ้าเราจะทำเราก็ต้องคิดแล้ว ว่าเราต่อสู้อยู่กับใคร เราต่อสู้กับผู้มีความรู้ทางกฎหมาย แต่เราก็ยึดหลักกระบวนการยุติธรรม โดยยึดหลักต้องรักษาส่วนร่วมมากกว่ารักษาตัว

ฝากท่านดูแลพี่รพีด้วย?

บิ๊กโจ๊ก : ดูแลครับ กับคุณหนุ่มผมก็ดูแลด้วย ไม่มีปัญหา

ขอบคุณครับ อยากได้ยินคำนี้?

บิ๊กโจ๊ก : เราทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ไม่มีอะไร ทำให้ประชาชนอุ่นใจเชื่อมั่น

ปรเมศวร์ : จริง ๆ เรื่องคุณรพี ถ้าเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ถ้าเขาฟ้องศาล คุณรพีก็ยื่นคำร้องที่สำนักงานอัยการ ขอให้เป็นทนายแก้ต่างได้ แต่ของคุณหนุ่มไม่ได้ (หัวเราะ) ต้องหาเอง แต่เขาต้องมีพยานหลักฐานถึงกล้าออกหมายจับ

ฟังรองโจ๊กพูดเป็นไงบ้าง?

ปรเมศวร์ :   ก็ชัดเจน ตร.จะออกหมายจับได้ ก็ต้องมีพยานหลักฐานพอสมควรเชื่อได้ว่าผู้นั้นกระทำความผิด ทนายคนนี้ก็แจ้งได้ ศาลให้ออกหมายเรียก แต่มีเงื่อนไขอยู่อย่างนึงนะ 134 วรรคท้าย ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาแต่ยังไม่ได้ออกหมายจับ ถ้าพนักงานเห็นว่าออกหมายจับได้ ให้พาผู้ต้องหาไปหาศาลแล้วขอออกหมายขัง เขาขังได้นะ ไม่ใช่ขังไม่ได้ เพราะตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ตอนฟังเรื่องกระเป๋า ติดใจว่าทำไมต้องส่งไปที่คุณแก้ว แต่ฟังคุณแก้วเล่าให้ฟังว่าเขาเคยบอกวันที่จะถูกจับว่าอีกหน่อยจะมาอยู่กับแก้วตลอดเวลา เขาอาจไว้ใจอยู่ ต้องอธิบายว่าทำไมต้องส่งให้คุณแก้ว ใครเป็นคนส่ง ตร.คงไปสอบน้องแล้วว่าทำไมต้องส่งไปที่นี่ ที่สำคัญใครใช้ให้ไปส่ง พยานอยู่ตรงนี้ มันจะเหมือนกันหมด ทางนี้ตร.เรียกแล้ว

หมายถึงแอมจะไปอยู่กับคุณแก้ว?

แก้ว : วันที่ 17-25 เขาบอกจะมานอนด้วยทุกวันเลยค่ะ แต่ถึงเวลาก็ไม่ได้มานะคะ วันที่ 18 เราเจอเขาที่บ้านโป่ง 21 23 ก็อยู่กับเขา คือของถ้ามาส่ง 22 เราก็ยังเจอเขาอยู่ ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้กันค่ะ ทนายก็เจอพร้อมแอม 4 ครั้ง ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้กัน ตอนนั้นแอมยังไม่ถูกจับค่ะ แม้แต่วันที่ 25 น้องยังบอกเลยว่าถ้าเสร็จธุระจากกรุงเทพฯ จะมาอยู่กับพี่ แล้วสายนั้นคือสายสุดท้ายแล้วโดนจับ เขาบอกว่าเดี๋ยวเสร็จจากโน่นจะวิ่งลงมาหาที่นี่เลย

ปรเมศวร์ :   แสดงว่าเหลือที่เขาไว้วางใจได้อยู่คนเดียว เขาจึงจะส่งของมาให้

อ้อ : แต่ทางนี้ไม่รู้ว่าเขาส่งมา

ของส่งไปก่อน เดี๋ยวตัวตามไป?

ปรเมศวร์ : ผมว่าเขาไว้ใจอยู่คนเดียวแล้ว ถ้าเขาเป็นผู้กระทำ ถ้าข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ ผมคิดว่าพฤติกรรมแบบนี้ ถ้าเป็นอาชญากรก็เป็นอาชญากรที่สมบูรณ์แบบ มีการวางทุกเรื่องทุกระดับ ตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่จำนำรถ หวยทิพย์ แชร์ทิพย์ วางก่อนพบ แล้วก็จบ  คุณแก้วน่าสนใจ กลับมาให้น้ำดื่ม รุ่งเช้ามาถามหา เป็นวิธีการที่อาชญากรทั่วไปเขาทำกันเพื่อปกปิด ผมทำคดีหลายเรื่อง ปรากฏว่ายิงเสร็จ พอตร.มาแล้วกลับมาดูผลงาน อาชญากรที่ไม่สมบูรณ์แบบทิ้งเลย หลบก่อน แต่อาชญากรที่มีความสมบูรณ์แบบ ต้องกลับมาดูอีกครั้งนึง เขาดูว่ามีอะไรหลงเหลือที่จะถึงเขามั้ย เขาต้องเก็บให้หมด เหมือนการกระจายสิ่งของไปก็ชัดเจน

เขาก็ไม่ได้ไปไหน ให้เด็ก ๆ วัยรุ่นเก็บหลักฐาน โดยเธอให้เอาไปฝังดิน วันไม่สบายใจก็ให้ขุดขึ้นมาแล้วให้อีกหมื่นนึง?

ปรเมศวร์ :   ถือว่าเป็นความสมบูรณ์แบบของอาชญากร แต่ความสมบูรณ์แบบทุกครั้งของอาชญากรรม ต้องทิ้งร่องรอยหลักฐานเสมอ ดังนั้นถ้าอยากปกปิดตัวเองต้องกลับมาเก็บให้หมด แต่แน่นอน มันเก็บไม่หมด ผมนั่งฟังแล้วว่ากระเป๋าอันนั้นคงมีมูลค่าถึงอยากได้อยู่ เราเห็นมั้ยเรื่องคดีอุ้มพี่ชายผู้พิพากษาเอาไปเผา เผาเสร็จก็เก็บ เขาพยายามเก็บให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แต่เชื่อเถอะอาชญากรรมทุกครั้งทิ้งร่องรอยเสมอ

ถ้าทนายไม่ได้ทำอย่างที่ถูกกล่าวหา แล้วไปหาคุณแอมให้เซ็นเอกสารฟ้อง ตร. ตรงนี้มีนัยยะอะไรมั้ย?

ปรเมศวร์ : ก็จะบอกว่าชุดพนักงานสอบสวนทำหน้าที่มิชอบก็ต้องไปปปช. ไม่ใช่ตร.ทำ ถ้าเขาจะฟ้องคดีเอง ต้องไต่สวน ซึ่งดูแล้วคงยาก เพราะพยานหลักฐาน รองโจ๊ก กองปราบ ก็ทำไปตามหน้าที่ หรือคุณรพี ก็เป็นการช่วยเหลือเจ้าพนักงาน

ผมล่ะ?

ปรเมศวร์ : คุณหนุ่มนำเสนอข้อเท็จจริง ไม่มีอะไรที่เป็นการใส่ร้าย เป็นตามปรากฏข่าว ตามข้อเท็จจริงเป็นการนำเสนอ เท่านั้นเอง ถ้าจะให้ใครฟ้อง ให้แอมฟ้อง ก็ฟ้องยากมาก เพราะไม่รู้ข้อเท็จจริง คนไปเบิกความคือพยานบอกเล่า แอมไม่ได้มานั่งฟังคุณหนุ่มพูดเอง เขาอยูในเรือนจำ เขาไม่รู้

ทนายฟ้องผมได้มั้ย?

ปรเมศวร์ : ทนายเสียหายตรงไหน

เวลาเขาเข้าสายหรือมีการพูดถึงเขา?

ปรเมศวร์ : คุณอ้อ คุณหนุ่ม ผม หรือทนายความที่ให้สัมภาษณ์ อาจกลายเป็นบุคคลสาธารณะที่อาจถูกกวิพากษ์วิจารณ์ได้ โดยไม่ใช่เป็นการใส่ร้าย ฟ้องไม่ได้หรอกครับ ฟ้องไปก็ยก ถ้าบอกทนายเลว คนนั้นชั่ว นั่นคือหมิ่นประมาทเขาได้

คุณรพีเองไปร้องมรรยาททนายความ?

ปรเมศวร์ :   ก็ร้องได้ ถ้าตร.กล่าวหาแล้วมีคนไปร้องลำบากนะ เพราะหลักวิชาชีพกฎหมาย เป็นเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม แล้วพยายามเคลื่อนย้ายพยานหลักฐาน ปกปิดซ่อนเร้นพยานหลักฐาน อันนี้ถือว่าผิดมารยาททนายอย่างแรง ผมก็เหมือนกัน ถ้าผมมีพยานหลักฐานแล้วเอาไปทิ้ง ผมก็ติดคุกเหมือนกัน หลักวิชาชีพนักกฎหมาย ต้องทำความจริงให้ปรากฏ อย่างคุณแก้วก็เป็นเรื่องของการเปิดเผยความจริง ทำความจริงให้ปรากฏ คุณแก้วเป็นพยานผู้พิสูจน์ความจริง ไม่ได้เป็นของใคร บางทีเราบอกว่าเป็นของแอม เป็นของตร. ไม่ใช่ เป็นพยานของศาล แต่เวลาฝ่ายโจทก์อ้างคุณแก้ว หรือคุณแอมอ้าคุณแก้วก็เรื่องของเขา แต่เราไปเบิกความเราเป็นพยานศาล ไม่ใช่คนนั้นอ้างแล้วจะไปโน้มน้าว ไม่ใช่

แอมบอกว่าอยากให้ไปเป็นพยานฝั่งแอมว่าเขาไม่มีพฤติกรรมแบบนี้?

ปรเมศวร์ :   อันนี้ไปบอกได้อย่างเดียวว่าเคยจะสลบไปรอบนึง แต่แอมจะไปทำอะไรกับใคร คุณก็ไม่รู้ไม่เห็น รู้อย่างเดียวว่ามีของมา และแอมเคยบอกจะมาอยู่ด้วย เขาตอบได้แค่นี้ เป็นพยานศาล ถ้าความจริงไม่ปรากฏ ความยุติธรรมจะไม่เกิด ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ (หัวเราะ)

ในเฟซบุ๊กบอกว่าคุณหนุ่มไม่ต้องกลัว ผมไม่ได้กลัว แค่หาทางออก (หัวเราะ)?

ปรเมศวร์ : มันเป็นเรื่องการนำเสนอข่าว ทีนี้ของเราหลัง ๆ ผู้อ่านข่าวหลายคนก็พยายามเติมความเห็นลงไป เราก็พยายามเตือนว่าให้เติมแค่ความคิดชาวบ้าน ไม่ใช่เติมเพื่อการใส่ร้าย ก็ต้องระวังแค่นั้นเอง แต่ที่ผ่านมาผมดูคุณหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ร้ายอะไรใคร แม้กระทั่งเรื่องพ่อเลี้ยงยิงแม่ตายใต้คอนโด ที่สุดเขาอยู่ไม่ไหว เขาก็ฆ่าตัวตายของเขาเอง เราก็บอกว่าอันนี้โหดร้ายเกินไป เราบอกว่าพฤติกรรมเขาผิดมนุษย์ปุถุชนทั่วไป ไม่ได้บอกว่าเป็นยังไง ไม่มีอะไรหรอก

ล่าสุดบอกว่าครูไม่ต้อกลัวหรอก ศาลก็แค่บ้านหลังที่สอง ใจเย็น ๆ?

ปรเมศวร์ : ผมเข้าใจว่าวันนี้กระบวนการยุติธรรมยอมรับอยู่เรื่องนึง เมื่อก่อนเราบอกว่ากระบวนการยุติธรรมมีห้าห่วง ตร. อัยการ ทนาย ศาล ราชทัณฑ์ เมื่อปีที่แล้วผมบอกว่ามี 6 ห่วง คือสื่อสารมวลชน ถึงจะมีทนายบางคนบอกถ้าคดีไม่ดังตร.ไม่ทำ แต่วันนี้ผมบอกว่าเพิ่มมาห่วงนึงคือมูลนิธิ พลเมืองดีที่ช่วยกันค้นหาความจริง อันนี้ทำให้กระบวนการยุติธรรมดีขึ้น ยอมรับว่าดีขึ้นจริง ๆ

สุดท้ายต้องตามดูว่าจะตั้งข้อหาทนายพัชยังไงบ้าง แต่วันนี้เขายังไม่ได้ผิด จนกว่าจะผ่านกระบวนการตามชั้นศาลเสียก่อน แต่สุดท้ายทนายพัชก็มีสิทธิ์แหละที่จะฟ้องตร. หรือฟ้องผม ฟ้องคุณปรเมศวร์ หรือคุณรพี แต่ไม่เป็นไร เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนพี่แก้วยืนยันถ้าขึ้นศาลจะเป็นพยานให้ศาล?

แก้ว :   ค่ะ

คุณอ้อต้องขึ้นมั้ย?

อ้อ : ได้หมด แต่ขึ้นเรื่องอะไร

คุณไม่กลัวเขาฟ้องเหรอ?

อ้อ : ไม่กลัวค่ะ ฟ้องก็ฟ้อง

ปรเมศวร์ : ไม่งั้นมันจะต่อจิ๊กซอร์ไม่ได้ คนที่น่าจะขึ้นก่อนเพื่อนคือคุณรพีเป็นคนอธิบายแล้วอ้อไปต่อจิ๊กซอร์ตัวไหน ไม่งั้นจะขาดเป็นช่วงๆ เราต้องต่อหมดเพื่อให้เห็นภาพรวม ไม่งั้นไปต่อไม่ได้


โทรหาทนายพัชหลายสาย แต่ติดต่อไม่ได้เลย ถ้าทนายพัชต้องการชี้แจงข้อเท็จจริงก็ยินดี ผมโทรหาหลายครั้งรับปากผมแต่ไม่มา แล้วแว่วๆ ว่าจะมีการฟ้องกัน ก็ไม่เป็นไร อยากฝากอะไรมั้ย?

อ้อ : ฝากผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ตอนนี้ถ้ามีอีกหลายรายจะถูกแอมและทนายฟ้อง ก็ดูแลทางวินวินด้วย (หัวเราะ) เผื่อวินวินโดนฟ้องเหมือนกัน

แก้ว : ไม่ฝากอะไรนะคะ ทุกวันนี้ก็คิดว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว อะไรควรจะเป็นก็ทำไปแบบนั้น ไม่ได้มองว่าจะมีผลกระทบกับตัวเองยังไง

กลัวแอมมองว่าเราหักหลังมั้ย?

แก้ว : พี่ไม่ใช้คำว่าหักหลัง เพราะถ้าหักหลังจะหมายถึงผู้ร่วมกระบวนการ

หักเหลี่ยมโหด เคยสนิทกันมาก่อน?

แก้ว : ไม่ใช่หรอกค่ะ ในเมื่อเขาทำผิด เราก็ไม่เข้าข้างคนผิด ผิดหรือไม่ผิดไม่รู้ แต่สิ่งที่น่าจะเป็น มันเป็นเช่นนี้

เหมือนเพื่อนคุณแอมคนนึงมานั่งวันนั้น ที่มาจากเวิร์คพ้อยท์ น้องใหม่พูดไว้ดี เขาบอกว่าคนเราเป็นเพื่อนกันศีลต้องเสมอกัน ถ้าศีลไม่เสมอกันก็ไม่ต้องเป็นเพื่อนกัน?

แก้ว : พี่กับแอมเป็นคนละขั้วกันเลยนะ เราไม่เซ้าซี้ ไม่เรื่องมาก ไม่ถามมาก ไม่มีปาก เขาจะพูดอะไรก็พูดไป แล้วเราเป็นคนไม่โกหก เขาจะโกหกอะไรก็เรื่องของเขา เวลาคบเราจะมีกรอบของเราอยู่ เราก็คือเราแบบนี้

ปรเมศวร์ : ฝากไปถึงทนายพัช จริงๆ ด้วยวิชาชีพของเรา เราต้องทำความจริงให้ปรากฏ ประการที่หนึ่ง สองถ้าเขาทำผิด ก็ให้เขารับโทษที่เหมาะสม นักกฎหมายไม่ใช่ตะบี้ตะบันช่วยโดยไม่ดูอะไรเลย ไม่ใช่ ไม่งั้นความยุติธรรมไม่เกิด เราเป็นผู้รักษาความยุติธรรมของแผ่นดิน ก็อยากเชิญชวนทนายพัชมาคุยกับคุณหนุ่มก็ได้ เรื่องมันเป็นยังไง มาทำความจริงให้ปรากฏ ไม่มีใครว่าอะไรหรอกครับ วันนั้นถ้ามาออกแล้วพูดกันตรงไปตรงมา ผมว่าทนายพัชอาจเป็นทนายที่มีชื่อเสียงก็ได้ อย่าทิ้งโอกาส เพราะมีทนายหลายคนชอบออกหน้าจอจะตาย (หัวเราะ) ไม่ได้ว่าใครนะ (หัวเราะ) ทนายพัชมาพูดกับคุณหนุ่มเต็มๆ เครดิตจะกลับไปที่ทนายพัชนะครับ ลองคิดดูสักครั้งนึง เพื่อประโยชน์ของท่านด้วย

ก็รออยู่ ไม่ต้องออกรายการผมก็ได้ ออกรายการไหนก็ได้ เอาตรง ๆ ผมคุยกับทนายพัชครั้งแรก โทรคุยครั้งแรกช่วงคดีแอมก่อนมีการสัมภาษณ์กันวันนั้น ทนายพัชบอกว่าผมรู้จักเธอตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว รู้จักทางญาติของแก แล้วเหมือนผมเคยไปที่บ้านแกด้วยตอนเด็ก ๆ ไหนบอกรู้จักกันตั้งแต่เด็ก เมื่อไหร่มาล่ะ รออยู่?

อ้อ : นั่น (หัวเราะ)

About Author