"ยูแอนด์ไอ” (You & I) รุกเร็วชูพิกัด!ใหม่เปิดสาขา 18 ที่ “ICS” ยกเป็นแฟลกชิปสโตร์สาขาแรก

ยูแอนด์ไอ (You & I) สุกี้พรีเมี่ยมบุฟเฟ่ต์ พร้อมเปิดประสบการณ์การกินสุกี้มื้อพิเศษสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานสุกี้ที่แตกต่าง ล่าสุดกับสาขาใหม่ในลำดับที่ 18 ณ ศูนย์การค้า ICS ชั้น 4 ถ.เจริญนคร

ภายใต้การดำเนินงานโดย คุณชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ พร้อมทั้ง คุณยุพิน ชัยวิกรัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.ยูแอนด์ไอ กรุ๊ป ซึ่งมองถึงทำเลที่ตั้งของสาขานี้อยู่ใจกลางย่านฝั่งธนบุรี ด้วยการเดินทางสะดวกติดกับรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีทอง พร้อมชูให้ “ยูแอนด์ไอ” (You & I) สาขาใหม่ ศูนย์การค้า ICS นี้ เป็นแฟลกชิปสโตร์ (Flagship Store) ที่มีความโดดเด่นในเรื่องขนาดพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ทาง ยูแอนด์ไอ (You & I) สุกี้พรีเมี่ยมบุฟเฟ่ต์ เปิดสาขามารวมไปถึงบริการห้อง ไพรเวท รูม (Private room) ที่สามารถจุคนได้ถึง 16 คน รวม 2 ห้อง พร้อมบริการเสิร์ฟเมนูขนมหวานพรีเมี่ยมสุดพิเศษที่แตกต่าง ซึ่งมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา โดยมี หุ้นส่วน, แขกผู้มีเกียรติ, นักแสดง ฯลฯ ตบเท้าร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง

ซึ่งการดำเนินงานขยายสาขามาถึงสาขาในลำดับที่ 18 เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของ คณะผู้บริหาร และทีมงาน เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบในการทานสุกี้ชาบู มีความต้องการรับประทานอาหารในประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ยกระดับขึ้นจากร้านชาบูทั่วไป ด้วยเมนูระดับพรีเมี่ยม สดใหม่ วัตถุดิบที่หลากหลาย บริการชั้นเยี่ยม และหม้อส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร อย่างต่อเนื่อง โดยยอดขาย ยูแอนด์ไอ (You & I) สุกี้พรีเมี่ยมบุฟเฟ่ต์ ในปี 2565 ปิดผลประกอบการด้วยรายได้เกือบ 400 ล้านบาท ทำให้ทาง ยูแอนด์ไอ (You & I) สุกี้พรีเมี่ยมบุฟเฟ่ต์ วางเป้าหมายในปี 2566 นี้ ด้วยรายได้ที่สูงขึ้น ที่ 550 ล้านบาท และ รายได้ 1,000 ล้านบาทในอีก 3 ปี ด้วยการเติบโตจากการขยายสาขาเพิ่มเติมของ ยูแอนด์ไอ (You & I) สุกี้พรีเมี่ยมบุฟเฟ่ต์ ที่จะมีการเปิดขึ้นอีกอย่างน้อย 15 สาขา ภายในปี 2568 พร้อมด้วยการเตรียมเปิดตัวอีกสองธุรกิจน้องใหม่ในเครืออย่าง “ลายเส้น” ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือสุดพรีเมี่ยม ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ลาย-เนื้อ-เส้น-สวย ที่พร้อมสร้างเส้นประสบการณ์ใหม่ในทุกจานให้กับคุณลูกค้า

รวมไปถึง “Dr.Sandwich” ร้านแซนด์วิช กับคอนเซ็ปต์ East meets west เป็นการนำเสน่ห์ของอาหารจากวัฒนธรรมตะวันออก มาผสมผสาน กับเสน่ห์ของวัฒนธรรมตะวันตก เมื่อมาเจอกัน ก็จะเกิดเป็นเมนูสร้างสรรค์ ที่เป็นเอกลักษณ์เข้าประกอบรวมกันเป็นแซนด์วิชที่สามารถ สร้างประสบการณ์ใหม่ในการทาน ให้กับลูกค้า

งานนี้ “คุณยุพิน ชัยวิกรัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.ยูแอนด์ไอ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในวิสัยทัศน์ของเรา “บุฟเฟต์ สัญชาติไทย ก่อตั้งโดยคนไทย เป็นอันดับหนึ่ง” ซึ่งยูแอนด์ไอ เราจะเป็นนัมเบอร์วัน สุกี้บุฟเฟ่ต์พรีเมี่ยมอันดับหนึ่งของประเทศไทย จะนำยูแอนด์ไอไปสู่ตลาดโลกให้ได้ เป็นความฝันอันหนักแน่นของทีมผู้บริหารและทีมงานทุกคน ซึ่งผลการดำเนินงานในอดีต เราเติบโตมาแล้ว 8 ปี ก่อนโควิด ปี 2019 ทำนิวไฮ อยู่ที่ 300 กว่าล้านบาท แต่ธุรกิจเราก็ ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ทำให้รายได้ของเราขาดหายลงมา ในช่วง 2020-2021 2 ปี ล่าสุด เรากลับมาด้วยรายได้ 400 ล้านบาท ก็โตขึ้นกว่าช่วงปีที่ผ่านมากว่า 80 เปอร์เซ็นตเลย ทำให้เรามีเป้าหมายใหม่ที่มั่นใจรายได้อยู่ที่ 550 ล้านบาท ผ่านการขยาย 4 สาขาใหม่ ที่จะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในปีนี้ สาขาที่ 17 เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, สาขาที่ 18 ไอซีเอส, สาขาที่ 19 มาเช่ ทองหล่อ และ สาขาที่ 20 ซึ่งเป็นสาขาต่างจังหวัด จังหวัดระยอง ที่มีศักยภาพทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ รายได้คนในจังหวัด รวมไปถึงเรามีกลุ่มลูกค้าพื้นฐานในจังหวัดระยอง ที่เคยเดินทางมาทานที่สาขาเมกะบางนาเป็นประจำ และจะมีการเปิดธุรกิจในเครือ “ลายเส้น” เป็นสาขาแรก ที่มาเช่ ทองหล่อ ในเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ยังมี Dr.Sandwich ที่เปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นสาขาแรก ที่ มาเช่ ทองหล่อ เช่นกัน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี”

ด้าน “คุณนฤชิต โรจนยางกูร” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยู แอนด์ ไอ กรุ๊ป จำกัด กล่าวเสริมว่า “เพื่อตอบรับวิสัยทัศน์ดังกล่าว เราจึงมีภารกิจสำคัญ 3 อย่างคือ การปรับตัว ความสุข ความยั่งยืน โดยสิ่งแรกคือ การปรับตัว เรารู้สึกว่า ลูกค้าทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของเรา และฟีดแบ๊กของลูกค้าทุกประการสำคัญสำหรับเรา สองเราจะครีเอท นวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งทุกคนจะทราบดีว่า ยูแอนด์ไอ จะมีสิ่งแปลกใหม่ตลอดเวลา ในเรื่องของเมนูอาหาร ชีส จุดเด่นของน้ำซุป หรือล่าสุดไม่มีใครกล้าเล่นเลย คือ เนื้อหมูไอเบอริโก้พอร์ค เรานำมาเป็นเจ้าแรก ที่กล้าเอาวัตถุดิบหมูสองสามพันบาทมาลงอยู่ไลน์บุฟเฟ่ต์ หรือกระบวนการจัดการอื่น ๆ การจัดการหน้าร้าน ในเรื่องของระบบในการทำงานอย่างที่สอง เราเน้นความสุข เราให้ความสุขแก่ลูกค้าเป็นสำคัญ ผ่านมาตรฐานอาหารที่มีคุณภาพ และการบริการอันเป็นเลิศ ความสุขของพนักงานก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งถ้าขาดความสุขของพนักงานทั้งหมด เราก็ไม่สามารถเดินต่อไปในระยะยาว อย่างที่สาม ความยั่งยืน เราตั้งเป้าหมายความยั่งยืน จะตั้งเป้าเรื่องรายได้ เราจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยที่เราตั้งเป้าไว้ 3 ปีนี้ เราจะโตให้ได้ถึงหนึ่งพันล้านบาท และสร้างความยั่งยืนกับผู้ถือหุ้นและพันธมิตรทุกคน อย่างทางศูนย์การค้า และ ซัพพลายเออร์ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราทั้งหมด และที่สำคัญเราจะนำบริษัท ฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ให้ได้ในอนาคต”