“นุ้ย สุวีณา อาร์สยาม” ย้อนเล่าเส้นทาง กว่าจะได้เป็นนักร้อง เกือบเสียตัวให้ครูเพลงชื่อดัง!!
นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง นุ้ย สุวีณา อาร์สยาม ที่วันนี้จะมาเปิดเส้นทางในวงการที่บอกเลยว่าเกือบเสียตัวให้กับครูเพลงชื่อดัง พร้อมเปิดอดีตชีวิตรักโศกนาฏกรรมที่ลงท้ายด้วยการนองเลือด ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน 31 ที่มี หนิง ปณิตา, ตั๊กแตน ชลดา และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
เห็นบอกว่าระดับบรมครูจะข่มขืนเรา มันยังไง ?
นุ้ย : จริง ๆ ไม่เคยเล่าที่ไหนเลย ที่นี่ที่แรกเลย ตอนนั้นนุ้ยอายุ 21 เป็นช่วงที่เราขึ้นมาตามล่าความฝันอยากเป็นนักร้อง สมัยก่อนไม่ได้เปิดกว้างเหมือนสมัยนี้ที่มียูทูป ต้องใช่วิธีไปเจออาจารย์ กว่าจะมาถึงอาจารย์คนนี้นุ้ยก็ผ่านมาหลายคนแล้วในลักษณะต้องแลกเปลี่ยนชู้สาว แต่อาจารย์ท่านนี้หนักสุดตรงที่ว่ามันถึงเนื้อถึงตัว จูบอะไรอย่างนี้เลย มันเริ่มต้นจะการที่นุ้ยเดินทางมากรุงเทพฯที่ค่ายใหญ่ค่ายนึง ซึ่งมีอาจารย์ท่านนี้นั่งตำแหน่งใหญ่อยู่ นุ้ยก็นั่งรถทัวร์มากับแม่ พอมาเจออาจารย์แม่นุ้ยก็ต้องกลับเลย อาจารย์ก็บอกว่าไม่ต้องกังวลนะ คิดซะว่าฝากปลาย่างไว้กับแมวก็แล้วกัน ตอนนั้นเราก็เอ๊ะว่า เราจะคิดมั้ย หรือ เราไม่ต้องคิด หรือว่าแกพูดเล่น อาจารย์ท่านนี้ก็บอกว่าเดี๋ยวจะพาไปพิจิตร
ทีท่าเค้าเป็นยังไง?
นุ้ย : บุคลิกเค้าก็กรุ้มกริ่ม เลิ่กลั่ก ด้วยอายุเกือบจะคุณปู่เราได้
ก็เลยคิดว่าด้วยอายุและด้วยหน้าที่การงานไม่น่าจะทำอะไรแบบนี้ ?
นุ้ย : ใช่ ด้วยตำแหน่งด้วย และเป็นการมาค่ายนั้นเป็นครั้งแรกของนุ้ยด้วย ทุกคนรู้จักหมด เค้าก็บอกว่าให้เราไปเตรียมตัวเดี๋ยวจะไปพิจิตร
กลัวมั้ย ?
นุ้ย : กลัวมากค่ะ ไม่รู้ว่าพิจิตรอยู่ตรงไหน พอแกออกไปกินข้าว หนูก็เดินไปหาเลขาหน้าห้องว่าหนูมาสมัครเป็นนักร้อง แต่ตอนนี้หนูกลัวมากอาจารย์เค้าจะพาหนูไปพิจิตร แต่หนูไม่รู้ว่าพิจิตรอยู่ตรงไหน อาจารย์เค้าเป็นคนดีมั้ยคะ แต่บังเอิญผู้หญิงคนนั้นเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของเค้าพอดี
แล้วเค้าตอบว่ายังไง ?
นุ้ย : ไม่ต้องกลัว คุณพ่อเป็นคนดีมากค่ะ มันต้องไป เพราะหนูก็ไม่รู้จะไปไหน เพราะตอนนั้นหนูก็มาฝากเนื้อฝากตัวกับเค้าแล้วมันก็ต้องไป
เดินทางไปกันสองคน ?
นุ้ย : 3 คนค่ะ มีคนขับรถ นุ้ย แล้วก็ท่าน พอไปถึงพิจิตร งงมากบ้านหลังใหญ่ทำไมไม่มีคน มีแค่นุ้ยคนเดียวแล้วบ้านก็เหมือนไม่มีคนอยู่ เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวแกนอนนี่นะ เดี๋ยวฉันจะไปบ้านเมีย พอรุ่งเช้าเค้ามาหาเค้าก็บอกว่าชั้นจะพาแกไปร้องเพลงนะ ไปเรียนร้องเพลง เค้าก็บอกว่าก่อนจะเจอแกชั้นฝันเห็นมังกรคาบแก้วอะไรแบบนี้ แล้วเดี๋ยวจะซื้อทองให้ 10 บาทนะ ให้พระด้วย เราก็เริ่มใจไม่ดี คืนนั้นยังไม่พูดอะไร อีกวันพานุ้ยมาอีกที่นึง ทีนี้มาพร้อมลูกสาวมาบ้านที่แคราย นุ้ยก็เดินนำไป ลูกสาวเดินตาม ข้างบ้านก็ดู เค้าก็บอกว่ามองอะไร มองเมียสวยหรือว่ามองลูกสาว นึกในใจไม่ได้ยินผิดใช่มั้ย เริ่มกลัว ตอนเล่าเหมือนขำแต่ตอนนั้นใจดีสู้เสือสุดมาก
แล้วลูกสาวเค้าไม่พูดอะไรหรอ ?
นุ้ย : พอกลับมาประมวลตอนนี้คิดว่าลูกสาวเค้าน่าจะชิน
แล้วยังไงต่อ ?
นุ้ย : พอไปที่แคราย เค้าให้น้องสาวย้ายออกเลยคือเหมือนตั้งใจให้นุ้ยมาอยู่บ้านหลังนี้ ซื้อทุกอย่างมาให้พร้อมเสร็จสรรพ คืนนั้นเป็นคืนที่เกิดเหตุ เค้าบอกนุ้ยว่าพรุ่งนี้ชั้นจะพาแกไปซื้อทองนะแต่แกต้องเป็นเมียฉันนะ
พูดตรง ๆ แบบนี้เลย ?
นุ้ย : พูดแบบนี้เลยว่าแกต้องเป็นเมียชั้นนะ ชั้นจะให้เป็นนักร้อง นุ้ยก็อาการชาตั้งแต่หัวจรดเท้าแข็งทำอะไรไม่ถูกเลย แล้วในบ้านไม่มีใครด้วยซักพักเค้าเดินมาใกล้นุ้ยแล้วก็จูบปากนุ้ยเลย นุ้ยก็แข็ง ตกใจ ในใจคือกลัวแล้วก็ช็อก แต่คิดว่าถ้ามันเกิดเหตุการณ์นั้นจริง ๆ นุ้ยน่าจะก้านคอเขาหรืออะไรเขาได้ เขาน่าจะลงไปกอง แต่ตอนนั้นเราช็อกอยู่ไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจถ้ามันถึงที่สุดต้องจัดการ
พอเราโดนอย่างนั้นแล้วเราตัวแข็ง เขาทำยังไงต่อ?
นุ้ย : เขาไม่ทำอะไรต่อนะคะ เขาก็รู้ว่าเรากลัว เขาก็เหมือนว่าไม่ได้ทำอะไรต่อ แต่บอกให้หนูรับรู้ว่าจะเอาหนูเป็นเมีย
นุ้ยตอบเขาว่า?
นุ้ย : หนูไม่ตอบอะไร หนูแค่นั่งเฉย ๆ ช็อกไปเลย ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ตกใจ ไม่คิดไม่ฝัน งงมาก เสร็จแล้วเขาก็กลับไปเพื่อจะมารับหนูไปพรุ่งนี้ ก็นัดหนูเสร็จเรียบร้อย
คืนนั้นนอนหลับไหม?
นุ้ย : คืนนั้นไม่ได้นอน แล้วคืนนั้นหากระดาษแล้วก็เขียนจดหมาย ขอบคุณที่ให้ที่พัก ขอบคุณที่ให้ที่อยู่ ให้ข้าว ให้น้ำ ซึ่งเราต้องหนีคืนนั้น แต่ในใจเรายังเป็นนางเอกอยู่นิดนึงว่าเกิดวันหนึ่งเราได้เป็นนักร้อง แล้วเรามาเจอเขาล่ะ เราก็ยังอยากไหว้เขาอยู่นะ วันนี้เขาไม่ได้ทำอะไร พออยู่ในวงการจริง ๆ มันต้องไหว้ ต้องสวัสดี นึกในใจว่าฉันจะยังไม่ด่าเขา เผื่อวันหนึ่งต้องเจอ ก็เขียนจดหมายขอบคุณนู้น นี่นั่น แต่ในใจนี่โกรธ เสียใจ แต่ก็กลัวมาก ทีนี้ก็เลยโทรหาเพื่อนที่อยู่แถวนั้นว่าแกตอนนี้ฉันเกิดปัญหาอย่างนี้ๆ ฉันจะต้องไปขึ้นรถยังไงจะหนีกลับใต้ ตอนนั้นก็ไม่รู้ทำไง ก็โบกแท็กซี่กลางดึก ออกมาตี3 เพื่อจะไปปิ่นเกล้าขึ้นรถทัวร์หนีกลับบ้าน แต่ไปรถทัวร์ก็ยังไม่มี นุ้ยก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ตรงไหน ก็ไปนอนแถวๆ ตรงนั้น กว่าจะมีรถ
แล้วหลังจากนั้นกลับเข้ามาในวงการบันเทิงยังไง?
นุ้ย : หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว นุ้ยก็รู้สึกเกลียดวงการลูกทุ่งไปเลย ไม่อยากเป็นแล้วนักร้อง ตอนที่เกิดเหตุการณ์ก็โทรหาแม่แล้วร้องไห้ตลอด พอหนีกลับบ้านตอนนั้นไม่เอาแล้ว เกลียดแล้ว
ตอนที่หนีไปครูเพลงท่านนี้พยายามจะติดต่อเราไหม?
นุ้ย : ไม่ค่ะ ไม่ติดต่อ หายเงียบไปเลย เพราะว่านุ้ยเขียนจดหมายทิ้งไว้ นุ้ยบอกว่านุ้ยขอบคุณมาก แต่นุ้ยไม่สามารถที่จะทำตามข้อเสนอนั้นได้
ครูเพลงท่านนี้ยังอยู่ในวงการไหม?
นุ้ย : เขาเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อสัก 2-3 ปีนี้เอง
วันนี้ก็อโหสิให้เขาไป?
นุ้ย : นุ้ยอโหสินานแล้วค่ะ ตอนที่นุ้ยเข้ามาเป็นนักร้องก็ยกมือไหว้
พอเจอหน้าเขา?
นุ้ย : ก็ปกติยกมือไหว้ แต่ไม่ได้พูดคุย
ดวงเขาจะเจอแบบนี้ ไปเจอค่ายเพลง เจอคนที่เข้ามาในชีวิตก็พยายามจะทำแบบนี้ตลอด?
นุ้ย : ใช่ค่ะ จนมีความท้อแท้ว่าหรือมันต้องแลกจริงๆ เหรอ เราไม่มีทางอื่นแล้วจริง ๆ เหรอ
เห็นว่าตอนนั้นมีตราบาปแห่งโศกนาฏกรรม เรื่องราวแห่งความรัก?
นุ้ย : เรื่องนี้มันละเอียดอ่อน เพราะมันเป็นความเป็นความตายของชีวิต มันเกิดขึ้นตอนนุ้ยอายุ 17 ซึ่งเป็นวัยรุ่น บ้านนุ้ยไปรับจ้างกรีดยางอีกที่หนึ่ง นุ้ยจะอยู่อีกที่ แล้วชีวิตที่ต้องต่อสู้เอง ช่วงนั้น ม.5 เราต้องสู้เอง ค่าเช่าบ้าน พ่อแม่ก็ส่ง แต่มันไม่ทัน แต่ตอนนั้นก็ปิดเทอมไม่รู้จะทำอะไร จะช่วยแม่ยังไง เห็นร้านคาราโอเกะอยู่ข้างโรงเรียน ก็เลยตัดสินใจไปเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านคาราโอเกะ เราไปทำด้วยกลัวไปด้วย วันที่เราไปวันแรกก็เจอตำรวจเข้ามาพูดคุยนู้นนี่นั่น เหมือนเราปลอดภัย มีคนคุ้มครองเลยเกิดความรักขึ้น แต่มันค่อยๆ ดำเนินไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปสัก 6 เดือน เรียกว่าเป็นรักครั้งแรก ผู้ชายคนแรกที่เปิดบริสุทธิ์เรา เราเป็นเด็ก ไม่ได้รับคำปรึกษาจากพ่อแม่ เรารู้สึกปลอดภัย แล้วหน้าที่การงานก็ดี เราก็เลยตกเป็นของเขาไป คือรักเขา แต่พอใช้ชีวิตไปสัก 6 เดือนมารู้ทีหลังว่าเขามีครอบครัว มีภรรยา มีลูกอยู่แล้ว
เรารู้ได้ยังไง?
นุ้ย : วันนั้นบังเอิญไปบ้านเขา ตอนแรกเห็นรูปถ่ายก่อน เขาบอกไม่ใช่ผมเป็นหม้าย แต่มีลูก อันนั้นคือรู้สเต็ปแรก สเต็ปที่สองที่รู้ชัดเจนก็คือ มันเป็นแฟลตตำรวจที่เราไปๆ มาๆ เราเรียนเสร็จเขาก็ไปรับไปส่งเรา แต่พอกลับมาวันนั้นเจอผู้หญิงอยู่ในห้องพร้อมกับลูกเขา พอเราเห็นก็…
ต่างคนต่างเห็นไม่ช็อกเหรอ?
นุ้ย : ช็อกทั้งคู่ค่ะ แล้วเขาร้องไห้ เราก็ร้องไห้ นุ้ยเข้าไปกอดเขา บอกเขาว่านุ้ยก็ไม่รู้ นุ้ยขอโทษ นุ้ยบอกว่าให้มันจบตั้งแต่ตอนนี้ เราก็บอกตรงๆ ว่ายังทำใจไม่ได้ ซึ่งทางผู้ชายพยายามจะง้อทุกอย่าง ก็ยังมีแอบมาหาเรา แล้วช่วงนั้นทางผู้หญิงอยู่ในช่วงที่มันยื้อ ช่วงชิงกันอยู่ แต่ฝั่งเรา เราพยายามทำใจอยู่ บวกกับว่าทางผู้หญิงเขียนจดหมายไปที่โรงเรียนเรา แล้วนุ้ยก็โดนเรียกเข้าห้องปกครอง แล้วจะโดนไล่ออก เขาเขียนว่าเราเป็นชู้ เราเป็นเมียน้อย แต่ด้วยความที่เราประวัติดีมาตลอดคุณครูก็หาวิธีแก้ไขให้ต้องอะไรยังไง แล้วบังเอิญว่าคุณครูที่จะย้ายนุ้ย ผอ.เขาย้ายไปก่อน แล้วก็พอ ผอ.ใหม่เข้ามา เรื่องมันก็ต้องเริ่มใหม่ มันเป็นช่วงที่นุ้ยต้องตัดใจจริงๆ ขับรถไปดูแค่หน้าห้อง อารมณ์แบบจะได้มูฟออนสักที สุดท้ายเอามอเตอร์ไซค์ที่เขามาฝากไว้ในบ้านเช่า เราก็แอบขโมยมอเตอร์ไซค์ที่เขามาฝากไว้ ขับไปจอดตรงหน้าแฟลตเราก็เห็นหยดเลือดเล็กๆ ตรงมอเตอร์ไซค์ของเขา แต่ก็ยังไม่เอะใจ แต่ก็เห็นหยดเลือดทีละหยดๆ ตามบันไดขึ้นไป แต่ก็ไม่รู้ว่าหยดเลือดอะไร แต่หยดเลือดก็ไปหมดตรงหน้าห้องเขาพอดี เราก็คิดว่าหรือเขาทะเลาะกัยแล้วก็มีดบาด อาจจะง้อกันแล้วดีกันแล้ว แล้วเราก็กลับบ้าน แล้วพออีกอาทิตย์นึงก็ทราบข่าวว่าปืนลั่นใส่พี่ผู้หญิง
หมายถึงว่าเขาอาจจะทะเลาะกันในเรื่องที่เราเข้าไปมีส่วนในนั้น?
นุ้ย : ใช่ ๆ
แล้วปืนของพี่ผู้ชายลั่นใส่ผู้หญิง แล้วเสียชีวิตไหม?
นุ้ย : ไม่เสียชีวิตทันทีแต่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีกประมาณสัปดาห์หนึ่ง พี่ผู้หญิงคนนี้เขามีแฝดแล้วเขารอแฝดเขาแล้วเสีย มันเป็นความรักครั้งแรก แต่มันเป็นเรื่องสีดำที่มันเกิดขึ้นในชีวิตนุ้ยเลย
ตอนนั้นตกใจ ช็อกขนาดไหน ที่เราอาจจะเป็นต้นเหตุ?
นุ้ย : เราก็ไม่รู้ปรึกษาใคร ตอนนั้นตกใจมาก ก็มีแต่เพื่อน เราถามว่าเราจะทำยังไงก็ตัดสินใจอะไรไม่ถูก แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้ช่วง Entrance พอดี มันตีกันไปหมด
ณ ตอนนี้ที่เล่า ยังมีความรู้สึกอยากจะร้องไห้อยู่ไหม?
นุ้ย : มันรู้สึกผิดมาตลอด ถึงแม้มันเป็นเหตุการณ์ที่เราไม่ตั้งใจ แต่เราก็เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ที่ทำให้คนคนหนึ่งเสียชีวิต และทำให้เด็ก 2 คนสูญเสียแม่ มันเลยรู้สึกผิด เหตุการณ์นั้นเป็นสิ่งที่เรารับผิดชอบด้วย นอกจากแค่ร้องไห้ มันคือสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบเขาด้วย เหมือนเรามาทำให้บ้านเขาแตก ถึงแม้เราไม่รู้ว่ามันจะจบแบบนี้ก็ตาม
หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับผู้ชายคนนั้น?
นุ้ย : จริงๆ หลังจากเกิดเรื่องขึ้นเหตุการณ์ยังดำเนินต่อ
เห็นว่ายังคบกันอยู่?
นุ้ย : ใช่ค่ะ พอเหมือนเกิดเหตุการณ์นั้น ในเรื่องของความรักมันยังมีอยู่ บวกกับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันทำให้เรารู้สึกต้องรับผิดชอบครอบครัวเขา
ตามไทม์ไลน์ที่เรารู้มา นุ้ยเองตัดสินใจคบกับผู้ชายคนนี้อีก 12 ปี?
นุ้ย : ใช่ค่ะ
เหตุผลคือเราต้องรับผิดชอบเขา?
นุ้ย : เรารู้สึกว่าเด็กไม่มีใครให้เรียกแม่ เรารู้สึกว่าเรามาทำให้บ้านเขาแตก แล้วเราจะเดินออกไปเฉยๆ เรามีความรู้สึกว่าเราผิด เราต้องรับผิดชอบตรงนี้
ตอนนั้นเด็กอายุเท่าไหร่ เขารับรู้เหตุการณ์ไหม?
นุ้ย : ผู้ชาย 1 ขวบ
ด้วยความที่เด็กอยู่ เรารู้สึกว่าควรจะทำหน้าที่ดูแลตรงนี้?
นุ้ย : ใช่ค่ะ
กรณีนี้พี่ผู้หญิงมีคู่แฝด แล้วทางคู่แฝดพี่ผู้หญิงเขาบอมให้เราอยู่ดูแลหลานเขาเหรอ?
นุ้ย : จริงๆ เราไม่ได้ดูแลแบบเต็มที่ หมายถึงว่าเอามาอยู่กับเรา เพราะเรายังเรียนอยู่ แต่ในความคิดของนุ้ย ณ ตอนนั้นเราจะทำให้ความผิดที่เราทำ เราอยากแก้ไขให้มันดีขึ้น ด้วยการที่ว่าวันหนึ่งฉันจะรับผิดชอบกับชีวิตตรงนี้ เป็นแม่แทนแม่เขาให้ได้ประมาณนี้
ก็เลยยังอยู่กับพี่ผู้ชาย?
นุ้ย : ใช่
เคยมีแว๊บคิดไหมว่าถ้าเราเลิกกับเขา เขาจะทำร้ายเราไหม?
นุ้ย : ถ้าแว๊บคิดขึ้นมาเฉย ๆ ไม่มี แต่ตอนที่เราตัดสินใจเลิกกับเขา มีเหตุให้เลิก คิดค่ะ เพราะตอนนั้นนุ้ยมาเป็นนุ้ย สุวีณา อาร์สยาม แล้วนะคะ เราคบเขาตั้งแต่ 17 จนมาเป็นนุ้ย สุวีณา อาร์สยาม ก็ยังคบอยู่ แล้วมันมีเหตุการณ์พอเราห่าง เขาก็มีผู้หญิงคนอื่น เราจับได้ แต่เราก็ให้โอกาสนะคะ เพราะเราเข้าใจว่าห่างกัน 6-7 เดือน แต่ว่าเขาแก้ไขปัญหาไม่ได้ จนผู้หญิงตามมาราวีเราเวลาเราไปแสดง เลยตัดสินใจต้องมูฟออน เพราะเราไม่ปลอดภัยกับชีวิตแล้ว เราไม่รู้จักหน้าเขา แต่เขารู้จักเราแล้ว เขาบอกเดี๋ยวฉันจะไปแฉหน้าเวทีนะว่าเธอก็แย่งเขามา
พอมีเหตุการณ์แบบนี้มุมมองความรักเรา เรารู้สึกว่าเป็นกรรมไหม เหมือนกงกรรมกงเกวียน เราคิดไหมว่ามันกลับมาสนองเรา?
นุ้ย : นุ้ยไม่ได้คิดว่าเป็นเวรกรรม แต่มันเกิดซ้ำสอง มันเกิดจากผู้ชาย ก็เป็นที่ตัวเขา มันไม่ใช่ผู้ชายเป็นคนดีมาตลอด แล้วมีผู้หญิงมาแย่งไป แต่นี่ผู้ชายเป็นต้นเหตุ เพราะฉะนั้นมันไม่เป็นเวรกรรม เดี๋ยวผู้หญิงคนนี้เป็นอีก แล้วผู้ชายเป็นคนกระทำ มันเป็นที่ผู้ชาย
เลยตัดสินใจเลิก แล้วไม่มีเหตุการณ์ที่เขาจะมาทำร้ายเรา
นุ้ย : ไม่ ๆ
ตอนเป็นนักร้องดังมีคนมาจ้างไปร้องเพลงที่ห้องนอน เกิดอะไรขึ้น?
นุ้ย : ก็ทักมา ถามว่าปกติเล่นราคาเท่าไหร่ กี่นาที นุ้ยบอกประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงค่ะ เขาบอกถ้ามาไม่ต้องถึง 45 นาทีก็ได้ แค่มาร้องที่ห้องเฉย ๆ ให้เท่าเล่นคอนเสิร์ตเลย
แล้วเราตอบเขาไปว่าไง?
นุ้ย : ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ แต่ไม่จบ เขามีโทรมาเสนอ ปกติเธอเล่นคอนเสิร์ตได้เงินเท่าไหร่ ให้เธอคูณมา 10 มา แล้วให้เรามาเป็นก้อน นุ้ยตกใจแล้วขำนิดนึง เขาบอกลองคบดูก่อน 6 เดือนค่อยต่อก็ได้ นุ้ยบอกว่าตายแล้ว มัน พรบ.เหรอ มันไม่ใช่รถนะ
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ นุ้ย สุวีณา