Cynosure ร่วมกับ AESLA มอบโล่เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ “บิดาเลเซอร์”
Cynosure ร่วมกับ AESLA มอบโล่ “Cynosure Research and Training Partner” เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ “บิดาเลเซอร์” “ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์นิวัติ พลนิกร” และร่วมแสดงความยินดีเปิดศูนย์ศัลยกรรมผิวหนังและเลเซอร์
Cynosure ผู้นำในอุตสาหกรรมด้านนวัตกรรมเลเซอร์ผิวหนังและความงามกว่า 30 ปี ร่วมมือกับ AESLA พาร์ตเนอร์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ มอบโล่ “Cynosure Research and Training Partner” เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ “ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์นิวัติ พลนิกร” ในฐานะแพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมเลเซอร์ผิวหนังและความงามระดับแนวหน้าของเอเชียแปซิฟิก ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลและร่วมยกระดับวงการเลเซอร์ด้านความงาม โดยมีการจัดการ Training และทำ Clinical research เกี่ยวกับนวัตกรรม Picosecond Laser 755nm ทั้งเครื่อง PicoSure และ PicoSure Pro ของแบรนด์ Cynosure เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับบรรดาแพทย์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลาเกือบทศวรรษที่ผ่านมา
นอกจากมอบโล่ยกย่องเชิดชูเกียรติแล้ว Cynosure กับ AESLA ยังร่วมแสดงความยินดีในวาระเปิดศูนย์ศัลยกรรมผิวหนังและเลเซอร์ด้านผิวหนังตึกใหม่ของ ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.นิวัติ พลนิกร ที่เพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการในปีนี้ ถือเป็นศูนย์บูรณาการด้านการเรียนรู้สำหรับแพทย์รุุ่นใหม่ ๆ โดยการมอบโล่ในวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังตรงกับวันที่ ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.นิวัติ พลนิกร ได้จัดงานเวิร์กชอป “PICOSURE PRO FOCUS 2024” แบบ Private แก่กลุ่มแพทย์ที่ให้ความสนใจ รวมไปถึงกลุ่มแพทย์ผิวหนังที่เป็น “Pioneers of PicoSure Pro in Thailand” ที่มาร่วมอัปเดตเทรนด์ความรู้ รวมถึงประสิทธิภาพในการประยุกต์ใช้กับเคสต่าง ๆ แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟอีกด้วย
ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก Ms. Bebe Teo (Senior Vice President, Asia Pacific & Commercial Excellence) และ คุณ เสาวณีย์ พันธ์ขจรเวช (Commercial Lead, Indochina, and Strategic Partnership Lead, Southeast Asia) จากแบรนด์ Cynosure รวมไปถึง คุณ วรุตม์ สุทธินันท์, คุณ ปกรณ์ เมธาธราธิป, คุณ จุรีพร แสนเมือง และ Mr. Søren Maor Sinay มาร่วมแสดงความยินดีกับ ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.นิวัติ พลนิกร ในครั้งนี้ โดยนอกจากไฮไลต์ของงานที่มีการมอบโล่ให้กับคลินิก ทั้ง ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.นิวัติ พลนิกร และ Ms. Bebe Teo ยังร่วมพูดในช่วง “Speech Session” พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงปรัชญาและวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันในฐานะพาร์ตเนอร์อีกด้วย
Ms. Bebe Teo กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนของ Cynosure ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมาก ๆ ที่ได้มาร่วมแสดงความยินดีในครั้งนี้ การที่ PicoSure และ PicoSure Pro เป็นเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ณ เวลานี้ ทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าขาดบุคลากรแบบ ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.นิวัติ พลนิกร ที่ร่วมค้นคว้า แชร์งานวิจัย และผลลัพธ์จากการประยุกต์ใช้กับปัญหาใหม่ ๆ อยู่เสมอ การร่วมมือของเราในฐานะพาร์ตเนอร์เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาเทคโนโลยีไปพร้อม ๆ กับส่งเสริมให้วงการแพทย์ได้เรียนรู้ที่จะนำไปใช้อย่างถูกวิธีและมีประสิทธิภาพ นำมาซึ่งผลลัพธ์ในการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น การมอบโล่ Cynosure Research and Training Partner ครั้งนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจให้กับวงการแพทย์ต่อไปในอนาคต เพื่อร่วมกันยกระดับมาตรฐานด้านเลเซอร์ความงามทั้งในประเทศไทย ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และต่อยอดไปจนถึงระดับสากลอย่างต่อเนื่อง”
ส่วน คุณ วรุตม์ สุทธินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสล่า จำกัด กล่าวร่วมแสดงความยินดีว่า “ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติมากที่ครั้งนี้ได้ร่วมกับบริษัท Cynosure มอบโล่ให้กับ “ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.นิวัติ พลนิกร” รวมถึงถือโอกาสนี้มอบป้าย Integrated Learning Partnerships ของ AESLA ให้กับศูนย์ศัลยกรรมผิวหนังและเลเซอร์ด้านผิวหนัง ซึ่งตรงนี้จะเป็นศูนย์รวมความรู้ให้กับแพทย์รุ่นใหม่ ๆ ด้วย อาจารย์นิวัติมีความเชี่ยวชาญด้านเลเซอร์จนได้รับการยกย่องเป็น “บิดาแห่งวงการเลเซอร์ไทย” ท่านถือเป็น Iconic ที่น่านับถือและเป็นแบบอย่างให้กับใครหลายคนทั้งในวงการแพทย์ รวมถึงเป็นบุคลากรต้นแบบในการอุทิศตัวเองเพื่อทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมและสังคมด้วยครับ”
ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.นิวัติ พลนิกร ถือเป็นแพทย์ผิวหนังที่มีชื่อเสียงด้านการใช้เลเซอร์ในการรักษาโรคและด้านความงาม ควบคู่ไปกับการทำวิจัยเพื่อตอบโจทย์ในการสร้างประโยชน์แก่วงการแพทย์ผิวหนังและเลเซอร์เป็นวงกว้างไปทั่วโลก
ตลอดจนถึงมีความมุ่งมั่นที่จะส่งต่อความรู้เชิงลึกและส่งเสริมให้แพทย์รุ่นต่อ ๆ ได้นำไปต่อยอดในเชิงวิชาชีพได้อย่างเหมาะสม ซึ่งการเปิดศูนย์ศัลยกรรมผิวหนังและเลเซอร์ด้านผิวหนังก็ถือเป็นหนึ่งในความตั้งใจที่ต้องการให้เป็นศูนย์บูรณาการด้านความรู้ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและทันสมัยมากที่สุด โดยกล่าวสรุปไว้ว่า “ทุกแห่งที่เราอยู่ ไม่ว่าจะที่ไหนของประเทศ เราก็สามารถสร้างสิ่งที่มีคุณค่าได้ ถ้าเรามีความตั้งใจจริง มีความรู้จริง และก็มีคนสนับสนุน ผมได้เรียนรู้และเริ่มต้นนำเลเซอร์มาใช้ในประเทศไทยเพื่อรักษาปัญหาต่าง ๆ ผมเห็นว่ามันสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้เลย เพราะฉะนั้นนอกจากการรักษาคนไข้ การส่งต่อความรู้ตรงนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของผม เราอยากสร้างคน สร้างบุคลากรขึ้นมาด้วย ให้หมอรุ่นใหม่ ๆ ขึ้นมาต่อยอดดูแลคนไข้และวงการเลเซอร์กันต่อไป” แม้ศูนย์ศัลยกรรมผิวหนังและเลเซอร์ด้านผิวหนังจะอยู่รอบนอกกรุงเทพมหานคร แต่ยังสามารถใช้ในการรองรับคนไข้และใช้ในการสัมมนาเชิงวิชาการหรือจัดสอนแพทย์ที่ให้ความสนใจได้อย่างครบวงจร เพื่อกระจายโอกาสในการเรียนรู้ไปสู่คนรุ่นต่อ ๆ ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ยิ่งใหญ่และเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ในการขับเคลื่อนวงการแพทย์ผิวหนังและเลเซอร์ของประเทศไทยให้ไปในทิศทางที่เท่าทันกับเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ