“เอกภพ” เปิดที่มา เพจ สายไหมต้องรอด ช่วยคนไม่หวั่นผู้มีอิทธิพล

รับมีเคสลูกรัฐมนตรีสายตรงมาเคลียร์…แต่ไม่ให้!

ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่วันนี้มาเปิดใจเหตุเปิดเพจช่วยเหลือคน จุดเริ่มต้นเกิดในวงเหล้า บอกต้องปิดบังเรื่องครอบครัว กลัวเสี่ยงอันตราย พร้อมเคลียร์ดราม่าหิวแสง สร้างภาพลักษณ์หวังเล่นการเมือง แถมย้อนเล่าเหตุการณ์สยองขวัญสืบความจริงจากศพ วิญญาณมาบอกใครเป็นคนฆ่า ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี หนิง ปณิตา และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ 

คดีล่าสุด เด็กอายุ 14 ถูกครูล่วงละเมิด?

เอกภพ : เมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เรื่องนี้น่าสงสารเด็กมาก ๆ จากหลักฐานที่เจอว่าน้องถูกล่วงละเมิดทางเพศถึง 105 ครั้ง น้องเป็นผู้ชาย

ในข่าวมีพฤติกรรมซาดิสต์ด้วย?

เอกภพ : ใช่ครับ ในระหว่างที่เขาล่วงละเมิดทางเพศน้องมีการทุบตีไปด้วย แล้วมีการถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน

พี่เอกได้เห็นคลิปหรือยัง?

เอกภพ : ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บไว้หมดแล้ว 

มันสะเทือนใจขนาดไหน?

เอกภพ : สะเทือนใจมาก ผมได้คุยกับตัวน้องเอง ทั้งตัวคุณย่าที่มาหา สาเหตุที่มาร้อง คือคุณย่าเขาทราบเรื่องนี้ แล้วมีการเข้าไปหาคุณครูคนนี้ที่โรงเรียน โรงเรียนดังมาก เอ่ยชื่อไปคนทั้งประเทศรู้จัก เพราะมีเป็น 100 ปีแล้ว คือพอไปหาคุณครูคนนี้แทนที่จะสำนึก แล้วยอมรับกับสิ่งที่ตัวเองทำ กับด่าสวนกับผู้ปกครอง ผู้ปกครองเลยไปคุยกับผู้บริหารโรงเรียนว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ครูคนนี้ล่วงละเมิดทางเพศหลาน ทางผู้บริหารบอกว่าโอเคเดี๋ยวจะตรวจสอบให้ ใช้เวลา 6-7 เดือน เขามองว่าแล้วยังไงต่อ โรงเรียนก็บอกว่างั้นเด็กต้องหยุดเรียนไปก่อนก็ได้ ส่วนครูก็ให้สอนตามปกติ

แล้วทำไมเด็กต้องหยุดเรียน แล้วครูได้สอนต่อ?

เอกภพ  : ก็นั่นน่ะสิ ผู้ปกครองเขาก็ไม่ยอม คุณแม่บ้านอยู่พื้นที่โรงพักหนึ่ง แต่ไม่ใช่โรงพักที่ผมไปแจ้งความนะ เพราะคุณไม่ออกจากโรงเรียนเขาก็เสียใจ งั้นเขาขอไปแจ้งความก่อนแล้วกันที่โรงพักใกล้บ้านเขา เพราะปัจจุบันนี้การแจ้งความ แจ้งได้ทุกที่ แต่สมัยก่อนต้องไปแจ้งในท้องที่ที่มันเกิดเหตุ คุณแม่เลยไปแจ้งความที่โรงพักใกล้บ้าน ปรากฏว่าไปเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขามาถามคุณแม่ว่ามาแจ้งความมีหลักฐานอะไร แม่ก็บอกว่าหลักฐานอยู่ที่ตัวลูกฉันนี่ไง ลูกชายฉันถูกล่วงละเมิด ตำรวจบอกว่าลูกชายแม่มีมดลูกหรอจะมาแจ้งความ เขาก็ยิ่งเสียใจหนักกว่าเดิมอีก

ทางผู้ปกครองของเด็กทำยังไงต่อ ?

เอกภพ : เขาเสียใจมาก เขาคุยกันในครอบครัวว่าจะเอายังไงดี สุดท้ายในครอบครัวบอกว่าไปลอง เพจสายไหมต้องรอดดีกว่า เขาก็โทรหาผมคืนนั้น โทรมาแล้วก็ร้องไห้ ผมบอกว่าใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คุย มันเกิดอะไรขึ้น เขาก็เล่าให้ฟัง ไปแจ้งความตำรวจก็ไม่รับคดี เขาบอกว่าไม่มีหลักฐาน เราเลยไปไล่ลำดับเหตุการณ์ เหตุมันเกิดที่ สน.ทองหล่อ ผมบอกคุณแม่ไม่ต้องกังวลเดี๋ยวผมพาไปแจ้งเองที่ สน.ทองหล่อ

ตอนนี้เรื่องราวทั้งหมดเป็นยังไง ?

เอกภพ : จับเรียบร้อยครับ เรื่องนี้ต้องเร็ว เพราะน้องให้ข้อมูลชัดเจน ว่าระหว่างกระทำ ครูถ่ายคลิปไว้ เด็กผู้ปกครองกลัวว่าคลิปนี้มันจะหลุดออกไป แล้วครูมีการข่มขู่ว่าถ้ามึงไปพูดเดี๋ยวคลิปนี้จะหลุดนะ ขู่เด็กไว้ ก็เลยเอาเรื่องนี้บอกผู้กำกับ ท่านผู้กำกับก็ตัดสินใจเลยบอกว่าไปเอาตัวครูมา

ตอนมาถึงโรงพักครูยอมรับไหม ?

เอกภพ : ตอนแรกไม่รับ เขาบอกไม่ได้ทำ เป็นการเข้าใจผิด แต่ข้อมูลที่เด็กให้กับพนักงานสอบสวนมันชัดมาก ตอนไปเอาตัวครูมาทางเจ้าหน้าที่ก็ยึดโทรศัพท์มาก่อนเลย มาตรวจสอบพอดูมีคลิปเต็มไปหมด

เห็นว่า 100 กว่าคลิป?

เอกภพ : ครับ และที่กำลังจะตรวจสอบต่อ เข้าใจว่าอาจจะไม่ได้มีน้องคนนี้คนเดียวที่อยู่ในคลิป

ขั้นตอนการดำเนินคดีกับครูท่านนี้ถึงไหนแล้ว ?

เอกภพ : เบื้องต้นแจ้ง 10 ข้อหาหนักมาก แล้วก็ต่างกรรมต่างวาระ ผมบอกเลยนะครับเด็กคนไหนที่เจอพฤติกรรมลักษณะแบบนี้ ท่านอย่ายอม น้องอย่าเฉย ไปแจ้งใครก็ได้ที่น้องไว้ใจ

การก่อตั้ง เพจสายไหมต้องรอด มันเริ่มได้ไง?

เอกภพ : ผมทำกับเพื่อน ๆ ช่วงโควิด ตั้งแต่ปี62

คำว่าสายไหมต้องรอดมาจากในวงเหล้าจริงหรอ ?

เอกภพ : คือคุยกัน นั่งกินสังสรรค์กับเพื่อน ๆ คุยกันจะเอาชื่ออะไรดี

ตอนนั้นโควิดก็มีการช่วยผู้ป่วยเยอะมาก?

เอกภพ : เป็นหมื่นเคสครับ

ทำแบบนี้ต้องใช้เงินนะ  แล้ววันนั้นพี่ไปเอาเงินที่ไหน?

เอกภพ : ปกติผมจะมีกลุ่มวงแชร์เพื่อน ๆ น่ารักจังเลย นักธุรกิจ 10 กว่าคน เวลาเราไปกินแชร์ ก็ลงขันกัน ซึ่งมันเป็นเงินหลายบาท เช็คบิลทีหลายหมื่น พอช่วงโควิดสถานประกอบการปิดหมด ก็เลยคุยกับเพื่อน ๆ ว่าเอาเงินที่เราไปกินเหล้า มาลงขันดีไหม ไม่อยากขอรับบริจาคเงินกับใคร ซึ่งเวลานั้นมีแต่คนอยากช่วย อะไรขาด อุปกรณ์ ชุด PPE ขาด ถังอ๊อกซิเจนขาด มีแต่คนเอามาช่วย

แต่คนที่ไม่อยากให้พี่ทำเพจ และคัดค้านคือครอบครัว?

เอกภพ : ใช่ ในมุมความเป็นห่วง ตั้งแต่โควิดเขาก็ห่วง คือบ้านคนอื่นล้อมรั้วไม่ให้ใครเข้ามา แต่เราสาระแนไปหาเชื้อ แต่เราอธิบายกับครอบครัวบอกว่า ถ้าเราไม่ทำ เราไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ วันนึงที่คนในครอบครัวติดใครจะช่วยเรา เราทำแบบนี้กลายเป็นเรามีความรู้ โชคดีมากในครอบครัวไม่มีใครติดโควิด

ตอนนี้เพจสายไหมต้องรอด มีความเสี่ยงหลายเรื่องในการช่วยผู้คน ครอบครัวเป็นห่วงความปลอดภัย?

เอกภพ : ก็ใช่ เพราะว่า พอเราหมดโฆวิดแล้วเรามาทำเรื่องปัญหาสังคม แล้วผมเจอค้ามนุษย์อย่างนี้ ผู้มีอิทธิพล บางทีพวกเว็บพนันมันอุ้มคนไปทำร้าย

พี่เอาความรู้ที่ไหนเข้าไปทำเรื่องพวกนี้?

เอกภพ : เรามีทีมที่ปรึกษาทางกฎหมายของเราอยู่แล้ว แต่หลัก ๆ มันต้องมีใจรักก่อน ต้องมีความกล้า ความมึนก่อน เพราะมันต้องไม่กลัว เราต้องตัดออกไป การทำงานตรงนี้ต้องเอาความถูกต้องมาจับ

แล้วเคยมีผู้ใหญ่โทรมา แบบเคสนี้ขอไหม?

เอกภพ : ขอมี เคสที่พวกเยอะ มีโทรมาขอ เราก็ต้องดูหน้างาน บางทีผมก็บอกว่าเรื่องนี้พี่อย่าขอเลย เพราะไอนี่มันเหี้ยเกิน ลูกรัฐมนตรีโทรมาขอผมยังไม่ให้เลย

แล้วพี่ไม่กลัวเหรอ?

เอกภพ : ไม่มีอะไรต้องกลัว ผมมองว่าการกระทำที่มันเกิดขึ้น มันหนักกว่าที่จะขอแล้วให้ได้ ถ้าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปคุยกับผู้เสียหาย เยียวยากันผมจบได้ แต่ถ้ามึงอุ้มคนไปกระทืบจนแขนหักอย่างนี้ โทรมาบอกว่านี่พวกกัน ถึงพวกกันผมก็ให้ไม่ได้จริง ๆ ถ้าผมให้ไปประชาชนอยู่ยังไง ส่วนนึงผมเป็นนักการเมือง และเป็นที่ปรึกษาของท่าน มธ1 ท่านพูดชัดเจน คนของใครไม่สำคัญเท่ากฎหมาย  ท่านบอกว่าถ้าผิดกฎหมายดำเนินคดีไป ไม่ต้องสนใจว่าเป็นใคร 

บางคนก็บอกว่าพี่ทำตรงนี้เพื่อสร้างบารมีเล่นการเมือง?

เอกภพ : ถ้าผมย้อนถามกลับ แล้วทำไมนักการเมืองทุกคนไม่ทำแบบที่ผมทำ ถ้าทำกันชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน ไม่ต้องเดินทางมาหาผม

บางคนก็บอกว่าพี่เอกทำก็เหมือนไปบั๊ปผู้มีบารมีฝั่งตรงข้ามเหมือนกัน?

เอกภพ : ตั้งแต่ผมทำงานมา ผมไม่เคยกลั่นแกล้งใครเลย ถ้าเราไปกลั่นแกล้งคนอื่นตัวเราเองนี่แหละที่จะอยู่ไม่ได้ ผมทำงานมาไม่เคยโดนข่มขู่ เพราะผมไม่เคยกลั่นแกล้งใคร ผมตรงไปตรงมา คนที่ถูกผมดำเนินคดีทั้งหมด ยอมรับรับสภาพหมดว่าเขาผิดจริง

แต่ก็มีคนแซะว่าพี่หิวแสง?

เอกภพ : ตอนนี้แสงเยอะ อยากให้น้อย ๆ หน่อยก็ได้ เพราะวันนึงมีคน 100-200 คน 400-500 เคสต่อวันแจ้งมา

พี่เลือกยังไง?

เอกภพ : มันมีทั้งเคสจริง เคสไม่จริง ทำงานตามความเชื่อไม่ได้ เราต้องทำงานตามหลักฐานที่มี

เห็นว่าเคสที่ยากที่สุดคือการค้ามนุษย์ ถ้าเราไม่เข้าไปช่วยแบบระมัดระวัง เหยื่อจะโดนฆ่า?

เอกภพ : อันนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ผมเคยเดินทางไปแม่สอด อรัญประเทศ เคสอรัญประเทศเป็นยุคแรก ๆ น้องถูกเอาตัวไปขายที่ฝั่งกัมพูชา ประสานขอความช่วยเหลือกลับมา ตอนแรกผมจะไม่เดินทางไป ผมบอกเดี๋ยวจะประสานเจ้าหน้าที่ชายแดน น้องบอกว่าอย่าประสานชายแดนนะ เพราะตอนที่ผมเดินทางมา ผมนั่งรถตู้มา คนขับรถตู้เวลาเจอด่าน ลดกระจกแล้วยื่นซอง ผมไม่รู้ในซองคืออะไร เหยื่อบอกว่าพี่อย่าประสานใครนะ ผมกลัวว่าถ้าพี่ประสานผมจะถูกจับแล้วส่งตัวกลับไปแล้วผมจะตาย สุดท้ายตี1 ผมต้องออกจากกรุงเทพ ไปถึงนู้นตี3 ไปรับน้องที่ชายแดน เขาหลบหนีเข้ามาโดยมีม้าเร็วของชาวเขมรหลบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ

มีสายข่าวที่แม่นยำ ชัดเจนได้ไง?

เอกภพ : เราก็มีคนที่เราไว้วางใจได้ในพื้นที่ประสานข้อมูลกัน

บางทีแฟนเพจก็เป็นสายข่าวให้ด้วย ตอนเรื่องกะเทยขโมยเด็ก?

เอกภพ : ใช่ครับ อันนี้ประทับใจมาก เคสนี้เกิดขึ้นเดือนที่ผ่านมา กะเทยขโมยเด็กคนนึงน่ารักมาก เอาขึ้นรถเขาบอกจะไปที่จันทบุรี พอเขามาแจ้งเรา ผมก็โพสต์รูปน้องขึ้นไปเลย ขณะที่กะเทยคนนี้ไปซื้อตั๋วรถที่หมอชิต ลูกเพจที่เขาติดตามนั่งรถคันเดียวกัน เขาเห็นที่เราลง เขาแอบถ่ายรูปแล้วส่งมาเนี่ยอยู่เบาะข้าง ๆ นำไปสู่การจีบกุมได้ในที่สุด

แบบนี้มันมีสองมุม ชื่นชมเราก็มี ติเราก็มี เคยท้อจนคิดอยากจะเลิกทำไหม?

เอกภพ : ไม่ท้อครับ ตำหนิได้ แต่ถ้าตำหนิ แล้วพิมพ์สิ่งที่ไม่เป็นความจริง ฟ้องได้ครับ ผมทำ แรงก็แรงผม เงินก็ของพวกผม ไม่ใช่เงินคุณ ผมทำให้ฟรีไม่ได้คิดอะไรเลย ตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ถ้าผมฟ้องได้ ผมฟ้อง

คิดว่าจะช่วยคนแบบนี้ไปยาว ๆ เลยไหม?

เอกภพ : เท่าที่เราทำไหว

เอาเงินที่ไหนไปจ่ายแอดมิน?

เอกภพ : แอดมินรวยกว่าผมอีก แต่ละคนเป็นแอร์ เป็นเจ้าของธุรกิจ เจ้าของหมู่บ้านจัดสรร เราไม่เคยเสียเงินเลย เพราะเขามีฐานะกันอยู่แล้ว เราเสียแค่ค่าน้ำมันรถที่วิ่งไปช่วยเหลือประชาชนแค่นั้นเอง

ตอนนี้ทำมากี่ปีแล้ว?

เอกภพ : เข้าปีที่6 ครอบครัวเข้าใจ อยากให้พักผ่อนมาก ๆ แต่เราคิดว่าเราทำเท่าที่ไหว

ตอนอยู่เราร้องเรียนได้ง่าย ตายแล้วเราร้องเรียนได้จริงไหม นอกจากติดต่อกับคนแล้ว พี่ยังติดต่อกับผีด้วย?

เอกภพ : พี่ไม่ได้ติดต่อกับผีได้ พี่เจอเคสบางเคสงงเหมือนกันนะ ถ้าเกิดเป็นกรณีที่มาร้องเรียนขอความช่วยเหลือบอกว่าถูกผีเข้า เราก็คิดในใจ มันบ้าหรือเปล่า แต่พอเราคุยกับเขา มันเป็นไปได้นะ คือตัวน้องที่มาขอความช่วยเหลือเป็นผู้หญิง สามีรับราชการทหาร แล้วย้ายไปอยู่ที่นราธิวาส เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา วันสงกรานต์น้องผู้หญิงเดินทางไปหาสามีเขาที่นราธิวาส เขาเป็นคนพุทธ การศึกษาดี การงานดี น้องไม่ได้เชื่อเรื่องผีด้วยซ้ำ เขาไปหาสามีเขาที่นั่นแล้วเขาไปทานอาหารร้านนึงเป็นร้านใต้ ด้วยความคนภาคกลางไปกินอาหารใต้ เวลาไม่อร่อยเขาก็ทักเลย พอตอนกลางคืนนอน เขานอนไม่หลับ มันคั่นเนื้อคั่นตัว แล้วเขาเดินทางกลับมาที่กรุงเทพ เขาฝันผู้หญิงใส่ฮีญาบคลุมหน้ามายืนดูเขา คืนที่สองผู้หญิงคนนั้นมาอีกเหมือนเดิม แต่เปิดหน้า แต่หน้าเละหมดเลย เขามีความรู้สึกว่าจากที่เขาไม่ชอบกินอาหารใต้ อยู่ ๆ เขาอยากกินอาหารใต้แบบผิดปกติมาก จนวันที่สามเขาไปทำงานปกติ คุณแม่เขาซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลย โทรหาลูกสาวถามว่าตอนที่ไปใต้ไปทำอะไรมาไหม เพราะตอนที่ลูกฝันลูกก็ไม่ได้เล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่าแม่เห็นผู้หญิงใส่ชุดฮีญาบเดินอยู่ เขาเลยถามแม่ว่าเห็นเป็นยังไง ผู้หญิงที่อยู่ข้างล่างกับผู้หญิงที่น้องเขาฝันคือคนเดียวกันเป๊ะ

แล้วมาถึงมือพี่เอกยังไง?

เอกภพ : ตัวเขาอยากกินอาหารใต้มาก ไม่รู้จะหาทางออกยังไง เลยมาปรึกษาเรา ผมจะเอายังไงดี ผีเข้าก็ต้องช่วย ก็เลยทักไปหาพระอาจารย์อ๊อด วัดสายไหม ผมก็พาไปหาพระอาจารย์ พระอาจารย์ก็พูดคุยปกติ ท่านถืออะไรสักอย่างแล้วไปแตะที่ผู้หญิงคนนี้ อยู่ดี ๆ ก็พูดเป็นภาษายาวี ตัวสั่น พระท่านก็ทำพิธีกรรมของท่าน จากนั้นน้องเขาเริ่มดีขึ้น จนหายดีน้องเขากลับมาหาพระอีก 2 ครั้ง มันเป็นครั้งแรกที่ผมเจอ แล้วรู้สึกว่ามันเป็นไปได้ยังไง

แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับคดีที่เป็นวิญญาณมายังไง?

เอกภพ : คือไปรู้ตอนหลัง พระท่านบอกว่าให้กลับไปที่เดิมที่หนูไปทาน หนูอาจจะไปทักบางสิ่ง บางอย่างที่หนูไม่ควรพูด เหมือนกับไปดูหมิ่นเขาตรงนั้น กลับไปที่นู้นแล้วไปหาผู้นำศาสนาให้มาทำเรื่องนี้ สุดท้ายเขาก็ดีขึ้น 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ 

About Author