ครั้งแรกกับการเผยโฉม เรือนเวลาในตำนาน จาก Grand Seiko แบรนด์นาฬิกาลักชัวรีระดับโลก
ในนิทรรศการ My Grand Seiko My Pride ชมนาฬิกา ‘The First Grand Seiko 1960’ ส่งตรงจากมิวเซียม ประเทศญี่ปุ่น
ยกให้เป็นอีเว้นท์ใหญ่ต้อนรับปี 2024 ที่เหล่าคนรักนาฬิกา นักสะสม ต้องไป! Grand Seiko (แกรนด์ ไซโก)แบรนด์นาฬิกาลักชัวรีชั้นนำระดับโลก จัดนิทรรศการ My Grand Seiko My Pride สะท้อนความภาคภูมิใจ และ Passion (แพชชั่น) ที่นำไปสู่ความสำเร็จของเซเลบริตี้ชั้นนำของเมืองไทย ระหว่างวันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 11.00-20.00 น. ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน
ภายในงานแบ่งเป็น 3 โซน เริ่มต้นกับโซนไฮไลต์สำคัญที่ห้ามพลาด คือ โซนแสดงนาฬิกา ‘The First Grand Seiko 1960’ นาฬิกา Grand Seiko รุ่นแรกหาชมได้ยาก ส่งตรงจากมิวเซียม ประเทศญี่ปุ่น นำมาจัดแสดงให้ชมเป็นครั้งแรกในเมืองไทย โดยนาฬิการุ่นนี้ถือเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญ เป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ กับการพัฒนาเครื่องกลไก Caliber 3180 ใหม่ โดยมีความแม่นยำ +12 ถึง -3 วินาทีต่อวัน และสำรองพลังงานได้ 45 ชั่วโมง และยังเป็นนาฬิการุ่นแรกจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการจัดอันดับความเป็นเลิศตามมาตรฐานของ สถาบันการควบคุมการผลิตนาฬิกา Bureaux Officiels de Contrôle de la Marche des Montres
‘The First Grand Seiko 1960’
โซนแสดงนาฬิกา Grand Seiko รุ่นพิเศษจากคอลเลกชันส่วนตัวของนักสะสมนาฬิกาแถวหน้าของเมืองไทย อาทิ ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์, ปราสาท วิทยาภัทร์, ธนสาร วิจิตรกาญจน์ ร่วมถ่ายทอดความภูมิใจที่มีต่อ Grand Seiko ด้วยการเลือกสรรเรือนเวลารุ่นพิเศษมาจัดแสดง อาทิ
Grand Seiko Vintage รุ่น 5645-5000 ตัวเรือนทองคำ 18K สุดยอดงานศิลปะจากยุค 1970 ที่ใช้ค้อนตีทองตอกทำให้เป็นพื้นผิวต่างระดับ (Texture) สวยงามและคลาสสิก ด้วยมือของ “ช่างทุบทอง” ยอดฝีมือที่สืบทอดมายาวนาน และหน้าปัดแบบ “เกล็ดหิมะ” (Snowflake) ที่ล้อรับกับตัวเรือนก็ได้รับการยืนยันจาก Grand Seiko เองว่าหน้าปัดบนนาฬิกาเรือนนี้เป็นแรงบันดาลใจที่สืบทอดและเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดของซีรีส์ที่ทันสมัยในปัจจุบัน
Grand Seiko Vintage รุ่น 5645-5000
Grand Seiko Vintage รุ่น 45GS HI-BEAT 4522-8000 ปีค.ศ.1960 แรร์ไอเทมในตำนานเป็นซีรีส์ที่พัฒนาจาก vintage watch ตัวท็อปรุ่น 44GS พิเศษด้วยดีไซน์คงความคลาสสิก เรียบง่าย แต่ยังคงเอกลักษณ์ และมาตรฐานการออกแบบและผลิตตามหลัก ‘Grand Seiko’s Grammar of Design’
Grand Seiko Vintage รุ่น 45GS HI-BEAT 4522-8000
และสำหรับใครที่กำลังค้นหาแพชชั่นในการทำงานแนะนำให้แวะชม โซนนิทรรศการจัดแสดงภาพถ่ายแคมเปญ ‘My Grand Seiko My Pride’ โซนนี้นำเสนอความภาคภูมิใจของการเลือกสวมใส่แบรนด์นาฬิกาที่ทรงคุณค่า และแรงบันดาลใจการทำงานที่นำไปสู่ความสำเร็จของเซเลบริตี้ชั้นนำของเมืองไทย จำนวน 8 ท่าน ได้แก่ กรุณ ซอโสตถิกุล, อภินรา ศรีกาญจนา, ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์, ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล, เจย์ สเปนเซอร์, วฤธ หงสนันทน์, ชวัล เจียรวนนท์ และ สรีนา ธีระวิทยภิญโญ
นอกจากนี้ภายในงานยังได้จัดแสดงเรือนเวลารุ่นไอคอนิกของแบรนด์ Grand Seiko Heritage SBGA413 Sakura ขนาด 40 มิลลิเมตร กลไก Spring Dive (9R) ที่มีความเที่ยงตรงที่สุดในโลก รุ่นนี้มีความพิเศษที่หน้าปัดสีชมพูอ่อน ซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก แพดอกไม้ Hana-Ikada (ฮานา-อิคาดะ) ที่ปรากฏขึ้นในช่วงเวลา Shunbun (ชุนบุน) ช่วงเวลาที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากันในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเกิดจากกลีบซากุระปลิวไปตามสายลมแล้วร่วงหล่นปกคลุมพื้นผิวของแม่น้ำ สะท้อนสัจธรรมแห่งธรรมชาติของเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เมื่อเวลาผันเปลี่ยนไป รวมถึงมี Grand Seiko Café ให้ลิ้มรสกาแฟเมนูพิเศษ ที่ล้วนได้รับแรงบันดาลใจในการรังสรรค์มาจากผลงานไอคอนิกรุ่นดังของแบรนด์
เรียกว่า Grand Seiko รุ่น Sakura เป็นเรือนเวลาอีกหนึ่งซีรีส์ของ Grand Seikoที่น่าครอบครอง และสำหรับใครที่สนใจGrand Seiko รุ่น Sakura สามารถหาครอบครองได้ในงาน โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายนาฬิกา รุ่น “Sakura” ทางแบรนด์ร่วมสมทบทุนให้กับ ‘Karen Hill Tribes Trust’ องค์กรสาธารณกุศลเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชนเผ่ากะเหรี่ยง จ. แม่ฮ่องสอน ในมิติการสนับสนุนด้านการศึกษา การสร้างแหล่งน้ำ และการให้ความรู้ด้านการอนุรักษ์ผืนป่าด้วย