22/11/2024

“โตนนท์ วงศ์บุญ”  ย้อนเล่าอดีตช่วงดังมากเคยหลงตัวเอง ใช้เงินวันละล้าน? 

อดีตพระเอกดาวรุ่งช่องมากสี โตนนท์ วงศ์บุญ ที่วันนี้จะขอมาเปิดใจเคลียร์ข่าวเม้าท์เป็นนักแสดงตกอับ หลังตัดสินใจออกมาเป็นนักแสดงอิสระแล้วไม่เปรี้ยง พร้อมย้อนเล่าจุดสูงสุดหลงตัวเองหนักมาก ใช้เงินซื้อของเกือบล้านบาท ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธิกรดำเนินรายการ

ตอนนี้ออกมาเป็นอิสระ ออกมาดูแลตัวเอง ทำไมถึงตัดสินใจออกมา?

บอส : ที่ออกมาเป็นอิสระ ตอนช่วงที่เราอยู่สังกัดเก่าค่อนข้างจะรับงานเยอะ แล้วเจอเรื่องนู้น นี่นั่น มันทำให้เราเกิดความรู้สึกอึดอัด อยากจะลองอะไรใหม่ ๆ ทำอะไรใหม่ ๆ 

เรื่องนู้นนี่นั่น หมายถึงละครยากใช่ไหม?

บอส : ช่วงนั้นทางต้นสังกัดเขาให้งานเยอะ เยอะมาก เยอะจนไม่ได้พักเลยครับ 3 เดือน 6 เดือน ถ่ายละครทุกวัน อัดให้ๆ เราเลยรู้สึกว่ามันอยู่ตัว มันอิ่ม เมื่อก่อนถ่ายทีนึงข้ามไปอีกวันก็มี

เพราะเราดัง มีชื่อเสียง เป็นที่ต้องการของคนทั้งประเทศหรือเปล่า เขาถึงอัดให้ขนาดนั้น?

บอส : ผมว่าน่าจะเป็นช่วงมากกว่า ช่วงไหนมาเขาก็จะอัดงานให้เด็กคนนั้น ป้อนงานให้ เพราะจะให้เป็นที่รู้จัก

แต่วันนึงรู้สึกอิ่มตัวกับตรงนี้?

บอส : มันเป็นความติสท์ของผมมากกว่า เราทำงานเยอะแล้วอยากจะพักบ้าง

ได้ถามเพื่อน ถามผู้ใหญ่ ถามครอบครัวไหม?

บอส : ไม่ได้ถามครับ เราเข้าไปที่ช่องตอนที่หมดสัญญา ผู้ใหญ่เขาบอกว่า จะเอายังไง จะเป็นอิสระหรือจะยังไง ซึ่งเขาให้ละครมาก่อนเรื่องนึง แต่เราปฏิเสธ

เราสามารถบอกเขาเหลือ 2 เรื่องอย่างนี้ได้ไหม?

บอส : ตอนนั้นไม่ได้คิดครับ เด็กด้วย ช่วงที่เราเป็นวัยรุ่น เราหลงตัว คิดว่าตัวเองเก่ง เลือกได้ เราก็เลยขอหยุดดีกว่าพัก

ถ้าสมมติย้อนกลับไปบอกตัวเองได้ตอนนี้เลย เมื่อตอนนั้นที่เราฟุ้งหน่อย เรายังจะเลือกเป็นอิสระไหม?

บอส : ผมว่า ณ เวลาตอนนั้น เราคิดดีแล้ว ถ้าเกิดตอนนั้นเราทำอีกแบบผลที่เป็นปัจจุบันอาจจะเป็นอีกแบบหนึ่งก็ได้ ถ้าย้อนกลับไปผมก็อาจจะเลือกเหมือนเดิม

ที่เราถ่ายละครเหนื่อย ๆ แบบนั้นทั้งหมดกี่ปี?

บอส : เต็มสัญญา 7 ปี ยาวเลยครับ ต้องขอบคุณทางช่องเก่าที่ให้โอกาสเราเยอะมากครับ ถ้าไม่มีช่อง7 ก็ไม่มีผมวันนี้

เป็นนักแสดงอิสระมา 5 ปี คนก็เม้าท์กันว่า โตนนท์ เป็นนักแสดงตกอับ ออกมาแล้วไม่เปรี้ยง ไม่มีงาน อยากจะบอกว่าไง?

บอส : ที่เขาบอกว่าไม่เปรี้ยงเนี่ย เหมือนเราไม่ได้เป็นตัวหลักมากกว่า เราไม่ได้เป็นพระเอกเหมือนเมื่อก่อนมากกว่าเราเลือกที่จะออกมารับบทอย่างอื่น เล่นร้าย มีงานหนึ่งเล่นเป็นพ่อแล้วก็มี คือเราอยากลอง จากเมื่อก่อนเราเล่นบนพระเอก เราเล่นจนมันชินแล้ว เป็นคนดี แต่พอวันหนึ่งเราได้เล่นเป็นตัวร้าย คือมันยาก

เป็นพระเอกติดกันมา 7 ปี เบื่อไหม?

บอส : ณ เวลานั้นไม่เบื่อครับ ด้วยความที่มันพราว เราเป็นพระเอก ทำอะไรก็ได้ แต่พอวันหนึ่งเราเริ่มเห็นคน เริ่มเห็นสังคม เห็นอะไรหลายๆ อย่าง ทำให้เราคิดว่าบางทีเราอาจจะหลง เราอาจจะผิดทาง เรารู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเรา

รู้ได้ด้วยตัวเอง?

บอส : ครับ มันค่อย ๆ มา 

นั่นคือหลาย ๆ คนพูดว่าเราเป็นดาราตกอับ แต่ที่เราเสียใจคือมีคนในวงการพูดด้วย?

บอส : เหมือนห้องแต่งตัว แล้วก็นั่ง เดินเข้า เดินออก มีคนพูด เข้าไปก็ได้ยินพอดี เราก็นั่งข้างหลังใส่แมสก์ 

พูดว่าอะไร?

บอส : เขาบอก นี่เหรอโตนนท์ ดาราตกอับแล้ว เราได้ยิน เพราะเรานั่งใส่แมสก์อยู่ข้างหลัง

คนนี้เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่หรือยัง?

บอส : ไม่ครับ

เป็นนักแสดงใหม่?

บอส : ใช่ครับ 

แล้วเราตอบว่า?

บอส : ไม่ตอบครับ เขาก็มีสิทธิ์ มันก็เป็นเรื่องจริงในส่วนหนึ่งที่เขาพูด เขาก็มีสิทธิ์ที่จะคิดของเขา เรารู้ตัวเราดีกว่า เราเอาคำที่เขาว่ามา…ไม่เอาแล้ว หางานทำดีกว่า

โกรธไหม?

บอส : มันก็มีความรู้สึกครับ แต่ก็คิดว่าพูดจริง เอาคำพูดเขามาเป็นแรงผลักดันเรา เดี๋ยวจะกลับมานะ

ถ้าเขาดูอยู่อยากจะบอกอะไรเขา?

บอส : ขอบคุณครับ บางทีถ้าเราโดนด่ามา หรือว่าเราโดนพูดอะไรไม่ดี เราเอาคำพวกนั้น แทนที่จะเอามาใส่หัวเราทำให้เรารู้สึกแย่ มันก็จะแย่กับตัวเรา เอาคำพูดตรงนั้นมาเป็นแรงผลักดัน เหมือนเราจะแบบ พอแล้ว จะเลิก ไม่เอาแล้ว จะไม่ทำแล้ว กลายเป็นว่าคนพูดแบบนั้นทำให้เรากลับมาได้ เดี๋ยวเจอกัน

คิดว่าค้นพบสัจธรรมจากประโยคนี้?

บอส : ค้นพบครับ ทุกวงการแหละ มันมีคนที่ดีกับเรา หวังดีกับเราจริง ๆ แต่เขาไม่ได้แสดงออกว่าดี เขาอาจจะดึเรา ด่าเรา หรือพูดไม่ดี แต่บางคนพูดดีกับเรา แต่ลึก ๆ แล้วไม่ดีก็มีครับ

บอสบอกว่ามีช่วงติสท์ของผมด้วย มันติสท์ขนาดไหน?

บอส : มันก็เลือก ด้วยความที่เรารู้สึกเป็นพระเอก เลือกได้ อยากทำ อันนี้ไม่เอา อยากเลิกก็พอหยุด บางทีเขาให้ละครมา ไม่เอาไม่เล่น 

ไม่รับงาน 1 ปีเลยเหรอ?

บอส : มันจะมีอยู่ช่วงหนึ่งก่อนออก รู้สึกว่าตัวเรา อย่างที่มีข่าว เราเริ่มผอม คล้ำ เป็นโรคหรือเปล่า ไปทำอะไรมา ก็เลยรู้สึกว่าอยากพักก่อน อยากพักเรื่องความคิด อยากพักเรื่องสุขภาพร่างกายเราด้วย ขอหยุดแบบไม่ทำอะไรเลยปีนึง

1 ปีนั้นเรียกว่าเป็นช่วงเวลาความติสท์ของเราได้ไหม?

บอส : ผมเรียกว่าช่วงเวลาตกผลึกดีกว่า

ตอนนี้เราเลิกติสท์หรือยัง?

บอส : เลิกแล้วครับ เจอโควิดเข้าไปติสท์ไม่ออกเลยครับ คือก่อนที่จะโควิดเราเก็บเงินไว้ก้อนหนึ่ง กะจะลองทำอย่างอื่นบ้าง แต่พอโควิดเข้า เราคงทำไม่ได้แล้วล่ะ เอาเงินตรงนั้นเป็นค่าใช้จ่ายอย่างอื่นด้วย

ความลำบากก่อนเข้าวงการ ลำบากบาก หนึ่งในสาเหตุคือคุณพ่อเสีย?

บอส : ครับ ตอนนั้นผมอายุ 15 ปี 

พ่อเสียเพราะอะไร?

บอส : มอเตอร์ไซค์ล้มครับ แกเป็นความดันแล้วแกดื่มแอลกอฮอล์ ยังไงไม่รู้แกขี่มอเตอร์ไซค์แล้วความดันขึ้น แล้วก็ล้ม แล้วไปที่โรงพยาบาล ยังโทรมาหาผมอยู่เลยนะ แต่พอเราไปถึงโรงพยาบาลเขาปั๊มหัวใจแล้ว เราเข้าไปเห็นเลยว่าพ่อโดนปั๊ม

เราถึงโรงพยาบาลแล้วยังโทรมาหา?

บอส : ใช่ บอกว่ามารับหน่อย เราก็คิดว่าไม่เป็นไร

พอไปถึงช็อกไหม?

บอส : ช็อก ภาพเดียวที่ผมจำได้คือเขาปั๊มหัวใจพ่ออยู่ เราเห็นรองเท้า แล้วเอารองเท้ามานั่งกอดอยู่หน้าห้อง

วันนั้นหมอบอกว่า?

บอส : หมอบอกว่าไม่ฟื้นแล้วล่ะ จะให้ปั๊มต่อไหม

แล้วเราเป็นคนตัดสินใจเหรอ?

บอส : ตอนนั้นช็อกแล้วครับ ทำอะไรไม่ถูกเลย ร้องไห้ ด้วยความที่เราเด็กด้วย ไม่รู้จะทำยังไง

แล้วใครเป็นคนเคาะว่าปล่อยพ่อไป?

บอส : ไม่มีใครปล่อยครับ คือเราเห็นสภาพเลยว่าเขาไม่อยู่แล้ว

หลังจากวันนั้นชีวิตเปลี่ยนไปเยอะแค่ไหน?

บอส : เปลี่ยนเลยครับ จากที่เมื่อก่อนพ่อหาเงินได้เยอะ เพราะเขาทำงานเร่งรัดหนี้สิน แล้วช่วงหลังจากต้มยำกุ้งผ่านมาคนเป็นหนี้สินเยอะ เขาได้เงินมาเยอะ ดูแลครอบครัวได้ดีในระดับหนึ่งเลย พอวันหนึ่งเสาหลักล้ม แม่ที่ไม่เคยทำงานก็ต้องออกมาทำงาน แล้วก็มีหนี้ ก่อนที่เขาจะเสียเขากู้เงินมาก้อนหนึ่ง เพื่อไปสร้างบ้าน

หนี้ 13 ล้านใช่ไหม?

บอส : ครับ เยอะมาก ตอนนั้นหลักร้อยยังหาไม่ได้เลย

แล้วเกิดอะไรขึ้น บรรยากาศในบ้านเป็นยังไง?

บอส : มันเคว้งคว้างไปหมดเลย เราไม่รู้จะทำยังไง เราไม่รู้จะเริ่มชีวิตยังไง ปกติเลิกเรียน กลับบ้านขอเงินแม่ ขอเงินพ่อไปเล่นเกม พอวันหนึ่งเราไม่มีคนสอน คนชี้นำ เราไม่รู้จะทำอะไรเลย ทำอะไรไม่ได้

เห็นว่ามันแย่ขนาดที่ว่ามาม่าห่อหนึ่งต้องแบ่งกัน?

บอส : เอาผักกาดมาหั่น ใส่น้ำปลา เอาเข้าไมรโคเวฟกินกับข้าว บางทีมีมาม่าก็แบ่งกิน 2 คน

อันนี้คือส่วนหนึ่งของ 13 ล้านที่กู้ไปใช่ไหม?

บอส : ด้วยครับ หลายๆ คนจะบอกว่าเราเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่ตอนนั้นผมเป็นลบ13  หนักเลย

ด้วยความลำบากอันนี้แต่ก็มีความโชคดี เพราะเราได้เจอกับพี่เอ ศุภชัย?

บอส : ครับ คือด้วยความที่เราไม่มีเงิน เราเริ่มหาเงินด้วยการไปประกวดตามเวทีต่างๆ เพื่อจะหาเงินมาจุลเจือแล้วใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วเด็ก 15-16 ไม่รู้จะไปทำงานอะไร แล้วสมัยนั้นไม่มีอินเตอร์เน็ต เราไม่รู้จะไปสมัครอะไร ทางเดียวที่เราเห็นคือประกวด แล้วมันได้เงินเป็นก้อน แล้วก็ไปเจอกับพี่เอผู้มีพระคุณ เขาก็ชักชวนให้มาเก็บตัวอยู่ที่บ้านแกที่กรุงเทพฯ

แล้วเจอพี่เอได้ไง?

บอส : ผมไปประกวดงานหนึ่งแล้วพี่เอเป็นกรรมการ 

เห็นแววตั้งแต่ตอนนั้น?

บอส : ใช่ครับ แรก ๆ ก็ตัดสินใจอยู่นานเลย เพราะเราเด็กไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับวงการ

หนีออกจาดบ้านพี่เอ2รอบเลยเหรอ ทำไม?

บอส : ครับ เหมือนเรามาอยู่แล้วเราไม่ได้ทำอะไร แต่พี่เอก็ให้ครูสอนแอคติ้งเข้าไปสอนทุกอย่าง ยันเวลากินข้าวมารยาทอะไรอย่างนี้เขาก็สอน เราเป็นเด็ก ความคิดเราคือเรามาแล้วต้องได้ทำงานทันที เราต้องได้ละคร เพราะว่าเราต้องหาเงิน แต่พออยู่ๆ ไป ด้วยที่ว่าเราไม่เคยอยู่ในกฎเกณฑ์ เราเจอกฎเกณฑ์จากบ้านพี่เอ เขาจะมีกฎให้ระวังเด็ก เราเริ่มอึดอัดก็เลยหนีกลับ

แต่ก็ยังกลับมานิ?

บอส : เขาโทรมาบอกว่ากลับมา พูดดีกับเรา ทำความเข้าใจ มาบอกแม่ แม่ก็มาบอกเรา เราก็เลยกลับ

แล้วหนีกลับรอบ2 เพราะอะไร?

บอส : ก็เหมือนเดิม

แต่รอบ2 เราก็กลับมาอีก?

บอส : ครับ 

อะไรทำใฟ้เราอยู่?

บอส : ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

เราเริ่มเข้าใจชีวิต หรือเริ่มเข้าใจสิ่งที่พี่เอกำลังสอน?

บอส : คือเรากลับไปที่เชียงใหม่ไม่รู้จะทำอะไร ด้วยความเราเด็ก เราไม่รู้จะไปทำงานอะไร เราเห็นช่องทางตรงนี้เลยเกิด ฮึบ ลองอีกที แล้วกลับมารอบ2 ก็ได้งานจริง ๆ 

ได้เงินเยอะ วันหนึ่งช้อปปิ้งเป็นล้าน?

บอส : เป็นล้านคือไปซื้อมอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่ซื้อกระเป๋า ซื้อเสื้อผ้า

ซื้อมอเตอร์ไซค์ก่อนซื้อบ้าน ทำไมไม่ซื้อบ้าน แล้วซื้อรถที่ขับไปทำงานได้ก่อน?

บอส : ผมทำงานในวงการแล้วมันได้เงินเยอะ ด้วยความที่เราไม่เคยมีเงิน เคยมีเงินติดตัวแค่หลักสิบ หลักร้อย วันหนึ่งเราได้มาเป็นแสนอย่างนี้ แล้วเรามีความฝันตอนเด็กๆ วันหนึ่งเราขี่ระผ่านห้างที่เชียงใหม่ เราก็จะมอง มันจะมีรถอยู่คันนึง เรามองมันตั้งแต่เด็กแล้ว เราอยากได้ เราเห็นตั้งแต่เด็ก แล้ววันหนึ่งมันมีเพื่อนพาไปที่เต้นท์รถ แล้วเราเห็นเห้ย…เนื้อคู่

ฝากดงดอกไม้หน่อย?

บอส : ดงดอกไม้ เมื่อคืนโดนเทอาหารหมาไปแล้ว ขอฝากด้วยครับ เส้นทางจะเป็นยังไง จะร้ายอีกขนาดไหน ยังไงฝากด้วยครับ

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ บอส โตนนท์ 

About Author