เดือด! “หมอดู” ปะทะ “อ.เบียร์ คนตื่นธรรม”  ศรัทธา – ความเชื่อ – งมงาย – มิจฉาชีพ?

รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 7 ต.ค. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33  สัมภาษณ์ อ. เบียร์ คนตื่นธรรม เผชิญหน้า อ.ควีน มหาเลียบ นักพยากรณ์ไพ่ยิปซี และ อ.โจ ดูแล้วใช่เลย นักโหราศาสตร์ และเจ้าพิธีกรรม หลังจากที่อ.เบียร์ได้ออกรายการโหนกระแสเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ชำแหละหมอดูหลอกลวงเงินคน มีหมอดูบางส่วนไม่สบายใจ ฟาดกลับว่าทำไมต้องพูดพาดพิงและทำให้ศาสตร์หมอดูเสียหาย

อ.เบียร์ ทำไมเปลี่ยนกระโถน?

อ.เบียร์ : บอกแล้วจะเอาใบใหญ่ขึ้นมา ไปไหนก็เอาติดตัวไปด้วย

คุณเดือดจัดขนาดนั้นเลย?

อ.ควีน : มีคนเข้าใจผิดคิดว่าดิฉันโกรธที่เขาด่าคุณเบียร์

ไม่เรียกอาจารย์เหรอ?

อ.ควีน : ก็แล้วแต่ เรียกคุณก็ให้เกียรติ จริงๆ หลายคนเข้าใจผิดว่าดิฉันโพสต์ขึ้นมาเพราะโกรธคุณเบียร์ด่าหมอดู แล้วหมอดูร้อนตัว ไม่มีลูกค้าหรือเปล่า จริงๆ ไม่ใช่ประเด็นนี้นะคะ คุณเบียร์ไม่ใช่คนแรกที่ด่าหมอดู มีคนด่าหมอดูเยอะแยะทั่วประเทศ แต่ไม่เคยพูดถึงใคร ที่พูดถึงเขา เพราะเขาพูดในรายการคุณว่าเขาก็เคยเป็นหมอดูมาก่อน แล้วเวลาใครมาหาเขา ถ้าโง่หน่อยก็เรียกเงินเยอะหน่อย หากินจากความได้ยากตกทุกข์ของคน ถ้าฉลาดหน่อยก็เรียกน้อยหน่อย ได้เงินจากค่าพิธีต่างๆ พอฟังเสร็จก็โกรธ ที่คุณพูดว่าคุณเคยเป็นหมอดู ที่คุณเคยเป็นเขาเรียกมิจฉาชีพ ไม่ใช่หมอดู เพราะหมอดูเขาไม่ทำแบบนี้ ไม่มานั่งหลอกเงิน หรือหลอกให้ทำพิธี ใครโง่มากโง่น้อย คิดค่าครูไม่เท่ากัน ไม่มีในวงการหมอดูนะคะ หมายถึงหมอดูจริงๆ แต่ถ้าพวกหลอกคนให้เรียกว่ามิจฉาชีพ อ้างวิชาหมอดู

จะเปิดฉากแบบนี้เลยนะ?

อ.ควีน :   เล่าให้ฟัง ว่าโกรธเพราะอะไร ไม่ได้โกรธที่เขาว่าหมอดู แต่โกรธตรงที่คุณเอาบรรทัดฐานของคุณ ที่คุณเคยเป็นแบบนี้แล้วทำแบบนี้ คนอื่นต้องทำเหมือนคุณ ฉะนั้นอย่าเรียกตัวเองว่าเคยเป็นหมอดู ให้เรียกว่าเคยเป็นมิจฉาชีพ แล้วอ้างวิชาหมอดู

อยากให้เขาพูดแบบนี้?

อ.โจ : จริงๆ ต้องขอบคุณอ.เบียร์ที่ทำให้กระแสสังคมมันตื่น เพราะหมอดูไม่ดี แฝงเป็นมิจฉาชีพเยอะมาก เศรษฐกิจตกต่ำ คนหากินแบบนี้กันเยอะ

เป็นอาจารย์อะไร?

อ.ควีน : ดูดวงไพ่ทาโรต์  เริ่มศึกษาดูดวง ตอนแรกอ่านหนังสือก่อน 25 ปีที่แล้ว หลังจากนั้น 15 ปีที่แล้ว มีการได้เข้ามาดูดวงตามช่องต่างๆ เป็นหมอดูจริงๆ ดูดวงไพ่ทาโรต์ มีการเรียนไพ่ทาโรต์ วิชาโหราศาสตร์ไทยต่างๆ รวมถึงอะไรทุกอย่าง มีการเรียนมาทั้งหมด ไม่มีการอ้างเอง คิดเอง หรือใช้ความคิดตัวเอง มีการร่ำเรียนมาอย่างถูกต้อง เป็นหมอดูมา 25 ปี ตอนนี้มีสำนักมหาเลียบอยู่นครปฐม

มหาเลียบคืออะไร?

อ.ควีน : คือมหาลาภ เป็นภาษากัมพูชา

การที่ดูหมอมา 25 ปี มีเรื่องค่าครูมั้ย?

อ.ควีน : มีสองแบบ แบบที่ดูไม่คิดเงินเลยก็มี แบบที่คิดค่าดูก็มี อย่าเรียกว่าค่าครู ที่ไม่เสียเงิน ยกตัวอย่างของดิฉันเอง อย่างสมมติสะดวกวันนี้ คุณมาดูดวงกี่โมงถึงกี่โมง ใครอยากดูก็เข้ามาเลย ไม่เสียเงิน ถ้าใครจะจ่ายตามกำลังทรัพย์ก็จ่ายได้ เงินก็เอาไปบริจาค นี่คือไม่เสียเงิน ทำช่องไลฟ์สด โพสต์วิดีโอ อันนี้ดูฟรีอยู่แล้ว ไม่ได้เสียเงิน ส่วนที่เสียเงินคือคุณต้องการมาเจอตัว นัดไพรเวตส่วนตัว มีเวลาชัดเจน ค่าครูหรือค่าดูเราก็ชัดเจนว่าราคาเท่าไหร่ ไม่มีการทำพิธีอะไรต่อจากนั้น ก็เป็นค่าวิชาชีพ เหมือนทนายความ ถ้าบอกว่าหมอดูอยากช่วยคน ทำไมไม่ดูฟรี ดูฟรีก็มี ทำไมไม่มาดูล่ะ ถ้าคุณอยากดูฟรี แล้วใช้ไพรเวต เวลาส่วนตัวของดิฉันด้วย มันก็ไม่ได้ หมอดูก็มีเวลาส่วนตัวของเขา

อาจารย์โจเป็นใครมาจากไหน?

อ.โจ : เป็นนักพยากรณ์ เป็นนักโหราศาสตร์ เป็นเจ้าพิธีกรรม สิริรวมตอนนี้ก็ 12 ปีครับ เป็นวิทยากร

เจ้าพิธีกรรมคืออะไร?

อ.โจ : ทำพิธีกรรมบวงสรวงตามจารีตประเพณีโบราณ ยกเสาเอก เสาโท ตั้งศาลพระภูมิ ทำพิธีเกี่ยวกับศาสนาพราหมณ์ ฮินดู

มองว่าอ.เบียร์พูดไม่ถูกต้อง?

อ.โจ : ต้องขอบคุณและชื่นชม ที่อ.เบียร์มาเล่าเรื่องตัวเอง เป็นวิทยาทาน ให้คนตื่นรู้ตื่นธรรม เป็นเรื่องที่ดี ฉะนั้นคนตื่นรู้แล้วว่าเวลาไปหาหมอดูต้องแยกย่อย ต้องจำแนกว่าหมอดูนี้มีคุณธรรม หมอดูนี้มีใบรับรอง ขออนุญาตถาม อ.เบียร์จบสำนักหมอดูจากที่ไหนมาครับ

อ.เบียร์ : ไม่ได้จบที่ไหนเลย

อ.โจ : ก็นั่นน่ะสิครับ นี่ไงครับ ก็เลยไม่มีจรรยาบรรณ เพราะหมอดูต้องมีครูบาอาจารย์ มีจรรยาบรรณ แค่นั้นเองครับ

พอไม่มีวิธีการสอน ก็กลายเป็นไม่มีจรรยาบรรณ?

อ.ควีน : ไม่ เขาพูดเองว่าเขามีจรรยาบรรณ เราไม่ได้ว่าเขา เอาจากที่เขาพูด

อ.โจ : หมอดูต้องมีครูบาอาจารย์ประสิทธิ์ประสาทวิชาโหราพยากรณ์ ต้องรู้จรรยาบรรณหมอดู หมอดูไม่ใช่เอะอะเก็บเงิน ขอค่าทำพิธี ไม่มีครับในโหราศาสตร์ ดูดวงเวลาคนเดือดร้อน เราก็ต้องให้ธรรมะเขา คนเดือดร้อนก็ช่วยเหลืออนุเคราะห์ให้ธรรมะ ให้การรับฟัง บางทีคนทุกข์ใจ ยกตัวอย่างคุณปอยโดนหลอก 2 ปี คนเจ็บช้ำน้ำใจเราจะไปว่าเขาโง่ อย่างพี่หนุ่มเคยทุกข์มั้ย ถ้าคนด่าพี่โง่พี่เจ็บปวดมั้ย บางคนทุกข์ก็อยากตาย แล้วคนไปบอกว่ามึงไปตายสิ

แล้วแต่คน?

อ.โจ : หลักการเข้าใจเพื่อนมนุษย์ต้องเข้าอกเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ ใจเขาใจเรา การให้ธรรมพูดตามความเป็นจริง ไม่แฝงด้วยโทสะ ไม่แฝงด้วยคำหยาบคายรุนแรง ผมห่วงเด็กเยาวชนดูไลฟ์สด ดูติ๊กต๊อก ถ้าเด็กเห็นแล้วแยกแยะไม่ออก อย่าลืมนะ เด็ก 5-14 ขวบ แยกแยะความจริงความสนุกความบันเทิงไม่ออก เขาเห็นผู้ใหญ่ทำไม่ดี อยู่ดีๆ เดินไปตบปากปั๊วะ จะเป็นยังไง อ.เบียร์เจตนาดี แต่วิธีการก็ต้องระมัดระวัง รวมถึงการไปพาดพิงลัทธิ ศาสนา ความเชื่อ อย่าลืมนะคนทำวัตถุมงคลมีกี่คน มีกี่ครอบครัว มีเป็นล้าน ถ้าวันนึงอาชีพที่เขาสืบทอดกันมาเป็นจารีตประเพณีที่ดีงาม อาชีพเขาหายไป คนเป็นล้านเดือดร้อน อาชีพหายไป อะไรจะเกิดขึ้น ย้อนกลับมาเรื่องหมอดู หมอดูก็ต้องแยกย่อย ผมเรียนโหราศาสตร์ ดวงดาว เขาเรียกโหราศาสตร์ ถ้าสอนก็โหราจารย์ แต่คนมักเหมาโหราศาสตร์ โหราจารย์ คนทรงเจ้าเข้าผีว่าหมอดู ซึ่งแตกต่างกันครับ ศาสตร์ที่เรียนมา ครูบาอาจารย์ก็แตกต่าง ฉะนั้นอยากให้ทุกท่านพิจารณาแยกแยะ ใช้สติ 

คุณควีนมองยังไงต่อ?

อ.ควีน : สิ่งที่อยากให้เป็นคือเรื่องที่มาแฉคนที่เขาเป็นมิจฉาชีพ  หรือคนใช้วิชาหมอดูแอบอ้างหลอกลวงคน อันนี้ดี เห็นด้วย ธรรมะที่คุณสอนก็ดี เห็นด้วยเหมือนกัน ไม่มีอะไรไม่ดีถ้าเราพยายามผลักดันทุกอย่างไปในทางที่ถูกต้อง วันนี้ที่มาออก อยากให้เห็นว่าโลกมีหลายมุม หลายด้านนะ หมอดูที่ดีก็มีนะ ที่เป็นหมอดูจริงๆ ที่เขาเรียนวิชามาจริงๆ ไม่ได้คิดหลอกลวงเงิน การที่เขาคิดค่าดูไม่ใช่การหลอกลวงเงินนะ เป็นค่าเวลาของเขา ก็ต้องเข้าใจกัน คนที่เขานับถืออย่างอื่นที่ไม่ใช่พุทธ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาทำอะไรผิด เพราะคุณพูดตลอดเลยว่าถ้าไม่เดินทางพุทธ ไม่ฟอลโลว์ทางที่พระพุทธเจ้าสอน คือคุณโง่ ผิดอยู่ จะเอากระโถนตีปากเพราะว่าคุณโง่ อ้าว คนไม่ได้นับถือพุทธก็มี อย่างดิฉันไม่ได้นับถือพุทธ แต่ศรัทธาพระพุทธเจ้านะ ดิฉันรู้สึกว่าพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาที่เก่งมาก มีคำสอนที่ดีมาก อะไรที่ดีเอามาใช้ได้ก็เอามาใช้ อะไรที่เรานับถือแล้วสบายใจอย่างอื่นๆ เช่นพราหมณ์ เทพ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ เราก็นับถือได้ ถ้าเราไม่ได้เป็นพุทธศาสนิกร้อยเปอร์เซ็นต์ จริงอยู่คุณไม่ควรดูหมอ ไม่ควรทำพิธีถ้าคุณเรียกตัวเองว่าพุทธศาสนิกชน พุทธแท้เข้าใจ ศาสนาอื่นก็เหมือนกันอิสลามก็ไม่ดูดวง คนนับถืออย่างอื่น ไม่ใช่คนที่ไม่ดีหรือผิด หรือโง่ ซึ่งดิฉันไม่ชอบคำว่าโง่ เวลาใครทำอะไรไม่ถูกต้อง ไม่ถูกใจคุณ แล้วคุณบอกว่าคุณมันโง่ คุณโดนหลอกเพราะคุณมันโง่ แต่นับถืออย่างอื่นมันไม่ได้โง่ไง คุณมีสิทธิ์เลือกเชื่อไม่เชื่ออะไรโดยวิจารณญาณตัวเอง ถ้าคุณทำแล้วไม่เบียดเบียนใครหรือผู้อื่น

ฟังฝั่งอาจารย์เบียร์?

อ.เบียร์ : หลักการและเหตุผลที่อาจารย์พูดทั้งหมด ประสงค์คือให้คนตื่นรู้และเข้าใจในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่อาจารย์พูดคำว่าหมอดู เพราะเป็นคำเดียวที่เรียกโดยรวมทั้งหมด จากศาสตร์ ศาสตร์หนึ่ง ฉะนั้นอาจารย์ไม่ได้เจาะจงไปที่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง อาจารย์พูดตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าพระองค์ทรงปฏิเสธ ไม่ได้ให้พวกเราไปยึดมั่นถือมั่นกับเหตุปัจจัยเหล่านี้ พระพุทธเจ้าปฏิเสธเรื่องการดูดวงทำนายทายทัก สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา พิธีกรรม เพราะกรรมหรือสุขทุกข์ไม่มีใครบันดาลได้ ไม่สามารถเกิดขึ้นเองลอยๆ โดยปราศจากเหตุและปัจจัย ฉะนั้นต้องมีเหตุและผล ทุกอย่างพระพุทธเจ้าบอกว่าเกิดจากการกระทำทางกาย ทางการพูด วาจา และความรู้สึกนิดคิดทางใจ ถ้าการกระทำของเราไม่ดี ย่อมส่งผลของมันด้วย เรื่องนี้พระพุทธเจ้าจึงปฏิเสธเรื่องดวงชะตาราศี นี่คือเรื่องนึงก่อน อีกประเด็นที่เคยออกมาพูดเรื่องหมอดู หมอดูมีเจตนาดีในการช่วยคนพ้นทุกข์ ให้พ้นจากความเศร้าหมองของชีวิต แต่ปัญหาคือหมอดูมีเรื่องการหารายได้ ปัญหาอยู่ตรงนี้ เมื่อมีรายได้ก็มีการโลภเพ่งเล็งเห็นได้ทรัพย์ของคนอื่น จะบอกว่าไม่โลภเลยเป็นไปไม่ได้ กิเลศตัณหาทุกคนย่อมมีพื้นฐานความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ไม่เกี่ยวกับเรื่องแพงหรือไม่แพง ไม่เกี่ยวกับเรื่องบริการดีหรือไม่ดี แต่เราพูดถึงบริบทที่ว่าเรามีเจตจำนงค์ช่วยเหลือคนอื่นที่กำลังทุกข์อยู่ แต่ปัญหาคือเขากำลังทุกข์ มีทรัพย์น้อย แต่เรากลับบอกว่าวิธีแก้ไขดวงชะตาเขามีวิธีเดียวคือการทำพิธี

อ.ควีน : หมายถึงที่ตัวเองพูด ไม่ใช่คนอื่นพูดนะ

อ.เบียร์ : ก็ใช่ไง ด้วยกรณีการทำพิธีแล้วเรียกเงิน สมมติสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ต้องอาบน้ำมนต์ ค่าทำพิธีเท่านั้นเท่านี้ คำถามคือวันนั้นมีทรัพย์มั้ย ถ้าไม่มีทรัพย์จะเกิดอะไรขึ้น เขากำลังเบียดเบียนศรัทธาเรา เราพยากรณ์ทำนายทายทักด้วยความแม่นยำ เขารู้สึกว่าศรัทธาขึ้นมา คนนี้ต้องสามารถแก้ไขความทุกข์ของเราได้แน่ ๆ นี่คือมุมมองคนดูดวงทุกคน จะมีมุมนี้ว่ามาหาหมอดู เพราะหมอดูคือที่พึ่งของเขา แสวงหาความพ้นทุกข์ จากคนดู ร่างทรง คนนี้ ที่ได้ยินได้ฟังมาว่าจะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาชีวิตเขาได้ พอแนะนำอะไรปัญหาคือเขาทำตาม ปัญหาคือทำตาม ไอ้หมอดูรู้มั้ยว่าเขามีทรัพย์มากหรือน้อย  คำถามดวงเขาไม่ดีก็ต้องแก้ ถ้าไม่แก้แล้วเขาจะมาหาทำไม จุดประสงค์คือเขาต้องการให้หมอดูแก้ หมอดูแก้ยังไง ซื้อของไปทำพิธี เอาไปบูชา เอาไปสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา พกแล้วจะดีขึ้น เสียทรัพย์มั้ย สุดท้ายนำมาซึ่งการเสียทรัพย์ เขามาปรึกษาปัญหาหนี้สิน แทนที่จะสอนให้เขาเอาเงินไปใช้หนี้ใช้สิน กลับกลายเป็นว่าเอาเงินไปทำพิธีนะ ตั้งอันนี้นะ จ่ายเงินทองให้ได้ซึ่งทรัพย์มา ถ้าบอกว่าสมัยก่อนอาจารย์เป็นแบบนี้แล้วเป็นมิจฉาชีพ หมอดูปัจจุบันก็เป็นมิจฉาชีพเหมือนกัน เพราะหลักเกณฑ์และหลักการเดียวกัน

อ.ควีน : ไม่ ๆ หมอดูดี ๆ เขาไม่ทำ ทนฟังไม่ได้ ซอรี่ ๆ

อ.เบียร์ : อย่าเพิ่ง หลักเกณฑ์หลักการทำพิธีเป็นร่างทรงสุดท้ายแล้วเจตนาดีอยู่แล้ว ทุกคนล้วนเจตนาดีให้เขาแก้ไขชีวิตดีขึ้น แต่ปัญหาคือมันไม่พันการเสียเงิน ไม่พ้นการต้องจ่ายทรัพยืเพื่อให้คน ๆ นั้นดีขึ้น ตามตำราที่เราเรียนรู้มา อย่างการตั้งศาลพระภูมิ คำถามคือค่าตั้งศาลพระภูมิกี่บาท รายจ่ายเท่าไหร่ ค่าสะเดาะเคราะห์ ค่าบวงสรวง ต้องเซ่นบูชาอีกเท่าไหร่ คำถามคือคนเหล่านั้นมีกำลังทรัพย์มากพอที่จะจ่ายหรือไม่ มันเป็นปัญหาหลายอย่างจากคนเห็นผิดที่มาดู ฉะนั้นอาจารย์ถึงบอกและพูดเสมอว่าอาจารย์ไม่โทษคนที่เป็นหมอดู แต่อาจารย์โทษคนที่มาดู ว่าเขามีปัญญาน้อย เกิดจากเขาไม่ได้ยินได้ฟังในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่อาจารย์ใช้คำว่าโง่ โง่มากเชื่อมาก โง่น้อยเชื่อน้อย คำว่าโง่คือผู้ขาดหลักปัญญาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ขาดหลักเกณฑ์เรื่องใดเรื่องนึงจึงทำให้เขารู้น้อย พระพุทธเจ้าบอกว่ามนุษย์ทุกคนเมื่อเจอความทุกข์ ก็จะหาที่พึ่ง แต่ดันหาที่พึ่งผิด เช่นสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา วิธีที่ถูกต้องคือหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่พึ่งคือพึ่งธรรมะพระพุทธเจ้าและพึ่งตัวเราเอง ในการกระทำทางกาย วาจา ใจ ให้สุจริต ถ้าเราหาที่พึ่งผิด โดยหาที่พึ่งหมอดู หมอดูก็จะแนะนำไปทางที่เป็นความเห็นของหมอดู ใครศึกษาตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เขาจะแก้ไขตามเหตุตามหลักตามปัจจัยทางกาย วาจา ใจ ของเขาเอง เช่นเป็นหนี้ หมอดูบางคนแนะให้บูชาโน่นนี่ แต่สำหรับพระพุทธเจ้า ต้นเหตุการณ์เป็นหนี้คืออะไร เรามีความอยากมาก ต้องรู้จักประมาณในความอยาก อย่าให้ความอยากเบียดเบียนเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น ดังนั้นพระพุทธเจ้าเลยสอนให้ดับที่ต้นเหตุ เป็นหนี้ก็ใช้หนี้ใช้สินให้หมด อย่าอยากจนไปเป็นหนี้ ถ้าไม่มีหนี้ก็ไม่มีทุกข์ในโลก อาจารย์บอกว่าวันนึงเราเคยเป็นหมอดู แต่เราเห็นความเห็นผิดตรงนี้ เรากำลังมีเจตนาดีให้เขาพ้นทุกข์ แต่ตัวนี้พ้นทุกข์จริงไม่ได้ การพ้นทุกข์จริงคือมาปฏิบัติตามหลักคำสอน ศึกษาตามคำสอน แล้วเราจะพ้นทุกข์ได้จริงได้ นี่คือความหมายที่พูดวันนั้น

มีคนถามว่าทำไมชอบเอาคำสอนคนอื่นมาแขวนเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้นแล้วคนอื่นดูแย่?

อ.เบียร์ : แขวนคืออะไร ไม่เคยแขวน

อ.ควีน : ไม่เคยได้ไง ทำประจำเลยตอนไลฟ์สด

อ.เบียร์ : ถ้าไลฟ์สด อาจารย์บอกแล้วว่าถ้าจะด่าอาจารย์ก็จะด่าเฉพาะในไลฟ์สด ฉะนั้นเวลามีใครถาม ก็ตอบไปตามนั้น

อาจเป็นคำถามที่เข้ามาในไลฟ์สด แล้วอาจารย์เบียร์ตอบกลับไป ไม่ได้ออกตัวแทน ที่ดู ๆ คนถามก็กวนตีx เหมือนกัน อาจารย์ก็ตอบแบบนั้นกลับไป แล้วกลายเป็นไปแขวน ยังไงต่อ?

อ.ควีน : นั่นแหละ เขาก็อธิบายเหมือนเดิมว่าเวลาคนมาหาหมอดู หรือมาหาเขา เขาต้องบอกว่ามีปัญหาแล้วจะแก้ยังไง วิธีแก้ก็ต้องบอกว่าให้ไปแก้ไปอาบน้ำมนต์ หมอดูปกติไม่ได้บอกว่าให้ไปอาบน้ำมนต์นะ

อ.โจ : หมอดูตามจรรยาบรรณวิชาชีพจะไม่มีการรดน้ำมนต์ ไม่มีพิธีกรรม ต้องแยกกัน

อ.ควีน : อย่างคนมาหาดิฉันแล้วบอกว่าเป็นหนี้ แก้ยังไง -ก็แก้ที่ต้นเหตุเหมือนกัน บอกให้เก็บหอมรอมริบนะ ขยันทำงาน เราต้องบอกว่าเธอเป็นหนี้ มาอาบน้ำมนต์สิ แล้วจะหายหนี้ เราไม่เคยพูดแบบนั้น คนเป็นหนี้ก็แก้เรื่องหนี้ถูกต้อง

เป็นหมอดู มีมั้ย ผู้หญิงมาดู แล้วบอกว่าแฟนเปลี่ยนไป เขามีผู้หญิงมั้ย ดูให้มั้ย?

อ.ควีน : จริง ๆ ถ้าไม่จำเป็นจะไม่พูด ถ้าไม่ใช่คนสนิทกัน เป็นเพื่อนกันมาถามเราตอบตรง ๆ แต่ถ้าคนที่เขาทุกข์ใจมา ถ้าเราดูดวงแล้วสมมติว่าแฟนเขามีกิ๊กจริง ๆ เราก็จะบอกเขาว่าช่วงนี้ดวงไม่ค่อยดี ให้อดทนประคับประคองไปก่อน เราบอกตรง ๆ ไม่ได้เพราะเขาจะกลับไปทะเลาะกัน เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าศาสตร์ของเราจะแม่นร้อยเปอร์เซ็นต์ การดูดวงไม่ได้แม่นร้อยเปอร์เซ็นต์นะ เต็มที่ 95 ก็ได้ ถ้าสมมติแฟนมีกิ๊ก เขาก็รู้อยู่แล้วแหละเขาถึงมาถามเรา เขาไม่สบายใจอยู่แล้ว ด้วยจรรยาบรรณเรา เห็นคนมาถามแบบนี้ เราก็ต้องตอบว่าช่วงนี้ดวงเขาไม่ดี อาจมีปัญหา ขัดแย้งกับคนรักได้ ถ้าดวงดาวอยู่ตรงนี้ ตำแหน่งนี้ไม่ดี จะอยู่ในระยะกี่เดือน กี่วัน กี่ปี สมมติว่าอีก 2 เดือนนะ ให้ประคับประคองไปก่อน เดี๋ยวจะดีขึ้นเอง ให้อดทนไปก่อน หรือคนมาหาเรา อาจารย์หนูอยากตายวันนี้เลย ทุกข์มา จะฆ่าตัวตาย เราคงไม่ได้บอกให้เขาไปตาย เราแค่บอกว่าโอเค ดวงไม่ดี แต่เดี๋ยวจะพ้นจังหวะดวงแล้ว

เก็บเงินมั้ย?

อ.ควีน : ก็มีสองอย่างไง ดูฟรีก็มีไง

เดินเข้ามาแล้วบอกไม่ไหวแล้วอยากจะตาย เก็บเงินมั้ย?

อ.ควีน : ถ้าเดินมาเลย ไม่ได้นัดกันก่อน ถ้าถามแค่นี้ ตอบได้เลย ไม่ต้องมานั่งเสียเงินดู คนเสียเงินดูคือคนนัดกัน จองคิว จองเวลา

พูดแบบนี้ถ้ามีคนเดินไปดูแล้วเก็บเงินเขาจะโดนนะ?

อ.ควีน : ดิฉันพูดเลยในไลฟ์สดถ้าเจอข้างถนน เดินมาถามเลย ถ้าจะถามดวง ถามข้อนึงสั้น ๆ ไม่ใช่จับเข่าคุย 2 ชม. ขนาดนั้น เพราะเราไม่ได้มีเวลาว่าง แต่ถ้าคนมาเจอตามห้าง บางคนเข้ามาถามเลย ก็ได้

เก็บเงินยังไง?

อ.ควีน : 1 ชม. 5,000 บาท บอกชัดเจนนะคะ บอกล่วงหน้า ไม่มีบอก 99 แล้วมาเก็บที่เหลือทีหลังนะคะ

1 ชม.ดูอะไรบ้าง?

อ.ควีน : เริ่มดูจากพื้นดวง คือพื้นชะตาชีวิต เปิดไพ่ก่อนว่าพื้นดวงเขาเป็นยังไง แล้วดูพื้นดวงปัจจุบัน ปีนี้ทั้งปี ครอบคลุมว่าปีนี้เขาจะเกิดอะไรขึ้น เดือนไหนเป็นอย่างไร ดีไม่ดีอย่างไร ดูพื้นดวงความรักให้เขาเป็นยังไง ดูให้หมดทุกเรื่อง จนสุดท้ายเขามีคำถามอะไร ก็ปรึกษาหารือ ว่ามาจนจบ

ไม่ได้รวมค่าทำพิธี?

อ.ควีน : พิธีไม่ได้ทำ ถ้าดูดวงก็คือดูดวง พิธีไม่เกี่ยวกัน คนละส่วน ถ้าดูดวงจะไม่ทำพิธี ถ้าดูแล้วดวงไม่ดี เขาถามว่าจะไหว้อะไรดี ถ้าศรัทธาพระพิฆเนศ ก็ไหว้พระพิฆเนศสิ เผื่อดวงจะดี ไม่มีแนะนำให้ทำพิธี ถ้าคนถามว่าทำพิธีอะไรดี ส่วนตัวจะไม่แนะนำให้ทำพิธีก่อน แต่จะให้แก้ที่ตัวเองก่อน ถ้าไม่มีเงิน ก็ให้ไปเสิร์จพระพิฆเนศจากเน็ตก็ได้ ทำวอลเปเปอร์พระพิฆเนศ เอาขึ้นหน้าจอมือถือ ไหว้ก็ได้ หรือขอพรจากท่านก็ได้”

คุณเข้าใจในสิ่งที่อ.เบียร์พูดมั้ย?

อ.ควีน : เข้าใจ พระพุทธเจ้าสอนว่าหมอดูเป็นเดรัจฉานวิชา ไม่ถูกต้องตามหลักศาสนาพุทธ ไม่ควรโง่งมงายไปเชื่อ ทำไมไม่พ้นทุกข์โดยการฟอลโลว์แนวทางของพระพุทธเจ้า เธอ เขาก็ไม่ได้ทำได้ทุกคน บางคนไม่ถนัดทางนี้ แต่ชอบแบบนี้มากกว่า จริตแบบนี้มากกว่า นับถือแบบนี้แล้วสบายใจกว่า ถ้านับถือพระพุทธเจ้าแล้วมันยาก ไปไหว้องค์เทพแล้วสบายใจ ได้ไม่ได้อีกเรื่องนึงนะ แต่ว่าความสบายใจทำให้ชีวิตเขามีความสุข

อ.โจ เจ้าพิธี ทำสำเร็จมั้ย?

อ.โจ : ก็ไม่เคยมีใครมาต่อว่านะครับ แฮปปี้ทุกคน

5 พันมีวัตถุเครื่องรางของขลังมั้ย?

อ.ควีน : วัตถุมงคลมี แต่ก็แล้วแต่ จะบูชาหรือไม่บูชาก็ได้ หรืออย่างที่บอกจะไปหารูปไหว้เอาเอง ที่ไหนก็ได้ บูชาที่อื่นก็ได้

ส่วนใหญ่ดูเปิดไพ่?

อ.ควีน : ดูดวง พิธีกรรมก็มี แต่ต่างหาก คนละส่วนไม่เกี่ยวกัน ถ้าคนอยากทำพิธีกรรมก็คือทำพิธีกรรม คนละเรื่องกัน ไม่ใช่ดูดวงแล้วต้องทำแบบนี้แก้กรรมแก้ดวง อาบน้ำมนต์ ไม่มี

ลงนะหน้าทอง?

อ.ควีน : มี ลง

แพงมั้ย?

อ.ควีน : ถ้าเปิดทำพิธี เคยมีลงนะมหาเลียบ มหาเลียบคือมหาลาภ เคยเปิดลงนะ มหาเลียบ คิดค่าครู 12 บาท ไม่มีใครเชื่อ ทุกคนโทรมาที่แอดมินเยอะมาก ว่า 12 บาทจริงหรือเปล่า ถ้าไปถึงจะเก็บค่าอะไรอีกมั้ย เพราะมีบางที่บอก 199 แต่พอถึงเวลามีค่าโน่นค่านี้ ปาไป 3 พัน ถ้าใครเคยมา ก็เคยจ่าย 12 บาทจริง ๆ บางวันเปิดฟรีเลย แล้วแต่

ลงนะเนี่ยเหรอ?

อ.ควีน : ใช่ แล้วแต่กำลังทรัพย์ก็มี แต่ถ้าจะมาลงส่วนตัวไพรเวต

ช่วยเรื่องอะไร ลงนะหน้าทอง?

อ.ควีน : เป็นความเชื่อของไสยเวทย์ การลงนะหน้าทองก็เสริมเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ใครอยากลองดู มีความเชื่อด้านนี้ก็ทำพิธีได้ แต่ถ้าทำพิธีส่วนตัวไพรเวต ก็จะมีค่าครู เริ่มต้น 1 พันบาท แต่นัดส่วนตัวนะ ตอนนี้ไม่ค่อยเปิดรับเท่าไหร่

1 พันทำอะไรบ้าง?

อ.ควีน : เป็นพิธีการลงทอง คาถามหาเลียบเรื่องเงินทองนี่แหละ

ซ้ายสุดคือนางแบบ เป็นการโปรโมต?

อ.ควีน : ใช่ ซ้ายมือเป็นของเรา แต่ขวามือเป็นคนมาทำพิธี

นางแบบใคร?

อ.ควีน : น้องเขาทำงานที่ดิฉันค่ะ

เรื่องลงนะหน้าทอง ก็มีหลากหลาย คิดยังไง?

อ.เบียร์ : ของพวกนี้อย่างที่บอกไปแล้ว ถ้ายึดคำสอนของพระพุทธเจ้า ของพวกนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับชีวิตเราอยู่แล้ว หลักความเป็นจริง พวกนี้พระพุทธเจ้าก็มองว่าเป็นเดรัจฉานวิชา เป็นความเห็นผิด นี่พูดเฉพาะมุมของพุทธนะ การลงนะหน้าทอง อยากให้ผัวเมียมาหลงรัก พูดจามีเสน่ห์ ทำให้คนมีความเจริญรุ่งเรือง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้ใครมาหลงรักเราในความเป็นจริงได้ ถ้าโลกนี้ทำให้สามีภรรยาหรือใครมาหลงรักจากการลงนะหน้าทอง คนในโลกนี้จะมีใบหย่าไว้ทำอะไร อยากได้ใครไปลงนะ พูดอะไรใครก็เชื่อ แต่ความเป็นจริงมีแบบนี้มั้ย มันก็ไม่ได้มี ฉะนั้นชีวิตเราต้องอยู่บนหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง สุดท้ายก็ต้องมานั่งเสียทรัพย์ ลุ้นเอาว่าจะมีเสน่ห์จริงมั้ย เลขยันต์จะช่วยให้ชีวิตมีเงินมีทอง ทำมาหากิน คำถามคือได้จริงมั้ย ก็ต้องไปนั่งลุ้นเอา สุดท้ายเราเสียเงินไป แต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งเหล่านี้จะได้กลับมาจริงมั้ย การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนกับการทำมาหากิน ไม่ใช่ลงทุนกับความเชื่อ เพราะการลงทุนกับความเชื่อ เงินเสียไปแต่ไปนั่งลุ้นเอาว่าจะได้หรือไม่ได้ แต่การลงทุนกับการทำมาหากิน ลงทุนปุ๊บรู้เลยว่าได้แน่นอน การลงนะหน้าทองไปไปนั่งลุ้น เสียตังค์ คำถามคือคนมีความทุกข์ กรณี 1 พันบาท เขามีความทุกข์เป็นทุนเดิม การลงนะหน้าทอง เขาคิดว่าจะทำให้เขาพูดแล้วได้เงิน มีเสน่ห์ คนรักชอบช่วยเหลือ ถามกี่คนร้อยคนก็จะตอบเหมือนกันว่าเขาต้องการทำสิ่งนี้เพื่อให้ชีวิตเขาเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ มีคนรัก เอ็นดู มีคนคอยช่วยเหลือส่งเสริมให้ชีวิตเขาดีขึ้น จุดประสงค์ที่ทำแบบนี้คือเสริม เสริมความเห็นผิดของคนให้มีมากขึ้นในโลก

จริง ๆ ไม่ได้ต้องการทำเรื่องนี้ ติดต่อไปเมื่อคืนประมาณสามทุ่ม แต่มีเรื่องหมอดูที่เขารู้สึกว่าไม่โอเค กับฝั่งอ.เบียร์พูดในรายการโหนกระแส ไปพาดพิงฝั่งหมอดู ทำให้หมอดูดูเสียหาย กลายเป็นมิจฉาชีพในสายตาคน คุณควีนไลฟ์และอัดคลิปลงว่าพูดแบบนี้ไม่ถูกต้อง อาจารย์โจก็เข้าไปแสดงความคิดเห็น จริง ๆ มีหมอดูที่จะมาอีก แต่อาจารย์เบียร์มาคนเดียว มันจะไม่เป็นธรรมกับเขาเท่าไหร่ แล้วมีคนคอมเมนต์ว่าผมเลือกหมอดูไม่ค่อยมีชื่อเสียงมา หมอดูดัง ๆ เยอะแยะ ดูก็รู้ว่าเลือกข้างไหน จะเอาชนะให้ได้เลย นี่พูดแบบเย็น ๆ เลยนะ มึงมานั่งนี่ แล้วมาคุยกัน อย่าสักแต่ไปพิมพ์อะไรแบบนี้ ไม่เก่ง คนเก่งไม่มีการพิมพ์ลับหลัง อย่างหมอลักษณ์โทรหาผมนะ แต่แกคงไม่ใช่คนที่จะมานั่งพูดอะไรแบบนี้ หรือหมอช้าง เขาคงไม่มานั่งพูดอะไรแบบนี้ ผมรู้จักหมอดูมีชื่อเสียงเยอะแยะมากมาย สองท่านก็มีชื่อเสียงนะ คุณกำลังไปเหยียดเขาเหมือนกัน ไปบอกว่าเขาไม่มีชื่อเสียง ไม่ใช่นะ จะบอกว่าผมเข้าข้างอาจารย์เบียร์เล่นหมอดู ก็ไม่ใช่นะ ลงนะหน้าทองเป็นไสยศาสตร์จะมารวมกับโหราศาสตร์ ได้มั้ย?

อ.ควีน : คนละส่วนกัน

อ.โจ : ไสยศาสตร์หรือเดรัจฉานวิชา คือเครื่องกั้นนิพพาน จริง ๆ แล้วไสยศาสตร์มีทุกศาสตร์นะครับ เช่น วงการแพทย์ วงการดนตรี คนฟังดนตรีก็ไม่ได้เข้าถึงนิพพาน เมื่อเรายังใช้ชีวิตทางโลก ณ ปัจจุบัน การฟังดนตรี การทำมาหากิน การดูแลลูก เป็นห่วงเป็นใย การหาเงินหาทอง ล้วนแล้วไม่ได้เข้าสู่นิพพาน เวลาเราคุยประเด็นนี้ เราต้องเอาธรรมะคนละข้อมาคุยกัน ถ้าธรรมะเป็นพุทธวัจนะ เพื่อหลุดพ้น อ.เบียร์พูดถูก 100 เปอร์เซ็นต์ ชื่นชมยินดี ปรบมือให้ แต่ถ้าเรายังอยู่ในเส้นทางทำมาหากิน คนเราจิตใจไม่เท่ากัน สติปัญญาไม่เท่ากัน ความสามารถไม่เท่ากัน ล้วนแล้วมีเหตุและปัจจัยขึ้นอยู่กับบุญเก่ากรรมเก่า จึงมีเหตุให้เกิดวันเดือนปีเกิด ตามตำราโหราศาสตร์ เราชี้แนะให้ตรงประเด็นครับ เช่นคนมีปัญหาเรื่องเงิน เราก็แก้ที่ต้นเหตุ อ.เบียร์พูดถูกครับ ผมก็เห็นด้วย เราเป็นหมอดูที่ต้องบอกว่านี่คือจรรยาบรรณ ปัญหาการเงินคุณต้องทำบัญชีรายรับรายจ่าย ทำธุรกิจต้องมีการประมาณการ ดังนั้นคุณเองต้องมีวิชาทางโลก วิชาโหราศาสตร์บอกได้เลยว่าช่วงจังหวะไหนดีไม่ดี คนเรามีทั้งดีและไม่ดี ฉะนั้นอย่ามั่นใจว่าตัวเองจะดีเสมอไป ความทุกข์จะอยู่กับเราไม่นาน ความสุขก็จะอยู่กับเราไม่นาน ฉะนั้นทำเฉกเช่นอ.เบียร์ เขาเรียกว่าทำเพื่อดับทุกข์ แต่เราในฐานะปุถุชนคนทั่วไป เราแสวงหาความสุข ถ้าวันนึงเรารู้สึกว่าความสุขฟูลฟิลเติมเต็ม เราจะนิพพานก็ไม่ว่ากัน เหมือนผม ผมไม่ไหวแล้ว อยากไปบวชแบบอ.เบียร์ก็เป็นเรื่องที่ดี ก็อยากให้ทุกคนเอาธรรมะมาคุยกันด้วยปัญญาจริง ๆ ผมไม่ได้ปฏิเสธเรื่องหมอดูว่าดีหรือไม่ดี ที่ผมออกมาพูด เนื่องจากสมาคมทั้งหลาย รวมถึงครูบาอาจารย์ที่เขาเป็นหมอดูมีจรรยาบรรณ เป็นคนดี มีเกียรติมีศักดิ์ศรี เขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ดูดวงให้คนในบ้านเมือง เกิดความไม่สบายใจ เกิดความกังวลใจในสิ่งที่อ.เบียร์สื่อสาร คนเป็นสายมูก็ดูแลบำรุงพระพุทธศาสนาใช่หรือไม่ เงินสร้างวัดสร้างวาก็มาจากสายมู ใช่มั้ย เหล่าเกจิอาจารย์ที่สร้างวัตถุมงคล เหตุและปัจจัย ต้นเหตุเจตนาจริง ๆ คือการเผยแพร่ สร้างวัด ใช้เงินในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ฉะนั้นมันมีเหตุและปัจจัยครับ

อ.ควีน :   มีคำนึงที่อยากพูด คือคำว่างมงาย งมงายแปลว่าอะไรคะ

อ.เบียร์ : งมงายคือเชื่อในเรื่องที่ไม่มีเหตุมีผล พระพุทธเจ้าเรียกอีกอย่างว่าเพ้อเจ้อ ฉะนั้นเพ้อเจ้อคือหาจุดเริ่มต้นไม่ได้ หาจุดสิ้นสุดไม่เจอ นี่เรียกว่าเพ้อเจ้อหรืองมงาย

อ.ควีน : การที่อ.เบียร์สอนว่าการที่คุณเชื่อเรื่องต่าง ๆ พิธีกรรม หมอดู โหราศาสตร์ที่ไม่ใช่หลักทางพุทธ คืองมงายทั้งหมด คำว่างมงาย ไม่ได้หมายความว่าเชื่อทางนี้แล้วงมงายอย่างเดียว การที่คุณบอกว่าถ้าคุณไม่ทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้า หรือคนที่เห็นต่าง ไม่ได้เชื่อสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด คุณมีสิทธิ์เชื่อทางอื่นได้ ตัวคุณก็งมงายเหมือนกัน อะไรที่พระพุทธเจ้าพูดถูกหมด จริงหมด ดีหมด ใช่หมด โดยคุณก็ไม่ได้มีเหตุผลทั้งหมดมารองรับ อย่างสิ่งที่พระพุทธเจ้าพูดก็อาจพิสูจน์ไม่ได้นะ ดิฉันไม่ได้ว่าคนนับถือศาสนาพุทธนะ แค่ยกตัวอย่างให้เห็นว่าคุณเองก็กำลังงมงายในศาสนาของคุณ คนอีกครึ่งโลกที่นับถือศาสนาอื่นก็มี ถ้าสมมติดิฉันไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุณบอกว่าดิฉันงมงาย ดิฉันไหว้เทพ ไหว้พญานาคงมงาย ไม่มีเหตุไม่มีผล สิ่งที่คุณจะตัดสินว่าผิดหรือถูก ทุกคนมีวิจารณญาณ ทุกคนมีสิทธิ์เชื่อหรือไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจ งั้นดิฉันก็พูดได้ว่าคุณเองก็งมงายในพระพุทธศาสนาเหมือนกัน คุณก็ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ถ้าสิ่งนี้พระพุทธเจ้าไม่สอนคุณก็ถือว่าผิด ถ้าไม่มีในหลักธรรมคำสอน ไม่มีในพระไตรปิฏก แสดงว่าผิดหมด งมงายหมด ก็งมงายกันคนละทาง คนละอย่าง แต่ก็ไม่ได้ว่าคนที่นับถือนะ ดิฉันก็เชื่อและศรัทธาพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ดิฉันมีโอกาสก็สร้างวัดนะ ถึงแม้จะไม่ได้เรียกตัวเองว่าพุทธศาสนิกชน แต่ดิฉันสนับสนุนให้มีพระพุทธศาสนาต่อไป คำสอนที่ดีก็เก็บเอาไว้ แต่ถึงขั้นงมงายว่าใครเห็นต่างจากคุณ ใครคิดอย่างอื่นโง่หมด งมงายหมด ผิดหมด มันก็ไม่ได้ขนาดนั้น

อ.เบียร์ : เราลืมไปหรือเปล่าว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าคือหลักเหตุหลักผล คำสอนของพระองค์ล้วนเป็นเหตุเป็นผลนำมาพิสูจน์ได้ในปัจจุบัน ลำดับเหตุในการเกิดขึ้นของความทุกข์ และการดับทุกข์ คำสอนของพระพุทธองค์ล้วนเป็นเหตุเป็นผลทั้งสิ้น การศึกษาและใส่ใจในคำสอนของพระพุทธเจ้าจึงไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่พิจารณาจากเหตุผลจริง ๆ ของชีวิต คำถามคือดูดวง สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำพิธี ลงนะหน้าทอง ทำแล้วชีวิตจะดี ขอเหตุผลในชีวิตดีขึ้น เราสามารถอธิบายได้มั้ยว่าเขาไปลงนะหน้าทองแล้วชีวิตเขาจะดีขึ้นได้ยังไง ขอลำดับเหตุ แต่พระพุทธเจ้าบอกว่าเธอมีความทุกข์ เธอจะมีเหตุในความทุกข์ จะหมดทุกข์ก็ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ความทุกข์เกิดจากความอยากหรือตัณหาของเธอเอง ถ้าเธอไม่อยาก เธอจะมีทุกข์ได้มั้ย ไม่ได้ พระพุทธเจ้าอธิบายตามลำดับเหตุผล แล้วไม่ว่าศาสนาใดในโลก อาศัยเหตุผลนี้แบบเดียวกันหมด เราเกิดมาต้องแก่ กินข้าวต้องอิ่ม รับผลการกระทำในทุก ๆ เรื่อง นี่เรียกว่าเหตุผล ที่อาจารย์บอกว่ามันโง่ เพราะอะไร เพราะมันไม่รู้จักตัวเองดีพอ ไม่ใช่มันโง่เพราะขาดความรู้ ความสามารถ มันโง่เพราะไม่รู้ต้นเหตุจากการกระทำของตัวมันเอง ตัวเองเลว ตัวเองชั่ว ตัวเองไม่รู้เลยเหรอว่าตัวเองเลว ตัวเองชั่ว จะไปถามหมอดูมึงไม่รู้เลยเหรอว่ามึงผิดหวังเกิดจากอะไร สุดท้ายมึงต้องรู้เอง ต่อให้มึงดูหมอดูทั่วโลก แต่มึงไม่รับการกระทำของตัวเอง มันก็แก้ไขสันดานตัวเองไม่ได้ แล้วจะแก้ยังไง นี่คือหลักพุทธ เหตุผลล้วน ๆ ไม่มีความเชื่อเข้ามาเกี่ยวข้อง

อ.โจ : เราอยู่ทางโลก เราแสวงหาความทุกข์ ถ้าเราไปนิพพานเราจะใช้หลักธรรมะคนละข้อ อย่างที่บอกว่าไม่รู้ตัวเลยเหรอ มึงโง่ มีเหตุและปัจจัย คนเรามีสติสัมปชัญญะไม่เท่ากันครับ หมอดู โหราศาสตร์ ครูบาอาจารย์ จะเป็นคนใช้กุศโลบาย หรือใช้วิธีต่าง ๆ เรียกขวัญ เรียกสติ บางคนไม่รู้ตัวว่าตัวเองผิด บางคนไม่ยอมรับความเป็นจริงในชีวิต อย่างมีปัญหาชีวิตคู่ หนึ่งทำงานมากเกินไป ไม่รับฟังกัน ไม่เคยดูแลเอาใจใส่ เราเองก็ลืมไปว่าเราก็ไม่เคยใช้ชีวิตด้วยความพอดี ดังนั้นโหราศาสตร์จึงสอดคล้องกับพระพุทธศาสนา โหราศาสตร์คือดวงดาว ดาวเป็นตัวแทนแห่งสภาวะอารมณ์ เวลาตอบธรรมะ พูดด้วยความห่วงใยอาจารย์เบียร์ การตอบต้องเลือกว่าต้องพิจารณา มนุษย์เราไม่ได้มีทัศนญาณ มันขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัย แต่พูดถึงในเรื่องความเป็นมนุษย์ และโหราศาสตร์ มันไม่ขัดแย้ง แต่คนนอกรีต นอกธรรม ทำให้วงการหมอดูเสื่อมเสีย

คุณมองว่าสิ่งที่อ.เบียร์เคยพูดเอาไว้มันไม่ถูกต้อง?

อ.โจ : มันไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่จุดประกายให้รู้ว่าหมอดูที่ดีก็ยังมีอยู่

ถ้าคนที่เขามองมา อาจมองว่าเราเสียผลประโยชน์หรือเปล่า กับการที่อ.เบียร์พุดแบบนี้?

อ.โจ : โลกนี้มีหลายมุมมอง คนเชื่อเขาก็เชื่อ คนไม่เชื่อก็ไม่เชื่อ ไม่มีประโยชน์จะอธิบาย ด่ามาได้เลย เพราะอยู่คนละสังคมความเชื่อ แต่จะไม่เบียดเบียนด้อยค่ากัน คนกลาง ๆ เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่เหตุปัจจัย การดูโหราศาสตร์ พี่หนุ่มทำรายการ ต้องบวงสรวงมั้ย อันนั้นคือการเรียกขวัญและกำลังใจ เป็นเหตุและปัจจัย ไม่ได้ค้านอาจารย์เบียร์ ไม่ได้ต่อต้าน แต่หมอดูตามสมาคมเขาสอนมาดี ระบบดี แต่เสียเพราะบุคคล ก็ไม่อยากให้เหมารวม คนเกลียดหมอดู คือหนึ่งเคยถูกหมอดูหลอก สองคนไม่เข้าใจวิชาชีพนั้นจริง ๆ สามคนเข้าใจครึ่ง ๆ กลาง ๆ สี่คนฟังต่อ ๆ กันมา ผมไม่เสียผลประโยชน์อยู่แล้ว แต่ขอให้คนที่เข้าใจวิชานี้ผิด ได้ตื่นรู้ตื่นธรรมในวิชาโหราศาสตร์

อ.ควีน : คนบอกว่าหมอดูออกมาดิ้น ดิฉันออกมาดิ้นเลย เพราะเธอเสียผลประโยชน์ เพราะเขาด่าหมอดู ย้อนกลับไปอีก ว่าที่มีปัญหา ไม่ใช่เพราะเขาด่าหมอดู มีปัญหาแค่ประเด็นที่เขาอ้างตนว่าเป็นหมอดู เคยเป็นหมอดูแล้วหลอกคน พ้อยต์แค่นี้เลย ที่มาวันนี้ไม่พอใจแค่อันนี้

อ.เบียร์ : ง่าย ๆ หมอดูเต็มประเทศ แล้วแต่ศาสตร์ว่าดูที่ไหน ศาสตร์พวกนี้มีมาแต่โบราณ ตำราที่สืบทอดกันมา ไม่ได้ถูกำหนดกฎเกณฑ์โดยโหราศาสตร์ก็มี สืบทอดตามปู่ย่าตายายก็มี จะบอกว่าศาสตร์ที่ถูกบรรจุลงของสมาคมโหราศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่ถูกทั้งหมด หรือเหลือตามชาวบ้าน ตามหลักต่างๆ ผิดทั้งหมด อย่างอาจารย์เคยเป็นหมอดู เรียนรู้ตามปู่ย่าตายาย ตามบ้านในหมู่บ้านเป็นหมอผี เราเรียนจากสิ่งนั้น

อ.ควีน : เขาได้สอนมั้ยว่าอย่าหลอกคน

อ.เบียร์ : เขาสอนอยู่แล้ว โดยมากหมอดูเป็นแบบนี้ทั้งนั้น โดยที่สุดแล้วหมอดูทุกคนต้องอยากได้ทรัพย์ เขาสอนมุมที่ดีอยู่แล้ว แต่อย่าลืมทุกคนมีกิเลส กิเลสคืออยากได้ทรัพย์ อย่างที่บอกว่าดูดวง ชั่วโมงละ 5 พัน คำถามคือมีเจตจำนงต้องการช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก

อ.ควีน : ดิฉันพูดเหรอ ไม่ได้พูด ที่พูดคือส่วนช่วยก็ส่วนช่วย มันมีสองส่วนไง ไม่มีเงินก็ไม่ต้องเสียสิ ดูฟรีก็มีไง

อ.เบียร์ : กรณีการเสียเงิน บอกว่าอยากช่วยเหลือคน แต่คำถามคือทำไมไม่ช่วยทุกคน

อ.ควีน : ก็อย่าไปพูดเฉพาะตรงที่เสียเงินอย่างเดียวสิ ก็ช่วยทุกคน ใครเดินมาเจอก็ให้ถามเลย ก็พูดอยู่

อ.เบียร์ : อาจารย์พูดถึงตัวเงิน บริบทของการอยากได้ทรัพย์ ดังนั้นมันมีเรื่องเก็บเงินเก็บทองที่สูงมาก อาจารย์มีเจตนาอยากช่วยเหลือคน แต่เพราะหลงผิดของตัวเองที่คิดว่าหลักไสยศาสตร์ จะช่วยแก้ไขคนให้รอดพ้นความทุกข์ของเขาได้ เราเจตนาดี แต่ถามว่าเราจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง อาจารย์ดูดวงเมื่อก่อน 300 นะ ไม่เก็บเพิ่ม แต่ถ้าพิธีตั้งศาล 1 หมื่นบาท ซึ่งเอาตรง ๆ ถือว่าถูกมาก ถ้าเทียบกับหมอดูในปัจจุบัน บางคนเก็บ 4-5 หมื่น แต่อย่าลืมว่าการตั้งศาลมีของ ๆ มัน มีรายละเอียดของมัน แต่สุดท้ายก็เป็นความหลงผิดว่าการตั้งศาลจะทำให้คนมีเงินมีทอง ปกปักษ์รักษาบ้าน ถ้ามีศาลไว้ปกปักษ์รักษาบ้าน แล้วจะมีตร. กล้องวงจรปิดเอาไว้ทำอะไร เพราะเขาเชื่อว่าการตั้งศาลพระภูมิหรือบวงสรวง จะทำให้คนในบ้านประสบความสำเร็จ มีโชคมีลาภวาสนา นั่นคือความเห็นผิดที่ขัดแย้งกับสัจจะความจริง นี่แหละที่เรียกว่าไม่มีเหตุผล ถ้าบอกว่าอาจารย์เป็นมิจฉาชีพ เก็บเงินเก็บทองเรี่ยไรเงิน สุดท้ายแล้วปัจจุบันมันก็เก็บเหมือนกันหมด เรามีเจตนาดีอยากช่วยคน แต่หลงผิด คิดว่าวิธีการแบบนี้ช่วยคนได้ สุดท้ายเขากลับวิ่งมาหาเรา ให้เรายิ่งทำพิธีให้ยิ่งขึ้นไป เพราะเขายังแก้ความทุกข์ในชีวิตเขาไม่ได้ ถามคนดูในประเทศไทย คนเราทุกคนทำพิธีมา คำถามคือรวยหรือยัง หมดหนี้สินหรือยัง แก้ไขปัญหาในชีวิตได้หรือยัง หลักคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนในเรื่องปลายทางคือนิพพาน แต่ให้เราพึ่งตน และพึ่งธรรมะพระพุทธเจ้า เพื่อนำธรรมะพระพุทธองค์มาปฏิบัติในชีวิตประจำวันอย่างมีเหตุมีผล ไม่เสียเงินสักบาท ตอนนี้ไม่เสียเงินสักบาท เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ฟรี ให้เปล่า วิธีสอนที่ดีคือสอนให้เขามีเหตุมีผล เชื่อมั่นในตัวเอง จะได้ไม่ต้องกลับมาหาหมอดูอีก พึ่งตนพึ่งธรรมถูกต้องที่สุด

อ.ควีน : เขาบอกหมอดูเป็นหมอดูเพราะอยากได้ทรัพย์ ทุกอาชีพ คุณทำงานต้องการเงินเดือนมั้ย มีใครทำงานไม่อยากได้เงิน โหราศาสตร์ก็เป็นอาชีพนึง ทุกคนมีค่าตัว มีราคาของเขา เขาเรียกเท่าไหร่ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ดิฉันเรียกเท่าไหร่ก็แล้วแต่ดิฉัน คุณจะจ่ายหรือไม่จ่ายก็เป็นสิทธิ์ของคุณ ดิฉันบอกล่วงหน้า บอกราคาเท่านี้ ถ้าแพงก็ไม่ต้องจ่าย อยากดูฟรีก็มีให้แล้วแต่ เอาที่สบายใจ คำว่าอยากได้ทรัพย์ จะพูดว่าทำงานแล้วไม่อยากได้เงิน มันไม่มีหรอก ไม่งั้นคุณมาทำงานฟรีให้ดิฉันได้มั้ยล่ะ คุณไม่รับเงินได้มั้ยล่ะ มันก็ไม่ได้ มันก็เป็นเรื่องธรรมดานะคะ จะบอกว่าหมอดูต้องดูฟรีทุกคนก็ไม่ใช่อย่างนั้น หมอดูที่เขามีวิชาชีพของเขาก็มี

อ.โจ : หมอดูไม่ใช่นักบวช ผมมาด้วยสองหัวข้อ หนึ่งอธิบายเรื่องโหราศาสตร์สอดคล้องกับหลักพุทธ สองเป็นห่วงเป็นใยเรื่องการสื่อสาร เมื่อเช้ามีเรื่องการกินเจที่อาจารย์บอกว่ากินเจคือเรื่องปัญญาอ่อน ซึ่งมันเป็นจารีต เป็นความเชื่อของพุทธมหายาน ถ้าพี่เบียร์บอกว่าคนกินเจมันโง่ เขาโง่จริงเปล่า การพูดแบบนี้ต้องระวัง คนกินเจเป็นมหายานเยอะมาก มันเป็นประเพณีที่ดีงาม อันนี้ห่วงใย

อ.เบียร์ : ถ้าสุดท้ายกลับมาที่อยากได้ทรัพนย์ ถ้าบอกว่าอาจารย์เป็นมิจฉาชีพ ทางนี้ก็มิจฉาชีพเหมือนกัน

อ.ควีน : ไม่ ๆ ไม่ได้ทริกนะ ดิฉันพูดว่าราคาเท่าไหร่ เขารู้ก่อน แต่คุณบอกว่าดูคนนี้ก่อน คนนี้มีเงินก็คิดเขามากหน่อย

อ.เบียร์ : ไม่ใช่ ความหมายคือสุดท้ายก็เสียเท่ากัน เพราะมันเขียนอยู่ที่ป้าย

อ.ควีน : แต่คุณหลอกเขาไปทำพิธีต่อไง

อ.เบียร์ : ถูกต้อง เพราะมีเรื่องพิธีกรรม ก็หนีเรื่องพิธีกรรมไม่พ้น แต่เราเจตนาดีเพราะเขามีความทุกข์ไง วิธีแก้ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จะบอกว่าไม่แนะนำ อาจารย์ไม่เชื่อ ยังไงก็ต้องแนะนำ คำถามคือจะทำพิธีกรรมเพื่ออะไรถ้าชีวิตไม่ดี

อ.ควีน : ก็เป็นความเชื่อและความสบายใจ คุณบอกว่าตั้งศาล ศาลช่วยอะไรไม่ได้ คนตั้งศาลเขาสบายใจ รู้สึกว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาดูแล เกิดมาครอบครัวก็ไหว้ศาลตายายมาตลอด เขาเกิดมาแบบนี้เขาแฮปปี้แบบนี้

อ.เบียร์ : เราเลยต้องทำให้เขา

อ.ควีน : เธอ ความเชื่อของคน เขาสบายใจ ถ้าเขาไม่สบายใจแล้วไม่เบียดเบียนใคร เขาตั้งศาลไม่ได้ตั้งบนหัวใคร เขาตั้งบหน้าบ้านเขา อันนั้นคือเขาไม่ได้ผิดอะไร ไม่ได้โง่ แล้วไปบอกเขาโง่ หลงผิด ไม่มีใครช่วยคุณได้ มันก็แล้วแต่ความเชื่อของเขา

อ.เบียร์ : สุดท้ายกลับไปที่อะไร

อ.ควีน : สบายใจ มีความสุข อบอุ่น ถามว่าช่วยได้มั้ยไม่รู้ แต่มีความสุข

อ.เบียร์ :   สุดท้ายกลับไปที่การแนะนำผิด ๆ เมื่อกี้บอกว่าอยากให้เขาใช้ชีวิตตามเหตุตามปัจจัย แต่ไปสร้างศาลพระภูมิ ตามเหตุตามปัจจัยตรงไหน เริ่มหลุดกรอบ

อ.ควีน : ยกตัวอย่างให้ฟังเฉย ๆ ว่าคนที่เขาตั้ง เขามีความสุขยังไง เขาพอใจ ไม่ได้เดือดร้อนใคร ถ้าเขาตั้งศาลแล้วมายืมเงินคุณก็อีกเรื่องนึง

ทางอ.ควีนพยายามบอกว่าบางเรื่องอยู่ที่ความรู้สึกของคน คนอยากตั้งศาล ดูดวงก็เป็นสิทธิ์ของเขา เรื่องหมอดูอาจเรียกเงินเพราะมีค่าวิชาชีพ มีค่าพิธีต่าง ๆ นานา?

อ.โจ : หมอดูไม่มีการเรียกเงินค่าทำพิธี เขาแยกส่วน บางคนไม่ทำพิธีกรรมก็แล้วแต่

อ.เบียร์ : แล้วคนทำคนเดียวกันมั้ย

อ.โจ : ถ้าพุทธแท้ไม่ตั้งศาลพระภูมิ อ.โจรับตั้งศาล แต่บางคนไม่สะดวกเราไม่ทำ เขาต้องสะดวกในเรื่องกำลังทรัพย์ มีความเชื่อ มีประเพณีของเขา

ทางนี้พยายามบอกว่าหมอดูก็มีค่าวิชาชีพ ทางอ.เบียร์ก็บอกว่ามุมเขาคือถ้าเรารู้สึกว่าเราลำบาก ก็ไม่ต้องเสียเงินดู?

อ.ควีน : ถูกต้อง ไม่สะดวกก็แล้วแต่

เขาเลยออกมาเตือนว่าพุทธไม่มี?

อ.ควีน : พุทธไม่มีอยู่แล้ว

อ.เบียร์ : แล้วอาจารย์พูดผิดตรงไหน

อ.โจ : อาจารย์พูดไม่ผิด แต่อาจารย์ไปพูดพาดพิงว่าเคยหลงผิดพลาดไปในอดีต คนอนุมานและเหมารวมว่าหมอดูไม่ดี วันนี้เราเข้าใจตรงกันครับ

อ.เบียร์ : สิ่งที่อาจารย์พูดคือต้องการเตือนให้คนพุทธได้รับรู้ ฉะนั้นทางนี้จะเป็นพราหมณ์ อินดู ก็เป็นไป อาจารย์พยายามทำให้คนไม่หลงผิด โดยอาศัยสร้างเหตุปัจจัย เหตุและผลในปัจจุบันให้มากที่สุด

เขาบอกคุณควีนควรขอโทษที่บอกว่าศาสนาพุทธงมงาย?

อ.ควีน : ดิฉันไม่ได้อบกว่าศาสนาพุทธงมงาย ดิฉันบอกว่าคุณอาจงมงายในศาสนาของคุณ ไม่ได้บอกว่างมงายในศาสนาพุทธ เพราะดิฉันเคารพศรัทธาในพระพุทธเจ้า ไปย้อนดูประวัติได้ สร้างวัด ทำหลายอย่างเยอะ ดิฉันไม่เคยไม่เคารพศาสนาพุทธ แต่ไม่ใช่ทุกอย่างจะถูกต้องทั้งหมด ไม่ใช่ศาสนาไหนพูดอะไรแล้วจะถูกต้องทั้งหมด มันมีวิธีคิดต่างได้ แต่ถ้าทุกคนเข้าใจผิดว่าดิฉันพูดอย่างนั้นว่าดิฉันว่าคนนับถือศาสนาพุทธงมงาย ดิฉันก็ขอโทษจากใจ แต่ดิฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ดิฉันหมายความว่าสิ่งนี้คุณคิดว่าถูกที่สุด ถูกต้องที่สุด คุณถูกคนเดียว คนอื่นโง่หมด คุณฉลาดคนเดียว อันนี้ไม่ใช่ ที่มานั่งพูดทั้งหมดทั้งมวล แค่จะบอกว่าบางทีเราเห็นต่างได้ เราศรัทธาแตกต่างกันได้ แต่ไม่ใช่มานั่งด่าพาดพิงกัน ของเขาพูดแค่ประเด็นนั้นประเด็นเดียว คือการอ้างอาชีพหมอดูหลอกคน เรารู้สึกไม่ดี ก็แค่นั้นเอง

ถ้าคนถามว่าถ้าเขาพูดไป คุณอาจไม่ต้องออกมาพูดก็ได้หรือเปล่า มันกระทบคุณใช่มั้ย?

อ.ควีน : กระทบค่ะ เพราะเขาพูดทำนองว่าเขารู้ว่าหมอดูคิดยังไง เพราะเคยเป็นหมอดูมาก่อน ซึ่งหมอดูอาจไม่ได้คิดแบบคุณก็ได้ ทำไมถึงคิดว่าคนมาหาแล้วโง่ต้องคิดเงินเยอะ ๆ

มีการต่อพิธีกรรมมั้ย ดูดวงเสร็จแล้วต่อพิธีกรรม?

อ.ควีน : คนละส่วนกัน คนมาดูดวง จะไม่บอกว่าต้องไปสะเดาะเคราะห์หน่อย ไม่ใช่มาดูดวงแล้วต้องลงนะ ต้องทำพิธีกรรมนะ ถ้าฉันหลอกลวง ฉันไม่กล้ามานั่งโหนกระแสหรอก เดี๋ยวผู้เสียหายก็ออกมา

วัตถุมงคลที่แดง ๆ คืออะไร?

อ.ควีน : เทียน รูปนี้เป็นตำนานนะคะ ที่นั่งแหกขา เป็นภาพของผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก หมายความว่าพิธีกรรมไสยศาสตร์จะมีรูปนึงอยู่ตามผนังถ้ำ เป็นประวัติศาสตร์ของเขา เป็นต้นกำเนิดไสยเวทย์ หรือต้นกำเนิดของการเกิดสิ่งที่ดี เป็นความเชื่อค่ะ

เขาเรียกว่าอะไร?

อ.ควีน : เทียนแม่โยนี เป็นเรื่องไสยเวทย์ ถ้าใครจุดอันนี้ เสริมเมตตา เป็นความเชื่อส่วนบุคคล

ต้องไปทำต่อหน้าพระพิฆเนศเหรอ?

อ.ควีน : ไปถ่ายรูปเฉย ๆ ค่ะ

คนนับถือพระพิฆเนศบอกว่าไม่เหมาะสม จะตอบยังไง?

อ.ควีน : ก็แล้วแต่ ดิฉันคิดว่ามันไม่ได้เสียหายตรงไหน

ราคาเท่าไหร่?

อ.ควีน : 299 บาท จุดแล้วได้ความสบายใจ อยากขอพร โชคลาภอะไรก็แล้วแต่ คุณจะไปจุดตรงไหนก็ได้

อ.โจมีแบบนี้มั้ย?

อ.โจ : ไม่มีครับ ของผมตามหลักอินดู เรายึดมั่นตามอ่านโองการ จารีตประเพณี เราทำกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย

แลบลิ้นคืออะไร?

อ.ควีน : พระแม่กาลี

ราคา 9,999 นะ?

อ.ควีน : เขียนราคาชัดเจนนะ

มันเลยนำมาซึ่งว่า แบบนี้หรือเปล่า ถึงมีคนบอกว่าแล้วจะไปเสียเงินเสียทองเพื่ออะไร?

อ.ควีน : ก็ไม่ต้องเสีย ก็แล้วแต่ ดิฉันไปเรียนมา ก็มีความเชื่อแบบนี้ เราทำแล้วแฮปปี้ ใครไม่ชอบก็ไม่ต้องทำ ดิฉันไม่ได้ทำคนเดียว สำนักไสยศาสตร์ทั่วประเทศไทย มีอยู่ทั่วไป

ไม่เกี่ยวกับหมอดูแล้ว?

อ.ควีน : อันนี้คือเรื่องความเชื่อ ไม่เกี่ยวกับดูดวงนะ

อ.เบียร์ : กลายเป็นประเด็นว่าหมอดูกับคนทำพิธีเป็นคน ๆ เดียวกัน แต่บอกว่าไม่เอารูปดวงไปทำพิธี แต่สุดท้ายแล้วคน ๆ เดียวกันทำทั้งหมด แล้วดูราคาสิ จะหมื่นนึงแล้ว สุดท้ายแล้วคนเสียเงินไป ได้ประโยชน์อะไรตอบแทนกลับคืนมา การเอาเงินหมื่นไปลงทุนขายของยังได้กำไร หรือเจ๊งก็ยังได้ของกลับมากิน มาแจกคนอื่นได้ อันนี้เชื่อล้วน ๆ ไม่มีเหตุมีผล ไม่มีสัจจะความจริงอะไรเลย นี่เรียกว่าไม่มีเหตุผล คำว่างมงายคือเรื่องนี้เลย คำถาม เสริมดวงยังไง ชีวิตดีขึ้นยังไง แก้กรรมยังไง แก้หนี้สินยังไง ขอเหตุผลเป็นเปเปอร์มาให้หน่อย แต่หลักคำสอนของพระพุทธเจ้าบอกเราว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถแก้ความทุกข์ให้เราได้ แต่การแก้ไขในความทุกข์คืออะไร เอาเงิน 9,999 บาทไปจ่ายหนี้เขา ไปต่อรายได้ของตัวเองเพื่อให้เกิดรายได้ มันหวังผลได้เลย เพราะเป็นเหตุเป็นผลจับต้องได้ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า สุดท้ายก็กลับมาที่อาจารย์ที่บอกว่าไม่ควรเรียกว่าเป็นหมอดูในอดีต แต่ควรเรียกว่าเป็นมิจฉาชีพ เขาบอกเขาแจ้งรายละเอียดพวกนี้ชัดเจน อาจารย์ก็แจ้งลูกศิษย์สมัยก่อนอย่างชัดเจน แต่ของที่อาจารย์ขายไม่เคยแพงขนาดนี้นะ อาจารย์ขายเอากำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเราสงสารว่าคนที่มาหาเราเขามีความทุกข์ เราไม่กล้าขายเขาในราคาแพงเกินไป แต่อาจารย์พูดว่าปัจจุบันของมันแพงมาก คนที่เข้ามาหาพิธีกรรมเหล่านี้คือคนมีความทุกข์ โดยมากคือมีปัญหาด้านการเงิน แต่ตั้งราคาสูงลิ่วจนไม่สามารถแก้ปัญหาในปัจจุบันได้ กลับกลายเป็นทำพิธีเพราะต้องการช่วยคน ดูดวงเพราะต้องการช่วยคน แต่นี่คือราคาที่ช่วยคน มันจึงไม่สอดรับ แถมขัดแย้งกับหลักความเป็นจริง ของคนที่กำลังเป็นทุกข์ในโลก

แต่นี่เป็นพิธีแยก ไม่เกี่ยวกับการดูดวง?

อ.เบียร์ : สุดท้ายก็เป็นคน ๆ เดียวกันทำ เขาทำเป็นตัวเลือก ถูกมั้ย

อ.ควีน : ดิฉันทำคนเดียวหรือเปล่าล่ะ

อ.เบียร์ : สิ่งที่ต้องการบอกคนไม่ได้จะมาแอนตี้ทางนี้ แค่อยากบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องเสียเงิน อย่างที่คุณบอกใครพอใจในการซื้อก็ซื้อ หลักคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ได้ต้องการล้มล้างศาสนาหรือความเชื่อของใคร แต่บอกตามหลักความจริง ว่าอันนี้ทำได้หรือไม่ได้ อาจารย์มีหน้าที่บอกสอนชี้ทาง ใครเดินตามอาจารย์เดินตามมา ตามหลักเหตุผล ใครเดินตามความเชื่อความเห็นอื่นก็เดินไป สุดท้ายอาจารย์ไม่ได้แอนตี้หมอดูร่างทรงอะไรเลย แต่อาจารย์บอกว่าเฮ้ย พวกมึงอย่าไปโง่ มีสติสัมปชัญญะในการใช้ชีวิต ต้องมีปัญญาในการใช้ชีวิต จะไปหลงใหลได้ปลื้มกับของเหล่านี้ไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วมึงเสียเงินเปล่า ไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมาเลย ทุกอย่างในชีวิตมีการลงทุน มึงเสียเงินซื้อของพวกนี้มาสวดมนต์ อ้อนวอน คำถามคือได้เงินจากสิ่งเหล่านี้มามั้ย ได้อะไรกลับคืนมาบ้าง

อาจารย์จะเปลี่ยนคำพูดมั้ย ที่บอกว่าเป็นหมอดูเลยไปหลอกคน เธอบอกว่าต้องเป็นมิจฉาชีพในคราบหมอดู?

อ.เบียร์ : อาจารย์ไม่ใช่มิจฉาชีพไง หลักการเดียวกัน แบบนี้อาจารย์ก็เคยทำมาก่อน ทุกอาชีพต้องมีหลักจิตวิทยา ไม่มีหลักจิตวิทยา จะบอกราคาหมื่นนึงได้ยังไง จะเชื่อการลงนะหน้าทองของเราได้ยังไง หลักจิตวิทยาคือดูออก รู้เขา รู้เรา เราไม่เก่งกว่าเขา ไม่แน่กว่าเขาจะแนะนำได้ยังไงว่าต้องแก้อะไร ต้องทำอะไร

About Author