น้องสาว “ใหม่” ร่ำไห้ฉะ “พร” ลั่น! ไม่ให้เงินแม้แต่สตางค์แดงเดียว ไม่แบ่งกระดูกให้
“เอกชัย” โลกอีกใบเจ็บปวด พรจีบก่อน – ไม่เคยบอกมีผัว เข้าไปในบ้าน ไม่เคยเจอของใช้ผู้ชาย
กรณี “ใหม่” หนุ่มโรงงานถูกยิงเจาะกะโหลก มัดมือมัดเท้า และนำศพไปทิ้งริมถนนมอเตอร์เวย์ ต่อมา มีวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์ผ่าน เห็นวิญญาณเฮี้ยนเต็มๆ คิดว่าเป็นคน วกรถกลับมาดู ก่อนพบว่าเป็นศพของใหม่ ซึ่งตอนแรก “พร” ภรรยาใหม่ ได้ออกรายการโหนกระแสร่ำไห้ ยันว่าตามหาตัวสามีที่หายไป ไม่รู้เลยว่าเป็นฝีมือใคร ต่อมาเรื่องโป๊ะแตกขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีการสืบจนรู้ว่าคนร้ายคือ “ช่างกิต” ชายชู้ของพร นอกจากนี้พรยังมีโลกอีกหลายใบซ่อนอยู่ โดยบอกโลกทุกใบว่าใหม่คือพ่อของตัวเอง ครอบครัวใหม่สุดรับได้กับเรื่องนี้ ประกาศตัดขาด ไม่อยากให้มรดก หรือสินสมรสกับพรสักสตางค์แดงเดียว เพราะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ใหม่ถึงแก่ความตาย
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 6 ก.พ. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ ปุ้ย น้องสาวใหม่, ปอนด์ ลูกพี่ลูกน้อง, ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความที่เข้ามาดูแลเรื่องมรดก, ฟิวส์-โย เพื่อนใหม่ , คุณแม่ของใหม่ , อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน, รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล, รวมทั้ง เอกชัย โลกใบที่ 2 ของพร
คุณรู้จักกับกิตมั้ย?
เอกชัย : เคยเจอ แต่ไม่เคยปะทะ เขารู้ว่าผมคบพร แต่ไม่เคยเคลียร์กัน
ถ้าคุณไปผิดเวลา คุณอาจเป็นเหยื่อแทนใหม่?
เอกชัย : ใช่ครับ
เรื่องราวของคน 5 คน สี่คนบอกโดนช่างกิตหลอกไป?
ปรเมศวร์ : คำถามคือใครเป็นคนมัด แล้วนำชี้ที่เกิดเหตุสลับไปสลับมา ตอนนั้นใหม่ก็น่าจะหนีได้ แต่ไม่มีคำตอบว่าตอนเจอศพ ทำไมต้องมัดมือมัดเท้า วันบายวันนี่ไม่มีทาง
อ.โต้งคิดว่ามัดคนเดียวได้มั้ย?
อ.โต้ง : ฟันธงว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะปกติธรรมชาติมนุษย์เราจะไม่มีใครยอมให้มามัด การมัดคือการควบคุมด้วยเครื่องพันธนาการ แสดงว่ามีจุดมุ่งหมายไม่ดี ไม่รู้สเต็ปต่อไปคืออะไร อาจจำไปสู่การฆาตกรรมได้อย่างกรณีเช่นนี้ แน่นอนครับทำคนเดียวผมว่าเป็นไปไม่ได้
ถ้าแค่มัดเฉย ๆ ถือว่ามีส่วนด้วยมั้ย?
ปรเมศวร์ : ตั้งแต่พาขึ้นรถก็ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพแล้วล่ะ ร่วมกันแล้ว ถ้าไปมัดมันก็โดน แต่ยังไม่ได้ข่าวว่าใหม่เขาเสียชีวิตตอนกี่โมง คดีการเสียชีวิต ต้องรู้หนึ่งสาเหตุการตาย เวลาที่ตาย สถานที่ตาย จุดนี้จะเป็นคำตอบทั้งหมด แต่ที่เป็นข่าวเรายังไม่ได้ยิน ได้ยินแค่ว่าไปพบศพ ใช้ปืนยิงจากด้านบนไปข้างหลัง ยืนยิงมั้ย
เท่าที่ทราบ เหมือนพอรู้ว่าตัวพรรักใหม่ เพราะมีการส่งไลน์คุยกัน ตัวกิตเลยโมโหหาที่เลยที่จะยิง ยิงในรถเสร็จก็หาจุดทิ้งเลย ประเด็นคือใครมัด?
ปรเมศวร์ : อีกประเด็นในรถมีร่องรอยเลือดมั้ย พนักงานสอบสวนอาจมีข้อมูล แต่เราไม่มี สำคัญที่สุดใครมัด ในวันที่ใหม่ไปทำงานตอนประมาณสี่ทุ่มวันที่ 27 ก็หายไปเลย แชตะวันที่ 28 เข้ามา คิดว่าคนแชตคงไม่ใช่ใหม่ วันนั้นตายหรือยัง หรือยังไม่ตาย ทำไมตีสี่พรถึงขับรถมอเตอร์ไซค์ตามหา มันมีอะไรบางอย่างที่ไม่เข้าใจ เพราะถามน้องเขาบอกว่าพี่ชายออกเวรแปดโมงเช้า แล้วมีเหตุผลอะไรที่ออกไปตาม
วันนั้นพรแจ้งว่าที่ออกไปตาม เพราะฝั่งใหม่ออกจากบ้าน สี่ทุ่ม หกนาที พรตอบว่าที่จำได้เพราะพรหลับแล้วตื่นมาเข้าห้องน้ำ แล้วมีการหอมลากัน เพราะทุกครั้งที่ออกจากบ้านจะมีการกอดหอมลากันทุกครั้ง พรว่าไม่มีอะไรน่าสงสัย พรดูนาฬิกา สี่ทุ่มหกนาที พรก็บอกว่าเขาไปนอน แล้วตื่นมาอีกทีเกือบตีสอง มีการส่งข้อความไปหาทีนึงก่อน ไม่ตอบ ตื่นมาอีกทีปวดท้องก็โทรหาแล้วไม่รับ ก็ส่งไลน์ ๆ สักพักมีคนส่งมาว่าไม่ต้องตามหาแล้วนะ เราทำผู้หญิงท้อง เลิกกันเถอะ ใหม่พยายามติดต่อหา แต่ติดต่อไม่ได้ พรก็โทรหานิคถามว่าใหม่ขึ้นรถหรือเปล่า นิคบอกว่าไม่ได้ขึ้น ก้เลยออกไปตามหาประมาณตีสี่กว่า แล้วส่งรูปให้ ตีห้าสามสิบแปด ผู้ตายบอกว่าไม่ต้องตาม ใหม่มาต่างจังหวัด ใหม่พยายามโทรหาตลอดเวลา ให้เขารับสายหน่อย เขาสงสัยเลยออกไปตาม อาจารย์โต้งสงสัยเหรอ?
อ.โต้ง : สี่ทุ่มหกนาทีที่บอกสะดุ้งตื่นขึ้นมา ผมว่าคุณพรรู้เวลา ว่าคุณใหม่จะออกจากบ้านช่วงไหน แล้วเป็นไปได้ว่าถ้าออกช่วงนี้ ถ้านัดใครอีกคนเข้ามา ต้องนัดช่วงเวลาไหนเข้ามา ถึงจำช่วงเวลาได้ว่าถ้านัดคนต้องนัดเวลาไหนเข้ามา ซึ่งก็เป็นเวลาที่สามีออกไป ตรงนี้พิสูจน์เจตนาแล้วว่าจะมีคนรู้หรือไม่รู้ว่าจะมีคนตามไปประกบและทำร้ายคุณใหม่เสียชีวิต ผมว่าตรงนี้มีอยู่เรื่องเดียว คุณพรเข้าใจสองคำผิดพลาด คือความรักกับความใคร่ จุดเริ่มต้นเรื่องนี้ทั้งหมด อีกประเด็นคุณพรโกหกคนทั้งโลกได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้ เพียงแต่ความท้าทายคดีนี้คือตร.จะหาความเชื่อมโยงพิสูจน์ใจของคนได้อย่างไรว่าเจตนาหรือไม่เจตนา เท่าที่ทราบ เงินประกันที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง มีขื่อคุณพรอยู่ด้วย
ทราบตัวเงินประกันหรือยังว่าเท่าไหร่?
ปุ้ย : มันจะเป็นแบบแม่ครึ่งนึง เมียครึ่งนึง คนละ 6 แสน เท่ากับ 1.2 ล้าน
เงินประกันนี้อาจารย์มองว่าไง?
อ.โต้ง : หลายคดีก่อนหน้านี้ ถึงแม้ไม่มีมือที่สามเข้ามา พบว่าผู้หญิงเป็นคนวางแผนฆาตกรรมหวังเงินประกันชีวิตสามี และระบุว่าถ้าเสียชีวิตผลประโยชน์กรมธรรม์จะตกอยู่กับใคร บางกรณีเราพบอย่างนั้น กรณีนี้ก็เป็นเรื่องการสืบสวน
ปรเมศวร์ : พอดูภาพ เอกเข้ามาตอนกี่โมง สรุปพรโกหกหมดเลย ก็จบแล้ว ที่พูดมาผมไม่เชื่อ เพราะหาความจริงไม่ได้เลย สี่ทุ่มหกนาที แต่พอดูภาพเมื่อคืน เอกเข้ามากี่โมง หยิบเป้ หยิบอะไรออกไป แสดงว่าพรพูดเฟกนิวส์ทั้งหมด ใหม่ยุ่งกับผู้หญิงอื่นมั้ย
ปุ้ย : ไม่มีค่ะ
ปรเมศวร์ : ก็จบแล้ว
แม่สนิทกับใหม่มั้ย?
แม่ใหม่ : เลี้ยงแค่อายุ 6 ขวบ พ่อเขาเสียตอนนั้น ก็เอามาให้ย่าทางนี้เลี้ยง
ปุ้ย : พ่อแม่พี่ปอนด์เลี้ยงพี่ใหม่มา
ปรเมศวร์ : ใหม่เจ้าชู้มั้ย
โย : ไม่เลย เป็นคนอัธยาศัยดี ใจเย็น ดูแลทุกอย่าง
เขาเคยบ่นเรื่องเมียมีโลกอีกใบมั้ย?
โย : ไม่ครับ เขาไม่อยากให้ใครไปด่าพร เดี๋ยวดูไม่ดี
ปรเมศวร์ : มันแปลก ๆ นิดนึง หลักกฎหมายคือทำยังไงล่ะ ใช้คนอื่นกระทำโดยตัวเองไม่ต้องกระทำ ซึ่งมันพิสูจน์ยาก เหมือนผมเห็นโทรศัพท์อ.โต้ง ผมบอกหนุ่มหยิบให้หน่อย หนุ่มไม่รู้ก็หยิบให้ผม ซึ่งนั่นคือการลักทรัพย์ เหมือนกันจุดประเด็นการตั้งครรภ์ก็เหมือนจุดเร่ง ที่ฟังแล้วประมวลผล ช่างกิตสุดท้ายเป็นคนนิ่ง แต่ก็อารมณ์ร้อน พอรู้ว่าท้องก็ขอตัดวงจรขอเป็นคนเดียวได้มั้ย อย่างนั้นหรือเปล่า จุดตรงนี้ที่เราดูภาพอยู่ผมว่าพรเขาฉลาด เขาน่าจะรู้เรื่องบางเรื่อง พอไล่มาหมด เราพิสูจน์ความเชื่อมโยงไม่ได้ ผมคุยกับอ.โต้ง เอาสิ่งที่พรพูดในโทรทัศน์ให้กิตดูสิ ตั้งแต่พี่กิต จนถึงไอ้กิต
ตอนหลังอาเฮียเลย?
ปรเมศวร์ : นั่นแหละ เอาไปให้เขาดูแล้วถามดูว่าเขาคิดยังไง ผมว่าต้องมีอะไรบางอย่าง ไม่แนะนำตร.นะ ตร.เขาเก่งกว่าเราอยู่แล้ว
ญาติพี่น้องสงสัยว่ามีคนอื่นอีกมั้ยร่วมกระทำความผิด สิ่งที่อ.ปรเมศวร์พูดมาคุยกันนอกรอบ ทนายว่าไง?
ไพศาล : เหมือนหลอกใช้ให้ฆ่ากัน เชื่อว่าตร.ก็สงสัย อาเรวัชก็มองเรื่องนี้อยู่ มานี่โกหกทุกเรื่อง ที่เขาพูดในงานศพว่าขอสารภาพ มีความสัมพันธ์กับกิต เขาไม่ได้สารภาพ เขาจนต่อหลักฐาน มันไม่ใช่การสารภาพ การฆ่าแบบนี้ ผมมองว่าเป็นผู้ใช้หรือเปล่า
อ.โต้งคิดว่าจะมีส่วนรู้เห็น?
อ.โต้ง : จริง ๆ แล้วความยากอยู่ตรงที่ต้องพิสูจน์ยังไงว่าเป็นผู้ใช้ การพบในแชตไม่เจอเลยนะว่ามีการใช้ให้ไปทำโน่นนี่ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนนี้ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ได้ใช้ แต่ทำไมช่างกิตรู้เวลาออกจากหมู่บ้าน การตามประกบ รู้ว่าต้องไปขึ้นยานพาหนะจุดไหน หมายความว่าผู้ก่อเหตุเองต้องเฝ้าคนนี้มาก่อน หรือได้ข้อมูลจากใคร
ใหม่เข้ากี่กะ?
โย : 3 กะ เช้า บ่าย กลางคืน อยู่ที่เขาจัดให้ยังไง พรรู้คนเดียว
จะบอกว่าพรกับหัวหน้างานจะรู้ว่าใหม่ออกจากบ้านเวลาไหน ต่อให้คนนั่งเฝ้า ก็ไม่ใช่ เพราะกะแล้วแต่ถูกจับลงวันไหน?
ปรเมศวร์ : ถ้าดูจากภาพกล้องวงจรปิด กิตเขาไม่ได้ไปนานนะ แป๊บเดียวก็ตามได้เลย นี่คือจุดที่น่าสงสัย
ไพศาล : ผมสงสัยตั้งแต่ถอยรถแล้ว รู้ได้ไงว่าเขาเข้างานเวลานี้ ๆ มีแค่สองคนที่รู้ เอาหัวหน้างานมาสอบ ถ้ากิตไปนั่งเฝ้า ให้ไล่ย้อนหลังสามวัน มึงไม่รู้หรอกเขาเข้าเวลาไหน ภาษาชาวบ้านคือต้องมีคนบอก
อ.โต้งก็ตั้งประเด็นนี้?
อ.โต้ง : ครับ คิดว่าคนรู้ช่วงเวลาออกจากบ้านน่าจะเป็นคุณพร เพราะอยู่ใกล้ชิด สองเขาจำเวลาได้อีกว่าสี่ทุ่ม หกนาที ช่วงเวลาจำเป๊ะ ๆ คือมีส่วนมั้ยที่จะส่งสัญญาณบอกว่าตอนนี้ออกจากบ้านแล้ว มีส่วนมั้ยกำลังนัดใครอีกคนให้ไปพบที่บ้าน จึงจำเวลาได้ อีกประการนึงที่สงสัย มีการปรากฏผ่านสื่อหลายช่องว่าก่อนหน้านี้ไปตาม ช่วงเวลาไปตาม ทำไมมีการถ่ายภาพว่าไปตามอยู่ตรงนี้แล้ว อีกมุมคือรักมากต้องทำแบบนั้น หรือสองพยายามสร้างถิ่นที่อยู่ว่าตัวเองอยู่ตรงนี้ และตามแล้ว ต้องเรียนว่าปัจจุบันอาชญากรคนร้าย เขาก็ดูรายการคุณหนุ่มนะ เขาก็เรียนรู้นะว่าตร.ทำงานยังไง สืบสวนยังไง ทำงานยังไงให้จับได้ ทำงานยังไงให้จับไม่ได้
เขาคิดว่าใหม่ไปนั่งดื่มกับเพื่อน ๆ แถวนั้น?
ปรเมศวร์ : เป็นไปไม่ได้หรอก เขาไปทำงาน ก็รู้ไปทำงานออกกะ 8 โมงเช้า จะไปอิมเมจว่าไปดื่ม ไม่ใช่ แล้วผมคุยกับอ.โต้งวันก่อน การเอาผู้ชายอีกคนมาอยู่ นี่คือการอ้างฐานที่อยู่ฉันไม่เกี่ยว มีพยานยืนยัน
ไพศาล : ผมคิดตั้งแต่วันแรกแล้ว คนบ้าอะไรจะถ่ายตามคน แล้วคนอะไรจะได้ สี่ทุ่มหกนาที มันผิดปกติ
ฟิวส์ : เขาต้องนัดใครอีกคนเข้ามา ต้องรู้ว่าใหม่ออกเวลานี้
เอกชัยวันนั้นเขานัดคุณยังไง?
เอกชัย : ถ้าจำไม่ผิด โทรมาหลังสี่ทุ่ม เพราะผมเลิกงานสี่ทุ่ม เขาโทรมาบอกว่าให้มาหาหน่อย เพราะพ่อไปทำงานแล้ว
คบนานแค่ไหน?
เอกชัย : ประมาณ 3-4 เดือน ที่จำได้ ทุกครั้งเขาโทรมาเรียกเอง ผมไม่มีสิทธิ์นัดเลย เขาเป็นคนเดียวเลยที่บอกผม
คุณคิดว่าพ่อดุมาก ผู้ชายเข้าบ้านไม่ได้ เขาก็เมเมทเวลาว่าเวลานี้มาได้?
เอกชัย : ใช่ครับ
ไพศาล : คุณไปพูดอีกรายการว่าคุณไม่ได้เข้าบ้านพร แต่วันนี้คุณบอกว่าคุณเข้าแล้ว
เอกชัย : เพราะว่าเขาไม่ได้เอากล้องวงจรปิดที่ว่าผมเดินออกจากซอยให้ผมดู เขาให้ผมดูแค่ว่ารถที่เข้าจากหน้าหมู่บ้าน ผมยืนยันว่าตรงนั้นไม่ใช่รถผม แต่พอจบรายการไปแล้ว ลูกน้องพี่ยอดได้ภาพวงจรปิดมาอีกที ผมถึงยอมรับว่าเป็นผม
ถ้าไม่เห็นว่าเป็นกู กูก็ไม่รับหรอก?
เอกชัย : ใช่ เพราะตอนนั้นมันไม่ใช่ผมจริง ๆ ที่ทางเข้า รถที่มีสติ๊กเกอร์ที่ขอบ ไม่ใช่รถผม
คุณเข้าไปได้ยังไง?
เอกชัย : ผมใช้ใบขับขี่สาธารณะแลกไว้ครับ ยื่นให้เขา เขาก็เอาไปแต้มที่กล้องวงจรปิด
ไพศาล : คุณรู้คุณทำอะไรอยู่ทำไมคุณไม่พูดไปเมื่อวาน คุณเข้าหรือไม่เข้า ต้องเอาภาพมาเปิดว่าไม่ใช่รถผม คุณเข้าไปไง
เอกชัย : ผมไม่ได้จดว่าผมเข้าไปวันไหน เวลาไหน เพราะผมมัวแต่ยุ่งเรื่องงาน ผมวิ่งงานหลายที่ ผมก็เอางานก่อน
ปรเมศวร์ : จริง ๆ เป็นเรื่องน่าสนใจ คีย์เวิร์ดสำคัญวันนี้คือกิต กิตจะยอมเล่าความจริงมั้ย ตอนนี้พยานหลักฐานลอยเคว้งอยู่รอบตัวพรหมดเลย ทั้งมีคนมาอ้าง ทุกอย่างขัดแย้งหมด ที่เล่าวันแรก เฟกนิวส์ตลอด ถ้ากิตยอมพูดมา แม้จะเป็นคำซัดทอด แต่ถ้าเล่าออกมาจะเชื่อมโยงทุกจุด ไม่แปลกใจหรอกที่โกหกคุณหนุ่ม แล้วก็ไม่แปลกใจที่เขาโกหกว่าท้อง เพราะกิตเป็นคนจริงจังมาก หลงหัวปักหัวปำ แล้วเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน เขาตัดสินใจเด็ดขาดนะ นิ่งมาก จากการพาไปแจ้งความ พาไปดูศพ พฤติกรรมคนแบบนี้ จำไว้อย่าง คนที่เป็นนักฆ่าหรือมือปืน พวกนี้จะเงียบ เก็บหมดทุกเรื่อง แต่ทำได้ทุกอย่าง
เป็นไปได้มั้ย สมมติพรเองไม่ได้เป็นคนพูด แต่พฤติกรรมบางอย่างของพร เป็นตัวไปกลั่นเป็นตัวบังคับ เช่น ฉันอยากเลิกกับใหม่เหลือเกิน แต่ใหม่ไม่ยอมเลิกกับฉัน ท้องด้วย มีลูกอยู่ วันนี้มีปัญหากับใหม่อีกแล้ว ใหม่ก็ด่าโน่นนี่นั่น ถ้าพูดคำนี้ออกไป แล้วคนที่รักและกำลังจะมีลูกกับผู้หญิงคนนี้ ตัดสินใจฆ่าอีกคนได้มั้ย?
อ.โต้ง : ผมว่าเป็นไปได้ พรเป็นนักจิตวิทยาตัวยง โดยไม่ต้องเรียนจิตวิทยา ดูจากการคบคน การเจรจา เช่นบอกว่าท้อง พอคนถามใหม่ว่าทำไมไปบอกว่าท้อง เขาบอกเรียกร้องความสนใจ การเรียกร้องความสนใจด้วยการบอกว่าท้อง ทำให้คนนึงจริงจังกับชีวิตขึ้นมาและสามารถทำอะไรก็ได้ เขาก็รู้ว่าคนนี้นิสัยเป็นอย่างไร เพื่อกดดันให้คนนั้นกระทำหรือไม่กระทำ ตรงนี้ถ้าตร.มีการสอบกิตเพิ่มเติม หลักฐานไม่ต้องปรากฏในร่องรอยการสนทนาอย่างเดียวก็ได้นะครับ แต่การสอบปากคำ เรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร ก็จะต่อจิ๊กซอว์ที่เกิดขึ้น ว่าเกี่ยวข้องอย่างไร
ปรเมศวร์ : ผมว่าเป็นการหลอกใช้ เหมือนปกครองให้แตกแยกแล้วมันจะทะเลาะกันเอง ผมคิดอย่างเดียว ถ้าเอาภาพทั้งหมดที่พรให้สัมภาษณ์ไปเปิดให้กิตดูทีละตอน ๆ แล้วถามกิตเขาพูดถูกมั้ย คน ๆ นี้อาจคายอะไรให้เราเห็นก็ได้
มองว่าการที่จะให้ใครคนใดคนหนึ่งไปสังหารใครคนใดคนนึง บางครั้งไม่ต้องไปพูดไปกล่าว?
อ.โต้ง : อย่างเคสนครปฐม ที่สารวัตรรุ่นน้องตร.โดนยิงเสียชีวิต ทั้งที่ไม่มีเหตุโกรธเคือง คนยิงถามนายเขาว่าใช่คนนี้มั้ย ตรงนั้นอาจเป็นการส่งสัญญาณว่าเป็นคนนี้ เช่นพยักหน้าก็ยิงเลย ก็คล้าย ๆ กัน รู้ว่าคนนี้มีนิสัยแบบนี้ก็เติมไปเรื่อย ๆ ว่าจะเลิกแล้ว ตั้งท้องแล้ว ประเด็นสงสัยคือทำไมถึงรู้ช่วงเวลาการออกจากหมู่บ้าน
มีเหตุการณ์อยากเลิก พรเคยบ่นกับใครมั้ย?
โย : ไม่เคยครับ
ฝั่งโน้นไม่เคยรู้เรื่องใหม่เลย?
เอกชัย : ไม่เคยรู้เลยครับ คิดว่าเป็นพ่อครับ
รักพรมั้ย?
เอกชัย : รักครับ เพราะเขาบอกว่าไม่มีใครครับ
ถ้าวันนึงพรมาบอกว่าท้องกับคุณ มีผู้ชายคนนึงมาวุ่นวายกับเขา ไม่ยอมเลิกกับเขา เกะกะจังเลย ทำยังไงดี คุณจะทำยังไงกับผู้ชายคนนั้น?
เอกชัย : ก็เคลียร์กับผู้ชายคนนั้นครับ
ก็เป็นคำตอบคำนึง?
ปรเมศวร์ : มันก็ชัด แต่จุดเชื่อมโยงที่สำคัญมันยังมาไม่ถึง แต่ก็เชื่อว่าตร.มีความสามารถพอ ใจเย็น ๆ น้องผู้หญิงกับผู้ชายที่ไปในรถ ก็เชื่อว่าถูกหลอกใช้ แต่อยู่ในเหตุการณ์ ทฤษฎีตามกฎหมายไปด้วยกันมาด้วยกัน ถือว่าร่วมกันในบางเรื่อง เลือดสุพรรณ โดนด้วยกัน
ฟังเรื่องทั้งหมดตกใจมั้ย?
เอกชัย : ตกใจครับ พี่ผมโทรมาบอกว่าพรออกโหนกระแส ผมก็เปิดเข้าไปดู รายการตอนนั้นไม่ได้สดแล้ว ซึ่งก็เป็นพรจริง ๆ พี่บอกเมียมึงออกโหนกระแส ผัวเขาตาย เขาถามว่าผมตายหรือเปล่า ผมก็บอกว่าจะตายได้ไง นั่งทำงาน ก็ดูไปเรื่อย ๆ ถึงรู้
เขาใส่มาสก์ คุณจำได้เหรอ?
เอกชัย : จำได้ครับ เขาเคยใส่มาสก์แบบนั้น ยังไงผมก็จำได้ว่าเป็นพร
พูดง่าย ๆ เขาก็เมียคุณเหมือนกัน จะจำไม่ได้ได้ไง?
เอกชัย : ใช่ครับ
อ.โต้ง มีโอกาสเป็นไปได้ ที่บางครั้งไม่ต้องไปพูดไปจ้าง แค่สัญญาณพฤติกรรมส่งออกไป ก็ทำให้อีกคนคั่งแค้น และไปจัดการคนนั้นได้?
อ.โต้ง : มีความเป็นไปได้ แต่ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่ายังไง ถ้าพิสูจน์ตามร่องรอยหลักฐาน การสนทนา โทรศัพท์ ถ้าไม่มีก็พิสูจน์ยาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะพิสูจน์ไม่ได้เลย วิธีการอาจต้องมีการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุว่าก่อนหน้านั้นมีการพูดคุยกับทางนี้อย่างไร แต่เห็นด้วยกับที่อ.ปรเมศวร์บอก ว่าน่าจะรวบรวมคลิปที่พรออกรายการคุณหนุ่มก่อนหน้านี้ ช่วงแรก ๆ ด้วย รวมทั้งหลัง ๆ เรียกพี่กิตเป็นไอ้ แล้วเป็นไอเฮีย คนก่อเหตุอยู่ในเรือนจำจะไม่รู้เรื่องราวเหล่านี้ ถ้าเขาเห็นสิ่งเหล่านี้ ถ้าเขาคิดว่าเขารักผู้หญิงคนนี้ จริง ๆ อาจไม่ใช่อย่างที่เขาคิด หลายสิ่งหลายอย่างอาจทำให้เขาเปลี่ยนใจ
เหตุการณ์คืนนั้น มีรถคันสีแดงคันนึงวิ่งไปในหมู่บ้าน แล้ววิ่งตามรถใหม่ออกมา สิ่งที่พูดวันแรก ผมว่ามันผิดปกติมาก เพราะมันพุ่งข้ามลูกระนาดโดยไม่มีการเบรก เราสงสัยว่าทำไมเขาไม่เบรก?
อ.โต้ง : ถ้าย้อนดูขาเข้า เจอลูกระนาด เขาชะลอ
อันนี้ดอกแรก ทำให้ทางเราสงสัย ว่าไอ้นี่ต้องมีส่วนแน่เลย แต่ผิดอย่างเดียวคือหลังคาเป็นสีดำ ยี่ห้อสวิฟท์ เพราะจริง ๆ หลังคาเป็นสีแดง วันนั้นเราคุยกับคุณพร ถามว่าในหมู่บ้าน มีรถสีแดง หลังคาสีดำมั้ย ผมอาจผิดก็ได้ เขาบอกไม่มี มีแต่สีแดงคันเดียว จอดอยู่ข้างใน วันนั้นเรามีโอกาสพูดกับคุณพรในเที่ยงวันทันเหตุการณ์ คุณหมวยถามว่าจำได้มั้ย คุณกิตมีรถคันนี้ เขาบอกว่าเขาจำได้ตอนเพิ่งมีข่าว?
ฟิวส์ : (ส่ายหัว ไม่เชื่อครับ คบกันมา 4 เดือน ต้องเคยนั่งรถคันนี้ด้วย
เขาบอกเขาคบเดือนเดียว?
ฟิวส์ : เขาโกหกพี่หนุ่ม แค่นี้เขายังโกหกพี่หนุ่มเลย
โย : ถ้าไม่จำนนต่อหลักฐานก็ไม่ยอมรับหรอกครับ เพราะมีคลิปเห็นว่าขับมาหาด้วยก่อนวันเกิดเหตุ รถคันนี้ แล้วจะไม่รู้ได้ไง
อาจเป็นความผิดของเราเองด้วย ที่บอกหลังคาสีดำ พรก็เลยบอกว่าไม่มี แต่มีภาพที่มีการล้างรถกันอยู่ ก็ยืนยันได้ส่วนนึงว่าพรต้องรู้ จะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้?
อ.โต้ง : ที่มาออกรายการคุณหนุ่ม จริง ๆ ใจรู้อยู่แล้ว ก็สะท้อนเจตนาว่าน่าจะต้องมีการส่งสัญญาณบอกมั้ยว่าตอนนี้คุณใหม่ออกจากบ้านแล้ว ถึงเกิดภาพนี้ตามมา เช่นการบอกว่าไม่รู้ เป็นข้อพิรุธแล้วล่ะครับ
ไพศาล : ผมเอ๊ะทุกเอ๊ะตั้งแต่มาออกรายการโหนครั้งแรก ที่พูดว่าไม่รู้อะไรเลย จนอาเรวัชจับพิรุธได้ จนมาสารภาพกลางงาน ผมสงสัยว่าคุณเพิ่งรู้เรื่องประกันเดือนนึง ว่าใหม่ทำประกันให้ แล้วไปบอกแม่ให้เซ็นโอน แล้วไปบอกกิตว่าท้อง ถ้ากิตรักมากหลงมาก แล้วคนอะไรจะขับรถมาตามผัว เกิดการตายหวังผลอะไรหรือเปล่า กิตจากพฤติการณ์จากข่าวเคยทำร้ายทุบตีภรรยาเดิม ก็กลายเป็นว่าเหมือนปล่อยหมาดุ พอปั่นเรื่องนี้เข้าหน่อยก็กัดเขาเลย
อ.โต้ง : ธรรมชาติของคน ตื่นมาเข้าห้องน้ำ จะดูนาฬิกาเป๊ะ ๆ มั้ย
ไพศาล : เป็นสิ่งที่ผมคิดเลย กูไม่ดู (หัวเราะ)
เขาบอกตื่นมา 02.40 ส่งบอกเขาว่าไอเจ็บซี่โครง?
อ.โต้ง : คุณพรบอกว่ามีการบอกกันว่าไอ เจ็บซี่โครง ต้องดูว่าบอกกันอย่างไร ต้องไปดูว่าสิ่งที่เขาพูดจริงมั้ย ก็เป็นประเด็นว่าทำไมเรื่องเวลาถึงค่อนข้างจะแม่นเรื่องนาที ธรรมชาติมนุษย์จะไม่มีใครจำเวลาเป๊ะขนาดนั้น นอกจากเกิดเหตุ หรือนัดหมายใครไว้ แล้วหลังจากนั้นก็ออกไปตาม มีการแสดงถิ่นที่อยู่โชว์ภาพกลับมาในไลน์ ตรงนี้ก็เป็นคำถามเหมือนกัน คุณพรมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคุณใหม่หรือไม่ ตรงนี้ต้องตีให้แตก เพราะเป็นการให้ความยุติธรรมกับผู้เสียชีวิต ส่วนสี่คนที่ไปกับคุณกิต ผมว่าพูดไม่หมด เพราะถ้าคุณกิตไปคนเดียว ก็ยากที่จะมัดคน ๆ นึงถ้าเขาไม่ต่อสู้ขัดขืน ถึงแม้ใช้ปืนจี้ มัดตัวเอง แต่ต้องมีคนช่วยมัด ประเด็นต่อมา คำถามคือใครล่ะที่ช่วยมัด ผู้ต้องหาให้การอย่างไรก็ได้ แต่ตร.ต้องไปเช็กต่อ ถ้าแยกสอบผมว่าต้องพบอะไรบางอย่าง
คุณรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เป็นธรรมกับครอบครัวฝั่งใหม่เลย อยากให้เป็นยังไง?
ปอนด์ : อยากให้จับคนร้ายได้ ถ้าพรจะมีใครอีกบ้างก็ขุดมาให้หมดเลย เพราะจะทำให้พรเขาดิ้นรนพอที่จะบอกว่ามีใครร่วมกับทางคนร้ายหรือเปล่า
ปุ้ยมาหาทนายไพศาลทำไม?
ปุ้ย : หนูไม่เคยสงสัยพี่สะใภ้เลย จนเขามีการพูดว่าเขาจะเป็นผู้จัดการมรดก ให้แม่เซ็นมอบอำนาจให้ หนูก็คุยกับแม่ว่าโอเค แม่เซ็นให้เขาไปเหอะ เพราะเขาหามาด้วยกัน แต่อะไรที่เป็นของแม่ต้องได้ แม่ก็ต้องได้นั่นแหละ ไม่ต้องกลัว เซ็นให้เขาไปเถอะ พอมาออกอย่างนี้ปุ๊บ หนูไม่อยากให้เขาแตะอะไรของพี่หนู (ร้องไห้) สตางค์แดงเดียวก็ไม่อยากให้ เขาเป็นต้นเหตุ (หัวเราะ) ถึงเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เขาคือต้นเหตุ (ร้องไห้)
ล่าสุดเขาบอกอันไหนไม่สบายใจเขาก็จะไม่แตะ?
ปุ้ย : ก็ขอให้เขาทำเหมือนที่เขาพูด (ร้องไห้)
กระดูกจะแบ่งให้เขามั้ย?
ปุ้ย : ไม่
ปอนด์ : ผมจะเอาไปทำบุญ ให้เขาไปไม่รู้เอาไปทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า เราก็กลัวตรงนั้นด้วย แต่ถ้าอยู่กับเรา เราทำบุญแน่นอน
อยู่ในสายกับ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ตอนนี้หลายคนสงสัยหลายประเด็น เรื่องเชือก เท่าที่คุย หลายคนไม่เชื่อว่านายกิตมัดคนเดียว?
พล.ต.ต.นเรวิช : คดีตอนนี้เป็นคดีที่คลี่คลาย แต่ยังไม่สิ้นสุด อย่าว่าแต่คุณหนุ่มสงสัย ผมก็สงสัย เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ต้องเรียนว่าเราเดินตามหลักฐาน ไม่ว่าจะเรื่องการดำเนินคดีกับคนต่าง ๆ ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างสืบสวน หาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมทุกประเด็น เรื่องมัดเชือกผมตั้งสมมติฐานบนโต๊ะเลยว่านายกิตจะมัดเชือกได้อย่างไร ถ้ามัดมือแล้วเท้าทำอะไร ถ้ามัดเท้าแล้วมือทำอะไร ตร.ไม่ได้เชื่อ แต่ ณ ขณะนี้คดีเข้าสู่กระบวนการสอบสวน เราต้องเดินด้วยพยานหลักฐาน ทุกทีมก็มุ่งหาพยานหลักฐานยืนยันในส่วนนี้ ส่วนข้อสังเกตใครจะเป็นคนมัด ส่วนนายโอ๊ตเดินทางกลับเมื่อไหร่ตร.มีข้อมูลนะครับ ก็อยู่ระหว่างนำข้อมูลทางเทคนิคมาเชื่อมโยงเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น อย่าลืมว่าคดีนี้อัตราโทษสูง ตร. และพนักงานสอบสวนต้องทำให้ศาลปราศจากข้อสงสัย
วันนั้นท่านเองอาจสงสัยพรเหมือนกัน ท่านเลยจับตาดูอยู่?
พล.ต.ต.นเรวิช : เป็นสมมติฐานเบื้องต้นครับ
โทรศัพท์กับปืนยังไม่เจอ?
พล.ต.ต.นเรวิช : วันที่เราจับกุมผู้ต้องหา เขาค่อนข้างช็อกกับเหตุการณ์ เขาไม่คิดเลยว่าตร.จะทราบว่าเขาเป็นผู้กระทำความผิด วันนั้นเราได้ข้อมูลบางส่วน ก็เป็นสิทธิ์ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้
จะมีหมายเรียกอีกสองหรือเปล่า?
พล.ต.ต.นเรวิช : ข้อสงสัยหรือสมมติฐาน หรือเทคนิค เราจะทำความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฏให้ได้ บุคคลต่าง ๆ อาจเป็นพยานในคดีหรือร่วมกระทำผิดที่เราค้นพบในภายหลังได้
ณ วันนี้ตัดประเด็นพรทิ้งเลยมั้ย?
พล.ต.ต.นเรวิช : ต้องเรียนว่าพยานหลักฐานยังไม่ถึงครับ แต่ยังไม่ตัดครับ คุณพรมีคำพูดบางคำที่บางครั้งเป็นจริง บางครั้งไม่จริง ก็เป็นสิทธิ์ของเขาให้การในชั้นนี้ แต่การให้การไม่ตรงก็เป็นผลร้ายกับเขาเองครับ
ล่าสุดยึดโทรศัพท์คุณพรไปแล้ว?
พล.ต.ต.นเรวิช : เรื่องนี้คุณพรก็แสดงความบริสุทธิ์ใจ อยากให้ทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบ และให้ทางสังคมตรวจสอบด้วย คิดว่าข้อมูลบางอย่างที่ปกปิดซ่อนเร้น ก็อาจได้ข้อมูลตรงนี้ออกมา
อีกหนึ่งข้อ ทุกคนอยากทราบว่าทำไมกิตรู้เวลาออกจากบ้านของใหม่ ทั้งที่ใหม่ทำงาน 3 กะ กะแต่ละครั้งถูกกำหนดจากบริษัท จะมีคนไปบอกเขาหรือเปล่า?
พล.ต.ต.นเรวิช : เราตั้งวอรูมนักสืบชั้นแนวหน้าตรวจสอบเรื่องนี้ ดูไทม์ไลน์บทสนทนาระหว่างคุณพรกับนายกิต ผู้ต้องหา เชื่อมโยงกับเหตุการณ์มาโดยตลอด ประกอบกับการสอบสวนปากคำนายกิต ก็เห็นภาพว่า ส่วนนี้คุณพรโกหกนายกิตว่าอยู่กับคุณพ่อ นายกิตสงสัยและรู้แล้ว มีการไปค้นหาข้อมูลในเฟซบุ๊กว่าคุณใหม่เป็นใครจนทราบข้อมูลบุคคลของคุณใหม่พอสมควร จากนั้นเมื่อคุณพรกล่าวว่าอยู่กับพ่อ นายกิตรู้เองว่านี่คือคุณใหม่ ตรงนี้เป็นไปได้ว่าการตั้งสมมติฐาน การเชื่อมโยงเหตุการณ์ของนายกิต เกิดขึ้นจากคำให้การของคุณพรโดยตรง เช่น วันนี้คุณพ่อจะออกไปทำงานช่วงนี้ ซึ่งคุณพรอาจคิดว่าเป็นการพรางคุณกิต แต่คุณกิตรู้ว่าหมายถึงใครครับ
อ.โต้ง : ก็ต้องขอชื่นชมท่านผู้การและคณะทำงาน เป็นประเด็นแปลกใจอยู่นิดนึง ทำไมคนร้ายไม่ลงมือสังหารคุณพรด้วย ถ้ารู้ว่าคุณพรโกหกเขา
พล.ต.ต.นเรวิช : ในบทสนทนาที่ตรวจสอบ จะเห็นว่านายกิต ค่อนข้างรักคุณพรมาก ในหลาย ๆ เรื่อง แม้กระทั่งเกิดเหตุไปแล้ว คุณพรรับสารภาพว่าจริง ๆ แล้วคุณพ่อคือสามี นายกิตก็ยังมีการพิมพ์ข้อความไปว่ายอมรับได้ในส่วนนี้ด้วย เบื้องต้นทีมงานคุยกันเชื่อว่าคุณกิตก็รักคุณพรมาก หลายสิ่งที่เขาทำก็เพื่อตอบสนองความรักในส่วนนี้
ไพศาล : แรงจูงใจ บางทีผมสงสัยว่าใหม่ทำประกันชีวิตได้เดือนนึง พรไปบอกแม่ให้เซ็นมอบ จากนั้นไปบอกกิตบ้าง บอกเอกบ้างว่าท้อง เหมือนเขาวางแผนให้คนอื่นกระทำความผิด เหมือนเล็งเห็นผล เหมือนยืมมือฆ่า ตร.ตั้งประเด็นนี้ไว้มั้ย
พล.ต.ต.นเรวิช : ข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏในสื่อมวลชน เรานำมาเป็นประเด็นในการวิเคราะห์ทั้งสิ้น เรื่องนี้มีการพูดถึงว่าอาจเป็นผู้สนับสนุน หรือสาเหตุ ข้อมูลส่วนนี้เราขออนุญาตได้เพิ่มเติมจากคุณพรก่อนครับ
ขอชื่นชมท่างนเรวิชด้วย เพราะเร็วมาก ผมเองก็ได้ทราบว่าท่านรู้เรื่องตั้งแต่พรมานั่ง แต่ท่านไม่มีการเอ่ยปากอะไรเลย วันนั้นท่านจับสังเกตพรอยู่เหมือนกัน?
พล.ต.ต.นเรวิช : ครับ ตร.เรามีหน้าที่และความรับผิดชอบ ฉะนั้นในส่วนบางท่านหรือสื่อมวลชนอาจนำเสนอได้ แต่ตร.นำเสนอไปมีผลต่อรูปคดี ผมและทีมงานต้องระมัดระวังในส่วนนี้ บางเรื่องอาจไม่ชัดเจน ก็กราบขออภัยด้วยครับ ส่วนการสอบสวนปากคำ เบื้องต้นเราสอบสวนคุณพรในฐานะพยาน เร็ว ๆ นี้ต้องเรียนเชิญคุณแม่ และญาติคุณใหม่มาร่วมเป็นผู้เสียหาย และสอบปากคำในฐานะผู้เสียหายและเป็นพยานในคดีด้วยครับ
ไพศาล : เชื่อว่าตร.ทำงานแข็งขันมาก แต่ประเด็นคืออยากให้ตั้งประเด็นเรื่องเงินประกันก่อน ผมมองว่าเป็นการให้ผู้อื่นกระทำความผิดโดยเล็งเห็นผลมั้ยว่าการตายจะทำให้เขาได้ผลประโยชน์ โดยการยืมมือคนอื่นใช้ สังคมตั้งคำถามว่าจะพูดแค่ว่าพรเจ้าของไร่สตรอเบอร์รี่ จะเอาผิดได้มั้ย ผมถือว่าเป็นอาชญากรรมซับซ้อนมาก
พล.ต.ต.นเรวิช : เบื้องต้นเรามองว่าเป็นอาชญากรรม การฆ่าอำพราง แต่ก็มีความซับซ้อนตามลำดับ ข้อสงสัยที่ท่านตั้งสมมติฐาน เราก็มีการพิสูจน์ และสอบปากคำคุณพรในฐานะพยาน ไม่ใช่ผู้เสียหายครับ
อ.โต้ง : นักสืบที่ดีที่เก่งจะพูดน้อย ทำงานเยอะเก็บทุกรายละเอียด ใช่อาจไม่ใช่ รู้อาจไม่พูด ดูเหมือนไม่ทำ อาจจะทำก็ได้
เอกชัย ถามจริง ๆ เสียใจมั้ยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น?
เอกชัย : ผมเสียใจกับคนเสียชีวิต แต่กับพรไม่เสียใจ เขาโกหกผมมาตลอด เจ็บใจมีบ้าง
คุณเป็นเบอร์หนึ่งมาตลอด?
เอกชัย : ผมคิดมาตลอด รักมาก เขามาสมัครงานที่เดียวกับผม เราได้เจอกันเพราะทำงานในสายงานเดียวกัน เจอกันทุกวัน
รู้จักกันได้ยังไง?
เอกชัย : เขาเข้ามาหาจีบผมก่อน ผมก็ทำงานของผมปกติ ตอนนั้นผมไม่มีแฟน เขาก็เข้ามาจีบผม ก็ได้คุยกัน จนคบหากัน
เขาเข้ามายังไง คุณถึงคิดว่าเขามาจีบ?
เอกชัย : พอเจอกันที่คลังก็ช่วยกันลงงาน ยกของ พรจะซื้อของมากินด้วยกันในกลุ่มเพื่อน เอกกินมั้ย ประมาณนั้น เขาเป็นคนเข้ากับคนง่าย พูดหวาน
หลงเลย?
เอกชัย : ก็หลงครับ
นานมั้ยก่อนเกิดสัมพันธ์ลึกซึ้ง?
เอกชัย : นานครับ เดือนสองเดือนได้ เขาไม่ได้เล่าประวัติให้ผมฟัง ไม่บอกว่ามีผัว ผมมีก็ไม่ได้ถาม มันละลาบละล้วง ผมไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวเขาเลย
เขาบอกอยู่กับใคร?
เอกชัย : อยู่กับพ่อครับ บ้านก็บอกว่าคือหลังที่ผมไป
ความสัมพันธ์ลึกซึ้งเริ่มยังไง?
เอกชัย : เขาโทรหาผมให้ไปที่บ้านหลังนั้น ก่อนหน้านั้นไม่เคยไป นี่คือครั้งแรก เรากินอาหารที่ทำงาน แต่อันนี้เขาบอกมาหาหน่อย น่าจะเลิกงาน หลังสี่ทุ่มไปแล้ว ผมเข้างานบ่าย เลิกสี่ทุ่ม ก็อยู่กับเขา
ความสัมพันธ์เริ่มเลยตั้งแต่วันนั้น เข้าไปในบ้านได้สังเกตของในบ้านที่เป็นของผู้ชายมั้ย?
เอกชัย : ไม่มีเลยครับ แม้แต่รองเท้าก็ไม่มี จะเป็นรองเท้าพรทั้งนั้นเลย
คุณเคยไปบ้านเขามั้ย?
โย : เคยครับ แค่เสื้อผ้าก็แขวนหน้าบ้านแล้ว
เอกชัย : ตอนผมไปมีของพรครับ ไม่มีของผู้ชายเลย รูปถ่ายก็ไม่มี
ปุ้ย : ห้องนอนน่าจะมีรูปแต่งงาน
เอกชัย : ผมเข้าไป แต่ไม่มีครับ ผมเข้าไปก็ดูหมด ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับของคุณใหม่เลย
รู้จักกิตมั้ย?
เอกชัย : เคยเจอที่ทำงานที่ใหม่ของพร
ตามข่าวบอกคุณเคยเคลียร์กัน?
เอกชัย : ไม่ครับ
ปุ้ย : พรบอกกับกิตว่าเลิกคนนี้แล้ว กิตก็เลยจีบ
เอกชัย : ตอนเขาบอกเลิกผมไม่ได้อยู่กับพร มารู้เพราะพี่นนท์บอกในรายการ พรไปบอกกิตว่าเลิกกับผมแล้ว แต่ผมไม่รู้ วันที่ผมไปเจอ เจอกิตกับพี่นนท์ ซึ่งเป็นหัวหน้าเขา
นนท์รู้ว่าพรคบกับคุณ?
เอกชัย : ถูกต้องครับ ก็เจอพี่นนท์กับกิต แต่ไม่ได้เคลียร์ ผมยกมือไหว้กิต เขายังไม่รับไหว้ผมเลย เวลาเจอใครที่รู้จักกับพร ผมก็จะยกมือไหว้เขา พรบอกว่าเป็นรุ่นพี่
คุณแนะนำตัวเองกับกิตมั้ย?
เอกชัย : ไม่ครับ ไม่ได้มีอะไรทำไมผมต้องแนะนำตัวเองกับเขา พรบอกว่าให้อยู่หน้ารถ บางทีผมไปช่วยเขายกของ ก็บอกให้อยู่หน้ารถ
นนท์อยู่ในสาย สนิทกับพรและกิต?
นนท์ : ผมสนิทกับกิต กับพรรู้จักกันตอนพรมาทำงาน
กิตเขาแนะนำพรว่าไง?
นนท์ : ไม่ครับ กิตจีบพรตอนพรเข้ามาทำงานครับ
รู้มั้ยเขามีผัวแล้ว?
นนท์ : ไม่ทราบครับ ถ้าผัวชื่อเอเข้าใจ แต่ใหม่ไม่รู้จักเลยครับ
โย : หึ โคตรแน่นอนเลย
นนท์ : เอมาทำงานวันแรกกับพร ผมไม่แน่ใจว่าวันหรือสองวัน แต่ผมเคยเจอ พรบอกว่าคนนี้คือแฟนพร วันต่อมาเขามาคนเดียว บอกว่าเลิกกันแล้ว พี่กิตก็เลยให้ผมถามพรว่าเลิกจริงใช่มั้ย เขาบอกว่าเลิกจริง มีปากเสียงกันพรก็ไม่เอาเลย พี่กิตก็จีบเลย
เห็นบอกว่าฝั่งกิตโทรหาคุณบอกว่าพรท้องกำลังจะเป็นพ่อคน?
นนท์ : ประมาณวันที่ 21 ม.ค. ไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุ รู้สึกพาพรไปตรวจครรภ์ด้วยนะ
โย : 21 ผมยังกินหมูกระทะกับใหม่กับพรอยู่เลย ผมนั่งกับเพื่อนโต๊ะนึง พรกับใหม่นั่งโต๊ะถัดไป
แต่อีกฝั่งกิตบอกนนท์ว่ากำลังจะเป็นพ่อคน?
นนท์ : เขาโทรมาน้ำเสียงดีใจว่าพรท้อง กำลังพาไปตรวจที่คลินิก มีใบตรวจครรภ์ครับ
โย : ไม่รู้ใช่ใบจริงหรือเปล่า อายุเขียน 39 แต่จริง ๆ เขาอายุ 33
เขาตั้งชื่อลูกกันเลย?
นนท์ : ใช่ครับ กิตตั้งชื่อว่าพรีม เขาบอกว่าตั้งกลาง ๆ ก่อนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้
กิตกับพร รวมกันเป็นพรีม ชื่อเพราะมั้ยเอกชัย?
เอกชัย : ก็เพราะครับ ไม่ออกความคิดเห็นเรื่องนี้ มันจี๊ดที่เขาโกหกผมนี่แหละ ถ้าเขาบอกผมสักคำว่าเขามีใหม่ ผมไม่ยุ่งเลย
หลังจากนั้นคุณทราบมั้ย ท้องนั้นเป็นท้องทิพย์ กิตรู้มั้ย ว่าเป็นท้องทิพย์ เขารู้สึกยังไง?
นนท์ : เขาไม่ได้บอกผม แต่เหมือนเขาส่งใบนี้ให้น้องชายเขาดู น้องชายส่งให้คุณหมอดู น้องชายบอกว่าใบนี้แสดงว่าไม่ได้ท้องนะ หลังจากน้องชายพูดแบบนั้น ช่างกิตก็ไม่คุยกับน้องชายอีกเลย
คุณรู้ตั้งแต่แรกว่ากิตเป็นคนทำ?
นนท์ : ผมเพิ่งมาทราบตอนเห็นรถ ผมยังถามเขาเลยว่าใช่เขาหรือเปล่า แต่พอวันที่ 1 ผมเห็นคลิปตอน 6 โมงเย็น เป็นรถมิราจสีแดง ผมรู้ทันทีว่าเป็นเขาแน่นอน ก็โทรคุยกันว่าเขาอยู่ที่ไหน ประมาณ 3-4 โมง ผมก็ถามว่าคุณอยู่ไหน เขาบอกอยู่ที่คลัง วิ่งงานรอบพิเศษ แต่ผมเช็กแล้วไม่มีงานตัวนั้นที่เขาพูด ผมก็ถามว่าเห็นคลิปแล้วนะ พี่ทำใช่มั้ย เขาบอกว่าใช่ ผมถามว่าทำทำไม เพื่ออะไร เขาก็ตัดสายทิ้งไปเลย
คิดว่าเขาทำเพื่ออะไร เป็นเพราะพรท้องหรือใหม่ไม่ยอมปล่อยให้พรมาอยู่กับเขา?
นนท์ : มุมผมนะ ผมรู้จักกิต 5 ปี ผมคิดว่าเขาไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้ เขาเป็นคนอ่อนไหว ทุกคนรู้ว่าเขารักพรมาก ๆ ถ้ารู้ว่ามีใหม่ จริง ๆ ผมว่าเขาน่าจะคุยกันก่อน แต่เขาไม่เคยบอกใครว่าเขารู้เรื่องใหม่ ผมก็ไม่ทราบเขาไปรู้มาตอนไหน
อาจารย์มองยังไง?
อ.โต้ง : สิ่งที่คุณนนท์พูดก็สอดรับกับสิ่งที่เราสันนิษฐาน มีการบอกว่าท้องจริง แสดงว่าเขาพูดกับช่างกิตว่าเขาท้อง แต่มาทราบภายหลังว่าท้องทิพย์ ส่วนลงมือเหตุผลเพราะอะไร อยู่ที่การสืบสวนของตร.
คิดว่ากิตสามารถมัดมือมัดเท้าใหม่คนเดียวได้มั้ย?
นนท์ : ไม่ได้หรอก กิตตัวนิดเดียวนะครับ ถ้าไปกับใหม่สองคน สู้ใหม่ไม่ได้หรอก ถ้าใหม่จะสู้
อ.โต้ง : ปืนเอามาจากไหน ทราบมั้ย
นนท์ : ผมทราบว่าเขามีปืน แต่ไม่ทราบว่าเขาเอามาจากไหน เขามีปืนแต่ไม่เคยพกให้เห็นนะ
อยากฝากอะไรถึงพร หรือกิตมั้ย?
นนท์ : ผมขอไม่พูดดีกว่า ให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายดีกว่า
วันเกิดเหตุ คุณเองก็เข้าไปที่บ้านหลังนั้น คุณไปบ่อยมั้ย?
เอกชัย : หลัง ๆ มาไม่ค่อยได้เข้าแล้วครับ เพราะผมทำงานสามที่ ผมมีสิทธิ์เข้าไปหลังสี่ทุ่มแล้วเท่านั้นและเขาต้องโทรมาเท่านั้น ผมถึงมีสิทธิ์ไปได้
ไม่สงสัยเลย?
เอกชัย : ไม่สงสัยเลย
เข้าบ้านก็ไม่เห็นข้าวของผู้ชาย?
เอกชัย : ไม่เห็น ผมเห็นแค่กระเป๋าส่งอาหารเท่านั้น ผมก็ไม่ได้ไปรื้อดูบ้านเขา ทำไม่ได้หรอก
หลังเกิดเรื่องมีคุยกับพรหรือยัง?
เอกชัย : เขาโทรมาหาผม บอกว่าแฟนเขาเสียแล้ว คนชื่อใหม่ ผมก็งง แต่ผมไม่ได้คุยนาน เพราะผมต้องไปลงงาน ผมก็งง ๆ ว่าเป็นเบอร์หนึ่งอยู่เลย สักพักเป็นเบอร์สอง ผมก็ขับรถไปเรื่อยก็คิดว่ายังไง จนเขาออกโหนกระแสถึงรู้ว่าเขาออกรายการ พี่ผมโทรมา ประมาณนั้น
เขาเคยบอกว่าเคยท้องกับคุณมั้ย?
เอกชัย : ไม่ครับ ผมป้องกัน เขาก็เลยอ้างไม่ได้ครับ
คุณอยู่กับเขานานมั้ย?
เอกชัย : ประมาณสองชม.ได้ครับ
ถ้าตามไทม์ไลน์ เป็นช่วงเวลาที่สามีเขาถูกอุ้มไป มุมที่บ้าน แฟนอยู่กับแฟนอีกคน?
ไพศาล : ในฐานะเป็นนักกฎหมาย ทฤษฎีอย่างนึงคืออาชญากรรมมักเกิดจากคนใกล้ชิด แรก ๆ ผมก็สงสัยคุณ แต่พอฟังวันนี้ คุณน่าสงสารคนนึง คุณถูกหลอก พรได้ตระเตรียมการไว้หมดเลย คุณไม่รู้อิโหน่อิเหน่เลย
วันนั้นถ้าเขาไปผิดเวลาไปหน่อย ตายมั้ย?
อ.โต้ง : มีสิทธิ์ เพราะช่างกิตมีปืน
ไพศาล : ตอนแรกพี่สงสัย แต่พอน้องพูดไปเรื่อย ๆ น้องน่าสงสารสุดแล้ว เพราะโดนหลอก
เวลาเดียวกันเลย ประมาณสี่ทุ่มกว่า ๆ เหตุการณ์ทั้งหมดเกี่ยวกับผู้หญิงคนนึง ผู้ชายสามคน คนนึงตาย คนนึงเป็นฆาตกร อีกคนโดนหลอก?
ไพศาล : เขาวางแผนตระเตรียมการไว้เป็นอย่างดี พอรู้ว่าท้องก็คงไปใหญ่เลย ผมไม่เชื่อพร
เอาไงต่อไป มีแฟนใหม่หรือยัง?
เอกชัย : ไม่ครับ สงสารคนตายมากกว่า ไม่กลับไปคบเขาแล้วครับ อยู่ใครอยู่มันดีกว่า ถ้าผมกลับไปสังคมก็มองว่าผมแย่งเมียเขา ไม่กลับครับ ผมเปิดโซเชียลมา มีแต่ผมทั้งนั้น ที่โดนว่าแย่งเขา ทั้งที่ผมไม่รู้ว่าเขามีอยู่แล้ว ถ้าเขามี ผมจะไม่ยุ่งเลย จะไม่ไปแตะอะไรเลย ผมก็มีศักดิ์ศรี ผมไม่เคยแย่งของใคร
ภาพคุณมั้ยอยู่ในรถที่โอบกอด?
เอกชัย : ภาพผมครับ
มีอีกมั้ย?
เอกชัย : ไม่มี ที่เห็น ๆ มีแค่ 3 คน
คุณกอดกันที่ไหน?
เอกชัย : โกดังที่พรไปลงงาน ก็เจอกันพอดี
ทุกคนรู้มั้ยคุณสองคนคบกัน?
เอกชัย : ที่โกดังไม่มีใครรู้ เพราะผมไม่ได้เป็นพนักงานประจำที่นั่น
กิตก็อยู่ที่นี่?
เอกชัย : กิตไม่ได้อยู่ กิตโดนวิ่งแถวกรุงเทพฯ แต่ของพรจะล็อกอยู่ตรงนี้เที่ยวแรก
เขามากอดคุณทำไม?
เอกชัย : เหมือนว่าไม่ได้เจอกันหลายวัน หลัง ๆ โทรไปก็ไม่รับสาย เขาอยู่กับกิต ถ้าวันนึงเราต้องคุยกันใช่มั้ย แต่คุยกันแป๊บนึง ครึ่งวันหายไปเลย พอถามก็บอกว่าทำรถอยู่กับช่างกิต แต่เขาบอกเป็นรุ่นพี่ ช่างกิตทำรถให้ ผมก็โอเค ไม่ได้เอะใจ คิดว่าช่างกิตเป็นรุ่นพี่แต่พอมาออกข่าวรู้ว่าช่างกิตเป็นแบบนี้ เท่ากับผมแม่x โดนหลอกตั้งแต่ต้นจนจบ ถ้าเขาบอกผมสักหน่อย ผมก็เลิกรา ไม่ยุ่ง
ไพศาล : จากที่บอกเล่า คือไม่มีพิรุธ ถูกหลอกจริง ๆ
เอกชัย : ผมบอกเขาว่าถ้ามีใครบอกผมเลย ผมถอยให้ได้
เรื่องนี้สู้มุมไหนได้ ถ้าไม่อยากคืนทรัพย์ให้เมีย?
ไพศาล : มันเป็นเรื่องมรดกกับสินสมรส มีมาตราแพ่งบอกว่าถ้ารู้เห็นความตายหรือเกี่ยวข้องก็ไม่สมควร ส่วนสินสมรส เขาร้องมาในอินบ็อกผมจะให้ทีมทนายตั้งแม่เป็นผู้จัดการมรดก ส่วนเขาจะแบ่งสินสมรส ก็พิสูจน์ตัวเองในทางอาญาให้รอดก่อน สินสมรสถ้าตกลงไม่ได้ เขาต้องมาฟ้องเอากับผู้จัดการมรดก ตอนนี้สิ่งที่จะให้พรได้อย่างเดียว ผมเตรียมคำพูดนี้มาเลยนะ ให้ไปใช้กรรมก่อน ไปรับโทษในเรือนจำ ถ้ามีส่วนร่วมในการทำความผิดนี้ ถ้ากฎหมายเอาผิดไม่ได้ ก็ไปใช้กรรมในนรก
ปุ้ยยังไงบ้าง?
ปุ้ย : เอาตามที่พี่เขาแนะนำ แต่สักสตางค์นึงก็จะไม่ให้
กรณีนี้ฟ้องได้มั้ย ถ้าผัวมีชีวิตอยู่อาจฟ้องชู้ได้ แต่ผัวตายไปแล้ว ญาติพี่น้องฟ้องได้มั้ย?
ไพศาล : ไม่ได้ เพราะสินสมรสสิ้นสุดลงแล้ว นับตั้งแต่ตาย แต่ทนายอยากบอกว่าเรื่องสินสมรสหรือมรดก อย่างประกันถ้าผู้รับประโยชน์เป็นพรกับแม่ บริษัทประกันก็ต้องประชุมว่าสาเหตุการตายผิดสัญญามั้ย ถ้าเขาผิดเราก็ไปอุทธรณ์ได้ว่าแม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
มีเงิน 1.2 ล้านค่าประกัน เงินช่วยเหลือค่าทำศพ 1.5 หมื่น มีเงินช่วยเหลือคำนวณตามอายุงาน อยู่ที่ 8 หมื่นกว่าบาท เมีย 8 หมื่น แม่ 8 หมื่น มีกองทุนฌาปนกิจแม่กับภรรยาอยู่ที่ 66,50 มีเงินเดือนงวดก.พ.ปี 67 ให้เมียกับแม่คนละ 50-50 โบนัสครึ่งปีแรก ก็ให้เมียกับแม่ 50-50 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เมียร้อยเปอร์เซ็นต์ นี่ที่ใหม่ทำไว้ ใหม่รักพรสุดหัวใจ?
โย : คนนี้ไปจีบเขาก่อน แล้วมีสัมพันธ์ ผมรับไม่ได้ก็บอกเขาแบบนี้ แต่ใหม่รับไม่ได้ เขาไม่เชื่อ ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวกูจะให้มึงดู ก็จัดการคนนั้น แล้วให้ใหม่มาดู ตอนนั้นทำงานปี 64 ผมทำงานที่เดียวกัน เราก็เห็น ไอ้นี่ใครวะ ทำไมพาแฟนเพื่อนเราไปโน่นนี่นั่น เราก็บอกเพื่อนเราว่าไม่ใช่นะ มันจะพาเมียเพื่อนไปไหนมาไหนได้เหรอ ผมไปบอกเขา เขาไม่เชื่อผม หาว่าผมโกหกว่าเมียเขา ผมก็บอกว่าถ้าวันไหนจับได้ก็จะทำให้ดู ผมก็ไปกระชากคอไอ้นั่นเลย แล้วถามว่ามึงมายุ่งอะไรกับเมียเพื่อนกูวะ เขาบอกว่าเขาจีบผม ผมก็ให้ใหม่มาดู แล้วพาใหม่ออกมาข้างนอกทุกวันเพื่อให้มันลืมเรื่องนี้ วันนั้นกินข้าวด้วยกัน 4-5 คน เมียทักมาว่าป๊า พรทำกับข้าวแล้วนะ ไม่สงสารพรเหรอ เราก็บอกว่าใหม่ถ้ามึงกลับไปตอนนี้ กูหมาเลย มันก็กลับ
หมาเลย?
โย : ผมหอนเลย หลังจากนั้นผมก็ห่างมันเลย ปี 64 ผมเป็นเพื่อนกับมันมาตั้งแต่เด็ก
ฟิวส์ : เขามีอะไรก็ไม่กล้าปรึกษาเรื่องแบบนี้ เขาอภัยเมียเขาตลอด
ปุ้ย : เขาป้องเมีย บังเมียตลอด
เป็นคนดีมากนะ?
ปุ้ย : เขาแต่งงานกัน 2017 แต่คบกันก่อนหน้านี้น่าจะอายุ 16 17
อ.โต้ง : มองว่าการเสียชีวิตครั้งนี้ ผู้เสียชีวิตน่าเห็นใจ ไม่เกี่ยวข้องและไม่รู้เรื่องเลย กลับกัน ผู้มีส่วนเริ่มต้นการเสียชีวิต คือคุณพร ไม่แน่ใจว่าตอนนี้คิดได้หรือไม่ได้ แต่ก็เป็นอุทาหรณ์ว่าเราซื่อสัตย์ต่อคนรักดีที่สุด ความจริงมีหนึ่งเดียว โกหกใครก็โกหกได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้
โย : รักจนวันตายจริง ๆ ผมบอกพรให้ทำเองนะ บังคับให้ทำ ว่าทำไมไม่เอาข้าวให้ใหม่กิน ตอนแรกมันก็เฉย ไม่ยอมไป
อ.โต้ง : ถ้าไม่ได้รักคุณใหม่จริง การที่ถ่ายรูปไปตามหา ก็เป็นเรื่องที่ตร.ต้องสืบสวนต่อ
ไพศาล : ที่เขายังอยู่พยายามหาหลักฐานว่าจะเอาผิดพรได้มั้ย ทรัพย์สินต้องได้มั้ย ผมพูดเลยนะ สินสมรสเขาต้องไปสู้คดีอาญาให้หลุดก่อน ผัวตายแล้วได้ทรัพย์สินอีกเหรอ มันไม่เป็นธรรมกับพี่น้องเขา
อยากบอกอะไร?
ปุ้ย : ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยค่ะ (ร้องไห้)
ใหม่รักจนวันตาย?
ปุ้ย : ขนาดคนไม่รู้จักดูแค่ข่าว ก็โอนเงินมาทำบุญด้วย (ร้องไห้)
อ.โต้ง : ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว เราคิดดีทำดี อย่าสร้างกรรม อยากให้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษา ไม่อยากให้เกิดขึ้น
เอกชัย : ผมก็ขอโทษครอบครัวใหม่ ถ้าผมรู้ว่าพรมีใหม่อยู่แล้ว ผมก็จะไม่ยุ่งครับ วันนี้คงไม่กลับไปแล้ว เขาโทรมาก็จะไม่รับด้วยซ้ำ ไม่ต้องโทรมา
อยากบอกอะไรถึงพร?
เอกชัย : ทำอะไรพูดอะไร ทุกคนเขารู้ โกหกตัวเองไม่ได้ ถ้าบอกผมหน่อยว่ามีใหม่แล้ว ผมไม่ยุ่งจริง ๆ
แม่อยากพูดอะไรมั้ย?
แม่ใหม่ : พูดไม่ออก ลูก ๆ หลาน ๆ พูดก็พอแล้ว
เมื่อเช้าโทรหาพร เขาบอกเขาอยากมา แต่พ่อไม่อยากให้มา?
ปอนด์ : ก็ตัดขาดกันเลย ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน ไม่ต้องมาขออะไรอีกแล้ว เรื่องเงินประกันก็ให้ทางแม่กับน้องจัดการ