หนุ่มคลั่งรักจีบไม่ติด แค้นจัดบุกทุบรถขู่ฆ่า โฟนอินโต้อ้างโดนด่าสารพัดขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
หลังจากที่มีเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกผู้ชายพยายามตามจีบ แต่ไม่รับรัก และสุดท้ายเธอถูกขู่ฆ่า และยังถูกชายคนดังกล่าวเอาก้อนหินไปทุบรถจนพังเสียหาย ล่าสุด ทุกคนในเรื่องนี้ได้มานั่งพูดคุยในรายการโหนกระแสของวันนี้ โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33
เรื่องราวของผู้หญิงคนนึงที่บอกว่าเธอเดือดรอนมากเลยเหมือนชีวิตไม่ปลอดภัยเพราะไปรู้จักกับผู้ชายคนนึง ผู้ชายคนนี้ไปนั่งทานข้าวที่ร้านของเธอแล้วตีสนิทด้วย เธอเองไม่ได้คิดอะไร แต่ผู้ชายคนนี้พยายามตามจีบเธอ เธอก็พยายามปฏิเสธมาตลอด แต่สุดท้ายมันก็มีเหตุทำให้ผู้ชายคนนี้ถึงขั้นขู่ฆ่าเธอ ตามไปถึงรถเอาก้อนหินทุบรถจนพังเสียหาย ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องไปถึงเจ้าของรถแท็กซี่คนนึง เพราะชายคนนี้ได้มีการไปเช่าแท็กซี่แล้วขับไปก่อเหตุ ล่าสุดเจ้าของแท็กซี่ถึงกับตกงานเลย ปุ๋ย ผู้เสียหาย, ประภาส เจ้าของแท็กซี่, ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ
พี่ประภาสเป็นเจ้าของแท็กซี่ เราเช่าเขาอีกทีหรือว่ายังไง
ประภาส : เราเช่าซื้อครับ
เดี๋ยวเรามาคุยเรื่องของพี่ คุณปุ๋ยเป็นผู้เสียหาย เรื่องราวเกิดจากอะไรเล่าให้ฟังหน่อย
ปุ๋ย : เราเปิดธุรกิจร้านอาหารอยู่ และและช็อปเสริมความงามอยู่และก็โปรดักซ์ต่างๆ แล้วคุณฟ่งก็เป็นหนึ่งในลูกค้าที่มาใช้บริการเหมือนลูกค้าทั่วไป มาทานอาหารด้วยแต่ปุ๋ยไม่ทราบว่าเขาไปทำผมด้วยร้านด้วยไหม อันนี้ไม่ทราบหลังจากนั้นร้านอาหารปุ๋ยเปิดวันที่ 1 ธันวาคม ปุ๋ยมี 2 สาขาค่ะ สาขาแรกที่ท่าพระ เขาก็เป็นหนึ่งในลูกค้าที่มาทานข้าวที่ร้าน จนกระทั่งเดือนพฤษภาคม พอเข้าเดือนที่ 6 มาทานข้าวตามปกติ เหมือนเกือบทุกวันที่ผ่านมา
คือ 6 เดือนนี้เขามาตลอดเลยถูกไหม
ปุ๋ย : เกือบทุกวันค่ะ
เราทราบไหมว่าเขามาจีบเรา
ปุ๋ย : ไม่ทราบค่ะ แต่พนักงานทุกคนชอบถามว่า พี่คนนี้ชอบมาทานข้าวแล้วก็มองแค่พี่ปุ๋ยตลอดเลย เจ๊ครับทำไมคนนี้มองแต่เจ๊ตลอดเวลา เราก็ไม่เป็นไรลูกค้าทั่วไปเราไม่คิดอะไรมาก เราคุ้นเคยกับการมองของลูกค้าอยู่แล้ว การทำผมเรานิ่งอยู่ใกล้ลูกค้ามากกว่านี้ หลังจากนั้นวันนั้นเขามาขอความช่วยเหลือจากเรา ให้เราโอนค่าไฟให้แล้วเขาจะเอาเงินสดให้เรา คือโทรศัพท์เขามีปัญหา
คนนี้เขาเป็นคนไทยหรือคนจีน
ปุ๋ย : เรื่องส่วนตัวเขาปุ๋ยไม่ทราบค่ะ ไม่เคยทราบค่ะ รู้แค่ชื่อเล่น
เขาพูดจีนหรือไทย
ปุ๋ย : เขาพูดหลายภาษาค่ะ
ลักษณะเขาเป็นคนจีนไหม เท่าที่คุยกัน
ปุ๋ย : คนจีนค่ะ
หลังจากนั้นเขามาขอจำเป็นต้องโอนเงินจ่ายค่าไฟแต่โทรศัพท์เขาเสีย แล้วเขาบอกคุณปุ๋ยว่ายังไง
ปุ๋ย : โทรศัพท์เขามีปัญหาเนื่องจากวันนั้นปุ๋ยเอาอาหารไปเสิร์ฟให้เขาเอง ก็เลยเกิดการพูดคุยกันเรื่องนี้
ตลอดระยะเวลาไม่เคยคุยกับเขาเลยใช่ไหม
ปุ๋ย : เราทำธุรกิจเราก็ไปเสิร์ฟอาหาร เกือบทุกโต๊ะนะคะ เราทำอาหารเองเสิร์ฟเองดูแลด้วยตนเองแต่วันนั้นบังเอิญเราไปเสิร์ฟปุ๊บเขาก็บอกว่ามีเรื่องรบกวนหน่อยครับ
บอกว่าช่วยโอนเงินให้หน่อยครับพอดีผมมีแต่เงินสดแล้วโทรศัพท์เสียแล้วคุณโอนให้ผมเสร็จปุ๊บเดี๋ยวผมเองจะเอาเงินสดคืนให้คุณแล้วคุณก็ทำให้
ปุ๋ย : ค่ะ ทำให้ค่ะ แล้วก็ขอให้เราส่งสลิปให้เขาทางไลน์ก็เลยเกิดการแลกไลน์กันเกิดขึ้น
ตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้เกิดการแลกไลน์กันขึ้นเพราะว่าตัวเขาเองใช้วิธีการนี้ถูกไหมเพราะมีการส่งสลิปกัน
ปุ๋ย : ค่ะ หลังจากพฤษภาคมเขาก็เริ่มส่งข้อความมาชวนไปนั่นชวนไปนี่ ไปทานข้าวไปเที่ยวไหม ซึ่งตอนนั้นเราแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าเราไม่ได้ชอบคุณนะ ไม่ว่างค่ะ ไม่สะดวกนะคะ ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่มาอุดหนุนร้านในวันนี้
เปิดข้อความแชท เขาส่งมาแบบนี้ “อิ่มรักครับ”
ปุ๋ย : วันนี้เขามานั่งทานข้าวแล้วค่ะ แล้วเขาก็พิมพ์มาหาปุ๋ยตอนที่ปุ๋ยอยู่ในครัว ตอนนี้เขานั่งอยู่หน้าร้าน แล้วเขาก็พิมพ์มาหาปุ๋ยค่ะ เอ๊..รักใครเนอะ ไม่เห็นเขาตอนนั้นเพราะเราอยู่ในครัวอยู่
เราทำกับข้าวอยู่ออเดอร์เข้า “ปุ๋ยคิดว่าไงจ๊ะ” ปุ๋ยส่งว่า “55” อย่างนี้นะ “อยู่กับใครหรอครับผมเดาว่าปุ๋ยมีผู้ชายหลายคน”
ปุ๋ย : วันนี้เดือนพฤษภาคมค่ะวันที่ 20 หลังจากที่มีการโอนเงินแลกไลน์ประมาณสองอาทิตย์ ที่เขาชวนเราแต่เราปฏิเสธมาตลอด
ก็คือเขาจะทักแบบนี้มาเราก็ตอบไปแบบนี้ตามมารยาท
ปุ๋ย : ค่ะ ประโยคล่าสุดคือเราไม่พอใจเขามากค่ะ อันนี้ค่ะ “ผมเดาว่าปุ๋ยมีผู้ชายหลายคน” เราไม่พอใจแล้วประโยคนี้ปุ๋ยเลยไม่ตอบอะไรเขาอีก
อ่านข้อความแชท “ราตรีสวัสดิ์ครับ, ที่รักช่วงนี้ผมเป็นอะไรไม่รู้, ผมเดาว่าปุ๋ยมีผู้ชายหลายคน, เมื่อคืนผมเมามากเลยพิมพ์ไปเยอะ, ขอโทษจริง ๆ ครับ, เลอะเทอะมากผู้หญิงทั้งโลกผมไม่ต้องการ” อันนี้คือเขาพิมพ์มาหาคุณเองคุณก็ไม่ตอบ
ปุ๋ย : ใช่ค่ะ ปุ๋ยไม่ตอบ หลังจากนั้นวันที่ 21 มิถุนายน คุณแม่ปุ๋ยเข้าโรงพยาบาลเข้าไปที่ร้านแล้วไม่เจอ เขาก็เลยไปหาเบอร์โทรศัพท์ของเราจากการที่เราโพสต์รับสมัครงานมา โทรมาหาเราก็เลยตกใจว่ามีเบอร์ได้ยังไงเขาก็บอกว่าเขามีวิธีหามาแล้วกัน เราก็เดี๋ยวค่อยคุยนะคะไม่สะดวกแล้วก็ตัดสายไป หลังจากนั้นเขาก็เริ่มใช้คำพูดที่รุนแรงมาโดยตลอด
เขาโทรมาใช่ไหม?
ปุ๋ย : ไลน์มาค่ะ ตามหลักฐานแชท
ตอนแรกเขาโทรมาแล้วคุณบอกว่าขอวางก่อนเพราะแม่ไม่สบายก็วางหูไปหลังจากนั้นเขาโทรมาอีกไหม
ปุ๋ย : ไม่โทรค่ะ ส่งไลน์ค่ะ บอกว่าคืนนี้อยู่ไหนทำอะไรอยู่
อันนี้คุณส่งกลับไปนะ คุณส่งรูปแม่ไปให้ดูแม่คุณป่วยแล้วคุณก็บอกว่า “ถ้าคุณไม่พอใจก็ไม่ต้องไปต่อกันค่ะ” ถูกไหม”ปุ๋ยเครียด” อันนี้คำว่าไม่ต้องไปต่อกันหมายถึงยังไง
ปุ๋ย : ไม่ต้องคุยอะไรกันอีกต่อไป
เสร็จปุ๊บเขาก็ส่งกลับมาหาคุณ แล้วคุณก็บอกว่า เขาบอกว่าคุณเห็นแก่ตัวหรอ แล้วเค้าก็ถามว่าต่าง ๆ นานาว่าแม่คุณเป็นอะไรแล้วยังไงต่อที่เป็นประเด็นคือยังไงนะ
ปุ๋ย : เป็นประเด็นก็คือเป็นภาษาอังกฤษค่ะเขาส่งมาให้ปุ๋ยไม่เคยตอบ
อ่านแชท อันนี้คือที่คุณส่งไป “ถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องไปต่อกันค่ะปุ๋ยเครียดแม่อยู่ไอซีอยู่นะถ้าจะพิมพ์ข้อความอะไรเยอะแย่มาแบบนี้ไม่ต้องพิมพ์ค่ะ, ตอบมาก่อนเห็นแก่ตัวคืออะไรตรงไหน” เค้าถามว่าแม่คุณเป็นอะไร “เบาหวาน ช็อค” โอเค ก็คือมีการพูดคุยกันแบบนี้ เขาบอก “ข้อ 6 คงแทงใจดำคุณปุ๋ยคุณปุ๋ยเลยโมโห” “เพราะปุ๋ยไม่เคยเห็นแก่ตัวกับคุณไงคุณเคยให้อะไร” อันนี้ขอโทษคุณปุ๋ยไม่เคยคบกับเขามาก่อนเลยหรอ
ปุ๋ย : ไม่เคยค่ะ เขาเป็นแค่ลูกค้ามาทานข้าว
อันนี้คือที่เขาส่งไปหาปุ๋ยใช่ไหม อันนี้คืออะไรผมไม่เข้าใจคุณอธิบายให้ผมฟังหน่อย
ปุ๋ย : วันที่เขามานั่งทานข้าวที่ร้านเหมือนลูกค้าทั่วไป เราก็ถามว่าอาหารอร่อยไหมคะต้องปรับปรุงตรงไหนไหมคะ เขาก็ชวนเรานั่งดื่มเบียร์ ตามมารยาทถามลูกค้าทุกคนที่เคยมาที่ร้านค่ะ เราเทคแคร์ดูแลดีมาก เราก็นั่งเขาก็เลยถามเรื่องส่วนตัวเราก็เลยเล่าให้เขาฟังแต่ข้อ 8 ปุ๋ยไม่ทราบจริงๆค่ะ
อันนี้คือเขาส่งมาหาคุณใช่ไหม อธิบายแบบนี้ ๆ
ปุ๋ย : ใช่ค่ะ ซึ่งข้อมูลบางอย่างเขาก็ถามกับพนักงานปุ๋ยด้วย แล้วเขาก็ลิสต์ข้อความมาว่าปุ๋ยเป็นคนยังไงปุ๋ยทำอะไรอยู่เหมือนวิเคราะห์เรื่องส่วนตัวของปุ๋ยมาให้ปุ๋ยดูค่ะ
แล้วหลังจากนั้นเหตุการณ์เป็นยังไงต่อ
ปุ๋ย : ปุ๋ยไม่คุยปุ๋ยไม่ตอบแล้วเขาก็เริ่มใช้คำพูดที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างในประโยคที่เห็นเมื่อกี้ แล้วก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกขู่ว่าจะทำร้ายเราก่อน หลังจากนั้นก็เริ่มขู่ฆ่า หลังจากนั้นก็เริ่มส่งข้อความมาอวดโอ้เรื่องการเรียนของตัวเอง วันที่ 29 ขู่ฆ่าวันที่ 30 ทุบรถเลยค่ะ
ก่อนหน้านี้คุณเห็นไลน์ของเขาจะมีการส่งมาขู่ฆ่าเปิดข้อความแชท “เกาะผู้หญิงกิน คุณใส่ร้ายผมคุณเหยียบย่ำศักดิ์ศรีลูกผู้ชายเหยียดหยามผม” คุณไปด่าเขาว่าอะไร
ปุ๋ย : ปุ๋ยด่าเขาว่าแมงดาค่ะ เพราะเขาด่าปุ๋ยมาก่อน เขาด่าปุ๋ยว่าโสเภณี กะหรี่ขายตัว แรด แพศยา นานเลยนะคะกว่าที่เราจะด่าเขากลับค่ะเพราะเราทนไม่ไหวแล้ว ปุ๋ยมั่นใจเลยค่ะว่าทุกคนถ้าโดนเหมือนปุ๋ยไม่มีใครทนไหวหรอกค่ะ ต้องมีการตอบโต้บ้างยิ่งเรายอมเค้ายิ่งด่าเราเรื่อยๆ หลังจากนั้นพอเขาด่ารุนแรงขึ้นเราก็เริ่มตอบโต้กลับพอเราตอบโต้กลับปุ๊บเขาก็ทนไม่ได้ เขาก็เดินทางไปแจ้งความจับปุ๋ย ข้อหาด่าเขาว่าแมงดา
พอเขาไปแจ้งความแล้วตำรวจว่ายังไง
ปุ๋ย : ตำรวจบอกว่ามันไม่มีมูลเหตุนะ ตำรวจก็เลยขอไม่รับแจ้งความในตรงนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเนี่ยได้ต่อสายหาปุ๋ยด้วย เขาก็ยิ่งโมโหหนักเพราะตำรวจไม่รับแจ้งความ เริ่มส่งข้อความขู่มาทำร้าย
ขู่มาทั้งหมดกี่ข้อ
ปุ๋ย : 6 ข้อ ค่ะ
6 ข้อนี้นะ “กูกำลังคิดว่ากูจะฆ่ามึงด้วยวิธีไหน” อันนี้เขาส่งมาหาคุณนะ “1 เอาน้ำมันราดแล้วจุดไฟเผา 2 ฆ่าหั่นศพ 3 ตัดหัวมึง 4 เอาน้ำกรดสาดหน้ามึง 5 เอามีดจ้วงมึงแล้วควักไส้มึงออกมา 6 เอาปืนจ่อยิงหัวกบาลมึง, เกิดมากูไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนอกตัญญู” นี่
ปุ๋ย : ปุ๋ยเห็นข้อความนี้แล้วรู้สึกว่าปุ๋ยใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิมแล้วค่ะคือกลัวมากแทบไม่กล้าออกไปไหนเลย
หลังจากนั้นเขาบอกว่า “เขาจะเอาเลือดหัวคุณไปล้างตีนเขา” ใช่ไหม
ปุ๋ย : ใช่ค่ะ
อันนี้คือที่เขาส่งมาหาคุณแล้วเพราะคุณได้รับคุณทำยังไงต่อ
ปุ๋ย : ปุ๋ยไม่ตอบโต้กลับปุ๋ยคิดว่าเราให้อภัยเขา ณ จุดนี้เราไม่อยากมีศัตรูเพราะว่าเราทำงานหลายอย่างถ้าวันหนึ่งเราเดินไปข้างนอกแล้วเรามีศัตรูเราจะอันตรายมากค่ะ ก็เลยคิดว่าให้อภัยเขาดีกว่าปรากฏว่าวันที่ 30 ปุ๊บเขามาทุบรถเราเลย 30 กรกฎาคม
เปิดคลิปทุบรถ นี่คือฟ่งใช่ไหม
ปุ๋ย : ใช่ค่ะ เดินออกจากแท็กซี่คันนั้นมาแล้วก็มาที่ป้อมยามก่อน ตรงนี้คือหน้าร้านอาหารปุ๋ยค่ะตอนนั้นคือปุ๋ยนอนอยู่ข้างในร้าน รถสีขาวทางซ้ายรถปุ๋ย
ลงมาจากรถเสร็จปุ๊บเขาไปหยิบก้อนหิน
ปุ๋ย : มันจะมีคลิปก่อนหน้าที่เขาปาก้อนหินออกมาจากรถด้วย
เอาอันนี้ก่อนเขาไปหยิบก้อนหินแล้วก็มาเดินชำเลืองมองว่าใช่หรือเปล่า หลังจากนั้นก็ปาแบบนี้หลังจากนั้นก็เก็บก้อนหินและเอาไปด้วย แต่มันจะมีจังหวะที่เขาขับรถมาและเอาก้อนหินปาก่อนหรอ
ปุ๋ย : ปาก่อน ประมาณ 2-3 รอบ ปากระจกข้าง แล้วเขาก็ถอยรถเข้าออกๆๆ ประมาณ 4-5 รอบ แล้วก็ตัดสินใจเดินลงมาเก็บก้อนหินอีกรอบหนึ่งแล้วก็อย่างที่ปรากฏในคลิปเมื่อกี้เดินมาด้านหน้าแล้วก็ปาใส่กระจกข้างหน้าเลยค่ะ
ทีนี้รถแท็กซี่คันนี้แน่นอนว่าเป็นรถของพี่ถูกไหม
ประพาส : ใช่ครับ
แล้วพี่รู้จักผู้ก่อเหตุหรอ
ประพาส : ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวก็คือเขาเดือดร้อนมา เขาบอกว่าจะขอขับรถแท็กซี่แล้วผมก็ถามว่าแล้วคุณอยู่ที่ไหน ก็อยู่ใกล้ๆ กัน
คือรถคันนี้เป็นรถของพี่เลย
ประพาส : รถผมเช่าซื้อ คือเขาเดือดร้อนมา แต่เขาไม่ได้ขับทุกวันบางทีเขาก็ไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลบ้าง เราก็งั้นไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ช่วยเพราะใบขับขี่เขาขาดจะต่อวันที่ 27 แล้วก็บอกเดี๋ยวไปที่อู่เดี๋ยวพี่พาไปขับรถที่อู่คืนเราแค่ช่วยเขาเท่านั้นเอง
แล้วไปรู้จักเขาได้ยังไง
ประพาส : ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวคือเขามาถามเราก็ถามว่าพักอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่ เขาบอกว่าตอนนี้ตกงานไม่มีงานทำ เจอกันเพราะเขาอยู่แถว ๆ บ้าน เขาอยู่คอนโดผมอยู่ในชุมชน เหมือนกับว่าคนตกงานแล้วมาหางานทำ ขอความช่วยเหลือประมาณนี้
เขาเป็นคนจีนใช่ไหม
ประพาส : เขาเป็นคนไทยนะ เขาก็มีบัตรประชาชนตามปกติ
คุณไม่เคยรู้มาก่อนหรอ
ปุ๋ย : ปุ๋ยไม่ทราบเรื่องส่วนตัวเขาหรอกค่ะ เขาแค่มาทานข้าวเราไม่เคยถามเรื่องส่วนตัวเขา
ทั้งนี้ยืนยันว่าเป็นคนไทยแต่คุณคิดว่าเป็นคนจีนเพราะเขาพูดได้หลายภาษาภาษาจีนก็ได้ภาษาอังกฤษก็ได้แล้วชื่อ ฟ่งคุณเลยคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนจีนแต่อยู่ในไทย แต่ทางฝั่งนี้บอกว่าเขาเป็นคนไทยเพราะมีบัตรประชาชนที่พี่รู้เพราะเขาเอาบัตรประชาชนวางไว้กับพี่หรอ
ประพาส : บัตรประชาชนใบขับขี่เขามีมาให้ดูก็เหมือนคนตกงานคนนึงที่ต้องการจะหารายได้ช่วยตัวเอง ถ้าต่อใบขับขี่ได้เราก็จะพาไปหาอู่แท็กซี่ให้ขับก็แค่นั้นเอง
แต่พี่ไม่ได้พาไปหาอู่แต่เอาแท็กซี่ตัวเองให้เขาเช่า
ประพาส : ให้เขาขับไปก่อน
โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขาขับไปก่อเหตุ
ประพาส : ไม่รู้ ก่อนหน้านั้นเขาก็ทำงานปกติเราก็ไม่รู้ว่าเขาขับไปก่อเหตุ
หลังจากนั้นเขาเอาไปแล้วยังไงต่อ
ประพาส : ก็ขับแล้วก็ส่งกันปกติ เขาเอาไปไม่กี่วัน สมมุติว่าขับ 2 วัน หยุดวันนึง ขับ 3 วันหยุดวันนึง เขาไม่ได้ขับทุกวันไม่ได้ขับเป็นอาชีพทุกวันบางวันเขาวันนี้ผมมาขับนะ
แล้วพอเขาเอาไปก่อเหตุพี่รู้มาก่อนไหม
ประพาส : ไม่รู้ทางสหกรณ์เขาโทรมาหา ที่ไปเช่าซื้อรถมาเขาโทรมาหาผมบอกว่าพี่ประพาสรู้จักคนนี้ไหม รู้จักทำไมเขาเอารถไปก่อเหตุนะ ก่อเหตุอะไร คือเราไม่รู้เรื่อง
เขาเช็คจากป้ายทะเบียนเขาติดต่อพี่ไปเลย ว่าไปก่อเหตุอะไรแล้วพี่ตอบว่า
ประพาส : พี่รู้จักคนแต่พี่ไม่รู้ว่าเขาไปก่อเหตุอะไรเราไม่รู้จริงๆ ผมก็โทรถามทางบริษัทเขาก็เลยให้คุณเขาโทรมาหาผม
ให้เบอร์โทรศัพท์ของทางฝั่งคุณปุ๋ย
ปุ๋ย : ทางแท็กซี่ให้เบอร์โทรศัพท์พี่คนนี้กับปุ๋ยให้ปุ๋ยโทรไปคุยกับพี่เขา ก็โทรไปคุยว่าพี่คะสรุปยังไงคะวันที่ 30 เนี่ยพี่เป็นคนมาก่อเหตุกับปุ๋ยหรือเปล่า ปุ๋ยถามแบบนี้ ถามพี่เขาได้ ปุ๋ยบอกว่าพี่มันมีทะเบียนรถของพี่มาทุบรถปุ๋ยนะ พี่เขาก็บอกว่าพี่ไม่ได้ทำไม่ใช่เลยอีกคนหนึ่งทำ ก็บอกว่างั้นพี่ส่งบัตรประชาชนมาปุ๋ยอยากรู้ว่าใครทำก็กลายเป็นนายคนนี้ทันที อันนี้ยิ่งมั่นใจเลยค่ะว่าเป็นเขาแน่ๆ ก็เลยเดินทางไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อออกหมายเรียกเอาหลักฐานทุกอย่างไปให้เอากล้องวงจรปิด 10 จุดไปให้เอาตัวคลิปเสียงจากน้องชายเขาไปให้เอาหลักฐานทุกอย่างไปให้
เท่าที่ผมดูเป็นคนไทยนะ มีที่อยู่ชัดเจน
ทนายแก้ว : ชัดเจนครับว่าเป็นคนไทย
ทีนี้หลังจากนั้นแล้วยังไงต่อครับพี่ พี่ได้มีโอกาสคุยกับคุณฟ่งไหม
ประพาส : ได้คุยเมื่อวานเขาก็โทรมาเขาโทรมาขอโทษ ส่วนใหญ่เขาจะไลน์มาหรือบางทีก็โทรมา เขาก็โทรมาขอโทษผม เรื่องส่วนตัวเขาอ่ะผมไม่ได้รู้เรื่องเพราะว่าผมไม่ได้สนใจขนาดนั้น เขาโทรมาแค่ขอโทษผมว่าทำให้ผมเดือดร้อนซึ่งผมก็เดือดร้อนจริงๆนะตอนนี้ผมไม่มีรถขับ
ทำไมถึงไม่มีรถขับตอนนี้
ประพาส : ทางสหกรณ์เขาฉีกสัญญาทิ้งก็คือผมก็โดนยึดรถไป
เปิดคลิปเสียง ฟ่ง อันนี้คือเขาโทรหาพี่พอดีถูกไหม แล้วนักข่าวอยู่ตรงนั้นพอดีเขาเลยอัดเสียงไว้เลยแล้วเขาพูดแบบนี้เขาบอกว่าเนรคุณ
ประพาส : ใช่ครับ ก็ตามคลิปเสียงครับ
อันนี้คุณมองยังไงที่เขาพูดมาแบบนี้
ปุ๋ย : ปุ๋ยไม่ได้เป็นแฟนกับเขาค่ะ ปุ๋ยพูดได้แค่นี้เหตุการณ์ต่างๆ เนี่ยปุ๋ยไม่ทราบว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงสิ่งที่เขาพูดขึ้นมาไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นค่ะพี่หนุ่ม
ที่บอกว่าไปเลี้ยงเบียร์ซื้อของซื้อเสื้ออะไรให้ไม่มีนะ
ปุ๋ย : ใช่ค่ะ แล้วปุ๋ยมั่นใจว่าปุ๋ยทำธุรกิจปุ๋ยหาด้วยตัวเองได้ แค่นี้ปุ๋ยคิดว่าศักยภาพปุ๋ยมีมากพอที่ไม่ต้องไปขออะไรจากเขาแล้วเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยค่ะพี่
ทีนี้ ณ วันนี้คุณจะเอายังไงต่อไปเพราะคุณไปแจ้งความเรียบร้อยแล้วทางฝั่งเขาติดต่อคุณมาอีกไหม
ปุ๋ย : ไม่ติดต่อมาตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม ปุ๋ยมีการส่งข้อความไปหาเขาด้วยว่ามาทุบรถเราทำไมทำไมต้องมาทำแบบนี้เขาก็ไม่อ่านไลน์ไม่ตอบแชททางพี่ตำรวจสน. ห้วยขวางก็โทรไปไม่รับสายค่ะ พี่ตำรวจก็เลยบอกว่าถ้างั้นเดี๋ยวรอภาพจากกล้องวงจรปิดมานะให้ระบุชัดเจนเลยว่าเป็นตัวเขา พอเราไปหากล้องวงจรปิดมาได้ทั้งหมดพี่ตำรวจก็ออกหมายเรียกให้ครั้งแรก ซึ่งระหว่างออกหมายเรียกปุ๋ยไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาทำร้ายปุ๋ยอีกเมื่อไหร่ปุ๋ยออกไปร้านไม่ได้ค่ะปุ๋ยกลับบ้านไม่ได้ค่ะปุ๋ยไปไหนไม่ได้เลย ปุ๋ยออกไปห้างยังไม่ได้เลยค่ะ
ตอนนี้คุณก็หวาดกลัวไม่รู้ว่าเขาจะมาดักเราตอนไหนยังไง
ปุ๋ย : ใช่ค่ะแต่ถามว่าปุ๋ยกลัวแล้วปุ๋ยสู้ไหมปุ๋ยต้องสู้ถ้าปุ๋ยไม่สู้ปุ๋ยก็ต้องกลัวต่อตลอดชีวิตเลยแต่ถ้าปุ๋ยสู้วันนี้ปุ๋ยไม่ต้องกลัวอะไรอีก
คุณก็ไปแจ้งความแล้วตำรวจก็ดำเนินการแล้วใช่ไหมเห็นล่าสุดมีการเรียกชายคนนี้แต่ชายคนนี้บอกจะไปมอบตัวแต่ที่มอบตัวไม่ได้เพราะชายคนนี้เขาบอกว่าเป็นโควิดอยู่
ปุ๋ย : ปุ๋ยว่าเขาเลี่ยงเขาไม่อยากมาพบหน้าสังคมน้องชายเขาคุยกับปุ๋ยบอกว่าพี่ชายผมติดโควิดอยู่นะเมื่อประมาณปลายเดือนเขาก็เลยไปเยี่ยมแม่เขาไม่ได้ เขาน่าจะใกล้หายจากโควิดแล้วเดี๋ยวเขาจะมาเยี่ยมแม่ ปุ๋ยโทรหาน้องชายเขาเมื่อวานน้องชายเขาบอกว่าติดโควิดเมื่อเดือนก่อนค่ะ
แต่นี่เขาบอกว่าไม่ไปมอบตัวเพราะติดโควิด คุณก็เลยคิดว่ามันไม่น่าจะใช่
ปุ๋ย : ปุ๋ยคิดว่าไม่น่าจะใช่ค่ะ เขาเลี่ยงไม่อยากมาเพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่าเขาเป็นคนผิดเขากลัวสังคมด้วย
ถามพี่ประพาส ณ วันนี้รถพี่เป็นยังไงเขาไม่ให้ขับแล้ว
ประพาส : ไม่ให้ขับครับตอนนี้ผมก็ไม่ได้ทำงานมาประมาณเกือบ 10 วันแล้ว ตอนนี้ผมก็กลายเป็นคนตกงานโดยสมบูรณ์แบบ ไม่มีรายได้มีแต่ค่าใช้จ่าย
ด้วยสาเหตุที่ว่าพี่ให้เขาเช่ารถนี่หรอ จริง ๆ เขาห้ามหรอเป็นข้อห้ามหรอ
ประพาส : ก็คือตามสัญญาเขาให้ขับคนเดียว เราอาศัยว่าเราอยากจะช่วยเขานิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเอง
ตามกำหนดของสหกรณ์เขากำหนดเลยใช่ไหมว่าผู้เช่าซื้อรถของสหกรณ์ต้องขับคนเดียวห้ามเอาไปให้คนอื่นขับด้วยปรากฏว่าพอเรื่องนี้เขาขับรถพี่ไปแล้วก่อเหตุสหกรณ์รู้เลยยึดคืนห้ามขับเลย
ประพาส : ก็ยึดคืน ที่ผ่อนมาทั้งหมดก็ไม่มีอะไร
แต่ในมุมของพี่ก็คือช่วยคนที่เขากำลังตกงาน
ประพาส : แต่ไม่ได้ช่วยตลอด ก็แค่ไม่กี่วันเองคือเพราะเขาได้เขาก็ไปแล้วแค่นั้นเอง คือพอเขาได้ใบขับขี่มาก็จะไปหาอู่ให้เขาขับ ใบขับขี่เขาขาดทางอู่ก็จะไม่รับ แต่มันขาดไม่เกินปีก็ยังต่อได้อยู่เขาจะได้ต่อใบขับขี่วันที่ 27 เดือนที่แล้วเขานัดต่อใบขับขี่แล้ว
ระหว่างที่พักเบรคไปปรากฏว่าคุณฟ่งโทรศัพท์เข้ามาหาทางพี่ประพาส ผมเลยมีโอกาสได้คุยกับคุณฟ่ง เค้าบอกว่าผมอยากพูดบ้างเพราะไปพาดพิงเขาคุณปุ๋ยอนุญาตนะ
ปุ๋ย : อนุญาตค่ะ
สวัสดีครับคุณฟ่ง คนที่เอาหินไปทุบรถเขาถูกต้องไหม ที่บอกว่าอยากจะชี้แจงบางคนฝุณอยากจะชี้แจงอะไร
ฟ่ง : เรื่องมันยาวครับพี่คือผู้หญิงคนนี้เขาบิดเบือนความจริงเขาพูดไม่หมดครับเขาพูดเฉพาะในส่วนหลายของผมแต่เขาพูดไม่หมด 100% เขาบิดเบือนความจริงคือการที่เราจะตัดสินอะไรก็ต้องฟังความทั้งสองฝ่ายไม่ใช่ฟังความแค่ข้างเดียว คือผมเสียเปรียบเขาทุกอย่าง ผมยอมรับว่าผมเป็นคนเอาหินไปทุบกระจกรถเขาเป็นความจริงแน่นอน 100% แล้วผมยอมรับว่าผมพิมพ์ไปขู่ฆ่าเขาแต่ผมทำไปเพราะความโมโห ผมคงไม่ไปฆ่าเขาหรอกเพราะถ้าผมฆ่าเขาลูกชายเขาก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ผมคงไม่เอาอนาคตชีวิตผมและครอบครัวผมไปเสี่ยงกับผู้หญิงคนนี้นะครับ แต่ว่าสังคมไทยเนี่ยวัฒนธรรมไทยผู้ชายทะเลาะกับผู้หญิงผู้ชายเสียเปรียบแน่นอนอยู่แล้วเพราะว่าสังคมผู้คนก็จะบอกว่าผู้ชายไม่เป็นสุภาพบุรุษ ฉะนั้นผู้ชายเราเนี่ยถ้าไม่จำเป็นจริงๆผมเจ้าตัวหลีกเลี่ยงไม่ไปทะเลาะกับผู้หญิงเด็ดขาดแต่อันนี้คือผมแค้นเขาเพราะว่าเขากล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีผม
คุณแค้นอะไรเขาครับ
ฟ่ง : หลายเรื่องครับ ผมมีหลักฐานครบแต่ผมขอพูดก่อนแล้วจะส่งหลักฐานมาให้ออกทุกช่องเพราะเขาเล่นไปประจานผมเขาไปออกข่าวหลายช่อง ผมไม่ได้อยากดังเรื่องแบบนี้หรอกครับมันไม่ดีแต่ในเมื่อมันมาถึงที่สุดแล้วผมจะแฉความจริงทุกอย่างให้ฝั่งผมสาบานว่าผมพูดความจริงทุกคำครับ
ผมขออนุญาตคุณฟ่งบอกเลยได้ไหมครับว่าอันไหนที่คุณติดใจ
ฟ่ง : คือผู้หญิงคนนี้เขากล่าวหาใส่ร้ายว่าผมเป็นแมงดาข้อหนึ่งเขาด่าผมว่าเป็นแมงดา สองเกาะผู้หญิงกิน ข้อสามเป็นกะหรี่ผู้ชายขายตัวให้ผู้หญิง ข้อสี่เขาด่าผมว่าเป็นปลิงดูดเลือด
แล้วที่คุณแค้นเขาถึงขั้นต้องเอาหินไปปาเพราะว่าเขาไปด่าคุณแบบนี้ถูกไหม
ฟ่ง : มันหลายเรื่องครับเขาเนรคุณ
เนรคุณ อกตัญญูเรื่องอะไร
ฟ่ง : เขาอกตัญญูเพราะเขาด่าพ่อแท้ ๆ ตัวเองว่าเหี้ย ผมถามหน่อยว่าลูกที่ดีคนไหนในโลกด่าพ่อตัวเองว่าเหี้ย
เดี๋ยวนะขออนุญาตนะพอดีรายการเป็นรายการสดคำพวกนี้อาจจะขออนุญาตพูดไม่ค่อยได้
ฟ่ง : มันคือความจริงครับพี่หนุ่ม แล้วก็ด่าสามีเก่าตัวเองว่าเลวแล้วเขาก็เคยแต่งงานมีสามีมาแล้ว
แบบนี้มันคือการประจานเขานะเดี๋ยวจะโดนหมิ่นประมาทอีกคืออันนี้มันเป็นเรื่องของเขาไง เอาแค่ที่เขาทำคุณน่ะ
ฟ่ง : ผมไปให้สุดอยู่แล้วเพราะที่ผมพูดมันคือความจริงทุกอย่าง
ทนายแก้ว : ไม่ใช่ เดี๋ยวพี่หนุ่มจะโดนด้วย
คือตัวคุณอยากจะชี้แจงว่าเขาพาดพิงคุณแต่อันนี้คุณยังไม่ได้พูดเลยว่าเขาทำอะไรคุณ
ฟ่ง : โอเค ผมจะพูดเฉพาะสิ่งที่เขาทำกับผม เขากล่าวหาใส่ร้ายผมมันไม่ใช่ความจริงครับพี่หนุ่ม
เอาง่าย ๆ ประเด็นคือเขาไม่ได้มีความชื่นชอบคุณเขาไม่ได้คิดจะคบคุณเป็นแฟนแต่คุณส่งข้อความไปตามตื๊อเขา
ฟ่ง : โน ๆ พี่ผิดแล้วครับ สิ่งที่พี่พูดมันไม่จริงครับ เขาเคยมานอนที่คอนโดผม 5 ครั้ง
ปุ๋ย : ไม่จริงค่ะ
ทนายแก้ว : คุณพูดแบบนี้มันหมิ่นประมาทนะครับ
ฟ่ง : มันคือความจริงครับผมพูดความสัตย์จริงทุกตัวอักษร
ทนายแก้ว : คุณพูดแบบนี้ไม่ได้ครับเดี๋ยวรายการจะถูกดำเนินคดี แบบนี้ไม่ได้ครับ
ฟ่ง : พี่ต้องการความจริงไม่ใช่หรอเพราะผมพูดความจริง
คือทางนี้เขาบอกว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริงไงคุณบอกคุณอยากจะขอชี้แจง
ฟ่ง : ผมมีพยานหลักฐาน รปภ. ที่คอนโดผม ผมเคยเอาสติกเกอร์ที่คอนโดไปให้รปภ.เพราะว่าเขาค้างคืนที่คอนโดผมแล้วรถเขาออกไม่ได้เพราะรถมันไม่มีสติกเกอร์แล้วมันจอดเกินกี่ชั่วโมงมันต้องเอาสติกเกอร์ไปให้รปภ. ผมมีรปภ.มีกล้องวงจรปิดที่คอนโด
เอาอย่างนี้ผมขอโทษนะผมพูดกลาง ๆ นะถ้าคุณสองคนจะคบกันมาก่อนหน้านี้ วันนี้มันต้องแยกย้ายกันฝ่ายหญิงเขาไม่ต้องการจะคบหากับคุณ
ฟ่ง : ผมก็ไม่ต้องการคบกับเขา
แต่การที่คุณไปทำแบบนี้มันมีความผิดนะไปขู่ฆ่าเขาหรือเอาก้อนหินไปทุบรถเขาเนี่ย
ฟ่ง : อันนั้นผมรับผิดชอบเองครับ
แล้วตกลงคุณเป็นโควิดใช่ไหมที่ไม่ไปหาตำรวจเนี่ย
ฟ่ง : ผมเพิ่งไปตรวจ RT-PCR ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์เมื่อสองวันที่แล้วผมผลเป็นบวกแต่ใกล้หายแล้ว
โอเคแต่พอหายแล้วคุณจะไปเจอตำรวจถูกไหม
ฟ่ง : ผมจะเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุดครับ ที่เขากล่าวหาใส่ร้ายหมิ่นประมาทผม เขาด่าผมสารพัดทั้งที่ผมมีแต่ให้เขา ผมให้เสื้อเขา ทำน้ำหอมให้เขา ไปอุดหนุนร้านเขา เงินผมไม่เคยขอเขาแม้แต่บาทเดียว
ทนายแก้ว : เขาเคยให้อะไรคุณไหม
ปุ๋ย : ไม่เคยค่ะ
ผู้หญิงเขาบอกว่าไม่เคยรับของคุณนะ
ฟ่ง : เขาโกหกครับ
ทนายแก้ว : แล้วคุณเคยไปหลับนอนไปคอนโดอย่างที่เขาพูดไหม
ปุ๋ย : ไม่เคยค่ะ
ทนายแก้ว : การที่คุณนำเรื่องของคนอื่นมาพูดถึงแม้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงมันคนละประเด็นกันครับ แต่ในประเด็นของข้อกฎหมายเนี่ยคุณพูดแบบนี้ไม่ได้ครับ