“รมต.สำนักนายกฯ” เปิดงาน Digital Government Summit 2025 ดันไทยสู่ผู้นำ GovTech โลก

IMG_6578

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำทัพเปิด “Digital Government Summit 2025” ยกระดับประเทศไทยสู่ผู้นำ GovTech โลก หนุน DGA ขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลเพื่อประชาชน

สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชนหรือ DGA จัดงานสัมมนาและนิทรรศการ Digital Government Summit 2025 (DG Summit 2025) ภายใต้คอนเซ็ปต์Leading Thailand to the Top in GovTech ซึ่งเป็นงานสัมมนาสุดยิ่งใหญ่ระดับประเทศที่จะพาประเทศไทยก้าวสู่จุดสูงสุดบนเวที GovTech ระดับโลก ในงานนี้ได้รวมสุดยอดผู้นำแถวหน้าของวงการ หน่วยงานพันธมิตรภาครัฐจำนวนมากพร้อมบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกมาร่วมแชร์ ประสบการณ์จริง พร้อมเปิดคลังนวัตกรรมล่าสุด โดยเฉพาะเรื่อง AI ที่อัพเดตที่สุด เพื่อคนไทยโดยเฉพาะ โดยงานจัดขึ้นในวันที่ 14 – 15 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าEMSPHERE กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจากนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานพร้อมปาฐกถาพิเศษประกาศขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยรัฐบาลดิจิทัล “Empowering the Nation through Digital Government” 

นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลดิจิทัลคือ
การออกแบบอนาคตของประเทศไทย ที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยมีหลักการสำคัญคือ ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง (Citizen-Centric) โดยการออกแบบบริการภาครัฐทั้งหมดจะต้องเริ่มต้นจากความต้องการของประชาชนเป็นหลัก (Digital by Design) เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ไม่ต้องใช้เอกสารซ้ำซ้อน และไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง พร้อมทั้งรัฐบาลกำลังยกระดับ Open Government เพื่อความโปร่งใสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลตรวจสอบการทำงานของรัฐ และมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นได้อย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและทลายกำแพงระหว่างรัฐกับประชาชน

นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังเดินหน้านโยบายสำคัญ 3 เรื่องที่จะเปลี่ยนโฉมการบริการภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม คือ 1. Single Portal, All Services พัฒนาแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ให้เป็น”ทางรัฐ Super App” ที่จะรวมทุกบริการของภาครัฐไว้ในที่เดียว สำหรับประชาชนและภาคธุรกิจ มีระบบ Biz Portal พร้อมเพิ่มการเข้าถึงและบริการที่สำคัญอีกกว่า 2,000 บริการ เพื่อแก้ปัญหาการติดตั้งหลายแอปพลิเคชันและการยื่นสำเนาเอกสารซ้ำซ้อน พร้อมทั้งพัฒนาระบบDigital ID เพื่อการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัย 2. One Data, Once Only ให้ข้อมูลครั้งเดียวจบประชาชนจะไม่ต้องกรอกข้อมูลเดิมซ้ำๆ เมื่อติดต่อหน่วยงานรัฐ โดยทุกหน่วยงานจะเชื่อมโยงข้อมูลกันผ่านระบบ Government Data Exchange (GDX) และ 3. Safe from Risks, Secure from Leaks ยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยนโยบาย Government Cloud เพื่อปกป้องข้อมูลของประชาชนให้ดีที่สุด ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงของชาติ สำหรับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อบริหารจัดการวิกฤต รัฐบาลจะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการภัยพิบัติต่างๆ เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม และฝุ่น PM2.5 โดยกำลังพัฒนา”แพลตฟอร์มกลาง” ที่มีระบบครบวงจร ตั้งแต่การแจ้งเตือนภัย การลงทะเบียนอาสาสมัครการรับแจ้งความเดือดร้อน ไปจนถึงการโอนเงินช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกรวมไว้ใน
“ทางรัฐ Super App” เช่นกัน

สำหรับความสำเร็จและเป้าหมายในอนาคตของประเทศ ปัจจุบันไทยมีอันดับดัชนีการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (EGDI) ของสหประชาชาติดีขึ้น จากอันดับที่ 55 ในปี 2565 เป็นอันดับที่ 52 ในปี 2567 (จาก 193 ประเทศ) และเป็นอันดับ 2 ในอาเซียนรองจากสิงคโปร์รัฐบาลตั้งเป้าหมายให้การประเมินครั้งถัดไปในปี 2569 ประเทศไทยจะมีพัฒนาก้าวประโดดจนมีระบบที่ดีเทียบเท่าประเทศผู้นำอย่างเดนมาร์กเอสโตเนีย และสิงคโปร์ โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่างานนี้คือการประกาศ “วิสัยทัศน์รัฐบาลดิจิทัล” ของประเทศไทย และเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนประเทศให้เป็นต้นแบบด้านบริการภาครัฐดิจิทัล โดยมองว่ารัฐบาลดิจิทัลไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นคำมั่นสัญญาว่าประชาชนจะได้รับการดูแลจากรัฐที่ดีขึ้นบนพื้นฐานของความโปร่งใส

นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้กล่าวปาฐกถา
ในหัวข้อ Driving Thailand’s Digital Economy & Society โดยเน้นย้ำถึงภารกิจสำคัญของกระทรวงดิจิทัลฯ คือการสร้าง“เส้นเลือดใหญ่ของรัฐไทย” ผ่าน Government Cloud และ Data Infrastructure ที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐอย่างปลอดภัยโปร่งใส และต่อเนื่อง ทั้งนี้ ภัยคุกคามไซเบอร์เป็นความมั่นคงรูปแบบใหม่ของประเทศ กระทรวงดิจิทัลฯ จึงยกระดับ Thailand CERT เป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้านไซเบอร์ระดับชาติทำงานตลอด 24 ชั่วโมง พัฒนากรอบDecentralized Security Framework เพื่อป้องกันการโจมตีจากจุดเดียวและเสริมความยั่งยืนของระบบความปลอดภัยภาครัฐ เดินหน้า Proactive Privacy Management ภายใต้ PDPA และพัฒนา National Data Governance Framework ให้เป็นระบบเดียวกัน เป็นต้น มุ่งสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนควบคู่กับเทคโนโลยี เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างปลอดภัยโปร่งใส และมั่นใจในอนาคตของคนไทยทุกคนเพราะ “รัฐบาลดิจิทัล” จะไม่ใช่แค่ระบบ แต่คือ“ความเชื่อมั่นใหม่ของชาติ”

นาไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวว่า DGA ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการผลักดันระบบนิเวศรัฐบาลดิจิทัลของประเทศ วางรากฐานที่มั่นคงและสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ใน 5 ด้านหลัก ทั้งด้านการให้บริการประชาชนแบบครบวงจร ผ่าน
แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ที่เปรียบเสมือน “Super App” ของภาครัฐ, ด้านการอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ, ด้านการสร้างความโปร่งใสและเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ, ด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีมาตรฐานและปลอดภัย, ด้านการผลักดันมาตรฐานและการยกระดับบุคลากร ทั้งจัดทำมาตรฐาน Government Cloud และการยกระดับบุคลากรภาครัฐผ่านสถาบันพัฒนาบุคลากรภาครัฐด้านดิจิทัล หรือ สถาบัน TDGA อันเป็นรากฐานสำคัญ ที่จะนำไปสู่การขับเคลื่อน“รัฐบาลดิจิทัลแบบบูรณาการ” ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งให้บริการภาครัฐทุกเรื่องอยู่ในที่เดียว เชื่อมโยงข้อมูลแบบไร้รอยต่อ และคุ้มครองข้อมูลประชาชนอย่างมั่นคงปลอดภัย นอกจากนี้ DGA ยังอยู่ระหว่างเตรียมการพัฒนา Digital ID สำหรับชาวต่างชาติ และ Foreigner Portal เพื่อรองรับการให้บริการแบบครบวงจรแก่ชาวต่างชาติทุกกลุ่มอีกด้วย

สำหรับการจัดสัมมนา DG Summit 2025 นี้เป็นการจัดงานต่อเนื่องทุกปี เพื่อแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย และการให้บริการราชการไทยที่ก้าวสู่มิติใหม่ของการผสานเทคโนโลยีตอบโจทย์ความต้องการประชาชนได้ทุกช่วงวัยและสามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการรัฐได้อย่างครอบคลุมและสะดวกสบายมากขึ้น ตามหัวใจของแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศ พ.ศ.2568–2570 (ฉบับปรับปรุง) ที่มีวิสัยทัศน์ว่า“สะดวก มั่นใจ บริการภาครัฐไทยสําหรับทุกคน” โดย DGA ในฐานะผู้จัดงานคาดหวังให้เกิดแรงขับเคลื่อนจากพลังความร่วมมือของทั้งผู้นำประเทศ, ผู้นำองค์กรรัฐและเอกชน ที่จะบูรณาการความร่วมมือเพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านรัฐบาลดิจิทัล ให้ประเทศทันสมัย ชีวิตคนไทยก็ง่ายขึ้น

About Author