อิ๋งอิ๋ง สิทธิณี ช้ำ เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ลั่นไม่อโหสิกรรม อดีตสามี ทิ้งไปหาหมอนวด
อิ่งอ้อย สิทธิวดี พิธีกรสาวชื่อดังน้องสาว อิ๋งอิ๋ง สิทธิณี ที่ตอนนี้พี่สาวกำลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย พร้อมโพสต์ข้อความสั่งเสีย และแฉอดีตสามี งานนี้ทางครอบครัวและน้องสาวต้องให้กำลังใจตลอด พร้อมทั้งพี่อิ๋งอิ๋งโฟนอินเข้ามาตอบคำถามทุกประเด็น ทั้งเรื่องอดีตสามีสวมเขา หรือแม้แต่รสนิยมทางเพศของอดีตสามี พร้อมเปิดตัวลูกสาวคนสวยอิ่งอ้อย ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บSHOW ทางวัน 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ ชมพู่ ก่อนบ่าย และอาจารย์เป็นหนึ่ง ดำเนินรายการ
พี่อิ๋งตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้าง?
อิ่งอ้อย : มะเร็งลามไปหมดแล้ว จิตใจเราก็ต้องบิ้วท์ให้เค้าไปข้างหน้าต่อได้ เริ่มแรกมาจากรังไข่ ลามเข้าช่องท้องเข้าปอด ตอนนี้ต่อมน้ำเหลืองแล้ว ทำคีโมก็ต้องผมร่วงแพ้พิษคีโมสภาพผิวไหม้หมด
-โฟนอินพี่อิ๋งอิ๋ง-
เป็นไงบ้างวันนี้?
อิ๋งอิ๋ง : แข็งแรงดีค่ะ
หลังการให้คีโมเป็นยังไงบ้างค่ะ?
อิ๋งอิ๋ง : เหนื่อยมากค่ะ
หลังให้คีโมครั้งนึงต้องอยู่บนเตียง 14 วัน?
อิ๋งอิ๋ง : ใช่ค่ะ
เรื่องอาหารการกิน?
อิ๋งอิ๋ง : ทานได้ปรกติแต่ไม่อยากทานค่ะ
ยังทำงานอยู่เลย ทำไมไม่พัก?
อิ๋งอิ๋ง : ยังอยากทำงานอยู่ค่ะ เพราะเดี๋ยสหยุดหายใจคงไม่ได้ทำงานอีก
สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง?
อิ๋งอิ๋ง : ดีขึ้นค่ะ รู้สึกว่าโลกมันโหดร้าย โหดร้ายกว่าที่เราคิดเยอะ
โลกหรือมะเร็งอันไหนที่มันโหดร้ายกว่ากัน?
อิ๋งอิ๋ง : พอ ๆ กันค่ะ แต่มะเร็งเป็นเพื่อนเรา เราบอกตัวเองว่าเราเป็นหวัด หลอกตัวเองว่าเป็นหวัดทุกวันเดี๋ยวก็หาย คิดอย่างนี้บอกกับตัวเอง
ได้ยินพี่สาวบอกแบบนี้รู้สึกยังไงบ้าง?
อิ่งอ้อย : ในครอบครัวเค้าไม่ยอมบอกใครว่าเค้าเป็นมะเร็ง วันงานศพคุณแม่เค้าเองนั่งรถเข็น ทุกคนที่มางานก็ถามว่าทำไมพี่สาวต้องนั่งรถเข็น เราก็บอกว่าเค้าไม่ได้เป็นอะไร เค้าเป็นโรคร้ายแต่เค้าไม่พูดว่าเค้าเป็น พอเผาศพคุรแม่เสร็จหมดกฃเราต้องรู้ให้ได้ มันคาใจ เค้าไม่บอกว่าเค้าเป็นอะไร ด้วยวิธีของพี่คือ พี่ส่งแมสเซนเจอร์ไปโรงพยาบาลรามาธิบดี บัตรประชาชนเค้าไปคัดประวัติ แต่พี่พอดูออกที่หมอเขียนว่ามะเร็งระยะที่ 2 แต่เค้าปิดมาตลอดไม่ยอมบอก เราช็อคไปเลยว่ามะเร็งขั้น 2 แต่ทำไมไม่รักษา คำตอบที่ได้คือเงียบ มีคนอื่นที่เค้ารู้แต่ไม่ยอมบอกเรา เพราะเค้าสั่งให้ปิด
โฟนอินพี่อิ๋งอิ๋ง
ตอนนั้นทำไมถึงไม่บอกน้องสาวว่าเป็นมะเร็งขั้น 2?
อิ๋งอิ๋ง : ไม่อยากให้ใครต้องมาเสีย คิดว่าไปคนเดียวก็สบายดี ทุกคนจะได้ไม่ต้องมาเดือดร้อน
พอน้องรู้ รู้สึกยังไง?
อิ๋งอิ๋ง : ไม่อยากให้เค้าต้องมารับรู้ว่าเราเจ็บป่วยอะค่ะ
ถ้าวันนั้นพี่อิ๋งอิ๋งบอกตั้งแต่งานศพคุณแม่?
อิ่งอ้อย : เราไม่รออยู่แล้ว ไม่รอที่ว่าเค้าจะรักษาหรือไม่รักษา เพราะสุดท้ายก็ต้องรักษา คนที่เป็นมะเร็งไม่ว่าขั้นไหน ถ้าเริ่มรักาาดูแลตัวเองก็มีสิทธิ์ที่จะหายได้ หรือไม่คุณก็จะมีอายุที่มันยืนยาวไปอีก ทำไมจะไม่อยู่ด้วยกันล่ะ เราก็แปลกใจว่าทำไมเค้าไม่พูด เรามีพี่น้อง 3 คนแล้วเราก็รักกันนะใครเป็นไรเราต้องรู้
ไม่มีอาการแสดงออกมาเลย?
อิ่งอ้อย : เค้าป่วยแต่เราไม่รู้ว่าเป็นมะเร็ง เพราะว่าเค้า SLE ด้วย เราคิดว่าเค้าเป็นโรคพุ่มพวง ไม่คาดคิดว่าเค้าจะเป็นมะเร็ง
โฟนอินพี่อิ๋งอิ๋ง
น้องสาวบอกว่า “อย่ามาตายเพราะผู้ชายคนเดียว” รู้สึกยังไง?
อิ๋งอิ๋ง : ไม่ได้คิดว่าจะตายเพราะผู้ชายคนเดียว เค้าไม่มีค่าพอ
พี่อิ๋งเสียใจมากขนาดไหน?
อิ่งอ้อย : เสียใจค่ะ เสียใจมาก เพราะว่าเค้ายึดติดกับคนๆเดียว พอตรงนั้นหายไป เค้าเสียใจมาก
คิดอะไรอยู่ถึงพูดว่า อย่ามาตายเพราะผู้ชายเคนเดียว?
อิ่งอ้อย : นาทีนี้เป็นโรคมะเร็งก็ร้ายแรงแล้ว ต้องเริ่มรักตัวเอง มุมมองการใช้ชีวิตเราก็มีครอบครัว เรารู้ว่ามีสามีใช่ แต่เราก็ต้องรักตัวเอง เราไม่รู้ข้างหน้าคนที่เรารักมากที่สุด หรือรักเราที่สุด ณ เลานี้ ถ้าข้างหน้าเค้าเปลี่ยนไปเราต้องอยู่ได้ไง เราต้องมีชีวิตที่จะเดินต่อไปโดยที่ไม่มีเค้าก็ได้ แต่มุมมองของพี่ต้นนี้คือว่าคนที่เค้าเข้ามาอยู่ด้วยกันน้อยกว่าที่เราอยู่ร่วมกันอีก กับผู้ชายอยู่แค่ 15 ปี
โฟนอินที่อิ๋งอิ๋ง
ได้ฟังคำพูดน้องสาวแล้วมีความแข็งแรงในใจพอควรเลย พี่อิ๋งรู้สึกยังไงตอนนี้?
อิ๋งอิ๋ง : ขอบคุณที่ให้สติ
วันนั้นเกิดอะไรขึ้นถึงโพสต์ข้อความแบบนั้นลงโซเชียล?
อิ๋งอิ๋ง : มันเป็นที่สุดของชีวิตแล้ว ได้ฝากเป็นบทเรียนให้ใครหลายคน เป็นข้อคิด ทุกๆ 1 ปี พอครบรอบมันจะขึ้นมา คิดว่าจะเขียนไว้เป็นบันทึกความทรงจำของผู้หญิงคนนึงที่เอจกับเรื่องราวร้ายๆแค่นั้นเองค่ะ
พี่อิ๋งเปย์สามีหนักมากมา 15 ปีที่แต่งงานกัน ไม่เคยให้สามีทำงานเลย เงินเดือนเดือนละครึ่งแสน จริงมั้ย?
อิ๋งอิ๋ง : จริงค่ะ
พี่อิ่งอ้อยทราบมั้ยคะ?
อิ่งอ้อย : ทราบค่ะ พี่อิ๋งเป็นคนใจดี นางสายเปย์อยู่แล้ว แม้กระทั่งกับน้อง รถคันแรกในชีวิตพี่สาวก็ซื้อให้ค่ะ แล้วนางก็เปลี่ยนรถให้เรื่อย ๆ เราขับรถเค้าเอาชนเค้าก็ไม่ว่าสักคำ
เค้าเปย์น้องแล้ว เปย์สามีด้วย ได้ทักเค้าบ้างมั้ยว่าให้เยอะไป?
อิ่งอ้อย : ไม่ได้เรื่องอย่างนี้่คือพี่น้องก็พี่น้อง สามีครอบครัวเราต้องถอย เราอย่าเข้าไปยุ่ง เข้าไปยุ่งเมื่อไหร่เห่าได้ทันที เราก็นั่งดู พูดไม่ได้
โฟนอินพี่อิ๋งอิ๋ง
น้องสาวได้เตือนบ้างมั้ย?
อิ๋งอิ๋ง : น้องไม่ค่อยยุ่ง หรือพูดของอะไรเท่าไหร่ เวลามีปัญหาน้องถึงเข้ามาพูด
ห่วงพี่อิ๋งอิ๋งอาจไม่อยู่ทนรอวันสุดท้าย?
อิ่งอ้อย : มันน่ากลัว เพราะว่าทุกครั้งที่เห็นเค้าคีโมมันทรมานมาก ร้องปวด นอนซม นอนเป็นผัก เราไม่รู้ว่าโอกาสแค่เสี้ยววินาที ถ้าเค้าเลือกว่าเค้าไม่ทรมานแล้วมาเจอเรื่องสามีอีก เค้าพร้อมไป
โฟนอินพี่อิ๋งอิ๋ง
ทุกคนเป็นห่วงและเป็นกำลังใจให้มาก?
อิ๋งอิ๋ง : ขอบคุณค่ะ
ตอนที่อดีตสามีมาขนของออกจากบ้านพี่อิ๋งอิ๋งก็อยู่ในบ้านด้วย?
อิ่งอ้อย : อยู่ค่ะ พี่ก็อยู่ เราไม่ว่า เพราะเราไม่รู้ว่าเราถือว่า ณ เวลานั้นเราคือคนนอก เราต้องนั่งูและเป็นกำลังใจให้เค้าเฉยๆ เชียร์ให้เค้าเลิกกันไม่ใช่หรอก แต่เราต้องนิ่งแล้วดูเค้าเค้าไปแน่หรือปล่าว ถ้าเค้าไปโอเคให้เค้าไป
ตอนนั้นพี่รู้สึกวาเค้าเป็นคนนอก ตอนนี้เค้าเป็นคนนอกหรือยัง?
อิ่งอ้อย : เค้าเป็นคนนอกตั้งแต่ต้นสำหรับพี่
วันที่เค้าขนทุกอย่างไป อยากบอกอะไรกับเค้ามั้ย?
อิ่งอ้อย : ก็ต้องบอกว่าไปเถอะ อย่าอยู่เลย ไม่รั้งเชิญด้วย เราถือว่าพี่เราหมดกรรม
ความสุขของพี่สาวเรายังอยู่ที่เค้า?
อิ่งอ้อย : เราให้เค้าเลือกแล้ว บอกเค้าเลยว่าพี่อิ๋งตัดสินใจเอานะ ถ้าจะเอาเค้าไว้พี่น้องไม่มีใครว่า เพราะเราถือว่านั่นคือความสุข ถ้าพี่อิ๋งต้องมีระยะเวลาชีวิตอยู่ หมอบอกอยู่ได้ไม่นาน เลือเลยพี่น้องพร้อม เลือกแล้วแฮปปี้มีความสุขไม่มีใครว่า เค้าก็ตัดสินใจอยู่กับพี่น้องดีกว่า เค้าก็มีความสุข เราพร้อมจะทำพร้อมดูแล เรายินดี
พี่สาวเราใจผูกกับสามีมาก เคยคิดสักแวบจะไปเชิญเค้ากลับมามั้ย ให้ช่วงชีวิตของพี่อิ๋งช่วงนี้มีความสุข?
อิ่งอ้อย : ไม่ค่ะ แค่นี้พอแล้ว
โฟนอินพี่อิ๋งอิ๋ง
โพสต์เรื่องราวสามีนอกใจ วันนั้นเกิดอะไรขึ้น?
อิ๋งอิ๋ง : เค้าลืมปิดสปีคเกอร์โฟน
ความชอบในเรื่องของความรักที่ไม่เหมือนกัน?
อิ๋งอิ๋ง : ถ้าเกิดเค้าออกไปข้างนอกจะไม่รับสายใครเลย ต่อให้บ้านจะมีปัญหาพ่อเค้าจะเจ็บหรือจะล้ม เค้าจะไม่รับสายใครทั้งนั้นถ้าออกไปข้างนอก
มีเรื่องของรสนิยมทางเพศด้วย?
อิ๋งอิ๋ง : จริงค่ะ
พี่อิ่งอ้อยทราบด้วย?
อิ่งอ้อย : ทราบค่ะ พี่อิ๋งไม่เคยมีเพื่อนสาวตั้งแต่เด็ก เรามีเพื่อนสาวตั้งแต่เด็ก เราจะรู้ว่าลักษณะผู้ชายแบบนี้ออกสาวนะ เรดาห์จับได้
รู้ตั้งแต่แรกเลยมั้ย?
อิ่งอ้อย : เหม็นเขียวตั้งแต่ต้นค่ะ เรื่องอย่างนี้พูดไม่ได้
เราไม่กล้าเตือนพี่สาว ถ้าพี่สาวเตือนเราได้มั้ย?
อิ่งอ้อย : ได้ เราเป็นคนมีเซนส์ มองปุ๊ปใช่ไม่ใช่เรารู้ทันที
15 ปีที่ผ่านมามีคนเตือนเรื่องนี้มั้ย?
อิ๋งอิ๋ง : เวลามันผ่านไปเร็วมากจนเราไม่รู้ตัว วันๆพี่ทำงานเดินทางไปโน่นไปนี่ก็ไม่ได้ใส่ใจต่างคนต่างอยู่คนละห้องอยู่แล้ว ไม่ได้คิดไรเยอะแยะ แค่เป็นเพื่อนกันก้พอใจแล้ว
สุดท้ายเค้าขนของออกไป?
อิ๋งอิ๋ง : ที่เค้าขนของออก เพราะพี่ไล่เค้าออกจากบ้านด้วย เพราะพี่รับเค้าไม่ได้ ถามเค้าแล้วว่าเค้าจะเลือกใครระหว่างพี่กับผู้หญิงคนนั้น เค้าเลือกหมอนวด เลือกหมอนวดก็ไปเลย
ทราบว่าเค้านอกใจ แต่ยังทนมาอีกระยะนึง?
อิ๋งอิ๋ง : ไม่ได้ทนเลยค่ะ ทราบวันนั้นไล่วันนั้นเลย เค้าก็ไปเลย เพราะว่าให้เค้าเลือกแล้วว่าเลือกเราหรือผู้หญิงคนนั้น ถ้าเค้าเลือกผู้หญิงคนนั้นก็ต้องออกไป
เค้าขอโทษหรือยื้อมั้ย?
อิ๋งอิ๋ง : เค้ายื้อค่ะ แต่ว่าเรารับไม่ได้
พี่อิ๋งอโหสิกรรมมั้ย?
อิ๋งอิ๋ง : ไม่อโหสิกรรมค่ะ ทุกภพทุกชาติค่ะ
คิดว่าเค้าจะดูมั้ย ถ้าเค้าดูอยู่เป็นตัวแทนครอบครัวอยากจะบอกอะไรเค้า?
อิ่งอ้อย : คนที่เป็นกรณีกันเค้าคงไม่อยากดูตัวเค้าออกทีวีหรอกมั้ง ไปก็ดีแล้วค่ะ ไปเถอะค่ะ
โฟนอินพี่อิ๋งอิ๋ง
อยากบอกอะไรถึงอดีตสามี?
อิ๋งอิ๋ง : 15 ปีที่อยู่ด้วยกัน ไม่มีความดี ไม่มีความพอใจ ไม่มีความพอเพียงเลยหรอ อยากถามเค้าแค่นี้ให้ไปยังเยอะไม่พอใช่มั้ย เติมไม่เต็ม ถมเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเต็ม ทำไมถึงอยากมีความทุกข์ออกไปหาความทุกข์นอกบ้าน ไม่เข้าใจเหมือนกัน อยู่นอกบ้านมีความสุขใช่มั้ย ต่อไปนี้ไม่ต้องดิ้นรนแล้วทุก 4 โมงเย็นกระสับกระส่ายหาทางออกนอกบ้าน อยู่ให้สบายไปเลย
เรื่องนี้หรือปล่าวที่ทำให้เป็นสาเหตุพี่น้องทะเลาะกันที่ผ่านมา?
อิ่งอ้อย : ไม่ได้ทะเลาะค่ะ พี่อ้อยต้องพูดว่าไม่ทะเลาะ ถ้าทะเลาะคือต้องมีปากเสียงกัน แต่เราไม่ได้มีปากเสียงกัน เรารู้อยู่แล้วว่าพี่อิ๋งป่วย พี่อิ๋งเจอเหตุการณ์ร้ายๆหนักมาพอสมควรแล้ว เราเลี่ยงไม่ปะทะอยู่แล้ว
โฟนอินพี่อิ๋ง
ทะเลาะกับน้องสาวคนนี้บ่อยมั้ย?
อิ๋งอิ๋ง : ไม่เคยทะเลาะค่ะ พี่ไม่รับสายทุกๆคนเลย เพราะพี่ไม่อยากคุยกับใคร ใครโทรมาก็ไม่รับ
อิ่งอ้อย : ทุกคนที่ติดต่อไม่ได้ สุดท้ายเค้ามาติดต่อที่ใคร รับสายตั้งแต่เช้าตรู่ จนถึงเกือบเที่ยงคืนทุกวันืเราก็ตอบคำถามเหมือนเดิทซ้ำ ๆ
อยากบอกอะไรกับน้องคนนี้หน่อยมั้ย?
อิ่งอ้อย : เมื่อคืนก็บอกไปแล้วว่าเธอคือทุกๆอย่าง ดูรูปแม่แล้วรู้สึกแม่น้ำตาไหลก็เสียใจ
อิ่งอ้อย : เมื่อวานบรรยากาศอบอุ่นมาก 3 คนพี่น้องอยู่บนเตียงนอนจับมือกัน เค้าก็พูด น้ำตาไหล สุดท้ายเราก็มีกันอยู่แค่ 3 คน
ปกติจะพูดอะไรกับพี่สาว?
อิ่งอ้อย : เป็นคนที่พูดตรงมาก ก็ต้องสู้ ชีวิตที่เหลืออยู่คือมีความสุขอยู่กับพี่น้อง หลานๆดีกว่า ผู้ชายตัดทิ้ง เลิก
ตอนที่ตัวพี่อิ่งอ้อยเองไม่สบายลูกสาวอยู่เคียงข้างตลอด?
อิ่งอ้อย : ตลอดค่ะ เราได้มาจากการฉีดวัคซีน ฉีดเสร็จขึ้นเป็นวงเล็ก ๆ พอหลังจากฉีด 1 อาทิตย์ติดโควิดอยู่ที่โรงพยาบาล มันขึ้นมาพรึ่บเดียวตั้งแต่เท้าถึงหนังหัวเลย เราตกใจว่ามันเกิดจากอะไร เพื่อนสามีที่เป็นหมอเกาหลีเค้าจะรีเช็คเราตลอดว่าเป็นยังไง ที่นี่แนวทางการรักษายังไง ที่นั่นแนวทางการรักษาเป็นยังไง เป็นแบบนี้ต้องไปเข้าตู้ UV ซึ่งเข้า 1 ครั้งเท่ากับตากแดด 10 วัน พี่เข้ามา 38 ครั้งแล้ว
มีมี่ (ลูกสาว) : ตกใจค่ะ เป็นห่วง กลัวว่าเป็นโรคอะไรที่รุนแรงมากกว่าสะเก็ดเงิน เพราะว่าหนูก็ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสะเก็ดเงิน พอเห็นแม่เป็นหนูปลอบใจเค้า เราช่วยอะไรเค้ามากไม่ได้ ไม่เป็นไรแม่ คนสวย คนรวยเท่านั้นที่จะเป็น
อิ่งอ้อย : โรคสะเก็ดเงินเกิดจากภูมิคุ้มกันในร่างกายมันเพี้ยน มันสร้างภูมิคุ้มกันกับเชื้อโรคที่เข้าไปในร่างกายเรา แล้วมันมาต่อสู้กันออกมาที่ผิวหนังของเรา จากเป็นวงแค่เท่าเหรียญ 10 บาท ขึ้นเป็นวงกว้าง ขึ้นหน้า ขึ้นหนังหัว ทั้งตัว 3 โรงพยาบาล กินยาหม้อไม่หาย มันจะคันมาก
มีมี่ (ลูกสาว) : เวลาแม่ต้องทายาก็ไปช่วยเค้า มันขึ้นเยอะมากเป็นแผลเป็นด้วย พอเข้าใจเพราะเราเคยแพ้ยุง แต่เวลามันคันจริงๆ
หมอบอกว่าจะหายมั้ย?
อิ่งอ้อย : มีคนหาย ต้องหาย เพราะไปหาหมอเค้าจะคุมอาหาร ไม่ให้ทานอะไรที่เป็นเครื่องปรุงทุกอยางในโลกนี้ ทานได้แต่เกลือกับผัก
ลูกสาวพูดได้ 5 ภาษา?
มีมี่ (ลูกสาว) : ไทย อังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่นนิดหน่อย สเปนเพิ่งเริ่มเรียน
อยากให้เข้าวงการมั้ย?
อิ่งอ้อย : ได้ ถ้าลูกอยากไปทางไหนได้เลยค่ะ
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.05-14.05 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ อิ่งอ้อย สิทธิวดี