กรมหม่อนไหมเทิดพระเกียรติ “พระพันปีหลวง” สืบสานคุณค่าวัฒนธรรมไหมไทยสู่ระดับโลก

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงได้รับการยกย่อง ให้เป็น “พระมารดาแห่งไหมไทย” ด้วยพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่มีต่อเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของประเทศไทย และพระเกียรติคุณอันเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการหม่อนไหมทั้งในประเทศและต่างประเทศ กอปรกับการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ อันเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างหาที่สุดมิได้



ในช่วงเวลาที่ผ้าไหมไทยเริ่มเลือนหายไปจากวิถีชีวิตของคนไทย พระองค์ทรงให้ความสำคัญและทุ่มเทพระวรกายในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และส่งเสริมการใช้ผ้าไทยอย่างต่อเนื่อง ได้เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนราษฎรทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคอีสาน ทอดพระเนตรหญิงชาวบ้านที่มารอรับเสด็จใส่ผ้าไหมที่มีความงดงาม การนุ่งซิ่นผ้าไหมมัดหมี่ที่มีความสวยงาม ทรงสนพระราชหฤทัยยิ่งและไต่ถามจนได้ความว่าชาวบ้านทอผ้าไหมมัดหมี่ไว้ใช้เองทุกครัวเรือน จึงพระราชทานแนวทาง ส่งเสริมการทอผ้าเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ และรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่น ด้วยพระราชดำริว่า “ถ้าทอผ้าได้ก็อยู่ได้”
พระองค์ยังทรงก่อตั้ง มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนงานฝีมือท้องถิ่น โดยเฉพาะ งานผ้าไหม เป็นการสร้างอาชีพเสริม เพื่อแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งช่วยสร้างงานให้ชาวบ้านนับหมื่นคน และผลักดันให้ผ้าไหมไทยได้รับการยอมรับในเวทีโลก ทั้งในด้านศิลปะ แฟชั่น และวัฒนธรรม


เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินหน้าสานต่อภารกิจสำคัญในการสืบสาน รักษา และต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไหมไทย ตามแนว
พระราชดำริของพระองค์ผู้ทรงเป็น “พระมารดาแห่งไหมไทย” ที่มีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์ผ้าไหมไทยให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทย
นายนวนิตย์พลเคน อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า กรมหม่อนไหม ดำเนินงานตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งกรมหม่อนไหมขึ้น เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ผ้าไหมไทยให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยอย่างยั่งยืน ในฐานะข้าราชการภายใต้เบื้องพระยุคลบาท กรมหม่อนไหมน้อมนำพระราชปณิธานมาสืบสานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการให้บริการตรวจรับรองคุณภาพผ้าไหมไทย คือ มาตรฐาน “ตรานกยูงพระราชทาน” 4 ชนิด ซึ่งพระองค์พระราชทานไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพและความภาคภูมิใจของผ้าไหมไทย
ทุกปี กรมหม่อนไหมตั้งเป้าหมายในการตรวจรับรองผ้าไหมที่ผลิตตามมาตรฐานไม่ต่ำกว่า 250,000 เมตร และในปีนี้ได้กำหนดเป้าหมายไว้สูงถึง 300,000 เมตร เพื่อสนับสนุนเกษตรกร ผู้ประกอบการ ให้ผลิตผ้าไหมคุณภาพออกสู่ตลาดอย่างแพร่หลาย ล่าสุดสามารถตรวจรับรองผ้าไหมได้แล้วกว่า 250,000 เมตร โดยมีอัตราการผ่านการรับรองสูงถึง 98% สะท้อนถึงคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับ และช่วยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและผู้ผลิตผ้าไหมไทยทั่วประเทศ
อีกทั้งกรมหม่อนไหม ในฐานะหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาไหมไทย ได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น
- พัฒนาสายพันธุ์หม่อน พันธุ์ไหม ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ
- ส่งเสริมการผลิตหม่อน-ไหม แบบอินทรีย์ เพิ่มมูลค่าผลผลิตให้เกษตรกร
- จัดงานส่งเสริมผ้าไหมไทย ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเปิดตลาดและขยายโอกาสทางการค้า
- จัดประกวดเส้นไหม ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ เพื่ออนุรักษ์และกระตุ้นการสร้างสรรค์ลวดลายใหม่ ๆ จากชุมชนท้องถิ่น
- ฝึกอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้ ให้กับเกษตรกร เยาวชน และกลุ่มทอผ้าไหมรุ่นใหม่
นอกจากงานประจำ กรมหม่อนไหม ยังดำเนินภารกิจสำคัญเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาคุณภาพผ้าไหมไทย เช่น การส่งเสริมการใช้เส้นไหมสาวมือซึ่งกำลังประสบภาวะขาดแคลนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยเส้นไหมสาวมือถือเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ให้เนื้อผ้าสวยงามและมีเอกลักษณ์แตกต่างจากเส้นไหมที่ผลิตในโรงงาน
ทั้งหมดนี้คือผลจากพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงเล็งเห็นถึงคุณค่าและศักยภาพของไหมไทย ทรงผลักดันให้ผ้าไหมไทยเป็นที่รู้จักในระดับสากล และทรงวางรากฐานความเข้มแข็งไว้ให้คนไทยรุ่นหลังได้สานต่ออย่างมั่นคง และยั่งยืน
“การดำเนินงานของกรมหม่อนไหมตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสืบสานรักษาและต่อยอดไหมไทยตามแนวทางพระราชดำริของพระพันปีหลวงซึ่งไม่เพียงส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากหากยังช่วยธำรงอัตลักษณ์ไทยให้คงอยู่สืบไป” อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวทิ้งท้าย

