“น้ำ รพีภัทร” เผย “ป้อมปางบรรพ์” ทำการบ้านหนัก แถมเจอเรื่องลี้ลับชวนลุ้นกลางกองถ่าย

เป็นอีกหนึ่งนักแสดงสายฝีมือที่จัดเต็มทุกบทบาท มีผลงานให้แฟน ๆ ประทับใจมากมาย สำหรับ น้ำ-รพีภัทร เอกพันธ์กุล ล่าสุดกับผลงานละครดราม่าลึกลับเรื่อง “ป้อมปางบรรพ์” ของค่าย ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น ทาง ช่อง 7HD ที่กระแสดีต่อเนื่อง น้ำ เผยว่า ป้อมปางบรรพ์ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ตนเองทำการบ้านหนัก แถมเจอเรื่องลี้ลับชวนลุ้นกลางกองถ่าย จะเป็นยังไง เจ้าตัวมาเล่าให้ฟัง

“ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความแค้นข้ามภพข้ามชาติ หลายตัวละครก็จะมีการกลับชาติมาเกิด มีแค่ เมือง ซึ่งเป็นตัวละครที่ผมแสดง ยังคงเป็นวิญญาณ มีความแค้น ซึ่งเขาต้องตามอาฆาตแค้นหลายคน โดยเฉพาะแสน (ฟิล์ม-กรรญกฤต อรรควงษ์) ที่กลับชาติมาเกิดเป็น เข็มหอม หรือน้องปิ่น (ชรินพร เงินเจริญ) เพราะในอดีตเขาถูกแสนที่เป็นเพื่อนรักฆ่า ทำให้เขาแค้นตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน เขาจะตามรังควานแก้แค้นคนที่ทำร้ายเขา ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่ค่อยเปลืองชุด (ยิ้ม) เพราะจะแต่งตัวชุดโบราณตลอด และก็ต้องลงสีผิวให้คล้ำ แปะลายแทททู ที่เป็นรอยสักยันต์โบราณตลอด ทุกครั้งที่ถ่ายเสร็จ คนอื่นเขาได้เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับบ้าน บางคนถึงบ้านแล้ว แต่ผมยังต้องอาบน้ำล้างตัวอยู่ที่กองถ่ายอยู่เลย และต้องมีเรียนคิวบู๊ ฟันดาบ ท่วงท่าต่าง ๆ ช่วงแรกคนที่เป็นคนออกแบบคิวบู๊ เขาสอนเราฟันดาบด้านขวา แต่พอมีฉากที่ต้องต่อสู้กับฟิล์ม ซึ่งเขาถนัดซ้าย ก็ต้องเปลี่ยนท่าใหม่ ซ้อมคิวกันใหม่ เรื่องคิวบู๊ยังไม่เท่าไหร่ มีอีกอย่างที่ท้าทายก็คือบทพูดของผมต้องพูดภาษาเหนือทั้งเรื่อง ซึ่งผมเป็นคนภาคกลาง ก็แน่นอนว่าพูดไม่เป็นเลย คืออาจจะเคยได้ยินมาบ้าง เพราะภรรยาผม และที่บ้านเขาเป็นคนเหนือ แต่เวลาอยู่บ้านภรรยาผมเขาจะพูดภาษากลางตลอด ก็เลยไม่คุ้นเคยนัก ก็มีหลุดบท หลุดสำเนียงเพี้ยนบ้าง อะไรบ้าง ซึ่งพี่ลอร์ด (สยม สังวริบุตร) เขาจะให้ครูมาเทรนด์ภาษาเหนือให้นักแสดงที่เป็นตัวละครในอดีตชาติ และต้องพูดภาษาเหนือทุกคน และครูเขาจะมีส่งเสียงพูดบทเป็นภาษาเหนือมาให้ ผมก็จะใช้วิธีเปิดฟังให้ติดหู ขับรถก็ฟัง ก่อนจะเข้าฉากก็ฟัง ฟังถึงขั้นพอพี่ลอร์ดนับ 5 4 3 2 แอ็กชั่น! จะเริ่มถ่ายทำแล้ว ผมถึงค่อยถอดหูฟังออกแล้วเข้าฉาก พูดบทเลย เพราะกลัวลืมสำเนียงการพูดมาก ๆ อีกอย่างคือมีคนเคยถามว่าเล่นละครลึกลับ เคยเจอสิ่งลี้ลับอะไรไหม สำหรับผมละครเรื่องนี้ ตอนที่ผมเริ่มถ่ายทำ ช่วง 2-3 คิวแรก ที่ต้องไปถ่ายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเซ็ตเป็นฉากบ้านของน้องปิ่น แล้วผมต้องแต่งชุดโบราณ มาเป็นวิญญาณตามรังควานน้องปิ่น พอจะถ่าย ฝนตก ตกสักพักหยุด พอจะเริ่มถ่ายต่อก็ตก ตก ๆ หยุด ๆ เป็นอย่างนี้หลายรอบ กว่าจะถ่ายเสร็จก็ใช้เวลาพอสมควร แต่พอได้บวงสรวงละคร การถ่ายทำต่าง ๆ ก็สะดวกราบรื่น อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ อย่างไรก็ฝากติดตามชมละคร เป็นกำลังใจให้พวกเรานักแสดงทุกคนไปจนถึงตอนจบด้วยนะครับ”