“ฟรีน – เบคกี้” จับมือกันดัง เปิดใจเส้นทางโกอินเตอร์

ฟรีนเบค คุยแซ่บ

“ฟรีน สโรชา จันทร์กิมฮะ” นักแสดงสาวชาวไทยผู้สร้างประวัติศาสตร์ร่วมงานระดับโลกอย่าง “Met Gala 2025” เป็นครั้งแรก พ่วงด้วยตำแหน่งอันดับ 4 ผู้ที่สร้างมูลค่าทางสื่อสูงสุดกว่า 190 ล้านบาทไทย วันนี้ควงคู่จิ้น “เบคกี้ รีเบคก้า” เปิดประสบการณ์โกอินเตอร์ เดินพรมแดงเทศกาลหนังเมืองคานส์เป็นครั้งที่ 2 แต่กว่าที่ทั้งคู่จะมีวันนี้ เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี เบนซ์พรชิตา และ ดีเจพุฒ พุฒิชัย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

หลายคนอยากรู้ว่าไปเดินได้ยังไง ในฐานะอะไร?

ฟรีน : ฟรีนเป็นตัวแทนจากวาเลนติโน่ค่ะ ฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์เลย  

ความรู้สึกเป็นยังไง?

ฟรีน : วันแรกก็รู้สึกว่าจริงเหรอ เป็นเราจริงเหรอ ฟรีนเป็นแฟนคลับ Met Gala มาหลายปี เป็นคนที่อินกับแฟชั่นมาก ๆ พอได้เสพของปีก่อน ๆ กลายเป็นว่าเราต้องไปยืนอยู่ตรงนั้น แอบตื่นเต้นกดดัน แต่รู้สึกเป็นเกียรติมาก ๆ ค่ะ มันไม่ง่ายเลยในการไปยืนอยู่ตรงนั้น

ภาพที่เห็นตามสื่อ กับเวลาไปอยู่ตรงนั้นจริง ๆ เป็นยังไงบ้าง?

ฟรีน : ตอนนั้นต้องคอนฟิเดนท์มาก ๆ เพราะมันสั้นมาก กับการเข้าไปอยู่ตรงนั้น พื้นที่เดินพรมเล็กมากค่ะ ไม่เกิน 5 นาทีเสร็จแล้วค่ะ แต่เตรียมตัวนานมาก กว่าเราจะได้ชุดที่เหมาะกับเรา เบื้องหลังการทำงานค่อนข้างนานมาก แต่เดินจริง ๆ แป๊บเดียว แต่รู้สึกดีมาก เป็นเกียรติมาก ๆ ค่ะ 

ก่อนไปที่โน่น เตรียมตัวยังไงที่ไทย?

ฟรีน : เตรียมตัวเยอะเลยค่ะ ทั้งสุขภาพใจ สุขภาพร่างกาย เรื่องภาษาและเรื่องทีมด้วยค่ะ

เบคกี้รู้สึกยังไง?

เบคกี้ : รู้สึกภูมิใจ เป็นงานที่ใหญ่มาก ๆ พี่ฟรีนน่าจะชอบ พี่ฟรีนชอบแฟชั่นอยู่แล้ว ตื่นเต้นแทนเลย เก่งมาก ๆ และทำได้ดีมาก ๆ ค่ะ พอเห็นเขาเดินก็ดีเลยค่ะ สวยค่ะ ดูไม่ตื่นเต้นเลย แต่รู่ว่าข้างในต้องตื่นเต้นมาก ๆ เก่งมากค่ะ

ฟรีน : ตื่นเต้น แต่ ณ วินาทีนั้นต้องแบบว่า มาเลยค่ะ มาได้เลยใครเรียก

ที่ต้องเตรียมหนักคือเรื่องภาษา?

ฟรีน : ใช่ค่ะ ไปที่โน่นไม่มีใครติดตามเราเข้าไปได้เลย เราไปแค่คนเดียวจริง ๆ ลงจากรถก็มีแค่หนูคนเดียว เป็นอาร์ติสต์คนเดียวมันสเปเชียลมาก ๆ ตั้งแต่ลงจากรถ พี่ ๆ ทีมงานเหมือนแม่มาส่งลูกไปโรงเรียน (หัวเราะ) หนูไปโรงเรียนดี ๆ นะลูก ตั้งแต่ลงจากรถ ทุกคนสปีกอิงลิชกันหมดเลย เราเป็นคนไทย ก็รู้สึกว่าเราต้องเติมเต็มตรงนี้ให้ได้ เพราะเข้าไปเราต้องคุยกับคนอื่น คุยกับเพื่อน สต๊าฟ หรือทีมงาน ใช้ภาษาอังกฤษหมดเลย ก็เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์เยอะมาก 

เบคกี้ช่วยพี่มั้ย?

เบคกี้ : เขาเก่งอยู่แล้ว แต่ถ้ามีคำถาม ถามได้เสมอ ยินดีตลอด 

ฟรีน : น้องงานเยอะ เราก็แบ่งเวลาไปเรียนเยอะขึ้น ทำการบ้านตรงนี้เยอะมาก ๆ เข้าไปในงาน เราต้องคุยกับทุกคนในโต๊ะ เป็นภาษาอังกฤษหมดเลย ก็ต้องพยายามมาก ๆ ค่ะ

ในไทยต้องมีคนดูแลเราคนนึง แต่อันนี้ลงรถแล้วไปคนเดียวเลย?

ฟรีน : พอเดินพรมเสร็จก็มีพี่ ๆ สต๊าฟยืนอยู่ ก็ต้องถามว่าดินเนอร์ไปทางไหนคะ จนถึงที่นั่งค่ะ ไปคนเดียว เป็นครั้งแรกค่ะ แต่ข้างในสวยมาก ๆ ไม่มีภาพให้ดู เพราะเป็นกฎ Met Gala ห้ามใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปทุกอย่าง ไปถึงเขาจะแรปโทรศัพท์ปิดกล้องเลย ห้ามถ่ายรูป ฟรีนก็เคารพกฎเขา ไม่ได้ถ่ายอะไรเลย เดินอย่างเดียว แต่สวยมาก ระหว่างทางเป็นอาร์ตมิวเซียม เป็นศิลปะทุกอย่างอยู่ตรงนั้น เหมือนเราได้เสพงานศิลปะและมิวเซียม แต่ไม่สามารถถ่ายอะไรออกมาได้ อยู่ในความทรงจำ

ไปครั้งนี้มีความลับ ถึงขั้นเปิดเผยไม่ได้ คืออะไร?

ฟรีน : ทางแบรนด์เขาอยากให้เราถึงนิวยอร์กก่อนแล้วค่อยพูดว่า ไฮ นิวยอร์ก เราไม่สามารถพูดกับใครได้เลยว่าเราจะไปงาน Met Gala หนูไปถึงนิวยอร์กแล้วแฟนคลับยังไม่รู้เลยว่าหนูไปทำไมนิวยอร์ก (หัวเราะ) 

พอรู้ว่าไปถึงที่โน่น แฟน ๆ ที่โน่นทำยังไง?

ฟรีน : เขาก็อ้าว ฟรีนมานิวยอร์กเหรอ มา Met Gala แน่เลย สุดท้ายเราก็เฉลยด้วยการ์ดว่าเรามาในนามวาเลนติโน่นะ เขามีมารับที่โรงแรมบ้าง น่ารักมากค่ะ เก่งมากค่ะ (หัวเราะ)

วินาทีเจอสื่อต่างประเทศเป็นยังไง?

ฟรีน : หนูตื่นเต้น ถึงแม้เตรียมตัว เตรียมภาษาเยอะ แต่ก็ตื่นเต้นอยู่ดี แต่ก็ทำเต็มที่เท่าที่ทำได้ตอนนั้น คิดเลยว่าต้องเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดให้ได้

ขนาดคนเยอะ แต่รู้สึกเหงา?

ฟรีน : หนูไม่รู้หนูจะไปที่ไหนต่อ หนูก็เดินไปที่ดินเนอร์เลย แล้วก็อยู่คนเดียวในโต๊ะ ทุกคนไปไหนกีนหมดไม่รู้ ก็รอทุกคนมา แล้วก็ไม่มีใครคุยด้วย 

เดินไปทักหนึ่งคน?

ฟรีน : ทีแรกก็มีความกล้า ๆ กลัว ๆ เหมือนกัน เราขี้เกรงใจด้วย บังเอิญเห็นพี่ลิซ่าพอดี ก็เอายังไงดีน้อ (หัวเราะ) นี่คือคนไทยที่จะคุยกับเราได้ แต่พี่ลิซ่าเลยนะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ลองดู ก็ไปเซย์ไฮพี่ลิซ่า บอกว่าพี่ลิซ่าสวัสดีค่ะ น้องฟรีนนะคะ มาจากประเทศไทยเหมือนกัน เขาก็อ้าว คนไทยเหรอคะ ก็ได้คุยกัน ก็ชมพี่ลิซ่าว่าสวยมาก หุ่นดีมาก ได้คุยกันประมาณนั้นค่ะ สวยม้ากกก สวยมาก ๆ แค่นั้นแหละค่ะ ก็บอกว่าขอบคุณนะคะ ยินดีที่ได้เจอ ยินดีที่ได้คุย ไม่กวนแล้วค่ะ หนูเขิน มีโทรศัพท์แต่ไม่ถ่ายดีกว่า 

ได้เจอใครอีก?

ฟรีน : ดีไซเนอร์วาเลนติโน่ และซีอีโอวาเลนติโน่ด้วย เพื่อน ๆ ในโต๊ะเยอะมาก หนูได้เพื่อนใหม่เต็มเลย ได้คุยกับโรเซ่นิดนึงฟรีนไม่ค่อยกล้าทักใครเลย เราทำหน้าที่ของเราด้วย คิดว่าทุกคนคงแฮปฟันกับโมเมนต์ ณ ตอนนั้น แต่ขาออกบังเอิญโรเซ่เข้ามาใกล้ ๆ หันไปแล้วก็ชมว่าสวยมาก เขาก็ตอบกลับมา เราก็ใจฟู 

คว้าอันดับสี่สร้างมูลค่าทางสื่อสูงสุดในงาน ติดอันดับท็อป5 เป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในวันนั้นด้วย ภูมิใจมั้ย?

ฟรีน : ไม่คิดเหมือนกันว่าเป็นความจริง หนูอยากขอบคุณแฟนคลับ รวมถึงทีมงาน ทั้งเมเนเจอร์ อาร์ติสต์ ทุกคนทำงานเป็นทีมหมดเลย แฟนคลับเก่งมาก ๆ แม้กระทั่งเขารู้ ณ วันที่ฟรีนไปนิวยอร์ก มันเป็นความลับ ไม่มีการเตรียมตัว วางแผนอะไรก่อนเลย เขาก็เซอร์ไพรส์ ตรงนั้นไม่กี่วันในการเตรียมตัว ฟรีนรู้สึกว่าเขาเก่งมากในการเดินไปด้วยกันครั้งนี้ แล้วเป็นครั้งแรกของทุกคน ก็ต้องขอบคุณทุกคนนะคะ

มูลค่าทางสื่อของน้อง 190 ล้าน สูงมาก ๆ แค่ 5 นาที?

ฟรีน : ต้องให้เครดิตแฟน ๆ ด้วย ถ้าฟรีนเดินคนเดียวคงไม่น่าจะถึงขนาดนี้ เก่งมาก ๆ ค่ะ 

เบคกี้ ก็อินเตอร์เหมือนกัน แต่แยกกันไปคนละงาน เราไปคานส์เป็นปีที่สอง?

เบคกี้ : ตื่นเต้นมากค่ะ ปีนี้เบคกี้ไปกับลอริอัลในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ ปีนี้ได้ไปกับแม่ชมพู่ กับพี่ณิชา ซึ่งน่ารักกันทุกคนเลยค่ะ ทุกวันมีกิจกรรม แอ็คทิวิตี้ใด ๆ ที่ต้องทำ จนกระทั่งวันงานเลย ตื่นเต้นทุกวัน ไม่อยากให้วันไหนลุคซ้ำเลยค่ะ ซึ่งยากมาก แต่ละวันหนูเปลี่ยนประมาณ 3-4 ชุด มีงานทุกวันค่ะ ทุกครั้งที่ออกจากโรงแรมจะมีชุดใหม่ที่เข้ามา

กับพี่ชมพู่ร่วมงานกันมาก่อน?

เบคกี้ : เล่นหนังเรื่องลอง ลีฟ เลิฟว์! เล่นเป็นแม่ลูกกันมาก่อน ประมาณ 2 ปีค่ะ แม่ชมน่ารักมาก ดูแลตลอด คอยชวนคุย ตอนไปกินกาล่าดินเนอร์ของลอริอัล ก็นั่งด้วยกัน จะคอยถามว่าอันนี้กินได้มั้ย คอยตักข้าวให้ น่ารักมาก 

แฟนคลับก็ดูแลดีมาก?

เบคกี้ : ใช่ค่ะ มีความตื่นเต้นเหมือนหนูเลย ตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าจะได้ไปคานส์ ก็เริ่มเล่นแท็ก เล่นอะไร ดูว่าเราลงรูปอะไร ต้องแท็กอะไร รอดูทุกลุคเลย ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน ที่ไทยตีหนึ่งตีสองตีสาม เขาก็ไม่นอนกัน อยู่ตรงไหนของโลกใบนี้ก็ยังอยู่ตรงนั้นเพื่อซัปพอร์ต ขอบคุณมาก ๆ เหมือนกันที่อยู่ด้วยกัน 

มีแฟนคลับไปรอที่สนามบินและโรงแรมด้วย?

เบคกี้ : ใช่ค่ะ จริง ๆ ตกใจมาก ๆ พอหนูลงเครื่องเห็นป้ายแบรนเนอร์เยอะมาก อยู่ที่สนามบิน มีแฟน ๆ มารอเต็มเลย แล้วเราเพิ่งลงเครื่อง แต่ก็น่ารักมาก ดีใจที่ได้เจอทุกคน ขอบคุณแฟน ๆ ทีมช่างภาพ ทีมของเบคกี้ ทุกคน ขอบคุณมาก ๆ จริง ๆ รู้สึกว่าถ้าไม่มีทุกคนทำไม่ได้หรอก งานมันใหญ่มาก ก็อยากทำให้มันดีที่สุดค่ะ โมเมนต์นี้หนูแทบน้ำตาไหล แฟนคลับเขาส่งเสียงเบคกี้ ๆ เรารู้สึกชื่นใจ ทุกอย่างที่เหนื่อย มันหายไปหมดเลยในแว็บนั้น ทุกคนเก่งมากเลย 

ฟรีนเห็นเบคกี้ในคานส์ รู้สึกยังไง?

ฟรีน : สวยค่ะ เราบอกน้องตั้งแต่ก่อนบินว่าสู้ ๆ นะ เจ็ตแลค กินข้าวเยอะ ๆ เป็นกำลังใจให้ รอชมชุดสวย ๆ ก็พูดตลอด แท็กตลอด 

เคยคิดมั้ยว่าวันนึงจะดังขนาดนี้?

ฟรีน : ไม่เคยคิดเลยค่ะ ย้อนกลับไปไม่เคยมีภาพแบบนี้ในชีวิต รู้สึกว่ามันไกลตัวมาก ๆ เลย มันเกินไปเยอะมาก ๆ 

เบคกี้ : ไม่คิดว่าจะมีคนมารู้จักเยอะขนาดนี้ค่ะ

ย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นเข้าวงการของทั้งคู่ จุดเริ่มต้นคืออะไร?

ฟรีน : ฟรีนประกวดมิสทีนไทยแลนด์ 2016 ค่ะ นานมาก เกือบ 10 ปีค่ะ เริ่มแรกที่รู้สึกว่าเริ่มก้าวเท้าเข้ามาในวงการบันเทิงแล้ว ตอนแรกอยากประกวดเพราะที่ประกวดต้องเก็บตัวที่เชียงใหม่ หนูแค่อยากไปเชียงใหม่เลยไปประกวดค่ะ (หัวเราะ) อยากไปมากค่ะ ก็ได้ไปสมใจ ตอนนั้นคอมพลีตชีวิตมาก ๆ ได้ไปเชียงใหม่ก็สมใจแล้ว จากนั้นไม่สนใจอะไรเลย ว่าจะต้องได้ที่หนึ่งหรือที่เท่าไหร่ (หัวเราะ)

ชอบอะไรในเชียงใหม่?

ฟรีน :   ชอบอากาศ ภูเขา เมือง ชอบทุกอย่างเลย ชอบเชียงใหม่มาก ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน 

ได้รางวัลด้วย?

ฟรีน : มีรางวัลพิเศษ สวยสุขภาพดี เราก็เข้า 15 คนสุดท้ายงง ๆ (หัวเราะ)

จากนั้นงานเพียบ?

ฟรีน : มีไปแคส ถ่ายเอ็มวี ถ่ายแบบบ้าง แต่ก็ไม่ได้เยอะเท่าที่เราคิดไว้ แต่ก็ทำทุกโอกาสเลยค่ะตอนนั้น ทำเรื่อย ๆ ค่ะ

เป็นเด็กกตัญญูมาก ทำงานส่งเสียตัวเองเรียน และดูแลครอบครัวตั้งแต่เรียนม.ปลายเลยเหรอ?

ฟรีน :   ม.ต้นด้วยซ้ำค่ ม.3 ม.4 ตอนนั้นหนูขายเสื้อผ้าในเพจนึงตอนนั้นมีเงินในบัญชีเยอะมาก 1.6 หมื่น รู้สึกรวยมาก ๆ แล้ว (หัวเราะ) ตอนนั้นมีเงินกับการขายของ หรืออะไรที่ช่วยคุณแม่ได้ ก็มีเงินตั้งเท่านี้แน่ะ เยอะมากเลย 

แม่เคยพูดมั้ยว่าภูมิใจในตัวเราแค่ไหน?

ฟรีน : เขาพูดทุกวันค่ะว่าภูมิใจในตัวหนู ในทุก ๆ งานเขาจะมาขอบคุณแฟนคลับด้วยกัน หรือขอบคุณที่ช่วยซัปพอร์ต เขาจะตื่นเต้นทุกครั้งเวลาฟรีนจะมีงานอะไรหรือจะไปทำอะไรจะคอยซัปพอร์ตทุก ๆ งาน ตอนนั้นหนูทำหลายอย่าง แคสงาน โฆษณา ถ่ายแบบ ทำหมดเลยค่ะ เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ทำ ถ่ายเสื้อผ้าก็ทำ 

เบคกี้ล่ะ?

เบคกี้ : หนูไปประกวดไทยแลนด์ ก็อต ทาเลนต์ค่ะ ตอนอายุ 13 หนูชอบร้องเพลงมาก ทุกวันนี้ก็ยังร้อง แล้วก็เรียนกีต้าร์กับเปียโนด้วย 

สองคนนี้เจอกันครั้งแรกในซีรีส์เรื่องอะไร?

ฟรีน : ทฤษฎีสีชมพูค่ะ 

เบคกี้ : ครั้งแรกเลย แอบลองรักค่ะ แต่เรื่องแรกที่เล่นด้วยกัน คือทฤษฎีสีชมพู แอบลองรักเป็นฟีลเพื่อนสนิทค่ะ แต่เป็นคู่จิ้นก็ทฤษฎีสีชมพู

เรื่องแรกเกิร์ลเลิฟในไทยเลยมั้ย?

ฟรีน : คิดว่าเรื่องแรก ๆ ที่เป็นซีรีส์ 10 กว่าตอน เต็ม ๆ เรื่องค่ะ 

ทำไมตัดสินใจเล่นเกิร์ลเลิฟ?

ฟรีน : ลองดูได้ ตอนนั้นไม่คิดอะไรเลย ลองดู ลองทำ ถ้าไม่ลงมือทำ ก็ไม่รู้อะไรเลย

เบคกี้ : อยากลองค่ะ โอกาสเข้ามาเราก็ลองทำดู เป็นซีรีส์อีกเรื่องนึงค่ะ

ปกติเล่นละคร ถ้าซีนยาก ๆ ดราม่าร้องไห้ แต่คู่นี้ที่ง่ายมากเลยคือ มุมุ เลิฟซีน ฉากเลิฟซีนดูเป็นธรรมชาติ ดูง่ายไปหมด?

เบคกี้ : เหรอคะ  

“เป็กกี้ ศรีธัญญา” รีบมาเลย?

เป็กกี้ : ดิฉันรีบมาเลยค่ะ ดิฉันเป็นแฟนคลับ ปารีสล่าสุดหวานหนักกว่าเดิม หวานหนักกว่ารอบอื่นๆ การออกไปนอกประเทศต้องมีการให้กำลังใจกัน มุมุแปลว่าจุ๊บๆ มั้ยคะ 

เบคกี้ : ฟีลน่ารักๆ ค่ะ  

เป็กกี้ : วิ่งมาหาเลยค่ะ จริง ๆ แฟนคลับจะให้ยกขันหมากมาสู่ขอ (หัวเราะ) อยู่ต่อหน้าสื่อใช้คำว่าพี่ ๆ น้อง ๆ ทำไมอยู่กันส่วนตัว ใช้คำว่าเธอเธอ เบ๊บ ๆ

เบคกี้ : เราสองคนอยู่กับใคร ชอบพูดคำน่ารัก ๆ ค่ะ 

ให้ลองเรียกเบ๊บ ๆ ในรายการได้มั้ย?

ฟรีน : ไม่มี๊ เรียกเธอ ไม่เคยเรียก (หัวเราะ)  

เบคกี้ : เป็นคำที่พูดกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ อยู่แล้ว เพื่อน ๆ ผู้หญิง 

ตอบคำถามนี้ไม่ค่อยสบตาเท่าไหร่?

เป็กกี้ : ภูมิใจ นอกจากอยู่ในประเทศ โด่งดัง ทำงานเต็มที่ ณ ตอนนี้ไปต่างประเทศอยู่ในแบรนด์แต่ละแบรนด์ ทำหน้าที่ได้ดีมาก พูดแล้วน้ำตาจะไหล ภูมิใจมากจริง ๆ เริ่มต้นมาด้วยความเก่งของตัวเองทั้งคู่ สุดท้ายจับมือกันไปประสบความสำเร็จแล้วก็ทำได้ดีมากในฐานะคนไทยไปยืนตรงนั้นสง่างามมากจริง ๆ ทั้งคู่ แต่หลายคนถามว่าฟรีน-เบคเป็นแฟนกัน ถามว่ายืนยันมั้ย วิ่งมายืนยันตรงนี้ว่าฟรีน-เบคเป็นแฟนกัน สวัสดีค่ะ 

เคยบอกความในใจซึ่งกันและกัน?

ฟรีน : บอกตลอดค่ะ บอกกันเองนี่แหละ (หัวเราะ) หลัก ๆ คุยกันคือเป็นห่วงสุขภาพ ทำงานด้วยกันทุกวัน มันรู้กันอยู่แล้ว 

เบคกี้ :   ดูแลสุขภาพด้วยนะ พักผ่อนเยอะ ๆ 

ฟรีน : ขอให้ไม่เจ็บไม่ป่วย มีความสุขเยอะ ๆ แฮปฟันในทุก ๆ เรื่อง 

ขอบคุณแฟนคลับที่คอยให้กำลังใจ?

ฟรีน : ถ้าไม่มีพี่ ๆ ทุกคนก็คงไม่มีฟรีน-เบคกี้ในวันนี้ ทุก ๆ โอกาสที่เราร่วมกันเดินทางก็ขอบคุณมาก ๆ นะคะหวังว่าจะอยู่ด้วยกันในทุก ๆ วั้น โอบกอดไปเรื่อย ๆ นะคะ

เบคกี้ : ทุกความสำเร็จของเราเป็นเพราะพวกคุณค่ะ 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์

About Author