ถ้าเราได้สัมผัสความงามของโลกใต้ทะเล ความกลัวก็จะหมดไป ความสุขจะเข้ามาแทนที่

หลังจากที่ ณชนภชาญชัย (ครูน้ำ) ชายหนุ่มผู้รักการท่องเที่ยวสายผจญภัย ได้เปิดประสบการณ์ในการดำน้ำแบบ Snorkeling หรือ การดำน้ำตื้น เพียงครั้งแรก ก็เกิดต้องมนต์เสน่ห์ของโลกใต้ทะเลอย่างถอนตัวไม่ขึ้น จนอยากสัมผัสท้องทะเลให้ลึกขึ้นและใกล้ชิดขึ้น จึงได้เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการดำน้ำ จนได้รู้จักการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์วิ่ง (Freediving) และได้เริ่มเรียนรู้และฝึกฝนอย่างจริงจัง 

“เสน่ห์ของฟรีไดฟ์ คือ การกลั้นหายใจหรือใช้หนึ่งลมหายใจในการดำลงไปใต้น้ำ ซึ่งการที่เราไม่ใช้อุปกรณ์เยอะ ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของทะเล ทำให้ปลาหรือสิ่งมีชีวิตรอบข้างกลัวเราน้อยลง เข้ามาใกล้เรามากขึ้น เหมือนเราเป็นปลาตัวนึง” 

สำหรับข้อดีของการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ ครูน้ำเล่าว่า ทำให้ผู้ดำน้ำจดจ่ออยู่กับการกลั้นหายใจ ทำให้เราเข้าใจร่างกายของเรามากขึ้น รู้จักการหายใจมากขึ้น ได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองมากขึ้นเวลาที่เราอยู่ในน้ำ มันคือการทำสมาธิขั้นสูงแบบหนึ่ง ยิ่งฝึกมากจะยิ่งมีสมาธิสูงมาก สำหรับคนที่ฝึกเบื้องต้น จะได้ร่างกายที่แข็งแรงขึ้น ปอดแข็งแรงขึ้น เพราะปกติคนเราจะใช้ปอดไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่ฟรีไดฟ์จะช่วยให้เราพฒนาการใช้ปอดให้ได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเป็นกีฬาที่ค่อนข้างเซฟต่อไขข้อกระดูก   

จากความหลงใหลในเสน่ห์ของการดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ จึงฝึกฝนดำน้ำแบบฟรีไดฟ์อย่างจริงจัง ปัจจุบัน ครูน้ำได้ยึดอาชีพเป็นครูสอนฟรีไดฟ์วิ่ง ที่ Scuba Schools International (SSI)

ดูแลสิ่งแวดล้อมเรื่องสำคัญที่นักดำน้ำต้องรู้

จากประสบการณ์ในการท่องเที่ยวดำน้ำมาหลายสถานที่ ครูน้ำเล่าว่าประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวใต้ท้องทะเลที่สวยงามหลายแห่ง แต่ที่ประทับใจที่สุดมี 2 ที่ คือหมู่เกาะสุรินทร์ เป็นแหล่งที่มีปะการังเยอะที่สุดในประเทศ และสมบูรณ์สุดๆ เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะค่อนข้างตื้น ส่วนอีกที่คือ เกาะเต่า ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นโรงเรียนดำน้ำโลก ซึ่งต้องขอบคุณชุมชนเกาะเต่าที่มีความแข็งแรง ชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ให้นักดำน้ำทั่วโลกมาดู ฉะนั้นปลาที่นี่จะเยอะมากและไม่กลัวคน ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า การดูแลสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ธรรมชาติเป็นเรื่องที่นักดำน้ำรวมถึงประชาชนทั่วไปต้องให้ความสำคัญ

“การดำน้ำ ทำให้เราได้เห็นความสวยงามของโลกใต้ทะเล รวมถึงความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งใครที่ไม่ได้ดำน้ำก็อาจจะไม่เห็น หลายที่ที่เราเคยไปแล้วเห็นปลาเยอะ ๆ ก็เห็นน้อยลง ที่เคยเจอปะการังสวย ๆ ก็เจอปะการังฟอกขาว บ่อยที่สุดก็คือขยะ ที่อาจจะมาจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เช่น ทิ้งไม่ลงถังขยะ ลมพัดปลิวลงทะเล เต่าทะเลเจอเขาก็กินเพราะเขาไม่รู้ว่ามันกินไม่ได้ ขยะชิ้นใหญ่ที่สุดที่ผมเคยเจอคือ เก้าอี้ ซึ่งผมว่ามันไม่ควรมาอยู่ในทะเล นี่คือส่วนหนึ่งที่ผมสอนนักเรียน มันคือสิ่งเล็ก ๆ ที่ทุกคนทำได้ ถ้าเราช่วยกัน โลกก็จะดีขึ้น และเราก็จะเที่ยวกันได้อย่างมีความสุข”

เรียนดำน้ำเพิ่มความปลอดภัยต่อชีวิตและธรรมชาติ

ปัจจุบัน การดำน้ำแบบฟรีไดฟ์กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มคนทำงาน และนักท่องเที่ยวสายลุยที่มองหาความท้าทาย ในฐานะครูสอนดำน้ำ ครูน้ำมีข้อแนะนำว่า สิ่งแรกที่ผู้สนใจต้องทำ คือ เรียน ยิ่งได้เรียนกับสถาบันที่ได้มาตรฐาน จะช่วยให้มีความปลอดภัยในการดำน้ำ และถ้าสามารถปฏิบัติตามกฎได้อย่างเคร่งครัดตามที่ครูสอน นอกจากจะช่วยให้เราและเพื่อนร่วมทริปปลอดภัย ยังช่วยให้สัตว์โลกใต้น้ำมีความปลอดภัยในชีวิตเช่นเดียวกัน

“อยากให้คนที่สนใจ ได้มาเรียนอย่างถูกวิธี จะได้ไม่สร้างความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยง ต่อตัวเรา ต่อธรรมชาติ เช่น ถ้าเราไม่ได้มาเรียน เราอาจจะไม่ทราบวิธีการคอนโทรลตัวเองไม่ให้ชนปะการัง ซึ่งอาจจะทำให้ธรรมชาติเสียหาย หรือถ้าเราไม่เรียน ก็อาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิต หรืออาจจะไม่รู้วิธีแก้ไขปัญหา อาจเกิดการหมดสติในน้ำได้ ซึ่งการดำน้ำทุกประเภททั้งฟรีไดฟ์ สคูบ้า รวมถึงสนอร์กเกิล มีสอนตั้งแต่ดำน้ำพื้นฐาน ทำให้เราเกิดความมั่นใจ สามารถคอนโทรลตัวเองได้ และสามารถช่วยเหลือตัวเองเมื่ออยู่ใต้น้ำ”

สำหรับใครที่อยากดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ แต่ยังลังเล กล้า ๆ กลัว ๆ  ณชนภให้คำแนะนำว่า คนส่วนใหญ่กลัวเพราะไม่รู้ว่าในน้ำมีอะไร กลัวจะไม่สามารถหายใจ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองในน้ำ นักเรียนที่มาเรียนหลายคนก็มาพร้อมกับความกลัว แต่พอได้เรียน ได้มีพื้นฐานการว่ายน้ำที่ถูกต้อง รู้วิธีการกลั้นหายใจ รู้จักการคอนโทรลตัวเอง ผู้เรียนจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น กล้าที่จะสัมผัสทะเลมากขึ้น

ถ้าเราได้สัมผัสความงามของโลกใต้ทะเล  ความกลัวก็จะหมดไปความสุขที่จะอยู่ใต้ท้องทะเลก็จะเข้ามาแทนที่…” ครูน้ำกล่าวยืนยัน

ใครที่กำลังสนใจเรียนดำน้ำ กำลังมองหาโรงเรียนสอนดำน้ำที่มีมาตรฐาน อุปกรณ์ดำน้ำ หรือทริปดำน้ำเด็ดๆ สามารถไปหาข้อมูลได้ที่งาน Thailand Dive Expo 2024 มหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวดำน้ำครบวงจร (TDEX) งานที่รวบรวมสินค้าและบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 19 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งปีนี้จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อฉลองครบรอบ 20 ปีของการจัดงาน ยกขบวนสินค้าและบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวดำน้ำราคาพิเศษพร้อมกับแพ็คเกจสุดอลังการ จากผู้ประกอบการกว่า 300 บูธ 

สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและดูรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ www.thailanddiveexpo.com และเฟสบุ๊ค Thailand Dive Expo (TDEX)

About Author